ตอนที่แล้วEP 9  (Stardew Valley)ศูนย์ชุมชนร้าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 11 (Stardew Valley)

EP 10 (Stradew Valley)การคุกคามของนายกเทศมนตรี


Game Leveling Reality Invincible  

EP 10 (Stradew Valley)การคุกคามของนายกเทศมนตรี

ผู้แปล วังวน

ณ ศูนย์กลางชุมชนร้างห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่ง  เมื่อมองไปที่ศูนย์นั้นมันดูทรุดโทรมและเหลือเพียงซากปรักหักพัง มีเถาวัลย์พันล้อมรอบจนรกไปหมด และเถาวัลย์พวกนั้นมันเลื้อยจนเกือบปิดหน้าต่างจนหมด เมื่อมองดูแล้วมันไม่ต่างอะไรกับบ้านผีสิงเลย

  ก่อนเข้าประตู หน่านเซียวคิดว่าเขาจะต้องได้กลิ่นของเชื้อราและศพเน่าแล้ว แต่กลับกันเขาดันไม่ได้กลิ่นอะไรพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ

  และอากาศภายในนั้นกลับสดชื่นอย่างที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน ภายในมันเหมือนสวนหย่อมเล็กๆที่มีแสดงลอดผ่านเข้ามา แสงพวกนั้นน่าจะทะลุผ่านมาตามช่องของหน้าต่างที่แตกออกมา การระบายอากาศในศูนย์แห่งนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลย  เถาวัลย์คืบคลานเข้ามาภายในจากด้านนอกกำแพง แผ่ใบสีเขียวไปตามมุมต่างๆ เมื่อเผชิญกับแสงของพระอาทิตย์ ทำให้ดูเหมือนมันจะขยับได้เลย

  แน่นอนว่าที่ผุผังจนแทบจะไม่เหลือโครงสร้างของฝ้าผนังแล้ว ทุกอย่างหลุดหลอกออกมา วอลล์เปเปอร์ต่างๆแทบจะไม่เหลืออยู่แล้วอีกทั้งฝ่าเพดานเองก็แทบจะหลุดลงมาบนพื้นทั้งหมด

  ในเวลานั้นลูอิสนั้นเดินหน้าตรงโดยไม่ได้หันมามองหนานเซียวด้วยซ้ำ

  อีกทั้งหนานเซียวเองก็ไม่กล้าที่จะจ้องไปที่เขาตรงๆ ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นมองไปทางซ้ายและขวา ทันใดนั้น หางตาของเขาก็เห็นอะไรบางอย่าง! เขาหันศีรษะไปทางนั้นทันทีและเห็นลูกบอลสีเขียวขนาดเท่าแตงโม เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งมีชีวิตตัวนั้นมีดวงตากลมโต จ้องมาที่เขาและพยายามส่องแสงบางอย่างออกมา

  แน่นอนว่ามันไม่ได้ดูน่ารักเลย สิ่งนี้ดูเหมือนเปลวไฟสีเขียวแปลก ๆ เมื่อมันเห็นว่าหน่านเซียวพยายามจ้องมองไปที่มัน ทันใดนั้นมันก็กลิ้งไปบนพื้นและหายไปในที่สุด

  “คุณเห็นอะไร” ลูอิสถาม

  “เอ่อ... ตรงนั้น” หน่านเสี่ยวชี้ไปที่มุมของกำแพงซึ่งตอนนี้ลูกบอลสีเขียวปรากฏขึ้น “ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างอยู่ที่นั่น”

  ที่ที่เขากำลังชี้ไปในตอนนี้เป็นเพียงมุมที่ว่างเปล่า

  “บางที อาจมีบางอย่างที่นี่จริงๆ” ลูอิสกล่าว

  “อืม คงเป็นอย่างงั้น?”

  “มอร์ริสนะ ผู้จัดการซูเปอร์มาร์เก็ต  ต้องการซื้อที่แห่งนี่มาโดยตลอด” ลูอิสกล่าวต่อว่า “เพื่อใช้มันเป็นโกดังหรือ ฉันไม่เชื่อหรอก ซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นจะเก็บสินค้าไม่เพียงพออีกทั้งไม่เห็นมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างโกดังขนาดหลายร้อยตารางเมตร”

  หน่านเสี่ยวตระหนักว่าลูอิสต้องการจะพูดอะไร

  ลูอิสถามทันที “เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาเองคุยกับคุณเรื่องศูนย์ชุมชนใช่ไหม”

  แน่นอนว่าคำถามนี่หนานเซียวไม่สามารถปฏิเสธที่จะตอบได้ เนื่องจากลูอิสกล้าถามเช่นนี้ แสดงว่าเขารู้อะไรบางอย่าง

  “อืม” หน่านเซียวพยักหน้าและยอมรับ “เขาต้องการให้ฉันเป็นสมาชิกกลุ่มของเขา เขาบอกว่ามีข้อตกลงกับคุณว่าตราบใดที่ชาวเมืองเต็มใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มของเขา คุณจะยอมขายศูนย์รวมชุมชนให้กับเขา”

  “อันที่จริง ไม่มีใครเข้าร่วมสมาชิกกับกลุ่มของมอร์ริส ได้เมืองเพลิแกนนะถูกสร้างขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว และเราทุกคนต่างก็คุ้นเคยกับชีวิตที่เงียบสงบและกลมกลืนกันที่นี่ อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์มาร์เก็ตของมอร์ริส ต้องการเปลี่ยนเราและเปลี่ยนวิถีชีวิตของเรา และมันจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เราทุกคนต้องการให้ซูเปอร์มาร์เก็ตของมอร์ริสย้ายออกไปจากที่นี้ และให้มันอยู่ห่างจากสตาร์ดิวส์วอเล่ห์ให้มากที่สุด”

  “แล้วทำไมไม่ไล่เขาออกไปเลยล่ะ”

  “มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก มอร์ริสซื้อที่ดินของซุปเปอร์มาร์เก็ต และเขาเองเป็นคนที่ระวังตัวตลอดเวลา เมื่อสองสามปีก่อน เมืองเพลิแกนอยู่ในภาวะวิกฤตทางการเงินและต้องการเงินอย่างมาก มอร์ริสเห็นโอกาสและคว้ามันมา ซื้อที่ดินแล้วยังอยากได้ศูนย์รวมชุมชนแต่ผมไม่เห็นด้วยเขาบังคับให้ผมเซ็นสัญญาว่าตราบใดที่มีชาวเมืองที่เต็มใจจะเข้ามาเป็นสมาชิกของซุปเปอร์มาร์เก็ตผมต้องขาย ศูนย์กลางชุมชนให้กับเขา”

  ลูอิสจ้องไปที่หนานเซียว: “คุณเองเป็นคนที่อยู่ที่เมืองแห่งนี้ได้ไม่นาน เขาอาจคิดว่าเขาน่าจะสามารถโน้มนาวใจคุณได้ง่าย”

  หน่านเซียวยืนยันอย่างรวดเร็ว: "ผมเองก็ไม่ได้เห็นด้วยกับเขา เพราะคิดว่าเขาคงมีเจตนาที่ไม่ดี"

  ลูอิสพยักหน้า: “สิ่งที่คุณทำนั้นถูกต้องแล้ว คุณเป็นหลานชายของหนานกงหมิงจากเมืองเพลิแกน และฉันเชื่อในตัวคุณ”

  รอยยิ้มของลูอิสนั้นดูใจดีเหมือนวันแรกที่เขาพบกัน แต่หน่านเสี่ยวก็ยังรู้สึกถึงได้ถึงความเย็นชาเท่านั้น “ผมอยากจะกลับแล้ว” หน่านเซียวพยายามหาข้ออ้างเพื่อหนีไปจากตรงนี้ “ช่วงนี้มีงานเยอะเกินมากในฟาร์ม และวันนี้ผมก็เหนื่อยมากแล้วด้วย”

  อย่างไรก็ตาม ลูอิสปฏิเสธที่จะปล่อยเขากลับไปง่ายๆ “ฉันมีคำถามอีกข้อ?” เขาจ้องไปที่หนานเซียว “คุณเห็นอะไรในตอนนั้น คุณช่วยอธิบายได้ไหม”

  หน่านเซียวอยากจะบอกเรื่องสิ่งมีชิวิตลักษณะคล้ายลูกแตงโม แต่สัญชาตญาณของเขาเตือนตัวเองว่า นี่น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ควรพูดและเขาก็คิดว่าเขาจะไม่พูดมันออกไป

“น่าจะเป็นหนู” เขาพูดพร้อมกับพยายามหลบสายตา “มันน่าจะโผล่หน้าออกมาและตกใจที่เห็นเรามันเลยหนีไป”

  ลูอิสไม่ได้พูดอะไรต่อ และบรรยากาศบริเวณรอบข้างก็ดูเหมือนจะปลอดโปร่งขึ้น

  ผ่านไปไม่กี่นาที นายกเทศมนตรีเมืองอย่างลูอิสก็ยิ้มแล้วพูดว่า "หนู... มีหนูเยอะมากจริงๆ นะ ถ้าว่างก็แวะมาจับหนูได้นะ ถ้าได้เจอมันอีก ฉันหวังว่าจะจับมันได้นะถ้ายังไงเจออะไรที่รู้สึกไม่สบายใจก็แจ้งฉันได้นะ ในฐานะสมาชิกของเมืองเพลิแกนคนหนึ่ง ฉันหวังว่าคุณจะเรียกที่นี่ว่าบ้านของคุณได้และเราเป็นครอบครัวของคุณได้อย่างแท้จริง”

  “โอเค มันจะเป็นอย่างงั้นแน่นอน”

  หน่านเสี่ยวจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาออกจากศูนย์ชุมชนร้างนี้มาได้อย่างไรตอนนี้หัวใจของเขาเต็นแรงอย่างบอกไม่ถูก

  ลูอิสเองเขาพยายามปิดบังอะไรอยู่กันแน่ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนายกเทศมนตรีคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เพราะเขาสามารถสร้างแรงกดดันให้ฉันได้ ดวงตาของเขา... มันดูว่างเปล่าและเมื่อมองเข้าไปเหมือนจะทำให้จมอยู่ห่วงลึกผ่านในรูม่านตาของเขา และทำให้ผู้คนเกิดอาการวียนหัวหลังจากมองเป็นเวลานาน

  หน่านเซียวเริ่มทำงานอย่างหนักทันทีที่เขากลับมาที่ฟาร์ม เขาพยายามขว้างก้อนหิน ขุดดินและรดน้ำ และสุดท้ายก็กำจัดวัชพืช

  เมื่อตอนที่เขากำลังจะตัดหญ้า เขาก็พบว่าเคียวของเขานั้นหายไป

  เฮ้ เคียวของฉันอยู่ที่ไหน มันน่าจะอยู่ในกระเป๋าไม่ใช่หรือยังไงกัน...

เมื่อมองไปรอบ ๆ บ้านและเขาก็ยังไม่พบมัน หรือมันอาจจะตกอยู่แถวทุ่งหญ้าหน้าบ้าน แต่ก็ยังไม่พบ อีกทั้งไม่มีอะไรอยู่ในกระเป๋าเป้ ทุกตารางได้รับการตรวจสอบพบว่าไม่มี

  มันหายไป? ดูเหมือนพรุ่งนี้ฉันจะต้องไปที่ร้านของปิแอร์เพื่อซื้ออุปกรณ์ใหม่

  หน่านเสี่ยวล็อคประตูและหน้าต่าง นอนอยู่บนเตียงสักพักใหญ่ และผล็อยหลับไปในที่สุด

  เมื่อเขาตื่นขึ้นเขาก็ได้แต่บิดขี้เกียจอยู่บนเตียง และด้วยความที่เตียงนั้นอุ่นจนทำให้เขาไม่อยากจะลุกจากเตียงเลย หลังจากนอนอยู่สักพัก เขาก็ค่อย ๆ ประคองร่างกายส่วนบนของเขาขึ้น จู่ๆก็มีแสงสว่างส่องมาตรงหน้าของเขา! หนานเซียวตะโกนความความตกใจจนอดที่ถึงกับตัวสั่น

  เคียวตัดหญ้าปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา! มันอยู่ที่พรมหน้าเตียง!

  เขาหยิบเคียวขึ้นมาและพบว่ามันเป็นเคียวที่เขากำลังตาหาอยู่ วัสดุเป็นเหล็กหนาและมีความคมมาก

  ใครเอาเคียวมาวางไว้พรมหน้าเตียงได้ยังไงกัน? มันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง? หรือมีใครประสงค์ร้ายกับฉันหรือเปล่า

  หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่สักพัก เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที และชั่วขณะหนึ่ง เสื้อของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อที่เย็นยะเยือก

  ทันใดนั้น หน่านเสี่ยวก็พบข้อความบนเคียว:

  ---------------------

  ถึง หนานเซียว

  เมื่อวานขณะที่คุณเดินอยู่คุณทำเคียวของคุณตกไว้ที่ศูนย์ชุมชน ฉันเลยนำมันกลับไปให้คุณ ตอนนั้นเห็นว่าคุณกำลังหลับสนิทจึงวางมันไว้ที่บนพรมหน้าเตียง หวังว่ามันจะไม่ทำให้คุณตื่น

  นายกเทศมนตรีเมืองเพลิแกน,ลูอิส

  ---------------------

  บูม!

  หนานเซียวเองแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาทันที

  ลูกอิส! กล้าดียังไงมาขู่ฉันด้วยวิธีนี้!

  ตอนนี้ดูเหมือนหนานเซียวจะเข้าใจสิ่งที่ลูกอิสพยายามจะสื่อ และดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโมโห

  มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่ลูอิสพยายามจะสื่อในตอนนี้ มีความลับอยู่ในศูนย์ชุมชน ลูอิสคงคิดว่าหนานเซียวรู้เรื่องนี้ และพยายามจะปิดเรื่องนี้ไว อีกทั้งยิ่งสงสัยว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกับมอร์ริสหรือไม่ จึงพยายามจะมาข่มขู่เขาเช่นนี้

  เชี่ยเอ้ย! ไอ้เวนนั้น!

  ทำไมฉันต้องมาพัวพันกับความลับของศูนย์ชุมชนด้วย? ชีวิตนี้เป็นของฉันเองฉันเลือกเ และฉันก็ไม่ใช่คนของเมืองเพลิแกนแต่เดิมอยู่แล้ว!

 

0 0 โหวต
Article Rating
4 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด