EP 11 (Stardew Valley)
EP 11 (Stardew Valley)
ผู้แปล วังวน
ในช่วงเวลานั้น หน่านเซียวเองเขาโมโหจนแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมา และในตอนนี้สิ่งที่คิดอยู่ในหัวของหน่านเซียวคือการเอาคืน เขาเองจะทนกับพฤติกรรมเช่นนีเอีกต่อไปแล้ว! ไอ้แก่เอ๋ยฉันจะไม่ทนแกต่ออีกแล้ว ในตอนนั้นหน่านเซียวเดินทางเข้าไปยังหุบเขาที่มีบ่อน้ำ แน่นอนว่าตอนนี้เขามีเคียวแล้ว และเคียวนั้นสามารถใช้แทนขวานได้ นั้นก็หมายความว่าเขาจะสามารถใช้เคียวเพื่อผ่าฟืนได้ และถ้ามีฟืน ก็สามารถย่างปลาได้โดยผ่านการใช้ไฟ และคิดจะตั้งแคมป์อยู่บริเวณนั้น เขาคิดจะฝึกตกปลาจนเสร็จแล้วจะกลับโลก เท่านี้เรื่องทุกอย่างก็จะจบลงในทันทีจริงไหม?
อย่างไรก็ตาม หลังจากครุ่นคิดอย่างใจเย็น เขาก็สรุปได้ว่ามันก็เป็นเพียงความคิดเท่านั้น และเขาก็ต้องอดทนต่อไป
เหตุผลง่ายมาก เขาไม่ได้มีอำนาจมากมายขนาดนั้น
แม้ว่านายกเทศมนตรีอย่างลูอิสจะแก่มากแล้วก็ตามแต่ดูเหมือนว่าเขาพยายามซ่อนพลังและความแข็งแกร่งของเขาไว้ เพราะว่ามีครั้งหนึ่งมีคนวางกล่องไม้ไว้กลางถนนแล้วก็เป็นลูอิสนี้แหละที่ใช้เท้าเตะกล่องพวกนั้นจนกระจุย ซึ่งนั้นคือกล่องไม้ขนาดหนาสองนิ้วเลย! ซึ่งลูกเตะของเขานั้นไม่ต่างอะไรกับปืนกลหนักเลย
หน่านเซียวสัมผัสด้านหลังศีรษะของเขาและรู้สึกว่ามันคงไม่แข็งแรงเหมือนกล่องไม้อย่างแน่นอน
และดูเหมือนลูอิสเองน่าจะเป็นยอดฝีมือด้านการต่อสู้อีกด้วยนั้นไม่ร่วมถึงทักษะที่ดูเหมือนนินจาที่เขาแอบเขามาในบ้านของฉันได้
ก่อนเข้านอนหน่านเซียวเองมั่นใจว่าเขาล็อกประตูทุกบานแล้ว แต่เคียวนั้นมันมาวางอยู่พรมหน้าเตียงได้ยังไงกัน ซึ่งแน่นนอนว่ามันคงไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับเมืองนี้? เขาคงจะพยายามแสดงให้เห็นว่าเขานั้นแข็งแกร่งมากขนาดไหนและไม่ควรปฏิเสธสิ่งที่เขาเสนอ ? น่าจะหมายถึงเช่นนั้น”
ฉันเองต้องยอมรับว่าความสามารถในการทำเช่นนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของลูอิสนั้นมีมากขนาดไหน การที่คิดจะต่อต้านเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเอาหัวไปขึ้นเคียงจริงไหม?
สิ่งที่ลูอิสทำไม่ต่างอะไรจากพวกโจรและผิดกฎหมายไม่ใช่หรือยังไงกัน?
