STY-ตอนที่ 14 ศิษย์พี่หญิงรอง-มู่หรงชิงเสวี่ย
“ศิษย์พี่หญิงรองจะออกมาจากการปิดด่านฝึกตนแล้วงั้นเหรอ!”เย่เฉิน รู้สึกตกใจ
ศิษย์พี่หญิงรองของ เย่เฉิน ชื่อ มู่หรงชิงเสวี่ย นางเป็นอัจฉริยะที่ทรงพลังในวิถีแห่งกระบี่ และ ความแข็งแกร่งของนาง ก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้ ว่ากันว่าความแข็งแกร่งของศิษย์พี่รองของเขาได้มาถึงอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณแล้ว
มีเพียงศิษย์พี่หญิงใหญ่ของ เย่เฉิน และ อัจฉริยะอีก 2-3 คน จากยอดเขาอื่น ๆ เท่านั้น ที่สามารถแข่งขันกับ ศิษย์พี่หญิงรองของเขา ในหมู่ศิษย์รุ่นเยาว์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์
อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะถูกจับคู่อย่างเท่าเทียมในแง่ของความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ในแง่ของความสำเร็จของกระบี่เต๋า คงไม่มีใครสามารถเทียบกับ มู่หรงชิงเสวี่ย ศิษย์พี่หญิงรองของ เย่เฉิน ได้
ซึ่ง เรื่องนี้ เย่เฉิน จำได้อย่างลึกซึ้ง
ศิษย์พี่หญิงรองของเขาเคยขี่กระบี่บินเป็นระยะทางกว่าล้านลี้
ในแม่น้ำสวรรค์ นางสามารถแยกแม่น้ำสวรรค์ได้ด้วยเพียงกระบี่เดียว สิ่งนี้ทำให้สวรรค์รู้สึกตกตะลึง!
อีกทั้งนางยังได้แสดงวิถึกระบี่เต๋าออกมาที่หน้าประตูสวรรค์ ซึ่งมันได้ดึงดูดความสนใจของทุกคน!
ในแง่ของความสำเร็จในวิถีกระบี่ ไม่มีใครในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์สามารถเทียบเคียงนางได้
เพียงแต่ บุคลิกของศิษย์พี่หญิงสองของเขาค่อนข้างเย็นชา ราวกับเทพธิดาเยือกแข็ง
หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน
เจตจำนงค์กระบี่ก็พุ่งออกมาจากยอดเขาหยกอมตะของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์
ทันใดนั้นสวรรค์และปฐพีก็สามารถสัมผัสได้ถึงปราณกระบี่ที่เฉียบคมอย่างหาที่เปรียบมิได้
เย่เฉิน เข้าใจในทันทีว่า ศิษย์พี่รองของเขากำลังจะออกมาจากการปิดด่านฝึกตนแล้ว
เหล่าผู้อาวุโสของยอดและยอดเขาอื่น ต่างก็มาถึง ยอดเขาหยกอมตะ เพื่อต้อนรับ มู่หรงชิงเสวี่ย จากการปิดด่านฝึกตน
ในปัจจุบัน สตรีในชุดยาวสีขาว ได้พุ่งออกมาจากยอดเขาหยกอมตะในทันที เจตจำนงค์กระบี่ที่ทรงพลังได้ตัดผ่านภูเขาและพุ่งทะลุสูงถึงก้อนเมฆ
จากนั้น ร่างของหญิงสาวที่เย็นชาก็ปรากฏตัวขึ้น โดยความงามบนใบหน้าของนางก็เหมือนกับเจตจำนงค์กระบี่ของนาง มันทั้งเย็นชาและน่าเกรงขาม จนทำให้ผู้คนรู้สึกกลัวเมื่อพบเห็น
มู่หรงชิงเสวี่ย ไม่ได้ตอบโต้ใคร และ ได้เดินทางไปหา เซียนหยกอมตะ โดยตรง
ในขณะนี้ เย่เฉิน และ ศิษย์พี่หญิงทั้ง 5 กำลังรอ มู่หรงชิงเสวี่ย ที่ พระราชวังหยกอมตะ
หลังจาก มู่หรงชิงเสวี่ย มาถึง นางก็โค้งคำนับ เซียนหยกอมตะ ในทันที “ท่านอาจารย์! ศิษย์เพิ่งจะออกมาจากการปิดด่านฝึกตน ดังนั้นจึงได้รีบเดินทางมาคาราวะท่าน!”
