STY-ตอนที่ 16 ศิษย์น้องเล็กคือผู้อมตะที่ถูกเนรเทศ!
ในสระฝึกกระบี่
มู่หรงชิงเสวี่ย ไม่ได้ความสงบบนใบหน้าของนางอีกต่อไปและนางได้สูญเสียความเยือกเย็นจากเมื่อก่อน
ดวงตาคู่งามของนางได้จับจ้องไปที่ศิษย์น้องเล็กของนางด้วยความตกใจอย่างหาที่เปรียบมิได้
แม้ว่าศิษย์น้องเล็กของนางจะไม่ได้แสดงเทคนิคกระบี่ทั้ง 13 อย่างชำนาญและดูไร้ประสบการณ์ แต่ตราบใดที่เป็นผู้ฝึกฝนวิถีกระบี่พวกเขาย่อมมองเห็นความลึกซึ้งของเทคนิคกระบี่ทั้ง 13 นี้
เทคนิคกระบี่อันนี้มีพลังอยู่เหนือระดับปฐพีขั้นสูงอย่างแน่นอน…
ถ้าจะพูดให้ถูกเทคนิคนี้ควรจะเป็นวิชากระบี่ระดับสวรรค์
นี่คือเทคนิคกระบี่ระดับสวรรค์!
ศิษย์น้องเล็กของนางมีเทคนิคกระบี่ระดับสวรรค์ได้อย่างไร?
ศิษย์น้องเล็กของนางเติบโตขึ้นมาในทวีปเทียนซวน ตั้งแต่เล็ก ก็ไม่เคยย่างกรายออกไปด้านนอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ทว่า แม้แต่ผู้ฝึกฝนวิถีกระบี่อันดับ 1 ในทวีปเทียนซวน อย่าง จ้าวฉีหยาง ก็ยังไม่สามารถแสดงเทคนิคกระบี่ทรงพลังเช่นนี้ออกมาได้
เป็นไปได้หรือไม่ว่ามี ผู้อาวุโสที่เชี่ยวชาญบางคน ซ่อนตัวอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์และได้สอนการเคลื่อนไหวอันลึกลับนี้ให้กับ ศิษย์น้องเล็กของนาง?
แต่หลังจากที่คิดเกี่ยวกับมัน มู่หรงชิงเสวี่ย ก็สั่นศีรษะ
เพราะถึงแม้ว่าจะมีผู้อาวุโสคอยชี้แนะก็ตาม แต่ศิษย์น้องเล็กของนางก็เพิ่งเริ่มจะฝึกฝนได้เมื่อเดือนที่แล้ว
แม้ว่า ศิษย์น้องเล็กของนางจะเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะของเส้นทางกระบี่ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเชี่ยวชาญการเคลื่อนไหวกระบี่ที่ทรงพลังเช่นนี้ภายใน 1 เดือน
ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือ!
ศิษย์น้องเล็กของนางบางทีอาจจะเป็นมือกระบี่อมตะที่กลับชาติมาเกิด!
โดยการเคลื่อนไหวของกระบี่เหล่านี้ ก็คือเทคนิคขั้นสูงสุดของเขาจากชีวิตก่อนหน้านี้และมันได้สลักลึกลงไปในกระดูกของเขา บางทีด้วยเหตุผลนี้อาจจะสามารถอธิบายการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังในชีวิตนี้ได้
มู่หรงชิงเสวี่ย ยังคงจำได้ว่า ศิษย์น้องของนางกล่าวว่า ไม่ว่าศิษย์น้องเล็กจะฝึกฝนอะไร เขาก็จะสามารถเรียนรู้มันได้ในครั้งเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถเรียนรู้มันได้ แต่ทุกครั้งที่เขาได้ใช้มัน เขาก็จะแสดงความน่าประหลาดใจออกมาทุกครั้ง
ถ้าเช่นนั้น…
เย่เฉิน คงไม่ใช่แค่มือกระบี่อมตะที่กลับชาติมาเกิดเพียงแค่อย่างเดียวแล้ว บางทีเขาอาจเป็นผู้อมตะที่ถูกเนรเทศลงมาจากบนสวรรค์ให้มาผ่านด่านเคราะห์ที่โลกมนุษย์ ถ้าหากคิดเช่นนี้ มันก็คงจะสามารถอธิบายการกระทำทั้งหมดของเขาได้
ตอนนี้ มู่หรงชิงเสวี่ย เข้าใจแล้วว่าทำไม อาจารย์ของนาง ถึงไม่อนุญาติให้นางและคนอื่น ๆ เปิดเผยความสามารถในการฝึกฝนของศิษย์น้องเล็ก
เพราะแท้จริงแล้ว เย่เฉิน คือผู้อมตะที่ถูกเนรเทศลงมาจากบนสวรรค์
