ตอนที่แล้วตอนที่ 5 ข้อเสนอของราชาสิงโต (2) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 เลเวล 8 จากความพยายาม (2) [อ่านฟรี]

ตอนที่ 6 เลเวล 8 จากความพยายาม (1) [อ่านฟรี]


คิม ฮยอกจิน รู้กลยุทธ์ที่จะช่วยในการเคลียร์บทฝึกสอนเป็นอย่างดี ไม่สิ ไม่ใช่เพียงแค่บทฝึกสอนเท่านั้น แต่เหตุการณ์ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นหลังจากจบบทฝึกสอนทั้งหมดนั้นทุกอย่าง นั่นคือสิ่งที่เขาท่องจำมาเป็นเวลาสามปี

ฉันรู้รายละเอียดต่าง ๆ ของสนามฝึกสอนนี้ดีกว่าใคร ๆ

เขาไม่ได้มีเวลาว่างหรือเงิน แม้แต่งานอดิเรกก็เป็นสิ่งที่ไร้ค่าสำหรับเขา แต่เขาก็ยังมีอยู่อย่างหนึ่งและเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขานั้นมีความสุข นั่นคือการนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในห้องใต้ดินเล็ก ๆ ของเขาและเปิดดูวิดีโอจากยูทูป

เมื่อพูดถึงทฤษฎี ฉันมีความรู้มากกว่าเพลย์เยอร์ส่วนใหญ่

เขาไม่มีพรสวรรค์ นั่นคือการประเมินที่เขาได้รับ ในโลกของเพลย์เยอร์ที่พรสวรรค์เป็นสิ่งที่มีค่าเหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีพรสวรรค์ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่มีทางขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ด้วยความพยายามเพียงอย่างเดียวได้ เขาที่ไร้พรสวรรค์ทำเพียงแค่เปิดดูวิดีโอกลยุทธ์ต่าง ๆ ในดันเจี้ยนจากยูทูปหลายครั้งและในความเป็นจริงที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้

[ แม้ว่าจะเป็นก็อบลินเด็ก แต่ก็เป็นเรื่องยากมากสำหรับคนเลเวล 1 ที่จะเอาชนะมัน]

คำพูดเหล่านั้นไม่มีความหมายสำหรับ คิม ฮยอกจิน การต่อสู้แบบตัวต่อตัวอาจเป็นเรื่องยาก แต่เขารู้จุดอ่อนของมัน

จุดอ่อนของก็อบลิน

ตามที่เขาคาดไว้จุดอ่อนของมอนสเตอร์ระดับต่ำ ก๊อบลินมีจุดอ่อนหนึ่งจุดที่สามารถใช้ประโยชน์จากจุดนั้นได้ง่าย ๆ

คิ๊ก! คิคิคิคิคิ!

ก็อบลินเด็กยังคงจดจ่ออยู่กับการหั่นข้อเท้าของเด็กสาวคนนั้น

ที่หลังของคอ

เขาหายใจออกยาว ๆ

ที่หลังคอตรงกลาง

หลังคอตรงกลางของมันมีจุดสีดำขนาดใหญ่ นั่นคือจุดอ่อนที่ร้ายแรงซึ่งการโจมตีที่แม่นยำอาจทำให้ก็อบลินนั้นตายได้ในทันที อันที่จริงแล้วตราบใดที่คุณรู้จุดอ่อนของมัน ก๊อบลินก็เป็นมอนสเตอร์ที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย แต่เป็นเพราะว่าพวกมันมักจะเคลื่อนที่กันเป็นฝูง ดังนั้นปัญหาจริง ๆ คือจำวนซะมากกว่า

ช่องเก็บของ

ชั่วขณะหนึ่ง นั้นดูเหมือนว่าจะมีแสงสลัว ๆ ออกมาจากมือของเขา แล้วจากนั้นก็มีไอเท็มปรากฏขึ้นมาในมือของเขา สำหรับเขามันไม่ใช่ภาพที่น่าตกใจอะไรขนาดนั้นเลย

[ คุณได้ใช้ดาบเหล็กขึ้นสนิม ]

คิม ฮยอกจิน เดินไปที่ด้านหลังของก็อบลินเด็กอย่างเงียบ ๆ

ฉันต้องแทงมันแรง ๆ

เขาเป็นคนที่พยายามฆ่าแมลงสาบตัวใหญ่ด้วยตัวคนเดียว เขากำลังกัดริมฝีปากอย่างแรง เขาต้องทำมันอย่างสมบูรณ์แบบ

ตายซะ!

ด้วยมือที่กำลังถือดาบเหล็กขึ้นสนิม เขาแทงดาบเข้าที่หลังคอของก็อบลินเด็ก

ฉึบบบ!

ตั้งแต่ปลายใบมีดมาที่ด้ามดาบจนถึงมือของเขา เขารู้สึกได้ถึงความรู้สึกแปลกของการแทงทะลุเนื้อ

ฉะ- ฉันทำได้

เขาฆ่ามันในดาบเดียว

เลือดกระเซ็นและบางส่วนกระเซ็นไปที่เสื้อผ้าของเขา แต่เขาก็ไม่สนใจ เขาไม่มีเวลาที่จะมาตกใจ

[ คุณได้ฆ่าก็อบลินเด็ก ]

[ ได้รับค่าประสบการณ์ ]

มันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา แต่เขาสามารถยืนยันได้ว่าเขาได้รับค่าประสบการณ์ มันเป็นความรู้สึกที่รู้ได้โดยอัตโนมัติจากในหัวของเขา แถบค่าประสบการณ์เพิ่มมาหนึ่งในสาม

ฉันฆ่ามันได้จริง ๆ

ใช่แล้วมันเป็นแค่ก็อบลินเด็กและเขาก็รู้ถึงจุดอ่อนนั้นของมัน แต่การที่เขาสามารถฆ่ามันได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั้นสามารถอธิบายได้ว่าเขาช่างโชคดีจริง ๆ

ฉันโชคดีจริง ๆ

มันไม่ง่ายเลยสำหรับผู้เริ่มต้นทุกคน ไม่ว่าค่าสเตตัสเริ่มต้นของพวกเขาจะสูงแค่ไหน แต่ในการฆ่ามอนสเตอร์ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

เดี๋ยวนะฉันโชคดีจริง ๆ งั้นเหรอ?’ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้จะสามารถอธิบายอะไรได้อีกนอกเสียจากคำว่าโชคดี แต่…ทำไมมันง่ายจังล่ะ?’

ยังไงมันก็ง่ายเกินไปจริง ๆ เขาไม่มั่นใจที่จะพูดได้เต็มปากว่า โชคดี แต่การเคลื่อนไหวของเขาพริ้วไหวราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้มากแล้ว

ดูเหมือนว่าสถานการณ์นี้จะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดสำหรับสตรีมเมอร์เซเนียเช่นกัน ปากของเธอแทบจะอ้าไม่ได้จากความตกตะลึงนี้และจากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เธอคงกำลังเล่าเรื่องนี้ให้กับเหล่าผู้พิทักษ์ฟัง

[ เพลย์เยอร์เลเวล 1 ฆ่าก็อบลินเด็กได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ]

เธอกำลังพูดด้วยหน้าที่นิ่งเฉย แต่ปีกของเซเนียกำลังสั่น มันเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของนางฟ้าสตรีมเมอร์ เมื่อใดก็ตามที่พวกเธออารมณ์แปรปรวน ปลายปีกของพวกเธอก็จะสั่น

เขาตัดสินใจจัดการเรื่องสำคัญตรงหน้าของเขาก่อน

ลุกขึ้นได้แล้ว ดวงตาของเด็กสาวกำลังขาดสติ ตามมา ถ้าคุณช้า ผมจะทิ้งคุณไว้ข้างหลังทันที

คำพูดเหล่านั้นต้องมีผลแน่ ๆ เพราะเด็กสาวสะบัดหัวและดึงสติของเธอกลับมาทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของ คิม ฮยอกจิน

น-หนูจะตามไป

เขาเดินนำหน้าเธอ ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่มากเพราะอีกไม่นาน การโจมตีของคลื่นลูกที่สองก็เริ่มขึ้น

เขารีบตรงเข้าไปในร้านสะดวกซื้อและเมื่อเขาเหลือบมองไปที่ข้างหลังของเขา เขาพบว่าเด็กสาวนั้นที่กำลังเดินตามเขามาอย่างใกล้ชิดในสภาพกึ่งกลัว เมื่อเข้ามาเรียบร้อยแล้วเขาก็ปิดประตู

เซเนียยืนอยู่ท่ามกลางฝูงก็อบลิน ขณะที่เธอกำลังยืนอยู่ที่นั่นเพียงลำพังพร้มกับพูดบรรยายสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเธอ บางทีเธออาจกำหนดให้เขาเป็นเป้าหมายหลักของเธอ เพราะเธอไม่ออกห่างจากเขาเลย

ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าเปิดประตูนี้เด็ดขาด

“…”

เข้าใจไหม?

คิม ฮยอกจิน รู้ดีว่าเด็กผู้หญิงคนนี้กำลังตกใจมาก แต่เขาจะทำเป็นเล่นไม่ได้ เพราะนี่คือสนามฝึกสอนที่มีผู้เสียชีวิต 14,500 คนจาก 15,000 คน และเพราะเขาจะมีทางไม่ทำอะไรโง่ ๆ อย่างยอมมอบชีวิตเพื่อเด็กคนหนึ่ง

ตอบผมสิ เข้าใจไหม?”

เด็กสาวพยักหน้า

ไม่ว่าใครจะมาหรือว่าพวกเขาจะร้องขออ้อนวอนให้เธอเปิดประตู เธอก็ต้องไม่เปิดประตูเด็ดขาดเข้าใจไหม?

น-หนูเข้าใจ หนูสัญญา

หญิงสาวถูกครอบงำด้วยความกลัวอย่างสมบูรณ์ สำหรับเธอแล้ว เขาอาจเป็นผู้ช่วยชีวิตของเธอและเป็นชายที่แข็งแกร่งที่สามารถแทงสัตว์ร้ายตัวสีเขียวที่น่าสะพรึงกลัวจนตายได้ในทีเดียว ความกลัวของเธอเป็นอะไรที่เข้าใจได้

[ การโจมตีคลื่นลูกที่ 2 ของก็อบลินจะเริ่มต้นขึ้นอีกในไม่ช้า ]

[ การตั้งจุดเซฟโซนกำลังเริ่มต้น ]

คิม ฮยอกจิน ถามเธอว่า เธอได้เสียงประกาศนั่นด้วยใช่ไหม?

-ประกาศ?”

เสียงที่เธอน่าจะได้ยินจากในหัวของเธอ

อ่า…”

ดูเหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะคิดว่าเสียงนี้ไม่ใช่เสียง การประกาศ แต่เธอคิดว่าเธอนั้น ประสาทหลอนไปเอง

เธอได้ยินว่าอะไร?

อีกในไม่ช้าการโจมตีจะเริ่มขึ้นและกำลังมีตั้งจุดเซฟโซน…”

ที่ไหน?”

ระ-โรงเรียน ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาลถูกตั้งให้เป็นจุดเซฟโซน

ถูกตัอง

คิม ฮยอกจิน เดาว่าเด็กคนนี้ได้อเวคขึ้นในฐานะเพลย์เยอร์อย่างเป็นทางการแล้ว

เธอได้ยินว่าที่โรงพยาบาลด้วยเหรอ?

คนที่มีพรสวรรค์ในระดับปกติจะได้ยินถึงแค่ ร้านสะดวกซื้อ เท่านั้น ส่วนคนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นกว่าคนอื่นจะได้ยินคำว่า โรงพยาบาล ด้วยเช่นกัน

แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมฉันถึงไม่ได้ยินถึงโรงพยาบาลด้วยล่ะ

แต่เขาได้ยินประกาศอย่างอื่นเพิ่ม

[ นอกจากนี้ ลานจอดรถที่ ดีทาวเวอร์ ชั้น 2 ยังได้กำหนดให้เป็นจุดเซฟโซนพิเศษอีกหนึ่งที่ด้วย ]

คิม ฮยอกจิน จ้องมองไปที่เด็กสาว

ฉันเธอคงจะไม่ได้ยินสินะ

เธอไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากนั้น ดังนั้นสรุปได้ว่าเธอไม่ได้ยินเสียงประกาศที่บอกว่า ลานจอดรถที่ ดีทาวเวอร์ ชั้น 2

เกิดอะไรขึ้น?’

เขารู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย ที่มีจุดเซฟโซนอื่นอีกนอกจากโรงพยาบาล นั่นคือสิ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย เพราะจุดเซฟโซนดังกล่าวไม่เคยปรากฏมาก่อนแม้แต่ในหนังสือที่ถูกเขียนมาจากประสบการณ์ของผู้ที่ผ่านบทฝึกสอนอย่าง ราชาหมัด โซ ยูฮยอน และไม่มีเพลย์เยอร์คนใดที่ผ่านบทฝึกสอนพูดถึงการมีจุดเซฟโซนอื่นในบทฝึกสอน

มีจุดเซฟโซนอยู่ที่ใจกลางสนามฝึกสอน ดีทาวเวอร์ เหรอ? ถ้ามีก็คงจะไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกนำออกมาเผยแพร่

[การตั้งจุดเซฟโซนได้สิ้นสุดลงแล้ว ]

[ การบุกโจมตีคลื่นลูกที่ 2 ของก็อบลินกำลังเริ่มต้น ]

เขาต้องทำใจให้แข็งเพราะอีกไม่นาน นรกก็จะมาเยือนอีกครั้ง บรรดาผู้ที่หาจุดเซฟโซไม่เจอรวมไปถึงผู้ที่ไม่ได้เข้าไปหลบในอาคารได้เร็วพอ พวกเขาทั้งหมดจะต้องตาย

ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด!! อันที่จริงอย่าแม้แต่จะมองไปทางประตูเลยจะดีกว่านั่งหันหลังให้ประตูไปเลยน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

สถานที่แห่งนี้เป็นจุดเซฟโซนที่ถูกตั้งขึ้น ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกก็อบลินจะบุกเข้ามาได้จากการพังประตูหรือกระจกเพื่อเข้ามาแม้กระทั่งกับเพลย์เยอร์ด้วยเช่นกัน มีเฉพาะเพลย์เยอร์หรือมอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่าค่าที่ตั้งไว้เท่านั้นที่จะสามารถทำลายเขตป้องกันเข้าไปได้

ทันทีที่ประตูถูกเปิดจากด้านในจุดเซฟโซนจะถูกยกเลิกทันทีและเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดิ้นรนหรือพบกับความตายที่น่าสยดสยอง

[ หมอกบรรพกาลเริ่มจางลง ]

สภาพข้างนอกที่นอกประตูออกไปนั้นช่างอะไรที่น่าสยดสยอง มีศพนอนอยู่เกลื่อนไปหมด ราวกับว่าเมืองนี้ถูกทาด้วยสีแดงเข้มไปทั้งเมือง มีเศษชิ้นส่วนของเพลย์เยอร์นับไม่ถ้วน กระจัดกระจายไปทั่วพื้นและบนถนนนั้นก็ดั่งนรกบนดินดี ๆ นั่นเอง

-ปะ- เปิดประตู! ฉันบอกให้เปิดประตู!

เปิดทีเถอะ! เปิดประตู ฉันขอร้องล่ะ ได้โปรด!

ผู้คนจำนวนมากมาเคาะที่ประตูร้านสะดวกซื้อและ คิม ฮยอกจิน ก็ไม่มีทางยอมเปิดประตู

ไอ้พวกบ้า เขากัดริมฝีปากและกำหมัดแน่น นี่มัน... ทรมานใจจริง ๆ

ที่ข้างนอกร้านสะดวกซื้อมีก็อบลินจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังรวมตัวกันเป็นฝูง ผู้คนรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อต่อสู้กับมัน แต่ก็อย่างที่เขาคิดไว้ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้กับจำนวนที่มากขนาดนั้นได้

คิม ฮยอกจิน ทำได้เพียงเฝ้ามองจากข้างใน—จุดเซฟโซน—ในขณะที่ผู้คนที่อยู่ข้างนอกนั่นต้องตายหรือถูกจับกินทั้งเป็น

บัดซบบ!!

เขาไม่ได้หันหน้าหลบไปจากพวกเขาเลย เขาต้องอดทนดู

ฉันจะ... จดจำมันทั้งหมด ช่วงเวลานี้ ฉากนี้ ฉันจะไม่มีวันลืมมัน

เขาตักใจดูมากยิ่งขึ้น

ไม่มีทาง ฉันจะไม่วันลืม

* * *

หนึ่งวันผ่านไป เด็กสาวคนนั้นชื่อ คัง ซุนฮวา เธอกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมหนึ่ง ในตอนแรก เธอขาดสติเพราะความกลัว แต่เธอก็ตั้งสติกลับมาได้ค่อนข้างเร็ว—ความแข็งแกร่งทางจิตใจของเธอแข็งแกร่งกว่าที่คิด นั่นถือเป็นเรื่องที่ดีที่เธอสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว

เอ่อหนูขอเรียกคุณว่าโอปป้าได้ไหม? (โอป้า โอปป้า อุปป้า ให้ใช้เฉพาะผู้หญิง สำหรับเรียกผู้ชายที่เป็นพี่ชาย หรือผู้ชายที่แก่กว่า)

คิม ฮยอกจิน พยักหน้าเล็กน้อย ตอนนี้เขาย้อนกลับมาในอดีตมีอายุยี่สิบปี ด้วยอายุที่ห่างกัน 6 ปี เรียกโอปป้าก็ถูกแล้ว

หลังจากผ่านไปประมาณหกชั่วโมงนับตั้งแต่เริ่มคลื่นลูกที่ 2 มันก็เริ่มเงียบงัน อันที่จริงเขาหมายความว่าแถว ๆ นี้คงมีคนเหลืออยู่ไม่มากนัก

ขอบคุณจริง ๆ ที่โอปป้าช่วยชีวิตหนูไว้ หนูยังไม่ได้พูดขอบคุณโอปป้าอย่างเป็นทางการเลย ตอนนั้นหนูกลัวมาก…”

เมื่อมองไปที่ดวงตาของเธอที่แดงก่ำขณะพูด ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ได้หายจากอาการตกใจเลยซะทีเดียว ใช่แล้วนั่นก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถึงกระนั้นมันก็ค่อนข้างน่าประทับใจที่เธอดูค่อนข้างสงบ—อย่างน้อยก็การแสดงออกของเธอ

หนูดีใจที่ได้พบคุณนะ โอปป้า

“…”

หนูขอบคุณจากใจจริง ๆ

“…”

การสนทนากลายเป็นเพียงการพูดเธอฝ่ายเดียว

ได้โปรดอย่าโยนหนูออกไปเลยนะ หนูเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่นิสัยดีจริง ๆ นะ หนูล้างจาน ทำความสะอาดและซักผ้าเก่งนะ

“…โอ้ อย่างนั้นเหรอ?”

สำหรับคำพูดของเด็กอายุ 14 ปี ถือว่าค่อนข้างแปลก เขารู้สึกประหลาดใจที่จู่ ๆ เธอก็ขอให้เขาอย่าทิ้งเธอไป ปกติคนเขาไม่พูดแบบนั้นออกมาทั้งที่สถานการณ์เป็นแบบนี้ใช่ไหม? เป็นเพราะว่าเธอกลัวการถูกทอดทิ้งอย่างนั้นเหรอ? เขาไม่รู้จะตอบเธออย่างไร

มันเป็นความจริงที่เขานั้นช่วยชีวิตเด็กสาวคนนี้เอาไว้ แต่มันก็เป็นการกระทำที่เขาวางแผนแอบแฝงเอาไว้ ไม่ใช่จากความเมตตาจากใจจริง ๆ ของเขาเลย

แค่พูดขอบคุณก็พอแล้วล่ะ เพราะเรายังไม่รู้เลยว่าเราสองคนจะรอดไปจนจบได้ไหม?

“…”

ถ้าจำเป็น ผมก็จะใช้คุณเป็นเหยื่อล่อและวิ่งหนีไป

ใบหน้าของซุนฮวาหมองลง เขาตัดสินใจที่จะพูดกับเธอตรง ๆ

ผ่านไปอีกหกชั่วโมง ในระหว่างนี้ ดูเหมือนว่าซุนฮวาจะคุ้นเคยกับเขามากขึ้น

หนูคิดว่าหนูสามารถอยู่รอดต่อไปได้ ถ้าหนูได้อยู่กับโอปป้า ทั้ง ๆ ที่หนูก็กลัวเหมือนกัน...

เธอพยายามยิ้มอย่างสดใสและพยายามแสดงสีหน้าที่กล้าหาญ

เธอดูน่ารักดีแหะ

มันน่ารักมาก แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น เพียงแค่ว่าเธอนั้นน่ารัก เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกของผู้ชายกับผู้หญิงอย่างแน่นอน ควรจะพูดยังไงดี? เธอเป็นเหมือนหลานสาวของเขา (เพราะก่อนหน้าที่เขาจะย้อนกลับมาในอดีตเขามีอายุ 30 แล้วนั่นเอง)

โอปป้าดูแข็งแกร่งมาก ๆ

ถ้าผมแข็งแกร่งจริง ๆ ล่ะก็ ผมคงจะเดินออกไปที่นั่นและฆ่าพวกมันให้หมดทุกตัวแล้วล่ะ

เขาชี้ไปที่ข้างนอกจุดเซฟโซน มีฝูงก๊อบลินจ้องมองมาที่พวกเขาทั้งคู่ พวกมันกำลังหัวเราะเยาะเย้ยและใช้กระบองของพวกมันทุบที่กระจก ราวกับว่าพวกเขาเป็นสัตว์ที่ติดอยู่ในกรงของสวนสัตว์

ซุนฮวาตกใจหงายหลังจนก้นของเธอกระแทกพื้นและรีบไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังของ คิม ฮยอกจิน พร้อมกับเสียงกรีดร้อง เธอมีตัวเล็กมากจริง ๆ

อะ-โอปป้า ไม่กลัวเหรอ?”

ใครจะรู้?”

เขากลัว แต่สิ่งที่กดดันมากกว่าความกลัวคือความโกรธของเขา การที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทำให้ความโกรธก่อตัวขึ้นภายในใจของเขา

หลังจากการบุกโจมตีคลื่นลูกที่ 2…’

จนกว่าจะสิ้นสุดการโจมตีคลื่นลูกที่ 2 ของก๊อบลิน สิ่งที่ต้องทำคือการซ่อนตัว แต่เมื่อคลื่นลูกที่ 2 สิ้นสุดลง สิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนไป

ผมอาจจะปกป้องคุณไม่ได้ตลอดเวลาเจ็ดวันของการฝึกสอนหรอกนะ

“…”

และผมก็ไม่สามารถปกป้องต่อคุณได้ดีด้วยเหมือนกัน

การดูแลตัวเองนั่นก็ยากพอแล้ว

แต่จะยังไงก็ตาม ผมจะไม่ทิ้งคุณไว้ที่นี่แน่ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเราก็ควรพักผ่อนบ้างเหมือนกันนะ

ซุนฮวาจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ดูเหมือนเธอจะกำลังคิดว่าเขาจะทิ้งเธอไปอย่างแน่นอนถึงเธอหลับไปจริง ๆ

เฮ้ ผมไม่ทิ้งคุณหรอกน่า เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่ชีวิตของผมตกอยู่ในอันตราย ผมก็จะไม่มีทางทิ้งคุณไปแน่นอน ดังนั้นเชื่อผมและไปนอนได้แล้ว

โอปป้าจะไม่ทิ้งหนูไปจริง ๆ ใช่ไหม? หนูเชื่อใจโอปป้าได้ใช่ไหม?

เธอค่อนข้างกลัวการถูกทอดทิ้งเอามาก ๆ

พักผ่อนก่อนเถอะน่า เธอต้องเก็บแรงเอาไว้บ้าง

เข้าใจแล้ว หนูจะทำตามที่โอปป้าบอก

หลังจากการบุกโจมตีคลื่นลูกที่ 2 เขาจะต้องเดินผ่านถนนที่เต็มไปด้วยซากศพมากมาย เพราะจุดหมายของเขาคือจุดจบของการเคลียร์บทฝึกสอน ซึ่งบังเอิญเป็นที่ กวางฮวามุน ดีทาวเวอร์ ที่เป็นจุดเซฟโซนที่ถูกตั้งและไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน