STY-ตอนที่ 15 13 กระบี่สวรรค์และปฐพี
[13 กระบี่สวรรค์และปฐพี รวมทั้งหมดมีด้วยกัน 13 การเคลื่อนไหว เมื่อบ่มเพาะพลังถึงอาณาจักรมหายาน มันสามารถเขย่าสวรรค์และปฐพี หรือแม้แต่ ฟันดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และ ดวงดารา ได้!]
เมื่อเห็น ข้อความนี้ เย่เฉิน ก็ตกใจ
สิ่งนี้สามารถ เขย่าสวรรค์และปฐพี หรือแม้แต่ ฟันดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และ ดวงดารา ได้
นี่มันออกจะน่าเหลือเชื่อเกินไปมั้ย!
[เทคนิคกระบี่กำลังถูกแจกจ่าย…]
[เทคนิคกระบี่กำลังหลอมรวม ตอนนี้ โฮสต์ได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวแรก อสนีแห่งฤดูใบไม้ผลิ สำเร็จ!]
ทันใดนั้น ข้อความก็ปรากฏขึ้นในใจของ เย่เฉิน
อสนีแห่งฤดูใบไม้ผลิ เป็นกระบวนท่ากระบี่ มันเป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วดุจสายฟ้า!
เย่เฉิน ได้นิ่งเงียบ และ จมอยู่กับการเคลื่อนไหวแรก ใน 13 การเคลื่อนไหว ของเทคนิค 13 กระบี่สวรรค์และปฐพี
หลังจากเรียนรู้มันอย่างเงียบ ๆ เย่เฉิน ก็โพล่งออกมาด้วยเจตจำนงค์กระบี่ของเขา พลังปราณที่แท้จริงในร่างกายของเขาได้พุ่งออกมาราวกับกระแสน้ำ ซึ่งสิ่งนี้มันเหมือนกับกระแสน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถเชือดเฉือนทุกสิ่งได้
จากนั้นแสงกระบี่ที่เด่นชัดได้พลันปรากฏขึ้น อีกทั้งยังเต็มไปด้วยเจตจำนงค์กระบี่ที่เฉียบคมอย่างหาที่สุดมิได้
ฟุ่บ!
แสงอันเยือกเย็นได้วาดผ่านออกไปในทันที!
ฟวั่บ!
เสียงดังได้ปรากฏขึ้นเวลานี้
หินก้อนใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าของ เย่เฉิน ได้ถูกตัดออกเป็นสองส่วนอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ มู่หรงชิงเสวี่ย ศิษย์พี่หญิงรองของเขา ที่เพิ่งหันศีรษะไป หลังจากได้ยินเสียง นางก็หันศีรษะมองไปที่ เย่เฉิน โดย ใบหน้าที่เย็นชาของนาง อดไม่ได้ที่จะเผยความรู้สึกประหลาดใจออกมา
นางมองไปที่ เย่เฉิน ศิษย์น้องเล็กของนาง ด้วยสีหน้าที่ยากจะเชื่อ
นางรู้ว่า เย่เฉิน มีรากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นนางจึงสามารถเข้าใจได้ว่าการฝึกฝนของเขาค่อนข้างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นี่ควรจะเป็นครั้งแรกที่ เย่เฉิน ฝึกฝนวิถีกระบี่ แล้วเหตุใด จู่ ๆ เขาถึงสร้างปราณกระบี่ที่คมเช่นนั้นออกมาได้?
เป็นไปได้หรือไม่ว่าศิษย์น้องเล็กของนางเป็นอัจฉริยะในเส้นทางกระบี่?
[ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่เรียนการเคลื่อนไหวแรกสำเร็จ การเคลื่อนไหวที่สองได้ถูกปลดล็อคแล้ว ‘สายธารแห่งฤดูใบไม้ร่วง’!]