หากข่าวลือนี้แพร่สะพัดออกไปและโลกภายนอกได้รู้เรื่องนี้ คงจะมีนิกายอมตะมากมายและดินแดนศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงหยกล้ำค่าที่ยังไม่ได้เจียระไนชิ้นนี้
เมื่อถึงเวลานั้น ไม่เพียงแต่ ศิษย์น้องเล็กของนางเท่านั้นที่ตกอยู่ในอันตราย
แม้แต่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ทั้งหมด ก็จะวุ่นวายและโกลาหลไปด้วย
มู่หรงชิงเสวี่ย ได้พยักหน้า ในที่สุดนางก็เข้าใจเจตนาดีของอาจารย์นาง
เมื่อเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหว
ทุกคนที่อยู่ด้านนอกสระฝึกกระบี่ก็คิดว่า มู่หรงชิงเสวี่ย คงแสดงเทคนิคกระบี่ของนางเสร็จแล้ว
ในเวลานี้ ผู้อาวุโสและศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ได้ปิดล้อมประตูเอาไว้หมดแล้ว แม้แต่น้ำจะไหลผ่านก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้
เพราะมีหลายคนที่อยากจะเห็นท่าทีที่สง่างามของ เทพธิดาชิงเสวี่ย
กระบี่ของนางที่สามารถโค่นยอดเขาลงมาได้ สิ่งนี้ได้สร้างความตกใจให้แก่ทุกคน เป็นอย่างมาก แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่า มู่หรงชิงเสวี่ย เป็นอัจฉริยะทางด้านกระบี่ แต่นางก็ไม่เคยแสดงเทคนิคกระบี่ที่ทรงพลังแบบนี้ออกมา
นี่หมายความว่า กระบี่เต๋าของ เทพธิดาชิงเสวี่ย มีระดับที่สูงมากยิ่งขึ้น
ในเวลานี้ เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า
โดยพวกเขาเห็น เทพธิดาชิงเสวี่ย ยืนอยู่ในสระฝึกกระบี่ด้วยสีหน้าที่เย็นชา
พร้อมกับเด็กอายุ 8 ปี ที่ยืนอยู่ด้านข้างและในมือถือกระบี่ยาวอยู่
แม้ว่า เย่เฉิน จะเป็นคนใช้เทคนิคกระบี่ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ที่คิดว่า เย่เฉิน ที่มีรากวิญญาณที่ว่างเปล่า จะเป็นคนสร้างปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดก่อนหน้านี้
ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุใด มู่หรงชิงเสวี่ย ถึงอยู่กับ เย่เฉิน พวกเขาก็ไม่ได้แปลกใจ เพราะว่า มู่หรงชิงเสวี่ย คือ ศิษย์พี่หญิงของเขา
มู่หรงชิงเสวี่ย ที่เห็น ปรมาจารย์ของยอดเขาเทียนฉี จ้าวฉีหยาง นางได้เดินไปข้างหน้าเขาและโค้งคำนับเล็กน้อย “มู่หรงชิงเสวี่ย คาราวะ ผู้อาวุโสฉีหยาง!”
จ้าวฉีหยาง ได้โบกมือ และมองไปที่ มู่หรงชิงเสวี่ย ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “ชิงเสวี่ย ดูเหมือนว่าเจตจำนงค์กระบี่ของเจ้าจะได้รับการปรับปรุงอีกครั้ง!”
มู่หรงชิงเสวี่ย ได้ตกอยู่ในความงุนงง โดย นางได้เหลือบมองไปที่ศิษย์น้องเล็กของนาง ดูเหมือนว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่จะคิดว่านางเป็นคนแสดงการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้
ในขั้นต้น มู่หรงชิงเสวี่ย ไม่ชอบที่จะแย่งเครดิตของคนอื่น แต่นางต้องการช่วยเหลือศิษย์น้องเล็กของนางในการซ่อนมัน ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงแค่ตอบกลับ “เมื่อไม่นานมานี้ข้าเพิ่งตระหนักรู้ถึงวิถีกระบี่บางอย่าง จึงได้ทดลองมันออกมาเมื่อครู่นี้!”
