ตอนที่ 048 ซื้อหุ้นขยะ
เงิน 15 ล้าน ส่วนใหญ่คนที่จะมีเงินมากขนาดนี้มักจะเป็นบริษัท ไม่ก็โรงงาน แล้วชายคนนี้เป็นใครกัน?
ทำไมถึงมีเงินสดมากมายขนาดนี้
เขาเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีอย่างงั้นเหรอ?
ซูแคนมองไปที่ผู้จัดการหวางที่กำลังยืนนิ่ง และพูดว่า
"ผู้จัดการหวาง ผมอยากเจอกับโบรกเกอร์แล้ว"
หวางหมันหยูสูดหายใจเข้าแล้วก็รีบพูดออกมา
"ได้ค่ะ ตามเงินที่คุณซูได้เปิดกับทางธนาคารเรา ตอนนี้คุณซูได้เป็นลูกค้า VIP ของธนาคาร HSBC แล้ว เดี๋ยวทางเราจะเปิดห้อง VIP ไว้ให้คุณซูสักครู่นะคะ"
"ขอบคุณครับ"
ซูแคนพยักหน้า
จากนั้นหวางหมันหยูก็หยิบโทรศัพท์และโทรพูดคุยสักพักหนึ่ง หลังจากพูดคุยเสร็จเธอก็พาซูแคนและคนอื่นๆ ย้ายไปอีกห้องหนึ่ง
"ก๊อกๆๆ!!"
ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
"เข้ามาได้เลยค่ะ"
หวางหมันหยูพูด
"แกร๊ก!!"
ประตูถูกเปิดออก มีชายอายุประมาณ 30 เดินเข้ามา ทันทีที่ชายคนนี้เดินเข้ามาเขาก็พูดขึ้นมาว่า
"ผู้จัดการหวาง คุณโทรเรียกผมเมื่อสักครู่ใช่ไหมครับ"
หวางหมันหยูพยักหน้าและมองไปที่ซูแคน เธอพูดแนะนำทั้งสองคน
"คุณซูคะ นี่คือเจิงเจียนเย่ เป็นโบรกเกอร์ของ HSBC"
"คุณเจิงเจียนเย่ นี่คือคุณซู เขาอยากจะซื้อขายหุ้นกับทางธนาคารของเราค่ะ"
"คุณซูเป็นลูกค้าระดับ S-Class นะคะ"
เจิงเจียนเย่ได้ยินก็ทำหน้าตกใจ ลูกค้าระดับ S นั่นคือมีเงินในบัญชีมีมากกว่า 10 ล้าน
"สวัสดีครับคุณซู ผมชื่อเจิงเจียนเย่ เรียกผมว่าเสี่ยวเจิงก็ได้ครับ"
"อื้ม!!"
ซูแคนพยักหน้า
"โอเคค่ะ คุณซู ฉันจะไม่รบกวนคุณแล้ว ถ้ามีอะไรให้ช่วย สามารถเรียกได้ตลอดเวลาเลยนะคะ ห้องของฉันอยู่ข้างๆนี่ค่ะ"
หวางหมันหยูกล่าวลา
เมื่อเห็นหวางหมันหยูเดินออกไป ซูแคนก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดกับเจิงเจียนเย่ว่า
"คุณสามารถซื้อหุ้นให้ผมได้เลยไหมตอนนี้?"
"เรียนคุณซูครับ"
"บัญชีของคุณเป็นระดับสูงสุดของ HSBC ซึ่งทางเราได้เปิดบัญชีตลาดหุ้นทั่วโลกไว้เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถซื้อหุ้นจากทั่วโลกได้ผ่าน HSBC ครับ ไม่ว่าจะเป็น หุ้นอเมริกา หุ้นญี่ปุ่น รวมถึงหุ้นยุโรปด้วยครับ"
"ดี ถ้าอย่างงั้นคุณช่วยจัดการซื้อหุ้นพวกนี้ให้ผมภายในหนึ่งชั่วโมงที แบ่งกระจายตามที่ผมเขียนเลย"
หลังจากพูดซูแคนหยิบโน้ตออกมาแล้วยื่นให้
เจิงเจียนเย่ก็หยิบโน้ตขึ้นมาอ่านก็ทำหน้าตกใจทันทีที่ เขารีบพูดด้วยความตกใจ
"อสังหาหนานไห่"
"คะ.คุณ..คุณซูครับ คุณต้องการซื้อหุ้นอสังหาหนานไห่งั้นเหรอครับ?"
"หุ้นตัวนี้เมื่อวานปิดตอนตลาดปิด ดิ่งลงมากเลยนะครับ แต่ละวันหุ้นตัวนี้ก็ไม่ได้ดีดขึ้นเลย"
สูเจิ้งเหมาก็ตกใจที่ได้ยินคำพูดของเจิงเจียนเย่ แม้ว้าเขาตะไม่ได้สนใจในตลาดหุ้น แต่เขาก็มักจะเห็น บริษัทอสังหาริมทรัพย์หนานไห่ บนหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้ง
แถมยังมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับบริษัทอีก ยิ่งทำให้หุ้นบริษัทตกลงทุกวัน
"ใช่แล้ว"
ซูแคนยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
"ซื้อตามที่เขียนไว้เลย"
"ห้ะะ!!"
เจิงเจียนเย่ช็อคที่ได้ยินคำยืนยันจากซูแคน
เมื่อเห็นท่าทีที่มั่นใจของซูแคน เจิงเจียนเย่ก็แอบวิจารณ์ในใจ
"ชายคนนี้ไม่มีความรู้เรื่องหุ้นนี่หว่า"
หลังจากนั้นเจิงเจียนเย่ก็เริ่มจัดการซื้อหุ้นตามที่ซูแคนได้เขียนลงในโน้ต เขาเริ่มซื้อหุ้นเพิ่มอีก 2-3 ตัวตามลำดับ
นอกจากหุ้นอสังหาหนานไห่แล้ว ยังซูแคนยังซื้อหุ้นอีก 3 ตัว หุ้นพวกนี้ดิ่งลงราวกับเครื่องบินตก ไม่มีทางที่หุ้นจะขึ้นมาทำกำไรได้เลย
อย่างไรก็ตามเจิงเจียนเย่ก็ซื้อตามที่โน้ตที่ซูแคนเขียนไว้ทั้งหมด
เงิน 15 ล้านถูกใช้หมดอย่างรวดเร็ว ซูแคนได้ซื้อหุ้นอสังหาหนานไห่ด้วยมูลค่าตลาด 3.5 ล้าน
ภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมง มูลค่าของหุ้นก็หายไปแล้ว 200,000
เจิงเจียนเย่มองไปที่ซูแคน เขาปาดเหงื่อที่หน้าผากของเขาออก เขาขอตัวไปห้องน้ำสักครู่ แล้วเดินมาบอกกับหวางหมันหยูว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้น หวางหมันหยูก็ตกใจที่ได้ยิน
"เขาซื้อหุ้นอสังหาหนานไห่ จริงๆเหรอ?"
หวางหมันหยูกลืนน้ำลายลง เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อที่ได้ยิน
"เขาบ้าหรือเปล่า?"
หวางหมันหยูถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
บริษัทอสังหาริมทรัพย์หนานไห่ทุกวันนี้เหมือนกับเหวลึก ไม่มีใครกล้าที่จะเสี่ยงเลยซักคน แต่ชายคนนี้กลับซื้อหุ้นด้วยเงินเป็นล้านๆ
บ้าเกินไปแล้ว
"ไม่ๆ เดี๋ยวฉันจะลองคุยกับเขาดู บางทีพวกเราอาจช่วยให้เขาไม่สูญเสียเงินก้อนนั้นได้"
หวางหมันหยูรู้สึกว่าถ้าซูแคนเสียเงินหลายสิบล้าน บางทีอาจทำให้ HSBC เสียชื่อได้
เธอรีบเดินนำเจิงเจียนเย่ไปที่ห้อง เธอเคาะประตูและผลักประตูเข้าไปในห้อง VIP ทันที เธอกวาดสายตามองคนทั้งหมดในห้อง
หวางหมันหยูก็ตกใจเสียงดังจากสูเจิ้งเหมา
"ขึ้นไปอีก ขึ้นไปอีก!!"
เธอเห็นสูเจิ้งเหมาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
สูเจิ้งเหมาคุณทำบ้าอะไรเนี่ย?
หวางหมันหยูตกตะลึงเล็กน้อย
เจิงเจียนเย่ก็ตกตะลึงที่เห็นสูเจิ้งเหมาทำท่าทางแบบนั้น เขากำหมัดชูขึ้นและตะโกนเสียงดัง
เกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ทั้งคู่เดินเข้าไปในห้องด้วยความสับสน และเห็นว่าบนหน้าจอในห้อง VIP
หุ้นอสังหาหนานไห่ได้เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว แล้วทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ
นี่มันเรื่องจริงอย่างงั้นเหรอ?
ทั้งสองคนเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง