EP 9 (Stardew Valley)ศูนย์ชุมชนร้าง
Game Leveling Reality Invincible
EP 9 (Stardew Valley)ศูนย์ชุมชนร้าง
ผู้แปล วังวน
เมื่อพูดถึงซูเปอร์มาร์เก็ตของมอร์ริส มันก็เป็นสถานที่ที่แปลกมาอยู่เหมือนกัน มันหน้าแปลกที่ว่าทำไมต้องสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ขนาดนั้นที่มีพื้นที่ไม่กี่ร้อยตารางเมตรในเมืองเล็กๆ ที่มีคนเพียงไม่กี่โหล? อย่างไรก็ตามหนานเซียวก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ดี บ่อยครั้งที่มีคนเข้ามาซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต ก็จะมีมาเพียง 1-2 คนเท่านั้น ถ้ามีคนเข้าร้านเพียงเท่านี้แค่ค่าไฟอย่างเดียวยังไม่พอจ่ายเงินรายวันเลย
อย่างไรก็ตาม ทำไมมอร์ริสถึงไม่ได้ดูกังวลกับธุรกิจที่กำลังจะเจ๊งของเขาเลย ฉันเองไม่เคยเห็นความกังวลอยู่ในสายตาของเขาเลยด้วยซ้ำ กลับกันใบหน้าของเขาแดงก่ำและดูกระตือรือร้นมาก
หนานเซียวจึงคิดว่าจะลองไปช้อปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนั้นดูและในทันใดนั้นเขาถูกมอร์ริสหยุดทันทีที่เขาเข้าไปในประตู “ในที่สุด คุณเองก็มาจนได้ คุณมาที่นี้อย่างที่ผมบอกไว้เลย ผมบอกเลยว่าสินค้าในร้านแห่งนี้จะตอบสนองความต้องการของคุณได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน แต่ก่อนอื่นคุณช่วยผมหน่อยสิ” จากนั้นเขาก็หยิบแบบฟอร์มสมัครสมาชิกของซุปเปอร์มาร์เก็ตขึ้นมาอย่างกระตือรือร้นและพยายามคะยั่นคะยอให้เขาทำ
"ถ้าผมสมัครเป็นสมาชิกของที่นี้ผมเองจะได้สิทธิประโยชน์อะไรล่ะ"
"มันมีสิทธิประโยชน์มากมายเลยล่ะ!" มอร์ริสเองยืนยันด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า "ตราบเท่าที่คุณตกลงที่จะเป็นสมาชิกของซุปเปอร์มาร์เก็ตของเรา เราจะช่วยเหลือคุณทุกอย่างในเมืองเพลิแกน! อาทิเช่นการซ่อมรถลาก ซ่อมสะพาน ซ่อมป้ายรถเมล์ ฯลฯ และสำหรับคุณเองเราสามารถให้ทุนในการสร้างเรือนกระจกขึ้นใหม่ในฟาร์มของคุณ!”
“ทำไมมันถึงมากมายขนาดนั้นล่ะ” หนานเซียวจ้องที่มอร์ริสอย่างสงสัย
"แน่นอนว่ามันเป็นมิตรภาพระหว่างซูเปอร์มาร์เก็ตของผมกับชาวเมืองเพลิแกน!"
“คิดว่าผมเป็นเด็กสามขวบหรือยังไงถึงไม่เข้าใจเรื่องนี้?”
มอร์ริสยักไหล่: “จริงสิ ผมเองเซ็นสัญญากับนายกเทศมนตรีลูอิสว่าเขาจะขายศูนย์ชุมชนร้างในเมืองให้กับทางผม ผมเองจะพัฒนาที่แห่งนั้นให้เป็นอย่างดี เพื่อทำให้มันเป็นโกดังของบริษัทเรา .”
ศูนย์ชุมชนผีสิงร้างนั้น มอร์ริสต้องการทำอะไรกับมันกันแน่?
หลังจากอยู่ใน เมื่อเพลิแกนมาระยะหนึ่งแล้วหน่านเซียวเองก็ได้ยินเรื่องราวต่างๆมาบางแล้ว นั้นร่วมถึงสถานที่ผีเหี้ยนด้วย มีข่าวว่าบริเวณนั้นมีคนถูกผีหลอกอยู่เป็นประจำและจะกลายเป็นเรื่องที่คุยกันในบาร์เป็นประจำ ดูเหมือนครั้งล่าสุดจะเป็นเด็กที่ไปวิ่งเล่นบริเวณนั้นและก็ถูกผีหลอก!
มอร์ริสต้องการซื้อศูนย์ชุมชนผีสิง คงไม่ได้แค่เอาไปทำเป็นโกดังเก็บสินค้าอย่างแน่นอน
แค่ใช้หัวแม่โป้งคิดก็รู้แล้ว คุณเองก็รู้ดีว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ไม่ต้องการโกดังเลย
ธุรกิจมันแย่ขนาดและอีกทั้งของเดิมยังขายไม่ออกด้วยซ้ำ มันมีความจำเป็นะอะไรที่จะต้องสร้างโกดังให้ครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยตารางเมตรแน่นอนว่าต่อให้เป็นคนรวยมหาศาลก็ตามก็ไม่เอาเงินมาเผาเล่นเช่นนี้หรอก
เมื่อดูท่าทีของมอร์ริสแล้ว เขาน่าจะต้องการซื้อที่ดินตรงนั้นจริงๆ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเต็มใจที่จะมอบสิทธิประโยชนฺต่างๆหลายประการ: การสร้างสะพานและถนน และสร้างเรือนกระจกให้กับฉันด้วยเพื่อซื้อใจสินะ
เขาแกล้งโง่หรือเปล่าเนี่ย คนฉลาดที่ไหนจะทำธุรกิจเช่นนี้กัน?
ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือต้องมีบางอย่างที่เขาน่าจะต้องการจากที่ดินรกร้างตรงนั้นอย่างแน่นอน
แต่สิ่งนี้ดูเหมือนมันก็น่าจะเกี่ยวกับฉันด้วยเขาคงอาจจะพยายามหาผลประโยชน์จากฉันไม่มากก็น้อย และอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือโดยไม่รู้ตัว และนายกเทศมนตรีลูอิสเองก็โดนไปกับเขาสินะ? แต่เสียใจด้วยฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น
หลังจากที่หน่านเซียวได้ตัดสินใจว่าจะมุ่งมั่นในการพิชิตจุดสุดยอดของการตกปลาแล้วหน่านเซียวก็ปฏิเสธ: "ผมเองไม่สนใจบริการของคุณหรอก คุณไปหาคนอื่นเถอะเมืองนี้มีคนอีกตั้งมากมาย”
รอยยิ้มที่ดูมีลับลมคมไหนของมอร์ริสมันทำให้ดูสะดุดตาขึ้นมา “ทำไมคุณถึงปฏิเสธเราล่ะ” เขาได้แต่เพียงแต่ก้มหน้าลง “รู้หรือไม่ชาวเมืองที่นี้เขาเชื่อฟังนายกเทศมนตรีลูอิสมาก ถึงกับขนาดที่ลูอิสนั้นชี้ลาและเรียกมันว่ากระต่าย ชาวบ้านทุกคนก็จะเรียกลาตัวนั้นว่ากระต่าย และพร้อมเชื่อเช่นนั้น อีกทั้งการได้เป็นส่วนห้างแห่งนี้ก็เป็นถือว่าเป็นเกียรติยศอันสูงส่งและลูอิสเองก็เชื่อเช่นนั้น แต่ทำไมคุณถึงได้ยอมทิ้งเกียรติยศนี้ไปกันล่ะ?”
มันไม่มีความจำเป็นอะไนเลยด้วยซ้ำที่ฉันจะต้องสมัครเข้าไป? และก็ไม่ใช่ธุระของนายด้วยที่จะต้องรู้เหตุผล นี้เป็นเพียงการคิดในใจของเขาเท่านั้น
หน่านเสี่ยวเองเป็นคนมีการศึกษาสูงและรู้สึกว่าการพูดภาษาหยาบคายเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ จึงได้แต่กลอกตาไปมากและไม่ได้พูดอะไรออกมา
มอร์ริสเองก็ดูเหมือนว่ายังไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้: "คุณรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้คือการไม่ให้เกียรตินายกเทศมนตรีของเรา อยากให้คุณใจเย็นๆและพิจารณาสถานการณ์โดยรวม บอกความจริงว่าคุณมีปัญหาอะไรกับเมืองเพลิแกนแห่งนี้ และผมเองจะช่วยตอบประเด็นพวกนั้นให้กระจ่าง อย่าพยายามตั้งข้อสงสัยหรือสืบหาความจริงด้วยตนเองเลย ถึงแม้คุณจะเป็นคนแปลกหน้าที่พึงเข้ามาอยู่ใหม่ก็ตามและเราทั่งคู่ไม่ใช่ญาติกัน แต่เมืองนี้ก็ควรได้รับการปกป้องและดูแล คุณควรให้ความร่วมมือ นี่ก็เป็นเหมือนหน้าที่ของคุณด้วย คุณไม่รู้หรือว่ามาตุภูมิของเรากำลังเผชิญกับสงคราม ในฐานะพลเมือง มีสิ่งที่คุณต้องรู้ อีกทั้งสิ่งที่ผมทำไปนั้นมันเหมาะสมที่สุดแล้วผมบริจาคทั้งหมดก็เพื่อเมืองของเรา และเพื่อปกป้องเมืองของเราให้พ้นจากภัยอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา..."
เอาจริงๆนะหมอนี้คงจะต้องเคยขายประกันมาก่อนแน่ๆ อีกทั้งเป็นจำพวกขี้ตื้ออีกตั้งหาก
น่าปวดหัวจริงๆเลยต้องมาเจอคนแบบนี้
หน่านเซียวเองขี้เกียจโต้เถียงกับเขาแล้ว เขาจึงพยายามหาข้ออ้างที่จะปลีกตัวออกไป
เมื่อเขาหันหลังกลับก่อนจะออกไป ดวงตาของเขากวาดออกจากหางตาราวกับว่ามีใครบางคนกำลังแอบดูเขาอยู่
มันทำให้หัวใจของเขาล้นลงไปที่ตาตุ่มในทันที เขามองย้อนกลับไปอย่างสงบ และพบว่าเป็นหลานชายของมาร์นี่ เชน ชายหนุ่มที่เคยมาเมาและอาละวาดที่บาร์เมื่องวันนี้ เชนสวมเครื่องแบบพนักงานของซุปเปอร์มาร์เก็ต และยืนอยู่ข้างเขาเพื่อจัดวางสินค้า ทันใดนั้นเขาก็สบตากับหน่านเซียวแทบจะในทันที เขาเองดูตกใจและบังเอิญทำกระป๋องอาหารตพื้น
ทำไมเขาต้องแอบดูฉันด้วย เขาอาจเป็นสายลับของนายกเทศมนตรีในซูเปอร์มาร์เก็ตของมอร์ริสก็เป็นได้? หรือเป็นสุนัขรับใช้ของมอร์ริส?
ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไรก็ตามไม่น่าจะใช้เรื่องดีทั้งสอง
ไม่กี่วันต่อมา หน่านเซียวพบว่ามอร์ริสกำลังแอบสอดแนมเขาอยู่จริงๆ
น่ารังเกียจชะมัดยาด เขาแอบมาสอดแนมฉันตอนช่วงเย็นระหว่างฉันตกปลาเนี่ยนะ อีกทั้งยังเป็นการสอดแนมที่ห่วยที่สุดเท่าที่เห็นมาสอดแนมยังให้โดนจับได้ ลื่นลงมาจากขอบสระอย่างงั้นนะ หมอนั้นต้องการอะไรจากฉันกันแน้? เมื่อมองข้ามไปก็เห็นว่ามีกล้องติดอยู่ในพุ่มไม้ริมถนนและอยู่ใกล้ประตูฟาร์ม หมอนั้นพยายามจพะเก็บของฉันตลอดเวลา
มันน่าโมโหจริงๆฉันเองอยากจะตะโกนไล่หมดนั้นมาก แต่ก็พยายามกัดฟันเอาไว้ก่อน
ตอนนี้การตกปลาถึงระดับ 8 แล้วอีกเพียงสองระดับเท่านั้น ฉันก็จะกลายเป็นผู้เชียวชาญด้านการตกปลา และก็จะสามารถออกจากเกมสตาดิววอเล่ห์ได้ นั้นคือจุดมุ่งหมายสูงสุด หน่านเซียวถือคันเบ็ดอิริเดียมชั้นดีที่ซื้อมาจากร้านขายปลา หน่านเสี่ยวพยายามโน้มน้าวตัวเองอย่างเต็มที่: อดทนไว้อีกหน่อย ทุกอย่างก็สงบลงในทันที
ส่วนเรื่องกล้องเขาเองก็ต้องทำตัวไม่สนใจไป แสร้งทำเป็นว่าบริเวณนั้นไม่มีอะไรก็พอ และคิดว่ามันเป็นวัชพืชก็พอ
มันคงสมเหตุสมผลและสมเหตุสมผลสำหรับฉันที่จะกำจัดวัชพืชในฟาร์มของฉันเองใช่ไหม
ต่อมามอร์ริสไม่กล้าติดตั้งกล้อง แต่ส่งพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตตามเขาไปอย่างเงียบๆ อยู่มาวันหนึ่ง หน่านเสี่ยวก็โค่นต้นไม้จนถึงบ่ายสอง เขาเองก็รู้สึกเหนื่อยอยู่ไม่น้อย เขาเลยใช้เวลานั้นนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ ทันใดนั้น ลูกน้องที่มอร์ริสส่งมากก็กระโดดออกมาจากโพรงหญ้า!
เมื่อเขาเห็นว่าหนานเซียวไม่ได้หลับอยู่ ชายคนนั้นก็ดูตกใจอยู่ไม่น้อย ทั้งสองจ้องตากันเป็นเวลาสองนาที และลูกน้องมอรริสก็หันหลังและวิ่งหนีไป
หน่านเซียวเองก็รู้ดีว่าที่มีคนมาติดตามดูเขาเนี่ย เรื่องทั้งหมดน่าจะเป็นฝีมือมอร์ริสทั้งหมดแน่ๆ
นายกเทศมนตรีลูอิสมาที่ประตู: "หนานเซียวฉันอยากจะให้คุณไปกับฉันที่ศูนย์ชุมชน"
ลูอิสพูดต่อว่า "มันเป็นที่ที่มอร์ริสกำลังจะทำให้เป็นโกดังสินค้า" ในเวลานั้นดูเหมือนพวกเขาก็จะรู้ว่ามีคนแอบติดตามหนานเซียวอยู่เพราะเห็นว่าลูกน้องของมอร์ริสวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงไปก่อนหน้านี้ และนายกเทศมนตรีก็โผล่มา
มันดูเหมือนว่าทุกเรื่องถูกจัดเตรียมไว้แล้วเป็นฉากๆ ทันทีที่นายกเทศมนตรีมาชวนให้ไปร่วมงาน คนที่คาดว่าจะเป็นลูกน้องของมอร์ริสก็หนีไป มันจะดูบังเอิญเกินไปหรือเปล่า เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อนเขาคิดถึงหนุ่มขี้เมาวันก่อน หนานเซียวเองก็กลับมาคิดว่าหรือเขาอาจจะเป็นสายลับของนายกเทศมนตรี
ในตอนนี้หน่านเซียวต้องเผชิญหน้ากับรอยยิ้มที่ดูแปลกของนายกเทศมนตรี หนานเซียวเองก็รู้เลยว่าเขาเองไม่ควรปฏิเสธที่จะต้องไปกับเขา
เพราะเขาเองคิดเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงคำเชิญชวนนี้ไม่ได้จริงๆ และดูเหมือนว่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นมานี้คล้ายว่าเกมพยายามบังคับให้ฉันต้องเข้าไปผัวพันกับเรื่องพิลึกพิลั่นของเมืองนี้แน่นอน นั้นก็เป็นเหตุผลเพียงพอแล้ว สิ่งที่น่าแปลกคือนายกเทศตรมนตรีคนนี้ได้มีข้อตกลงอะไรบางอย่างกับมอร์ริสหรือเปล่า? อีกทั้งเขาอาจมีส่วนได้ส่วนเสียกับมอร์ริสโดยตรงก็อาจจะเป็นไปได้
ในเวลานี้หนานเซียวเองก็ทำได้แค่ต้องออกไปกับเขาเพื่อไปศูนย์ชุมชนร้างแห่งนั้นที่มอร์ริสต้องการจะเอาไปทำเป็นคลังสินค้า อย่างช่วยไม่ได้พร้อมนายกเทศมนตรีที่ดูมีพฤติกรรมแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก