ตอนที่ 044 มาเฟีย
แม้ว่าสูเจิ้งเหมาจะไม่ใช่เศรษฐีในฮ่องกง แต่เขาก็ยังพอมีฐานะและมีหน้าที่การงานที่มั่นคง สิ่งแพงสุดที่เขาเคยซื้อก็คือหินหยกมูลค่า 1 แสน
ในเซียงเจียงผู้คนที่นี่ชื่นชอบหยกเป็นจำนวนมาก สูเจิ้งเหมาเคยเห็นหยกอันหนึ่งมีมูลค่าหลายล้าน
อันนี้มันแค่หยกชิ้นเล็กๆเอง
แต่ตอนนี้หยกในมือของสูเจิ้งเหมามีขนาดใหญ่กว่าหยกก้อนเป็นล้านถึงสองเท่า ที่สำคัญมันสวย มีสีเขียวทั่วทั้งก้อน ไม่มีรอยตำหนิหรือรอยร้าวแม้แต่นิดเดียว
สวยกว่าหยกมูลค่าเป็นล้านอีก
"อึก!!"
สูเจิ้งเหมากลืนน้ำลายอึกใหญ่
หยกสองชิ้นในมือของสูเจิ้งเหมานั้นไม่ใช่หยกธรรมดา หลังจากที่ได้สัมผัสแล้ว หินหยกก็ปล่อยความเย็นเบาๆออกมายังบนมือของเขา
เป็นความรู้สึกที่เย็นสดชื่นบนมือของสูเจิ้งเหมา ต่อให้ถือนานแค่ไหนความเย็นนั้นก็ไม่จางหายไปเลย
เป็นไปได้ไหม…นี่คือเป็นลักษณะพิเศษของหยกจักรพรรดิ์?
สูเจิ้งเหมาคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าเขาต้องการที่จะซื้อหยกจักรพรรดิ์ไว้เอง
แต่ความคิดนั้นก็หายไปทันที
ชายที่อยู่ข้างหน้าเขาตอนนี้ลึกลับเกินไป เขาค่อนข้างจะสนิทกับหัวหน้าเขตเผิงเฉิงอีกต่างหาก
ถ้าเขาเอาหยกไว้กับตัวนี้ เกรงว่าน่าจะไม่ดีเท่าไหร่….
ซูแคนมองไปที่สูเจิ้งเหมาและพูดว่า
"เหลาสูนายสามารถขายมันต่ำกว่าราคาตลาดได้นิดหน่อยนะ ผมมีเวลาอยู่ที่นี่แค่อาทิตย์เดียว"
"เข้าใจแล้ว!!"
สูเจิ้งเหมาพยักหน้า
"กริ๊งงงง!!"
ทันใดนั้นโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น สูเจิ้งเหมามองไปที่โทรศัพท์และพูดว่า
"ซูแคนคนที่นายอยากเจอมาแล้ว"
ซูแคนพยักหน้าตอบ
"ให้เขาเข้ามาได้เลย"
"ได้เลย!!"
สูเจิ้งเหมาเดินไปรับโทรศัพท์ ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
สูเจิ้งเหมาเดินไปเปิดประตูและพาคนเข้ามาในห้อง
"ซูแคน นี่คือต้าเฟย เขาเป็นญาติห่างๆของฉันเอง"
สูเจิ้งเหมาพูดออกมาทันที่พาชายคนแปลกหน้าเข้ามา
"หวัดดีครับ"
ชายแปลกหน้าพูดออกมาเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง
ซูแคนมองดูชายที่เขามาแล้วก็คิด
ชายที่สูเจิ้งเหมาพาเข้ามาย้อมผมสีเหลือง สวมเสื้อแขนสั้นโชว์รอยสักเต็มแขนของเขา
ทุกวันนี้นักธุรกิจใจเซียงเจียงมีความสัมพันธ์กับพวกมาเฟียแบบนี้ ไม่มากก็น้อย แน่นอนสูเจิ้งเหมาก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น
ยิ่งในฮ่องกง ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า เรียกได้ว่าแทบจะมีมาเฟียคลุมแทบทั้งหมด
สถานที่ที่มีเม็ดเงินไหลเข้าออกเป็นจำนวนมาก คนรวยที่เป็นเจ้าของแทบไม่ได้ลงมาดูธุจกิจของพวกเขาเลย
เขาจะให้พวกมาเฟียนี่แหละดูแลธุจกิจของพวกเขาให้ เพราะปัญหาบางอย่างต้องใช้พวกนอกกฏหมายพวกนี้จัดการ
แม้ว่าสูเจิ้งเหมาจะไม่ใช่มหาเศรษฐีแนวหน้า แต่เขาก็ยังพอมีช่องทางติดต่อกับพวกมาเฟียอยู่บ้าง
"เรียกผมว่าซูแคนก็ได้"
ซูแคนพูดภาษากวางตุ้งได้อย่างคล่องแคล่ว
"อ๊ะ!! ซูแคน นายสามารถพูดภาษาจีนกวางตุ้งได้ด้วยเหรอ?"
สูเจิ้งเหมามองที่ซูแคนและถามด้วยสีหน้าตะลึง
"ใช่!!"
ซูแคนพยักหน้า
ชาติก่อนของซูแคน เขาชอบดูหนังที่มาจากฮ่องกงมาก ทำให้เขาได้รู้จักกับภาษาจีนกวางตุ้ง ต่อมาบริษัทของซูแคนต้องมาติดต่อธุระที่นี่บ่อยครั้ง จึงไม่แปลกที่ซูแคนจะพูดภาษาจีนกวางตุ้งได้คล่อง
"สวัสดีครับ คุณซู"
ต้าเฟยพูดน้ำเสียงสุภาพ
"ไว้ด้วยค่อยคุยกันทีหลังนะ"
ซูแคนพูดกับต้าเฟย
"นายไปพักผ่อนได้แล้วเหลาสู ขอบใจสำหรับวันนี้มาก ไว้เจอกัน"
ซูแคนพูดกับสูเจิ้งเหมาพร้อมกับโบกมือลา
หลักจากที่นอนที่ห้องที่แสนโทรมมาสองสามวัน พอถึงห้องใหม่ที่น่านอนแบบนี้ ทำให้ซูแคนง่วงนอนพร้อมจะทิ้งตัวลงบนเตียงที่แสนนุ่มแล้ว
"โอเค ซูแคนไว้เจอกันใหม่"
สูเจิ้งเหมาพยักหน้า เขาเดินออกไปพร้อมกับต้าเฟย
สูเจิ้งเหมาต้องรีบจัดการกับหยกที่ซูแคนมอบให้เขาโดยเร็วที่สุด และโอนเงินเข้าบัญชีให้กับซูแคน
…
วันถัดมา
"วันนี้ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่กับเถอะ"
ซูแคนพูด หลังออกมาเจอลู่กั๋วเฉียงกับหวงเสี่ยวเว่ย
"พี่สาม ผมว่าผมดูดีแล้วนะ"
ลู่กั๋วเฉียงพูดพร้อมมองดูรอบตัวของเขา มันคือเสื้อผ้าที่ทันสมัยที่สุดแล้วในหนานจิง
ซูแคนกลอกตามองบนแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้
"ดีบ้าอะไรล่ะ!! ลองเปรียบเทียบกับคนแถวนี้ดูสิ"
"ไม่ใช่พวกเราไม่มีเงินสักหน่อย ฉันพาแกมาที่เซียงเจียงเพื่อจะให้แกได้เปิดโลกนะ เอาเงินออกมาใช้บ้าง"
"แกรู้สึกยังไงที่ได้นอนโรงแรมคืนละ 700 หยวน!! แกหาเงินมาก็เยอะ แต่จะไม่ใช้มันอย่างงั้นเหรอ?"
ซูแคนมองลูกั๋วเฉียง
ลู่กั๋วเฉียงกัดฟันเขารู้สึกค่าโรงแรมที่นี่มันแพงมาก ค่าโรงแรม 700 หยวนต่อคืน
แถมยังเปิดห้องนอนอีกตั้ง 2 ห้อง…
ซูแคนเห็นความท่าทางของลู่กัวเฉียง เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มชั่วร้ายออกมา