Ep.200 - เกียรติยศของผู้ได้รับชัยชนะด้วยตัวเอง
3/3
Ep.200 - เกียรติยศของผู้ได้รับชัยชนะด้วยตัวเอง
ซุนเฉาเซิ่งไม่เชื่อในความสามารถของฮังอวี่
“พวกนายคิดว่าเจ้าหมอนั่นจะฉวยโอกาสนี้หลบหนีรึเปล่า?”
“คนๆเดียวต้องสู้กับมนุษย์ปลาตั้งมากมาย? ฉันทำใจเชื่อไม่ลง!”
แม้ฮังอวี่จะเป็นคนที่หัวหน้ากองลั่วชื่นชมและเชื้อเชิญเข้าทีมนี้ แต่ตัวซุนเฉาเซิ่งนั้นรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่กว่า เพราะหัวหน้ากองลั่วไม่เพียงเชื้อเชิญเขาเข้าร่วมทีม แต่ยังชวนเข้าสกายเน็ตและมอบตำแหน่งหัวหน้าทีมให้
ขณะที่ฮังอวี่ไม่สามารถเข้าร่วมกับสกายเน็ตได้ด้วยซ้ำ!
จีเหวินยังคงเคลือบแคลงสงสัยในตัวฮังอวี่
เรื่องการเชื้อเชิญยอดฝีมือเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้น่ะเธอไม่ติด แต่จากหน่วยข่าวไม่ว่าจะในสมาคมโลกวิญญาณหรือในเน็ต ไม่เคยมียอดฝีมือที่ชื่อฮังอวี่ปรากฏขึ้นมาก่อนเลย
“ในเมื่อนายยืนกรานถึงขนาดนั้นฉันขอถามหน่อย” เหลียงตงโบกโล่แสงของเขาไปรอบๆเมื่อป้องกันการลอบโจมตี “ถ้าต้องสู้กับมอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นโกลด์เลเวล 4 นายมีความมั่นใจแค่ไหน?”
มอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นโกลด์?
แม้จะจัดอยู่ในระดับมอนสเตอร์ชั้นยอดเหมือนกัน
แต่ขั้นโกลด์นั้นแข็งแกร่งกว่าขั้นบรอนซ์มากๆ
เรื่องความมั่นใจ ซุนเฉาเซิ่งคิดว่าเขาไม่มีทางโค่นชนชั้นยอดขั้นโกลด์เลเวล 4 ได้อย่างแน่นอน
เหลียงตงกล่าวต่อว่า
“ฮังอวี่เคยฆ่าชนชั้นยอดขั้นโกลด์เลเวล 4 มาแล้ว”
“ฉันกล้าพูดเลยว่า ต่อให้เป็นหัวหน้ากองลั่วในเวลานั้นก็ยังทำไม่ได้!”
“ไม่ใช่ว่า ฮังอวี่ไม่แกร่งพอที่จะเข้าร่วมสกายเน็ต ตรงกันข้าม เขามีความสามารถมาก!”
“แต่เป็นเขาเองที่ไม่อยากเข้าร่วมกับทางสกายเน็ต และหัวหน้ากองลั่วก็ยอมอ่อนข้อให้สามส่วนและเคารพในการตัดสินใจของเขา!”
ซุนเฉาเซิ่งเผยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ปฏิกิริยาแรกที่แสดงออกมาคือต้องไม่เชื่ออยู่แล้ว!
ซุนเฉาเซิ่งมั่นใจในพลังรบของตัวเองเสมอมา ไม่ว่าจะในโลกวิญญาณหรือเจียงเฉิง เขาถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด
และในเจียงเฉิง ผู้ที่มีพลังรบสูงกว่าตัวเขา สมควรมีเฉพาะพวกระดับสูงของสกายเน็ตและสมาคมโลกวิญญาณเท่านั้น
เพราะงั้นใครจะคิด ว่าชายไม่รู้หัวนอนปลายเท้าที่จู่ๆก็โผล่หัวออกมา กลับถูกอ้างว่ามีพลังรบแก่กล้ายิ่งกว่าหัวหน้าทีมของสกายเน็ต และยังมากยิ่งกว่าหัวหน้ากองลั่ว
“ซุนเฉาเซิ่ง เจียงเฉิงมีประชากรอยู่มากถึง 10 ล้านคน ที่นี่มียอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่มากมาย นายไม่เชื่อฉันก็ได้ แต่นายต้องเชื่อในวิสัยทัศน์ของหัวหน้ากองลั่ว” เหลียงชิวกล่าวขึ้นในเวลานี้ “พวกเราโชคดีมากที่ได้ร่วมทีมกับเขา เขาสามารถทำผลงานดีๆให้พวกเราแน่นอน ถึงเวลานั้นนายจะภูมิใจในตัวเขา”
“ภูมิใจในตัวเขา? ถุย!”
ซุนเฉาเซิ่งเป็นคนแสดงออกตรงๆ
เขาดูหมิ่นในคำกล่าวนี้มาก
“ต่อให้ซุนเฉาเซิ่งผู้นี้ต้องกระโดดลงแม่น้ำแล้วถูกพวก มนุษย์ปลาแทงตาย ก็จะไม่มีวันยอมภาคภูมิในในคนที่ไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสมาชิกของสกายเน็ต!”
หวงเหยียนและเหลียงชิวต่างส่ายหัว
ซุนเฉาเซิ่งผู้นี้โดยธรรมชาติแล้วมิใช่คนเลวร้าย
เพียงแต่ใช้สมองไม่ค่อยเก่งก็เท่านั้น
ประโยชน์ของการมียอดฝีมือชั้นนำอยู่ในทีมก็ยังไม่ล่วงรู้
เขาไม่เข้าใจว่าหากมีบุคคลเช่นนั้นอยู่ในทีม ไม่เพียงด้านความปลอดภัย แต่อัตราความสำเร็จยังเพิ่มขึ้นมาก
แล้วอีกอย่าง หากบรรลุภารกิจ ทุกคนในทีมก็จะถือว่ามีส่วนร่วมเป็นอย่างมากและได้รับเครดิตที่ดี
แม้ฮังอวี่ไม่ใช่คนของสกายเน็ต แต่หัวหน้ากองลั่วก็ยินดีมอบแต้มบุญให้เขา ขณะที่สมาชิกคนอื่นๆจะได้รับเครดิตมากมายเพื่อใช้แลกเปลี่ยนทรัพยากรภายใน
ยุทธการที่ทะเลสาบซิงโกว
ความหอมหวานของรางวัลและผลประโยชน์ในครั้งนั้นยังติดตราตรึงใจหวงเหยียนและเหลียงชิวมาก!
ในตอนนั้นเอง เหลียงตงเกิดความสงสัยขึ้นมา “เฮ้ พวกนายสังเกตไหม ดูเหมือนพวกเราจะถูกโจมตีน้อยลง”
เขาเป็น MT ของทีม
ดังนั้นประสาทสัมผัสไวต่อการเปลี่ยนแปลงต่อการจู่โจมที่เกิดขึ้น
จีเหวินในฐานะผู้รักษาก็รู้สึกเช่นกัน
“ใช่ ถ้าเทียบกับตอนแรก ตอนนี้แทบไม่มีการโจมตีเข้ามาแล้ว”
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หลายคนนิ่งงันไปพักหนึ่ง
ในเวลานั้นเอง ร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากหมอก
“ใครกัน?”
“ไร้สาระน่า แน่นอนว่าฉันเอง!”
ฮังอวี่ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
หัวหน้าสกายเน็ตทั้ง 5 ต่างเผยสีหน้าประหลาดใจ
แม้ฮังอวี่ยังคงสวมหน้ากากและเสื้อคลุมตัวใหญ่ แต่เวลานี้ภายใต้เสื้อคลุม มันถูกแทนที่ด้วยชุดเกราะลวดลายเขียวสามชิ้นกับหอกยาวอันประณีตงดงามในมือ และเหนือตัวหอก กระพริบไปด้วยกระแสไฟฟ้า
อาวุธชิ้นนี้เรืองแสงพลังงานวิญญาณสีเขียว
หัวหน้าทีมทุกคนที่สังเกตเห็นมันต่างสั่นสะท้านในใจ
นั่นมันอาวุธสีเขียวใช่ไหม?
ในช่วงนี้ ไอเท็มคุณภาพสีเขียวบางรายการได้ปรากฏขึ้นแล้ว ไอเท็มเหล่านั้นหายากและมีค่ามาก มูลค่าของมันสูงกว่าไอเท็มชิ้นอื่นหลายเท่า
แต่หากเป็นอุปกรณ์อย่างอาวุธสีเขียว
มูลค่าของมันย่อมสูงขึ้นไปอีก สูงชนิดเหนือจินตนาการ
หวงเหยียนแข็งค้างอยู่สองสามวินาที ก่อนรีบเอ่ยถาม “ทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้? แล้วพวกมอนสเตอร์ที่อยู่รอบๆล่ะ?”
ฮังอวี่เอ่ยเบาๆ “แน่นอน เก็บกวาดหมดแล้ว”
แม้เสียงนี้จะเบาหวิว แต่ในหูของทุกคนราวกับถูกสายฟ้าฟาด!
เก็บกวาดหมดแล้ว?
เขาพึ่งแยกออกจากทีมไปประมาณ 10 นาที
ขณะที่มอนสเตอร์รอบๆอย่างน้อยก็มีมากถึง 20 - 30 ตัว!
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เขาสามารถฆ่าพวกมันได้นาทีละ 3 ตัว?
ห้ามลืมนะว่ามอนสเตอร์พวกนี้ไม่เพียงกระจัดกระจายกันเท่านั้น แต่พวกมันยังอยู่กันเป็นกลุ่ม และแต่ละกลุ่มยังมีชนชั้นยอดขั้นบรอนซ์ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนๆเดียวจะสังหารพวกมันทั้งหมดลงใน 10 นาที นี่เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?
“มีเสียงการต่อสู้ดังมาจากอึกฟากของสะพาน”
“ผมคิดว่ากองกำลังหลักน่าจะเริ่มโจมตีแล้ว”
“มนุษย์ปลาส่วนใหญ่ถูกล่อออกไป
“อย่าเสียเวลาเลย พวกเรารีบลงมือกันต่อเถอะ”
ฮังอวี่เดินนำเหล่าหัวหน้าสกายเน็ตทั้งห้าผ่านหมอกหนา
ระหว่างทางพวกเขาผ่านสถานที่ต่อสู้ บนพื้นพบศพมนุษย์ปลานักล่าและพลรบมนุษย์ปลากว่าห้าตัวนอนกองอยู่
เมื่อชำเลืองมองดู
หลายคนแสดงสีหน้าตกใจ
พลรบมนุษย์ปลาล้วนจบชีวิตลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
พวกมันตายลงตั้งแต่การโจมตีแรก ไม่มีบาดแผลมากไปกว่านั้น!
แม้นี่จะเป็นมอนสเตอร์ธรรมดา แต่พวกมันก็จัดว่าค่อนข้างทรงพลังในบรรดามอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 4
สำหรับซุนเฉาเซิ่ง ต่อให้เขาอยู่ในเลเวล 5 แล้วเปิดใช้งานสกิลแปลงร่าง
ภายใต้สถานการณ์นี้ เขายังไม่มั่นใจว่าจะสามารถสังหารพวกมันได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ตัดสินจากบาดแผลบนศพเหล่านี้ ทั้งหมดไม่เพียงถูกฆ่าในการโจมตีเดียว แต่ยังเป็นแค่การโจมตีธรรมดาที่ไม่ได้เกิดจากการใช้สกิล!
สิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกตกใจกลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ
ศพของมนุษย์ปลานักล่ามีบาดแผลเพียง 4-5 แผลเท่านั้น
มันเป็นถึงมอนสเตอร์ชั้นยอดเลเวล 4 เชียวนะ!
หากหัวหน้าของเหล่าสกายเน็ตใส่ใจมองมากกว่านี้ พวกเขาจะพบว่าบริเวณโดยรอบไม่มีร่องรอยของการต่อสู้เกิดขึ้นเลย นั่นหมายความว่าศพทั้งหกนี้ถูกสังหารลงในจังหวะที่พวกมันยังไม่ทันตั้งตัว!
หรือก็คือความว่องไวในการโจมตีของฮังอวี่รวดเร็วมาก!
มากซะจน มนุษย์ปลาแทบไม่ทันตอบสนอง!
แม้พวกเขาจะไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่แค่ฉากต่อสู้ก็มากพอแล้วที่จะทำส่งผลกระทบต่อจิตใจ
จีเหวินคิดในใจ : เขาทรงพลังมาก น่าเสียดายที่ไม่ยอมเข้าร่วมตั้งแต่แรก ไม่อย่างงั้น ซุนเฉาเซิ่งไม่มีทางได้นั่งตำแหน่งหัวหน้าทีม 10 แน่ๆ
ขณะเดียวกัน ซุนเฉาเซิ่งหลั่งเหงื่อเย็น
อันที่จริงก่อนหน้านี้เขาเคยท้าทายอีกฝ่าย
โชคดีที่ในเวลานั้นเขาแค่พูดมันกับคนข้างๆ ไม่ได้ประกาศคำท้าทายออกไปโต้งๆ มิฉะนั้นเกรงว่าตอนนั้น ... เขาคงได้คุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวยอมรับความพ่ายแพ้!
สองพี่น้องตระกูลเหลียงมองหน้ากัน
เหลียงตงกระซิบว่า “เขาแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว”
เหลียงชิวพยักหน้า “ดูเหมือนว่าตั้งแต่การต่อสู้ปกป้องเจียงเฉิง ความสามารถของเขาไม่เคยหยุดนิ่ง เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นอยู่แล้ว ... เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เขาแข็งถึงขนาดไหน!”
โดยไม่ทันรู้ตัว
ฮังอวี่ได้กลายเป็นแกนหลักของทีมทั้ง 6 ไปแล้ว
ในโลกใบนี้ ผู้ใดแข็งแกร่ง ผู้นั้นย่อมได้รับความเคารพนับถือ!
ฮังอวี่เอ่ยถาม “พวกเราอยู่ไกลจากหมู่บ้านเจียงซินแค่ไหน?”
หัวหน้าหน่วยหวงเหยียนตอบทันที “เจียงซินโจวมีรูปร่างเหมือนแตงกวาใหญ่ มีความยาวร่วม 10 กิโลเมตรก็จริง แต่ความกว้างไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น ถ้าเดินต่อไป คาดว่าใช้เวลาอีกราวๆ 10 - 20 นาทีก็ถึง”
ฮังอวี่เดินลึกเข้าไป
เขาพบพืชพรรณเขียวชอุ่มทุกหนแห่ง
เจียงซินโจวไม่เคยมีต้นไม้สูงขนาดนี้มาก่อน
แต่ตอนนี้กลับปรากฏต้นไม้สูงกว่า 20 เมตรจำนวนมาก เหนือขึ้นไปบนยอดแตกพุ่มใหญ่ปกคลุมผืนฟ้า
โลกวิญญาณพึ่งรุกรานได้เพียงเดือนเดียว!
แต่ต้นไม้กลับเติบโตถึงขนาดนี้แล้ว
นี่มันเร็วเกินไป!
ในแง่ของพื้นที่ทั้งหมดในเจียงซินโจว อย่างน้อยสองในสามของที่นี่คืออาณาเขตวิญญาณชั้นดี มีความหนาแน่นของพลังงานวิญญาณสูง อีกทั้งยังอยู่ในกลางเจียงเฉิง ในแง่ภูมิประเทศไม่มีใครเทียบได้
คุณค่าของแตงกวาใหญ่ชิ้นนี้ ทุกท่านคงสามารถจินตนาการ
น่าเสียดายที่สถานที่แห่งนี้ มันยากเกินไปสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กเช่นเขา
เกรงว่าหลังจากยึดเจียงซินโจวได้ สกายเน็ตคงย้ายสำนักงานใหญ่มาที่นี่
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะเจียงซินโจวมีภูมิศาสตร์ที่ดี มันตั้งอยู่ใจกลางเมือง ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ และปราศจากผู้อยู่อาศัย เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับหน่วยงานของรัฐในการใช้ตั้งเป็นป้อมปราการเพื่อควบคุมเมือง
ด้วยเหตุนี้เอง
ปฏิบัติการนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
หากฮังอวี่สามารถทำผลงานได้ดี
แต้มบุญที่มอบให้ย่อมไม่ต่ำกว่าในศึกปกป้องเจียงเฉิง!
“เกิดการต่อสู้ขึ้นข้างหน้า!”
“หรือว่ากองกำลังหลักจะบุกเข้ามาถึงแล้ว?”
ในเวลาเดียวกัน คนอื่นๆเริ่มได้ยินเสียงการต่อสู้ดังมาจากหมอกเบื้องหน้า
“ฟังจากเสียงไม่น่าใช่กองทัพใหญ่” ฮังอวี่หลับตาลงและเริ่มใช้เทคนิคตาเหยี่ยว “นี่น่าจะเป็นพลรบทีมอื่น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกฝูงมนุษย์ปลารุมโจมตี!”