แต่เดี๋ยวก่อนนี้ไม่ใช่โลกหลักและมองดูแล้วฉันเองไม่สามารถแม้แต่จะชนะเขาด้วยวิธีเรียกใครให้มาช่วยจับกุมเขาได้เลยด้วยซ้ำ
เพราะที่ไม่มีแม้แต่สถานีตำรวจในเมือง เพลิแกนแห่งนี้กฎหมายนั้นไม่มีความหมาย ไม่สามารถแม้แต่จะโพสเรื่องที่เจอลงที่สังคมออนไลน์ได้ ไม่มีแม้แต่ศูนย์ร้องทุกข์ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือเลย และอย่าหวังจะคิดจะโทรแจ้งตำรวจ โทรศัพท์ทางไกลเครื่องเดียวในเมืองคือเครื่องของปิแอร์ คนขายของชำ อีกทั้งผู้ชายคนนั้นก็น่าจะเป็นลูกน้องของนายกเทศมนตรีที่สนิทสนมด้วย ดังนั้นการที่จะโทรแจ้งตำรวจนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้? ฉันเองกลัวว่าการทำเช่นนั้นจะไปกระตุกหนวดเสือของลูอิสเขาให้
ส่วนมอร์ริสหมอนั้นก็ดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไร เมื่อตอนที่เขาเข้าไปประชาสัมพันธ์ซุปเปอร์มาร์เก็ตของปิแอร์ เขาก็ถูกปิแอร์ไล่ตะเพิดเกือบจำทางกลับบ้านไม่ถูกด้วยซ้ำ มันเห็นได้ชัดว่าเขาก็กลัวปิแอร์อยู่ไม่น้อย
หลังจากคิดดูแล้ว ทางเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุดคือการทำงานให้ลูอิสด้วยภาวะจำยอม รอจนกว่าฉันเองจะพร้อมที่จะออกไปจากเกมบ้าๆนี้สักที...
ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม เขาเองจะไม่บอกเรื่องที่เขาพึงเจอกับใครเด็ดขาด และจะไม่มีการข่มขู่เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง!
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาหน่านเซียวไปที่เหมืองทุกวันเขาจะหยุดพักก็ต่อเมื่อเขาเหนื่อยมากๆเพียงเท่านั้น
ตอนนี้เขาจะต้องหยุดการฝึกษะการตกปลาเอาไว้ชั่วคราว เว้นแต่ช่วงเวลานั้นจะไม่ต้องมีอะไรมากวนใจเขา อีกทั้งดูเหมือนพวกสัตว์ประหลาดเองก็เริมจะออกอะลาวาดมากยิ่งขึ้น มีคนเห็นว่าพวกมันพังต้นไม้ก่อนจะโยนข้ามแม่น้ำมา
วิธีที่ดีที่สุดในการจะเอาชีวิตรอดจากที่ไปได้คือการจะต้องฝึกฝนทักษะการต่อสู้!
ดูเหมือนช่วงฤดูใบไม่ร่วงจะกลับมาอีกครั้ง และในพริบตามันก็ผ่านมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว หน่านเสี่ยวรู้สึกว่าตัวองนั้นแข็งแรงขึ้นมาก
อีกทั้งค่าทักษะของการต่อสู้ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างทวีคูณ ทั้งความแข็งแกร่ง ความคล่องตัว และค่าทักษะกายภาพเพิ่มขึ้นสองจุด มันขึ้นไปที่ระดับห้าแล้ว เขาเองเลือกย้ายอาชีพของเขาเป็นนักรบทำให้ค่าทักษะของเขาบวกเพิ่มเป็นพิเศษอีกสองจุด
ตอนนี้ค่าทักษะต่างของหนานเซียวในปัจจุบันคือความแข็งแกร่ง : 12 (คุณเป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ตอนนี้คุณสามารถอวดความแข็งแกร่งให้คนรอบข้างได้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรงของคุณได้ และทักษะของคนธรรมดาทั่วไปจะอ่อนแอกว่าคุณมาก)
ความว่องไว: 13 (คุณสามารถจับแมลงวันด้วยมือเปล่าได้ และโดยพื้นฐานแล้ว มือของคุณเร็วพอๆกับกระสุนปืนสั้น และอาจจะเก่งถึงใช้ตะเกียบคีบแมลงวันที่กำลังบินอยู่ได้ ถ้าเร่งความเร็วเต็มพิกัด)
กายภาพ : 13 (โดยพื้นฐานแล้วยารักษาโรคไม่จำเป็นสำหรับคุณเลย แต่ก็ควรจัดเตรียมไว้บ้างถ้าเกิดอาการป่วยจากการแพ้อาหารบางอย่าง แต่เพียงผ่านไปสองสามวันอาการของคุณก็จะดีขึ้น คุณจะค่อยๆ ชินกับความเจ็บปวดและไม่สนใจอาการบาดเจ็บเล็กน้อยไปเลย)
สติปัญญา: 15 (คุณเก่งที่สุดในพวกคนธรรมดาสามัญ คุณสามารถหาคำตอบในการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วทั้งที่คนส่วนใหญ่จะต้องคิดอย่างหนักเพื่อหาคำตอบพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย)
การรับรู้: 12 (คุณจะสามารถสัมผัสถึงสิ่งรอบตัวได้เร็วขึ้นและอาจเรียนรู้ทักษะต่างๆได้ดีขึ้น แต่ถึงอย่างงั้นมันจะทำให้คุณเหนื่อยถ้าเกิดรับรู้เรื่องต่างๆมากจนเกินจำเป็น)
ความสามารถพิเศษ : 9 (ถึงแม้ว่าทักษะนี้จะช่วยให้คุณรับรู้ถึงสิ่งที่พิเศษที่มีมากกว่าคนทั่วไปแต่ถึงอย่างงั้นคุณเองก็ยังไม่สามารถใช้ความสามารถเหล่านั้นออกมาได้อย่างเชียวชาญ)
ทักษะ: ความชำนาญอาวุธระยะประชิด (ระดับสีขาว LV50)
ฉายาในโลกของสตาร์ดิวส์วอเล่ห์: นักรบ (ระดับการต่อสู้ระดับ 5), ชาวประมง (การตกปลาระดับ 8), ชาวนา (ระดับการทำฟาร์ม 2), คนขุดแร่ (ระดับการขุด 4), คนสวน (การรวบรวมระดับ 1)
และดูเหมือนหน่านเซียวจะโชคดีไม่น้อยเขาได้รับหีบสมบัติขณะที่ไปลงดันเจี้ยนเพื่อฝึกฝนร่างกายมา
ข้างในหีบสมบัติเองเป็นดายาวสวย!
มันน่าจะถูกตีขึ้นมาด้วยความปราณีต ด้ามเป็นไม้มะเกลือเมื่อจับแล้วรู้สึกได้ถึงความเย็น มันถูกพันผ้าสีเงินสว่างเพื่อป้องกันการลื่นไถล ฝักมีผิวสีแทนหุ้มหนังหยาบ เหนียว และมีสีดำสนิทตลอด เมื่อเขาชักดาบออกมา เขาเห็นว่าดาบนั้นมีสีฟ้าเหมือนทะเล ใบดาเป็นหมอกน้ำแข็งสีขาวซีดจาง ๆ
เขาเองจะดึงดาบออกมาในยามจำเป็นเท่านั้นและจะไม่ใช้มันสุ่มสี่สุ่มห้า สาเหตุเพราะว่าเมื่อเขาชักใบดาบออกมาอากาศบริเวณรอบของจะเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกภายในทันที
มันถูกวางอย่างเงียบ ๆ ในกล่องเรียวยาวที่มีคำจารึกอยู่: สมบัติลึกลับแห่งท้องทะเลจากทะเลที่หายสาบสูญ
อย่างงั้นฉันจะเรียกดาบเล่มนี้ว่า "ดาบเทพเจ้าแห่งท้องทะเล"
การที่เขาได้อาวุธที่ดีนั้นทำให้ หน่านเสี่ยวได้ลงลึกเข้ามาในเหมืองหลายสิบชั้นภายในเวลาที่ไม่นาน เขาจัดการมอนเตอร์ที่อยู่ในเหมืองได้ทั้งหมด
ฉันหาเงินได้มากมายจากการขุดแร่ และเอาแร่พวกนั้นไปคราฟที่อุปกรณ์อื่นๆเพิ่มเติม
ขั้นแรกให้อัพเกรดกระเป๋าเป้ใบใหญ่ในร้านขายของชำ จำนวนกริดทั้งหมด 36 กริดสามารถบรรจุแร่ได้สามเท่า ทำให้การขุดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
กระเป๋าเป้ใบใหญ่ก็ดูดีขึ้นมากเช่นกัน และสามารถสะพายไหล่ข้างเดียวได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะห้อยไว้ที่หน้าอกหรือด้านหลัง หนังสีน้ำเงินควันบุหรี่มีทั้งความนุ่มและทนทาน และให้สัมผัสที่หนักแน่น
แร่ทองแดงจำนวนมหาศาลถูกละลายจากแท่งโลหะ และนำมันมาอัพเกรดเสียมเหล็กให้หนาขึ้นเสริมประสิทธิภาพด้วยทองแดง และการขุดก็ทำได้มากยิ่งขึ้น
แท่งทองแดงยังสามารถทำเบ็ดตกปลาให้มีคุณภาพดีขึ้น ทั้งที่ใช้เพียงไส้เดือนเป็นเหยื่อล่อเท่านั้น ปลาที่จับได้นั้นมีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มจากชั้นที่ 30 เหมืองเริ่มกลายเป็นเรื่องประหลาด ค้างคาวและหินวายร้ายที่มีดวงตาเป็นประกายปรากฏขึ้น สัตว์ประหลาดสองตัวนี้บินได้เร็วมาก ส่วนอีกตัวมันหนาและทนทาน และมันรับมือได้ไม่ง่าย อย่างไรก็ตาม ก็ยังดีที่หลังจากฆ่ามันได้แล้ว โดยเฉพาะหินมฤตยูที่จะให้แร่เหล็ออันทรงคุณค่าหลังจากขุดมันขึ้นมานานๆครั้งจะได้เจอ ซึ่งปัจจุบันมันค่อนข้างหายาก
หน่านเซียวเองร่วมแร่เหล็กมาได้สักพัก เขาต้องการนำมาหลอม
คริสซึ่งเป็นช่างตีเหล็กประจำเมืองเพลิแกน เขาดูค่อนข้างเป็นมิตร เขาสัญญาว่าถ้าหนานเซียวสามารถนำเหล็กมาได้ 5 แท่ง เขาจะช่วยเขาอัพเกรดเสียมเป็นเหล็กคุณภาพ
ในขณะที่ฝึกฝนอย่างหนัก หน่านเสี่ยวก็ไม่ลืมที่จะไปที่ศูนย์ชุมชนของหมู่บ้าน
และมักจะเจอลูอิสอยู่บ่อยครั้งเขาก็ยังยิ่มด้วยใบหน้าที่แสนจอมปลอมและถามถึงความเป็นอยู่ของเขา ใบหน้าที่เหมือนหน้ากากนั้นทำให้ทุกครั้งที่หน่านเซียวไปที่นั้นและเห็นหน้าเขาที่ไรก็เสียวสั้นหลังทุกที
“มันก็พอจะมีบางอย่างอยู่บ้าง” หน่านเซียวกล่าว “ผมพบม้วนหนังสือกระพริบในห้องใต้ดินที่ถูกทิ้งร้าง แต่ผมไม่สามารถอ่านสิ่งที่เขียนบนนั้นได้”
ลูอิสหยิบม้วนหนังสือขึ้นมาดูครู่หนึ่งแล้ววางไว้ในอ้อมแขนของเขา "ขอบคุณสำหรับคัมภีร์นะ ฉันจะหาวิธีตรวจสอบและดูว่ามันเขียนว่าอะไร ดี คุณเองก็ควรไปตรวจสอบที่ศูนย์ชุมชนร้างแห่งชั้น"
ฉันไม่ต้องการคำขอบคุณ ฉันแค่ต้องการไปจากที่นี้
คิดว่าที่ผ่านมาตลอดฉันจะยกโทษให้แก่อย่างงั้นหรอ แค่ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่เขียนไหนนั้นก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามฉันเองถ่ายคัมภีร์พวกนั้นไว้หมดแล้วถึงแม้มันจะไม่ใช่มือถือรุ่นใหม่มากนักแต่ก็สามารถเก็บรายละเอียดพกวนั้นไว้ได้หมด
ก่อนนี้ทักษะของฉันเพิ่มขึ้นมามากแล้ว และความแข็งแกร่งของฉันก็ดีขึ้นมาก แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าจะชนะไอ้แก่นี้ได้
หน่านเซียวทำได้เพียงอดทนและตรึงความหวังในการถอดรหัสม้วนคัมภีร์ลึกลับ เมื่อได้รับพลังของม้วนคัมภีร์ มันก็ไม่สายเกินไปที่จะจัดการกับลูอิสได้
การถอดรหัสเป็นเรื่องยาก ม้วนคัมภีร์เต็มไปด้วยตัวอักษรฉูดฉาด คลานไปมาเหมือนไส้เดือน
หน่านเสี่ยวพยายามสรุปความสัมพันธ์ระหว่างรูปร่างเหล่านั้น แต่ไม่พบเบาะแสเลย เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่านี่เป็นภาพที่เข้ารหัสไว้ย และไม่น่าจะใช้ภาษาทั่วไปในการถอดรหัสเหล่านี้ได้ หากไม่มีโค๊ดบุ๊คและไม่มีตัวอย่างใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง การถอดรหัสจึงเป็นไปไม่ได้
หลายเดือนผ่านไปและการวิจัยก็ไม่หายไปไหน
จนกระทั่งวันหนึ่งฝนตก เขาได้พบกับเด็กชายที่มีผมดำขำลึกลับในบาร์