ในขณะนี้ จ้าวฉีหยาง มองไปที่ มู่หรงชิงเสวี่ย และ พูดออกมาอย่างตื่นเต้น “ไม่เลว ไม่เลว ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปีต่อจากนี้ เกรงว่าข้าคงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าแล้ว”
“ผู้อาวุโส ก็กล่าวชมเกินไป!”มู่หรงชิงเสวี่ย ได้ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ข้าใคร่สงสัยว่าการเคลื่อนไหวเมื่อครู่นี้มีชื่อเรียกหรือไม่?”จ้าวฉีหยาง มองไปที่ มู่หรงชิงเสวี่ย และ กล่าวถาม
“นี่…”มู่หรงชิงเสวี่ย รู้สึกกังวลเล็กน้อย เทคนิคกระบี่เมื่อครู่นางไม่ได้เป็นคนใช้
ในขณะนี้ เย่เฉิน ได้เดินขึ้นมาและดึงแขนเสื้อของศิษย์พี่ของเขา “ศิษย์พี่ ในเมื่อกระบวนท่าของเทคนิคกระบี่นี้มีทั้งหมดด้วยกัน 13 ท่า และ แต่ละท่าก็ทรงพลังมาก เหตุใดเราถึงไม่เรียกมันว่า 13 กระบี่สวรรค์และปฐพี เล่า?”
เมื่อเห็นว่า ศิษย์น้องเล็กของนางกำลังพยายามช่วยให้นางพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก มู่หรงชิงเสวี่ย ก็ได้กล่าวพูดทันที “เข้าใจแล้ว เช่นนั้นก็เรียกมันว่า 13 กระบี่สวรรค์และปฐพี!”
ในขณะนี้ จ้าวฉีหยาง ได้ท่องจำอย่างเงียบ ๆ “13 กระบี่สวรรค์และปฐพี ไม่เลว ชื่อนี้ไม่เลวเลย!”
ทุกคนได้จ้องมองไปที่ มู่หรงชิงเสวี่ย นางไม่เพียงแต่งดงามขึ้นเท่านั้น แต่เทคนิคกระบี่ของนางยังพัฒนาขึ้นมากอีกด้วย
ตอนนี้ นางได้สร้างเทคนิค 13 กระบี่สวรรค์และปฐพี เป็นของตัวเอง บางที นางอาจจะสามารถก้าวข้าม จ้าวฉีหยาง ได้ในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ และ กลายเป็น มือกระบี่อมตะ อันดับ 1 ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์แห่งนี้
การแสดงออกของ มู่หรงชิงเสวี่ย ได้กลายเป็นเย็นชาและไม่แยแส โดยนางไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่น
หลังจากที่ทุกคนเห็นว่า มู่หรงชิงเสวี่ย งดงามมากขึ้นเพียงใด พวกเขาก็ค่อย ๆ ผละจากไป
ในขณะนี้ มู่หรงชิงเสวี่ย ค่อย ๆ นั่งลงจนเผยให้เห็นขาอ่อน จากนั้นนางก็มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถาม “เฉินน้อย เจ้าเป็นคนสร้างเทคนิคกระบี่นี้ขึ้นมางั้นหรือ?”
เย่เฉิน ได้นิ่งเงียบไปชั่วครู่ เขาอดไม่ได้ที่จะถูกดึงดูดโดยขาอ่อนของศิษย์พี่หญิงรองของเขา
ศิษย์พี่หญิงของเขาทุกคนมีลักษณะทั้งหมดที่เป็นของตัวเอง
ศิษย์พี่หญิงรองก็คือต้นขา,ศิษย์พี่หญิงสามก็คือหน้าอก,ศิษย์พี่หญิงสี่ก็คือทรวดทรงของเอว,ศิษย์พี่หญิงห้าก็คือใบหน้า,ศิษย์พี่หญิงหกก็คือฝ่ามือที่เรียวและนุ่มนวล และ ศิษย์พี่หญิงเจ็ด…
ศิษย์พี่หญิงเจ็ด คงจะยังบอกอะไรไม่ได้มากเพราะนางยังคงอยู่ในช่วงเติบโตและพัฒนาอยู่
อย่างไรก็ตาม นางเป็นคนที่งดงามและไม่ธรรมดา…ซึ่งนางเองก็น่าจะมีลักษณะเฉพาะเช่นเดียวกัน!
เมื่อเห็นว่า ศิษย์น้องเล็กของนางกำลังจ้องมองขาอ่อนของนาง ใบหน้าที่เย็นชาของ มู่หรงชิงเสวี่ย ก็แดงขึ้นเล็กน้อย
“แค่ก แค่ก…”
ศิษย์พี่หญิงรองได้ไอออกมาเพียงไม่กี่ครั้ง
ในเวลานี้ เย่เฉิน ได้กลายเป็นรู้สึกตัวทันที
“เอ่อ ศิษย์พี่ เมื่อครู่ท่านว่าอะไรนะ?”เย่เฉิน ได้กล่าวถาม
มู่หรงชิงเสวี่ย ได้กลอกตามองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถามอย่างเย็นชาอีกครั้ง “ข้าถามว่าเจ้าเป็นคนสร้างเทคนิคกระบี่นี้ขึ้นมางั้นหรือไม่?”
เย่เฉิน ได้พยักหน้าและตอบกลับ “ใช่แล้ว หลังจากที่ข้าถือกระบี่ ทันใดนั้นข้าก็มีความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีกระบี่บางอย่างและสร้างเทคนิคกระบี่นี้ขึ้นมาเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม้ว่า มู่หรงชิงเสวี่ย จะเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว แต่นางก็อดที่จะรู้สึกประหลาดใจกับ เย่เฉิน ไม่ได้
ดูเหมือนว่า การคาดเดาของนางจะเป็นจริง เย่เฉิน ศิษย์น้องเล็กของนาง บางทีอาจจะเป็นผู้อมตะที่ถูกเนรเทศลงมายังโลกมนุษย์
“ศิษย์น้องเล็ก จำเอาไว้ ยามที่เจ้าฝึกฝนเทคนิค 13 กระบี่สวรรค์และปฐพี ห้ามให้คนอื่นรู้เป็นอันขาด!”มู่หรงชิงเสวี่ย ได้กล่าวพูดต่อ
เย่เฉิน ได้พยักหน้า เขาไม่ใช่เด็กอายุ 8 ขวบธรรมดาอีกต่อไป เพราะจิตวิญญาณของเขาเป็นของเยาวชนที่มีอายุ 20 ปี จากศตวรรษที่ 21 ดังนั้นเข้าจึงได้เข้าใจเรื่องนี้โดยธรรมชาติ
ในขณะนี้ เย่เฉิน ได้มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงรองของเขาและกล่าวถาม “ศิษย์พี่ เช่นนั้นข้าสอนเทคนิคกระบี่นี้ให้ท่านดีหรือไม่?”
เย่เฉิน ได้เห็นแววตาอิจฉาในสายตาของศิษญ์พี่หญิงรองของเขา ซึ่ง เย่เฉิน รู้ว่า ศิษย์พี่ของเขาต้องการที่จะเรียนรู้เทคนิคกระบี่อันนี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานะของนาง นางจึงไม่สามารถกล่าวมันออกมาได้โดยตรง
“นี่…”มู่หรงชิงเสวี่ย รู้สึกตกที่นั่งลำบากเล็กน้อย
“ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ท่านรับปากต่อหน้าของใครหลายคนว่าเป็นคนสร้างเทคนิค 13 กระบี่สวรรค์และปฐพีหรอกเหรอ ถ้าเกิดท่านไม่สามารถใช้มันได้ในอนาคต ไม่ใช่ว่าท่านจะไม่มีข้อแก้ตัวหรอกเหรอ?”เย่เฉิน รีบกล่าวพูด
มู่หรงชิงเสวี่ย ได้นิ่งเงียบไป นางได้ครุ่นคิดจากนั้นก็ตอบกลับ “เข้าใจแล้ว!”
ในเวลานี้ ใบหน้าของ ศิษย์พี่หญิงรองของ เย่เฉิน ได้เผยให้เห็นรอยยิ้มที่หายไปนาน และ รอยบุ๋มสองอันก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางทันที
ลักยิ้มเหล่านี้เป็นลักยิ้มที่สวยที่สุดเท่าที่เย่เฉินเคยเห็นมา
และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ เย่เฉิน ได้เห็น ศิษย์พี่หญิงรองของเขายิ้ม
อนึ่งจะต้องบอกเลยว่า ศิษย์พี่หญิงรองของเขาช่างงดงามเป็นอย่างมาก!