แม้ว่า มู่หรงชิงเสวี่ย จะมีบุคลิกที่เย็นชา แต่นางก็เคารพอาจารย์ของนางมาก
นอกจากนี้ นางยังแสดงออกถึงการปกป้องศิษย์น้องเล็กและศิษย์น้องหญิงของนางมาก
“ชิงเสวี่ย เจ้ามาถึงขั้นกลางของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณแล้วงั้นหรือ?”ในขณะนี้ เซียนหยกอมตะ มองไปที่ มู่หรงชิงเสวี่ย ด้วยความประหลาดใจ
มู่หรงชิงเสวี่ย อยู่ในช่วงต้นของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณก่อนที่จะเข้าสู่การปิดด่านฝึกตน แต่ตอนนี้ หลังจากนางออกมา ฐานการบ่มเพาะพลังของ มู่หรงชิงเสวี่ย ก็ได้มาถึงขั้นกลางของอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ โดยนางได้ใช้เวลาน้อยกว่า 1 เดือน ในการผ่านด่านพลังในครั้งนี้
มู่หรงชิงเสวี่ย ได้พยักหน้าทันที
“ชิงเสวี่ย ข้ามีเรื่องเซอร์ไพรส์จะบอกเจ้า!”ในขณะนี้ เซียนหยกอมตะ ก็มองไปที่ ศิษย์คนที่สองของนาง
“ศิษย์น้องเล็กของเจ้าได้ปลุกรากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา และ ตอนนี้เขาสามารถฝึกฝนได้แล้ว”เซียนหยกอมตะ ได้กล่าวพูดขึ้นในทันที
ทันทีที่นางกล่าวจบ ความประหลาดใจ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เย็นชาของ มู่หรงชิงเสวี่ย ซึ่งนางได้มองตรงไปที่ เย่เฉิน
เย่เฉิน ไม่ได้ปกปิดความแข็งแกร่งของเขาเลย ฐานการบ่มเพาะพลังในขั้นต้นของอาณาจักรสร้างแกนกลางได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของ มู่หรงชิงเสวี่ย
ในขณะนี้ แม้แต่ ศิษย์พี่รองที่มักจะเย็นชาอยู่ตลอดเวลาก็อดไม่ได้ที่จะเคลื่อนไหว
ก่อนที่นางจะเข้าสู่การปิดด่านฝึกตน ศิษย์น้องเล็กของนางยังไม่แม้แต่ที่จะฝึกฝนได้เลย
แต่หลังจากที่นางเข้าสู่การปิดด่านฝึกตนเป็นเวลา 1 เดือน ศิษย์น้องเล็กของนาง ก็มาถึงอาณาจักรสร้างแกนกลางแล้ว
เป็นไปได้หรือไม่ว่าภายในระยะเวลา 1 เดือนมานี้ ศิษย์น้องเล็กไม่เพียงแต่จะปลุกรากวิญญาณของเขาขึ้นมาได้ แต่เขายังไปถึงอาณาจักรสร้างแกนกลางได้อีกด้วย?
การเข้าสู่ขอบเขตอาณาจักรสร้างแกนกลางได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน พรสวรรค์บ่มเพาะพลังเช่นนี้ ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!
ในขณะนี้ เซียนหยกอมตะ ได้มองไปที่ ศิษย์คนที่สองของนางและกล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม “ชิงเสวี่ย นับจากนี้ไปให้เจ้าคอยสอนศิษย์น้องของเจ้าเกี่ยวกับวิถีแห่งกระบี่ ในโลกนี้ความแข็งแกร่งสำคัญที่สุดก็จริง แต่วิถีแห่งกระบี่ก็คือเต๋าที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยสั่งสอนให้ศิษย์น้องเล็กของเจ้าพัฒนาได้ดีมากยิ่งขึ้น!”
“เจ้าค่ะ ศิษย์จะพยายามสอนสั่งเขาให้ดีที่สุด!” แม้ว่า มู่หรงชิงเสวี่ย จะไม่ได้เป็นคนพูดมาก แต่นางก็รักษาคำพูดของนางเสมอ
และหลังจากที่นางสัญญาไป ก็ไม่มีอะไรที่นางทำไม่ได้
หลังจากพูดกันเล็กน้อย
มู่หรงชิงเสวี่ย ศิษย์พี่หญิงรอง ก็พา เย่เฉิน ไปที่ที่นางฝึกฝนกระบี่
ระหว่างทาง ใบหน้าของ มู่หรงชิงเสวี่ย ยังคงแสดงท่าทีเย็นชาออกมาตลอด
เย่เฉิน ไม่เคยเห็น ศิษย์พี่หญิงรองยิ้มเลย ตรงกันข้าม นางยังคงแสดงสีหน้าที่เย็นชาออกมาและคอยกีดกันผู้คนให้ถอยห่างออกไป
อย่างไรก็ตาม เย่เฉิน รู้ดีว่า ศิษย์พี่หญิงรองของเขา แม้จะมีใบหน้าที่เย็นชา แต่ก็เป็นคนที่อบอุ่น
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานที่ที่ มู่หรงชิงเสวี่ย ฝึกฝนวิถีกระบี่ของนาง
ในขณะนี้ เย่เฉิน ตระหนักได้ในทันทีว่า เจตจำนงค์กระบี่ของที่นี่ค่อนข้างหนาแน่น และ มันยังมีร่องรอยของปราณกระบี่ที่น่าตกใจอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
มองเห็นร่องรอยของปราณกระบี่เหล่านี้ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ
ก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้สังเกตุเห็นอะไรแปลก ๆ แบบนี้ นั่นก็เพราะเขาไม่สามารถฝึกฝนได้ แม้ว่าเขาจะไปเล่นที่บ้านของศิษย์พี่หญิงรอง เขาก็ไม่ค้นพบอะไร
แต่ตอนนี้ หลังจากฐานการบ่มเพาะพลังของเขาเพิ่มสูงขึ้น และ มาเหยียบที่นี่อีกครั้ง เขาก็พบว่า ร่องรอยของปราณกระบี่ที่ศิษย์พี่หญิงรองของเขาแกะสลักเอาไว้ที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยเจตจำนงค์กระบี่
ดังนั้น กลิ่นอายพลังเต๋าของที่นี่ย่อมไม่เลวร้ายอย่างแน่นอน!
เย่เฉิน ยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ในวันนี้ก็เพื่อที่เขาจะได้ลงชื่อเข้าใช้ที่นี่!
“เฉินน้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าวิถึกระบี่คืออะไร?”มู่หรงชิงเสวี่ย ได้กล่าวถาม
เย่เฉิน รู้สึกประหลาดใจ ที่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงของศิษย์พี่ของเขา
ศิษย์พี่หญิงรองเป็นคนที่ไม่พูดมาก ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้ตื่นจากความคิดของเขาและอ้าปากทันที
“วิถีแห่งกระบี่คืออะไร?”เย่เฉิน ได้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และ สายตาของเขาก็บังเอิญไปแตะหน้าอกของ ศิษย์พี่หญิงรองของเขา
เขาพบว่านางมีรูปร่างที่สง่างามและเต็มไปด้วยทรวดทรงที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าศิษย์พี่หญิงสามของเขา อย่างไรก็ตาม ด้วยต้นขาที่ทรงเสน่ห์ของศิษย์พี่หญิงรอง เกรงว่าคงจะไม่มีศิษย์พี่หญิงคนใดที่สามารถเทียบเคียงนางได้
“เฉินน้อย!” มู่หรงชิงเสวี่ย ได้เรียกเขาอีกครั้ง
เย่เฉิน ได้กลับมามีสติในทันที และ ใบหน้าของเขาก็แดงเล็กน้อย
ศิษย์พี่หญิงรองเพิ่งจะถามเขาว่า วิถีแห่งกระบี่คืออะไร?
ทำไม…เขาถึงไม่ได้ตอบมันออกไป
‘เย่เฉิน เจ้ามาที่นี่เพื่อเรียนรู้วิชากระบี่!’ เย่เฉินได้เตือนสติตัวเอง
“ข้าไม่รู้!”เย่เฉิน ได้ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา
มู่หรงชิงเสวี่ย ไม่ได้ผิดหวังแม้แต่น้อย นางมองไปที่ เย่เฉิน และ ตอบกลับ “วิถีกระบี่นี้ดูเรียบง่ายแต่ก็แฝงไปด้วยเต๋าที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจวิถีกระบี่ที่แท้จริง ทุกคนล้วนแล้วแต่มีวิถีกระบี่เป็นของตัวเอง ดังนั้น ข้าจึงไม่สามารถสอนวิถีกระบี่ให้กับเจ้าได้ ทำได้เพียงสอนวิชากระบี่ให้กับเจ้าได้เพียงเท่านั้น!”
เย่เฉิน ได้พยักหน้า
“เอาล่ะ เฉินน้อย มาเริ่มฝึกจากการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานที่สุดของการเป็นมือกระบี่ก่อน!”มู่หรงชิงเสวี่ย ได้มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวพูดขึ้น
“อืม” เย่เฉิน ได้พยักหน้า
“การเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานที่สุดของการใช้กระบี่มีด้วยกันทั้งหมด 13 รูปแบบ ฟัน,ฟาด,ยก,บล็อค,ตี,แทง,ชี้,หวด,กวน,กด,สับ,หั่น่ และ ตัด ในวันนี้ ข้าจะสอน การฟัน ที่เป็นพื้นฐานอันแรกก่อน!”มู่หรงชิงเสวี่ย ได้กล่าวออกมา
“ศิษย์พี่ ช่วยสอนวิชากระบี่ให้ข้าโดยตรงได้หรือไม่?”เย่เฉิน ได้มาถึงขอบเขตอาณาจักรสร้างแกนกลางแล้ว เขาเคยเห็นพวกเทคนิคการใช้ดาบบางอย่างในรายการทีวี ซึ่งมันคล้ายกับพื้นฐานทั้งหมดนี้
ยิ่งไปกว่านั้น เย่เฉิน ได้เริ่มฝึกฝนวิถีกระบี่ก่อนที่ศิษย์พี่หญิงรองของเขาจะออกมาจากการปิดด่านฝึกตนเสียอีก
“การเรียนรู้วิถีกระบี่ไม่สามารถกระทำโดยใช้ทางลัดได้ เจ้าจะต้องก้าวไปทีละก้าว เพราะถ้ารากฐานของเจ้าไม่แข็งแรง เจ้าจะสามารถก้าวไปข้างหน้าต่อได้อย่างไร? เอางี้ ถ้าสามารถชักกระบี่และผ่าหินก้อนใหญ่นี้ออกเป็นสองส่วนได้ ข้าจะสอนวิชากระบี่ให้กับเจ้า!”มู่หรงชิงเสวี่ย กล่าวขณะที่นางมองไปที่หินก้อนใหญ่ตรงหน้า เย่เฉิน ที่เต็มไปด้วยร่องรอยของกระบี่
เย่เฉิน ทำได้เพียงแค่ยอมแพ้
อย่างไรก็ตาม เขายังมีเหตุผลสำคัญที่มาที่นี่อยู่ ซึ่งก็คือการลงชื่อเข้าใช้ที่นี่
เย่เฉิน ได้สงบลมหายใจและใจจดใจจ่ออยู่กับจิตใจ เขาได้กล่าวพูดในใจอย่างเงียบ ๆ “ลงชื่อเข้าใช้!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นในใจของเขา
[ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ลงชื่อเข้าใช้สระฝึกกระบี่ คุณได้รับรางวัลเป็นเทคนิคกระบี่ระดับสวรรค์ขั้นสูง ‘13 กระบี่สวรรค์และปฐพี’!]