13 กระบี่สวรรค์และปฐพี ก็เป็นไปตามชื่อของมัน โดยมันมีทั้งหมด 13 การเคลื่อนไหว ซึ่งกระบวนท่าแรกคือ อสนีแห่งฤดูใบไม้ผลิ และ กระบวนท่าที่สองคือ สายธารแห่งฤดูใบไม้ร่วง…
เย่เฉิน ที่ได้เคลื่อนไหวการโจมตีในครั้งแรก เขาได้ตามมาด้วยการเคลื่อนไหวครั้งที่สองอีกครั้งในทันที
ตัวกระบี่ได้ฟันออกไปในแนวนอนดั่งสายธารที่ไม่เคยหยุดไหล เมื่อการเคลื่อนไหวนี้ถูกปลดปล่อยออกไป ลำแสงของกระบี่ที่เหมือนกับน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ก็วาดผ่านออกไป
หลังจากนั้น ระบบ ก็ได้ปลดล็อคการเคลื่อนไหวทั้ง 13 รูปแบบ ให้กับ เย่เฉิน อย่างต่อเนื่อง
การเคลื่อนไหวที่ 3 คือ ดอกเหมยผลิบาน การเคลื่อนไหวที่ 4 หนามไผ่ทิ่มแทง ที่ 5 คือ สายลมพริ้วไหว ที่ 6 คือ หยาดน้ำค้างร่วงหล่น ที่ 7 คือ หิมะเลื่อนลอย ที่ 8 คือ บุพผาร่ายรำ ที่ 9 คือ ระบำเพลิง ที่ 10 คือ ตัดสวรรค์ ที่ 11 คือ หยินและหยาง ที่ 12 คือ การจุติของเทพอมตะ ที่ 13 คือ ทลายเอกภพ!
โดย เย่เฉิน ได้ทำการเคลื่อนไหวกระบวนท่าต่อไป
การเคลื่อนไหว 4 ครั้งแรก เปรียบเสมือนหยกที่มาจากครอบครัวเล็ก ๆ ที่รอการแต่งงานกับหญิงสาว และ เต็มไปด้วยความรักที่ไม่รู้จบ…
การเคลื่อนไหว 6 ครั้งต่อจากนี้ เสมือนหญิงสาว ที่กำลังมีความรัก ที่มาพร้อมกับสายลมและดวงจันทร์ที่สว่างไสว พวกเขาได้ร่วมดื่มเหล้าดอกท้อด้วยกัน และ กระบวนท่าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความรัก และ การจู่โจมที่ไม่ทำให้พวกเขาเสียใจ…
และ การเคลื่อนไหว 3 ครั้งที่เหลือ ก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่เป็นหนึ่งเดียว โดย เจตนาฆ่าที่ยิ่งใหญ่ได้พุ่งไปข้างหน้า ราวกับ กระบี่ ที่กำลังต่อสู้กับ หยินและหยาง , สังหารเทพอมตะ และ โค่นล้มจักรวาล มันยิ่งใหญ่เสียจนไม่อาจที่จะบรรยายได้
โดยการการเคลื่อนไหวทั้ง 13 ครั้ง ล้วนปรากฏขึ้นด้วยมือของ เย่เฉิน
ทันใดนั้น เจตจำนงค์กระบี่ที่เฉียบคมราวกับแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ก็ได้ปล่อยออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ในสระฝึกกระบี่ของ ศิษย์พี่หญิงรอง เจตจำนงค์กระบี่ ได้บินไปทั่วทุกหนแห่ง และ มันได้สลักร่องรอยของปราณกระบี่ไว้ทีละอันบนโขดหิน
ในขณะนี้ ศิษย์พี่หญิงรอง มู่หรงชิงเสวี่ย รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก ในขณะที่นางเฝ้าดูศิษย์น้องเล็กของนางกำลังปลดปล่อยวิชากระบี่
แม้ว่าการเคลื่อนไหวกระบี่เหล่านี้จะยังดูไม่พริ้วไหวมากนัก แต่มันก็เต็มไปด้วยความลึกลับที่หาตัวจับได้ยาก อีกทั้งพวกมันยังงดงามมากกว่าวิชากระบี่ใด ๆ ที่นางเคยเรียนมา
ใบหน้าที่เย็นชาและชัดเจนของนางอดไม่ได้ที่จะตกใจ และ อ้าปากค้างเล็กน้อย ในเวลานี้ จิตใจของนางได้ตกตะลึงโดยสมบูรณ์
จนกระทั่งถึงกระบวนท่าที่ 11!
กระบี่ของ เย่เฉิน ได้วาดฟันออกไป 1 กระบี่ ต่อสู้กับ หยินและหยาง!
ทันใดนั้น แสงกระบี่ขนาดใหญ่ก็ได้ตัดผ่านท้องฟ้า และ ทำให้ สวรรค์และปฐพีเป็นอันต้องสั่นสะเทือน หยินและหยาง ได้ตกอยู่ในความโกลาหล และ มีเสียงระเบิดปะทุขึ้นรอบด้าน!
ลำแสงอันเยือกเย็นได้ปรากฏขึ้นไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์
“นั่นมัน…”ศิษย์คนหนึ่งได้มองไปที่ลำแสงอันเยือกเย็น
“ที่นั่นคือสระฝึกกระบี่ของศิษย์พี่หญิงมู่หรง เป็นไปได้หรือไม่ว่า ศิษย์พี่หญิงมู่หรง ได้คิดค้นวิชากระบี่ใหม่ขึ้นมา?”ศิษย์อีกคนได้กล่าวพูดด้วยความประหลาดใจ
“กระบวนท่านี้ดูเหมือนจะทรงพลังยิ่งกว่าวิชากระบี่ที่ศิษย์พี่หญิงมู่หรงเคยใช้เสียอีก!”
ในขณะนี้ ขณะที่ฝูงชนกำลังพูดคุยกัน บุรุษในชุดขาว ก็ได้บินตรงไปที่ สระฝึกกระบี่ของ มู่หรงชิงเสวี่ย ด้วยกระบี่ของเขา จากนั้น เสื้อคลุมสีขาวของเขาก็พริ้วไหวไปตามสายลม และ ชายคนนี้ ก็เหยียบกระบี่บินจนมาถึงที่ด้านนอกสระฝึกกระบี่ของ มู่หรงชิงเสวี่ย ในทันที
“คนที่เพิ่งผ่านไปนี้คือ…”
“นั่นจะต้องเป็น ผู้อาวุโสฉีหยาง ปรมาจารย์ของยอดเขาเทียนฉี!”
ทุกคนได้กลายเป็นตกใจ
จ้าวฉีหยาง ปรมาจารย์ของยอดเขาเทียนฉี เป็นที่รู้จักกันในนามของกระบี่อมตะของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ นี่ก็เพราะเขาเป็นผู้ฝึกฝนวิถีกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์
เขามีความประทับใจที่ดีต่อ ศิษย์พี่หญิงรองของ เย่เฉิน อยู่เสมอ ในตอนแรก เขาต้องการรับ มู่หรงชิงเสวี่ย เป็นศิษย์ของเขา แต่อย่างไรก็ตาม ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ มีเพียงยอดเขาหยกอมตะเท่านั้น ที่สามารถรับศิษย์สตรีได้ ดังนั้น เขาจึงได้พลาด มู่หรงชิงเสวี่ย ที่เป็นต้นอ่อนที่ดีไป
มิฉะนั้น ด้วยพรสวรรค์ของ มู่หรงชิงเสวี่ย และ การฝึกสอนของเขา มู่หรงชิงเสวี่ย จะสามารถกลายเป็น กระบี่อมตะ อันดับ 1 ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ได้ในอนาคตและอาจจะเหนือกว่าเขาด้วยซ้ำ
ดังนั้น จ้าวฉีหยาง จึงให้ความสนใจ มู่หรงชิงเสวี่ย เป็นอย่างมาก
ในตอนที่เขาเห็นสระฝึกกระบี่ของ มู่หรงชิงเสวี่ย ปล่อยลำแสงกระบี่ที่ทรงพลังออกมา
เขาก็รู้สึกตกใจมากจริง ๆ
ดังนั้นเขาจึงได้รีบมาที่ด้านนอกสระฝึกกระบี่ของ มู่หรงชิงเสวี่ย
ไม่เพียงแต่ จ้าวฉีหยาง เท่านั้น … แม้แต่ เหล่าผู้อาวุโสที่มีอำนาจหลายคน ก็ยังมาที่ด้านนอกสระฝึกกระบี่อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ มู่หรงชิงเสวี่ย กำลังฝึกฝนวิชากระบี่ของนาง จึงไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปรบกวนนาง
ในสระฝึกกระบี่
เย่เฉิน ได้ปลดปล่อยการเคลื่อนไหวที่ 12 ของเขา
การจุติของเทพอมตะ!
กระบี่เดียวสังหารเทพอมตะ!
ทันใดนั้น เต๋าที่ยิ่งใหญ่ ก็ดังกึกก้องไปทั่วสวรรค์และปฐพี และ แสงกระบี่ขนาดใหญ่ก็ตกลงมาจากบนท้องฟ้า
สวรรค์และปฐพีได้กลายเป็นโกลาหล เหล่าเทพได้คร่ำครวญ และ ภูติผีได้ร่ำไห้!
ราวกับว่ากระบี่เล่มนี้สามารถทำลายล้างเหล่าเทพอมตะบนท้องฟ้าได้ และ มันก็ค่อนข้างทรงพลังอย่างหาที่เปรียบมิได้
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวนี้ ร่างกายของ จ้าวฉีหยาง ก็เอนไปด้านข้างเล็กน้อย แม้แต่เขาก็ยังไม่สามารถปลดปล่อยเจตจำนงค์กระบี่ที่ทรงพลังเช่นนี้ออกมาได้
ดังนั้นเหล่าศิษย์ที่อยู่ข้างนอกต่างก็ตกตะลึง
แน่นอนว่า เย่เฉิน ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นด้านนอก ซึ่งเขากำลังจดจ่อกับการฝึกฝนกระบี่เต๋าของเขาเท่านั้น
โดยการเคลื่อนไหวของเขาได้ก้าวไปข้างหน้าและแสดงความลึกซึ้งออกมา
อย่างไรก็ตาม เย่เฉิน รู้ในใจว่า พลังของ ‘13 กระบี่สวรรค์และปฐพี’ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเท่านั้น
เพราะเขาได้เริ่มต้นใช้งานมันในช่วงที่เขามีฐานพลังในอาณาจักรสร้างแกนกลางเท่านั้น ดังนั้นพลังที่เขาแสดงออกมาจึงไม่ถือว่าทรงพลังมาก ถ้าเขาไปถึงอาณาจักรแห่งการตระหนักรู้ที่ว่างเปล่า หรือ สูงกว่านั้น หากเขาแสดงเทคนิค ‘13 กระบี่สวรรค์และปฐพี’ บางทีเขาอาจจะมีพลังที่สามารถสั่นคลอนสวรรค์อย่าง 1 กระบี่สังหารเทพ และ 1 กระบี่ทลายฟ้าดิน เป็นต้นไป!
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ ก็คือการเรียนรู้ กระบวนท่าทั้ง 13 ของ เทคนิค 13 กระบี่สวรรค์และปฐพี ส่วนเรื่องการเพิ่มพลังก็เอาไว้เป็นเรื่องของภายภาคหน้า!
หัวใจของ เย่เฉิน ได้จมลง เขาได้ตั้งสมาธิ และ จับกระบี่ด้วยมือทั้งสองข้าง และ ทันใดนั้น การเคลื่อนไหวที่ 13 ก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา
1 กระบี่นี้เพียงพอที่จะทลายฟ้าดิน!
บูม!
เสียงดังขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้น
ในสระฝึกกระบี่ แสงกระบี่ที่รุนแรงได้พุ่งออกมาในทันที และ ดูเหมือนว่ามันจะเต็มไปด้วยเต๋าที่ยิ่งใหญ่ตลอดจนพลังงานแห่งสวรรค์และปฐพี
โดย แสงกระบี่นี้ ได้พุ่งออกมาและโจมตีไปยังภูเขาเล็ก ๆ
สายตาของทุกคนได้จับจ้องมองไปที่ แสงกระบี่ ในขณะที่ แสงกระบี่พุ่งผ่านภูเขาเล็ก ๆ
และในช่วงเวลาต่อมา
แม้แต่ จ้าวฉีหยาง ผู้ฝึกฝนกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตะนิรันดร์ก็ไม่สามารนั่งนิ่งได้อีกต่อไป
เพราะภูเขาลูกเล็ก ๆ ลูกนั้น ได้ถูกกระบี่ผาครึ่งและตกลงมา
ผู้อาวุโสและเหล่าศิษย์ที่เหลือต่างตกตะลึงในทันที
“มู่หรง…ชิงเสวี่ย…นางมาถึงขั้นนี้แล้วงั้นเหรอ?”เหล่าผู้อาวุโส ได้มองดู ภูเขาลูกเล็ก ๆ ที่ถูกผ่าครึ่งและบ่นพึมพัม
“ในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปีต่อจากนี้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของเราจะผลิตกระบี่อมตะขึ้นมาอีกคนอย่างแน่นอน!”ผู้อาวุโสอีกคนได้กล่าวเสริม
จ้าวฉีหยาง ที่รู้สึกตกตะลึงเขาลืมไปแล้วว่าจะพูดอะไร
ขอบเขตความรู้ของเทคนิคกระบี่เล่มนั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่ในปัจจุบันเขาก็ไม่สามารถสัมผัสได้!