EP 10 (Stradew Valley)การคุกคามของนายกเทศมนตรี
Game Leveling Reality Invincible
EP 10 (Stradew Valley)การคุกคามของนายกเทศมนตรี
ผู้แปล วังวน
ณ ศูนย์กลางชุมชนร้างห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่ง เมื่อมองไปที่ศูนย์นั้นมันดูทรุดโทรมและเหลือเพียงซากปรักหักพัง มีเถาวัลย์พันล้อมรอบจนรกไปหมด และเถาวัลย์พวกนั้นมันเลื้อยจนเกือบปิดหน้าต่างจนหมด เมื่อมองดูแล้วมันไม่ต่างอะไรกับบ้านผีสิงเลย
ก่อนเข้าประตู หน่านเซียวคิดว่าเขาจะต้องได้กลิ่นของเชื้อราและศพเน่าแล้ว แต่กลับกันเขาดันไม่ได้กลิ่นอะไรพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ
และอากาศภายในนั้นกลับสดชื่นอย่างที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน ภายในมันเหมือนสวนหย่อมเล็กๆที่มีแสดงลอดผ่านเข้ามา แสงพวกนั้นน่าจะทะลุผ่านมาตามช่องของหน้าต่างที่แตกออกมา การระบายอากาศในศูนย์แห่งนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลย เถาวัลย์คืบคลานเข้ามาภายในจากด้านนอกกำแพง แผ่ใบสีเขียวไปตามมุมต่างๆ เมื่อเผชิญกับแสงของพระอาทิตย์ ทำให้ดูเหมือนมันจะขยับได้เลย
แน่นอนว่าที่ผุผังจนแทบจะไม่เหลือโครงสร้างของฝ้าผนังแล้ว ทุกอย่างหลุดหลอกออกมา วอลล์เปเปอร์ต่างๆแทบจะไม่เหลืออยู่แล้วอีกทั้งฝ่าเพดานเองก็แทบจะหลุดลงมาบนพื้นทั้งหมด
ในเวลานั้นลูอิสนั้นเดินหน้าตรงโดยไม่ได้หันมามองหนานเซียวด้วยซ้ำ
อีกทั้งหนานเซียวเองก็ไม่กล้าที่จะจ้องไปที่เขาตรงๆ ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นมองไปทางซ้ายและขวา ทันใดนั้น หางตาของเขาก็เห็นอะไรบางอย่าง! เขาหันศีรษะไปทางนั้นทันทีและเห็นลูกบอลสีเขียวขนาดเท่าแตงโม เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งมีชีวิตตัวนั้นมีดวงตากลมโต จ้องมาที่เขาและพยายามส่องแสงบางอย่างออกมา
แน่นอนว่ามันไม่ได้ดูน่ารักเลย สิ่งนี้ดูเหมือนเปลวไฟสีเขียวแปลก ๆ เมื่อมันเห็นว่าหน่านเซียวพยายามจ้องมองไปที่มัน ทันใดนั้นมันก็กลิ้งไปบนพื้นและหายไปในที่สุด
“คุณเห็นอะไร” ลูอิสถาม
“เอ่อ... ตรงนั้น” หน่านเสี่ยวชี้ไปที่มุมของกำแพงซึ่งตอนนี้ลูกบอลสีเขียวปรากฏขึ้น “ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างอยู่ที่นั่น”
ที่ที่เขากำลังชี้ไปในตอนนี้เป็นเพียงมุมที่ว่างเปล่า
“บางที อาจมีบางอย่างที่นี่จริงๆ” ลูอิสกล่าว
“อืม คงเป็นอย่างงั้น?”
“มอร์ริสนะ ผู้จัดการซูเปอร์มาร์เก็ต ต้องการซื้อที่แห่งนี่มาโดยตลอด” ลูอิสกล่าวต่อว่า “เพื่อใช้มันเป็นโกดังหรือ ฉันไม่เชื่อหรอก ซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นจะเก็บสินค้าไม่เพียงพออีกทั้งไม่เห็นมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างโกดังขนาดหลายร้อยตารางเมตร”
หน่านเสี่ยวตระหนักว่าลูอิสต้องการจะพูดอะไร
ลูอิสถามทันที “เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาเองคุยกับคุณเรื่องศูนย์ชุมชนใช่ไหม”
แน่นอนว่าคำถามนี่หนานเซียวไม่สามารถปฏิเสธที่จะตอบได้ เนื่องจากลูอิสกล้าถามเช่นนี้ แสดงว่าเขารู้อะไรบางอย่าง
“อืม” หน่านเซียวพยักหน้าและยอมรับ “เขาต้องการให้ฉันเป็นสมาชิกกลุ่มของเขา เขาบอกว่ามีข้อตกลงกับคุณว่าตราบใดที่ชาวเมืองเต็มใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มของเขา คุณจะยอมขายศูนย์รวมชุมชนให้กับเขา”
“อันที่จริง ไม่มีใครเข้าร่วมสมาชิกกับกลุ่มของมอร์ริส ได้เมืองเพลิแกนนะถูกสร้างขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว และเราทุกคนต่างก็คุ้นเคยกับชีวิตที่เงียบสงบและกลมกลืนกันที่นี่ อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์มาร์เก็ตของมอร์ริส ต้องการเปลี่ยนเราและเปลี่ยนวิถีชีวิตของเรา และมันจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เราทุกคนต้องการให้ซูเปอร์มาร์เก็ตของมอร์ริสย้ายออกไปจากที่นี้ และให้มันอยู่ห่างจากสตาร์ดิวส์วอเล่ห์ให้มากที่สุด”
“แล้วทำไมไม่ไล่เขาออกไปเลยล่ะ”
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก มอร์ริสซื้อที่ดินของซุปเปอร์มาร์เก็ต และเขาเองเป็นคนที่ระวังตัวตลอดเวลา เมื่อสองสามปีก่อน เมืองเพลิแกนอยู่ในภาวะวิกฤตทางการเงินและต้องการเงินอย่างมาก มอร์ริสเห็นโอกาสและคว้ามันมา ซื้อที่ดินแล้วยังอยากได้ศูนย์รวมชุมชนแต่ผมไม่เห็นด้วยเขาบังคับให้ผมเซ็นสัญญาว่าตราบใดที่มีชาวเมืองที่เต็มใจจะเข้ามาเป็นสมาชิกของซุปเปอร์มาร์เก็ตผมต้องขาย ศูนย์กลางชุมชนให้กับเขา”
ลูอิสจ้องไปที่หนานเซียว: “คุณเองเป็นคนที่อยู่ที่เมืองแห่งนี้ได้ไม่นาน เขาอาจคิดว่าเขาน่าจะสามารถโน้มนาวใจคุณได้ง่าย”
หน่านเซียวยืนยันอย่างรวดเร็ว: "ผมเองก็ไม่ได้เห็นด้วยกับเขา เพราะคิดว่าเขาคงมีเจตนาที่ไม่ดี"
ลูอิสพยักหน้า: “สิ่งที่คุณทำนั้นถูกต้องแล้ว คุณเป็นหลานชายของหนานกงหมิงจากเมืองเพลิแกน และฉันเชื่อในตัวคุณ”
รอยยิ้มของลูอิสนั้นดูใจดีเหมือนวันแรกที่เขาพบกัน แต่หน่านเสี่ยวก็ยังรู้สึกถึงได้ถึงความเย็นชาเท่านั้น “ผมอยากจะกลับแล้ว” หน่านเซียวพยายามหาข้ออ้างเพื่อหนีไปจากตรงนี้ “ช่วงนี้มีงานเยอะเกินมากในฟาร์ม และวันนี้ผมก็เหนื่อยมากแล้วด้วย”
อย่างไรก็ตาม ลูอิสปฏิเสธที่จะปล่อยเขากลับไปง่ายๆ “ฉันมีคำถามอีกข้อ?” เขาจ้องไปที่หนานเซียว “คุณเห็นอะไรในตอนนั้น คุณช่วยอธิบายได้ไหม”
หน่านเซียวอยากจะบอกเรื่องสิ่งมีชิวิตลักษณะคล้ายลูกแตงโม แต่สัญชาตญาณของเขาเตือนตัวเองว่า นี่น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ควรพูดและเขาก็คิดว่าเขาจะไม่พูดมันออกไป
“น่าจะเป็นหนู” เขาพูดพร้อมกับพยายามหลบสายตา “มันน่าจะโผล่หน้าออกมาและตกใจที่เห็นเรามันเลยหนีไป”
ลูอิสไม่ได้พูดอะไรต่อ และบรรยากาศบริเวณรอบข้างก็ดูเหมือนจะปลอดโปร่งขึ้น
ผ่านไปไม่กี่นาที นายกเทศมนตรีเมืองอย่างลูอิสก็ยิ้มแล้วพูดว่า "หนู... มีหนูเยอะมากจริงๆ นะ ถ้าว่างก็แวะมาจับหนูได้นะ ถ้าได้เจอมันอีก ฉันหวังว่าจะจับมันได้นะถ้ายังไงเจออะไรที่รู้สึกไม่สบายใจก็แจ้งฉันได้นะ ในฐานะสมาชิกของเมืองเพลิแกนคนหนึ่ง ฉันหวังว่าคุณจะเรียกที่นี่ว่าบ้านของคุณได้และเราเป็นครอบครัวของคุณได้อย่างแท้จริง”
“โอเค มันจะเป็นอย่างงั้นแน่นอน”
หน่านเสี่ยวจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาออกจากศูนย์ชุมชนร้างนี้มาได้อย่างไรตอนนี้หัวใจของเขาเต็นแรงอย่างบอกไม่ถูก
ลูอิสเองเขาพยายามปิดบังอะไรอยู่กันแน่ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนายกเทศมนตรีคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เพราะเขาสามารถสร้างแรงกดดันให้ฉันได้ ดวงตาของเขา... มันดูว่างเปล่าและเมื่อมองเข้าไปเหมือนจะทำให้จมอยู่ห่วงลึกผ่านในรูม่านตาของเขา และทำให้ผู้คนเกิดอาการวียนหัวหลังจากมองเป็นเวลานาน
หน่านเซียวเริ่มทำงานอย่างหนักทันทีที่เขากลับมาที่ฟาร์ม เขาพยายามขว้างก้อนหิน ขุดดินและรดน้ำ และสุดท้ายก็กำจัดวัชพืช
เมื่อตอนที่เขากำลังจะตัดหญ้า เขาก็พบว่าเคียวของเขานั้นหายไป
เฮ้ เคียวของฉันอยู่ที่ไหน มันน่าจะอยู่ในกระเป๋าไม่ใช่หรือยังไงกัน...
เมื่อมองไปรอบ ๆ บ้านและเขาก็ยังไม่พบมัน หรือมันอาจจะตกอยู่แถวทุ่งหญ้าหน้าบ้าน แต่ก็ยังไม่พบ อีกทั้งไม่มีอะไรอยู่ในกระเป๋าเป้ ทุกตารางได้รับการตรวจสอบพบว่าไม่มี
มันหายไป? ดูเหมือนพรุ่งนี้ฉันจะต้องไปที่ร้านของปิแอร์เพื่อซื้ออุปกรณ์ใหม่
หน่านเสี่ยวล็อคประตูและหน้าต่าง นอนอยู่บนเตียงสักพักใหญ่ และผล็อยหลับไปในที่สุด
เมื่อเขาตื่นขึ้นเขาก็ได้แต่บิดขี้เกียจอยู่บนเตียง และด้วยความที่เตียงนั้นอุ่นจนทำให้เขาไม่อยากจะลุกจากเตียงเลย หลังจากนอนอยู่สักพัก เขาก็ค่อย ๆ ประคองร่างกายส่วนบนของเขาขึ้น จู่ๆก็มีแสงสว่างส่องมาตรงหน้าของเขา! หนานเซียวตะโกนความความตกใจจนอดที่ถึงกับตัวสั่น
เคียวตัดหญ้าปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา! มันอยู่ที่พรมหน้าเตียง!
เขาหยิบเคียวขึ้นมาและพบว่ามันเป็นเคียวที่เขากำลังตาหาอยู่ วัสดุเป็นเหล็กหนาและมีความคมมาก
ใครเอาเคียวมาวางไว้พรมหน้าเตียงได้ยังไงกัน? มันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง? หรือมีใครประสงค์ร้ายกับฉันหรือเปล่า
หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่สักพัก เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที และชั่วขณะหนึ่ง เสื้อของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อที่เย็นยะเยือก
ทันใดนั้น หน่านเสี่ยวก็พบข้อความบนเคียว:
---------------------
ถึง หนานเซียว
เมื่อวานขณะที่คุณเดินอยู่คุณทำเคียวของคุณตกไว้ที่ศูนย์ชุมชน ฉันเลยนำมันกลับไปให้คุณ ตอนนั้นเห็นว่าคุณกำลังหลับสนิทจึงวางมันไว้ที่บนพรมหน้าเตียง หวังว่ามันจะไม่ทำให้คุณตื่น
นายกเทศมนตรีเมืองเพลิแกน,ลูอิส
---------------------
บูม!
หนานเซียวเองแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาทันที
ลูกอิส! กล้าดียังไงมาขู่ฉันด้วยวิธีนี้!
ตอนนี้ดูเหมือนหนานเซียวจะเข้าใจสิ่งที่ลูกอิสพยายามจะสื่อ และดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโมโห
มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่ลูอิสพยายามจะสื่อในตอนนี้ มีความลับอยู่ในศูนย์ชุมชน ลูอิสคงคิดว่าหนานเซียวรู้เรื่องนี้ และพยายามจะปิดเรื่องนี้ไว อีกทั้งยิ่งสงสัยว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกับมอร์ริสหรือไม่ จึงพยายามจะมาข่มขู่เขาเช่นนี้
เชี่ยเอ้ย! ไอ้เวนนั้น!
ทำไมฉันต้องมาพัวพันกับความลับของศูนย์ชุมชนด้วย? ชีวิตนี้เป็นของฉันเองฉันเลือกเ และฉันก็ไม่ใช่คนของเมืองเพลิแกนแต่เดิมอยู่แล้ว!