762 - สานส์จากราชาไท่กู่(ราชาโบราณ)
762 - สานส์จากราชาไท่กู่(ราชาโบราณ)
“นี่คือสิ่งมีชีวิตโบราณ!”
หลายคนอุทาน เป็นครั้งแรกของพวกเขาที่ได้เห็นสิ่งมีชีวิตโบราณและทุกคนต่างก็ประหลาดใจ
สิ่งมีชีวิตโบราณมีรูปร่างเหมือนมนุษย์นี้มีความสูงมากกว่าสองเมตรครึ่ง ร่างกายใหญ่โต ผิวของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเงินส่องแสงประกายแวววาว ใบหน้าของเขาก็เช่นกัน .
เขาแข็งแกร่งและทรงพลัง ด้วยผมสีเงินยาวราวกับน้ำตก มีเขาหยกที่งอกขึ้นมาเหนือหางคิ้ว พวกมันโค้งงอสดใสราวกับผลึกแก้ว
นอกจากนี้ บนไหล่แต่ละข้างมีหัวเล็กๆ ของหมาป่าและจระเข้โบราณซึ่งถูกตัดออกมาทำเครื่องประดับให้กับชุดเกราะของเขา
“อืม…”
สิ่งมีชีวิตโบราณมาที่ห้องโถงและกล่าวภาษาแปลกๆออกมา
“เขาพูดเรื่องอะไร” ทุกคนมองหน้ากันงงๆ
“เจ้าลืมภาษากลางของยุคดั้งเดิมไปแล้วหรือ? ดูเหมือนว่าเวลาจะผ่านมานานเกินไป เผ่าพันธุ์มนุษย์จึงลืมรากเหง้าของตน”
สิ่งมีชีวิตโบราณกล่าวในภาษามนุษย์
“ในสมัยโบราณ เผ่าพันธุ์มนุษย์พูดเช่นนี้ด้วยหรือ” หลายคนประหลาดใจ
“เผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งในสมัยโบราณ หากเจ้าต้องการอยู่รอดเจ้าต้องใช้ภาษาศักดิ์สิทธิ์นี้เท่านั้น” สิ่งมีชีวิตโบราณกล่าว
“ภาษาศักดิ์สิทธิ์...” บางคนตกตะลึง และดูเหมือนว่าจะมีบันทึกอยู่ในคัมภีร์โบราณบางเล่ม
“นี่คือภาษาของเทพเจ้าโบราณและมันถูกใช้เป็นสื่อกลางของทุกกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ถึงกระนั้นแต่ละเผ่าพันธุ์จะมีวิธีการสื่อสารภาษาของตนเอง” สิ่งมีชีวิตโบราณกล่าวอย่างเฉยเมย
ในสมัยโบราณก็มีเผ่าพันธุ์มนุษย์เช่นกันแต่มีอยู่น้อยมาก กาลเวลาผันผ่านมานาน หลายเหตุการณ์ในอดีตมากมายได้ถูกลืมเลือนและมันจะเป็นอดีตไปแล้ว
“ข้าชื่อกู่เต้าหยาและคราวนี้มาเพื่อส่งสารเท่านั้น”
เขาพูดอย่างเฉยเมย และยื่นม้วนหนังสัตว์ให้ผู้อาวุโสไท่ซ่างในทะเลสาบหยก
“สารอะไร”
หลังจากที่ราชินีศักดิ์สิทธิ์รับมา นางก็ขมวดคิ้ว ตัวอักษรบนแผ่นหนังนั้นยากที่จะแยกแยะ นางมอบมันให้ผู้ฝึกตนคนอื่นๆ และทุกคนก็ตกอยู่ในความงุนงง นี่เป็นอักขระในอดีตไม่มีใครจำมันได้
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ลืมอดีตไปแล้วและถึงกับละทิ้งอักขระศักดิ์สิทธิ์ พวกเจ้าไม่ได้ฝึกฝนพลังศักดิ์สิทธิ์ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หรือ?” สิ่งมีชีวิตโบราณประหลาดใจ
“หลายร้อยปีผ่านมาแล้ว ไม่มีใครในโลกรู้จักอักขระโบราณในม้วนหนังสัตว์นี้ วิสุทธิชนโปรดอ่านด้วย” หนึ่งในผู้อาวุโสของทะเลสาบหยกกล่าว
“มีคัมภีร์โบราณที่ทำลายล้างโลกอยู่สองเล่มในเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งมีวิวัฒนาการและอธิบายด้วยสารจากสวรรค์ พวกมันสูญหายไปหมดแล้วหรือ มันถูกลืมไปหมดแล้วจริงๆ” กู่เต้าหยากล่าว
ไม่มีใครสนใจเขา อันที่จริงเผ่าพันธุ์มนุษย์รุ่งเรืองขึ้นหลังจากเกิดความวุ่นวายในยุคโบราณ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่หลายคนได้ถือกำเนิด และคัมภีร์โบราณของพวกเขาก็เทียบได้กับคัมภีร์โบราณเหล่านั้น
กู่เต้าหยาคลี่ม้วนหนังสัตว์โบราณและอ่านมันทันที ซึ่งคำพูดของเขาทำให้ทุกคนต่างไม่พอใจ
สิ่งมีชีวิตโบราณกำลังจะตื่นขึ้นแล้วจริงๆ! แต่ทว่าช่องว่างระหว่างยุคสมัยนั้นกว้างมาก เพราะพวกเขาจะตื่นขึ้นในอีกห้าพันปีข้างหน้า ราชาที่หลับใหลทั้งหมดจะกลับสู่โลกอำพรางสวรรค์อย่างแน่นอน!
สิ่งที่ทำให้ทุกคนโล่งใจได้เล็กน้อยก็คือสิ่งมีชีวิตโบราณจะไม่ทำสงครามกับเผ่าพันธุ์มนุษย์
แน่นอนว่ามีความขัดแย้งมากมายที่สืบทอดมาจากราชวงศ์ไท่กู่แม้ว่าจะบอกว่าทุกเชื้อชาติอยู่ร่วมกัน แต่ก็ยังมีสงครามเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน
“น่าเสียดายที่นี่ไม่ใช่ยุคสมัยที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ มิฉะนั้น หากมีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์อาศัยอยู่ในโลก ต่อให้สิ่งมีชีวิตโบราณออกมา เขาก็ยังต้องก้มหัวให้”
ที่ทางเข้าของห้องโถงใหญ่ เด็กรุ่นเยาว์ทั้งหมดต่างตื่นตระหนก พวกเขาเกิดในรุ่นนี้ และพวกเขาอาจจะได้เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตโบราณ
เป็นที่คาดหวังได้ว่าในโลกที่กว้างใหญ่เช่นนี้ การดำรงอยู่ที่ยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้จะถือกำเนิดขึ้น และเขาจะเหยียบภูเขากระดูกของทุกเผ่าพันธุ์เพื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุด!
ในตอนท้ายของม้วนหนังสัตว์ มีการกล่าวถึงอาณาเขตที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ครอบครองอยู่นั้นกว้างใหญ่เกินไป และสิ่งมีชีวิตในยุคดึกดำบรรพ์ก็จำเป็นต้องได้รับพื้นที่บางส่วน
“เจ้าต้องการอาณาเขตเท่าใด”
“เริ่มตั้งแต่ที่ซึ่งราชาไท่กู่หลับใหลอยู่ มันจะกินรัศมีหนึ่งแสนลี้รอบทิศทาง ที่นั่นจะเป็นของเรา” กู่เต้าหยากล่าว
ทุกคนไตร่ตรองโดยไม่รู้ว่าเผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพ์จะมีกี่เผ่าพันธุ์ท้ายที่สุดแล้ว ดินแดนแห่งนี้กว้างใหญ่มากจนบางครั้งก็ยากที่จะเห็นผู้คนภายในรัศมีหนึ่งล้านลี้ดังนั้นจึงไม่นับเป็นปัญหาอะไร
เฉพาะพื้นที่ต้องห้ามในเหมืองโบราณต้นกำเนิดเท่านั้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเข้าไปจับจองเป็นของตัวเอง ดังนั้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดย่อมไม่พอใจในเรื่องนี้
“เจ้ามาจากเหมืองโบราณบรรพกาลบรรพกาลหรือ?” ราชินีศักดิ์สิทธิ์ถาม
สิ่งมีชีวิตโบราณตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดนั้นและพูดว่า
"ข้าแค่ผู้ส่งสาร เหมืองโบราณต้นกำเนิดเป็นสิ่งต้องห้าม ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกล้าเข้าไปที่นั่น นอกจากราชาโบราณเท่านั้น"
วานรศักดิ์สิทธิ์เคยกล่าวไว้ว่ามีเพียงทายาทของเผ่าพันธุ์โบราณไม่กี่ตระกูลที่สามารถเข้าไปข้างในได้ และคนอื่นๆไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะกล่าวถึงมัน
“ข้าได้ยินมาว่ามีการจัดงานเทศกาลในทะเลสาบหยก และราชาของข้าขอให้ข้ามาที่นี่เพื่อส่งสาร…” กู่เต้าหยากล่าวว่าสารนี้ถูกส่งไปยังตระกูลขุนนางโบราณและดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกที่
เขาค่อนข้างเย่อหยิ่งด้วยเลือดของราชวงศ์โบราณที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายถึงแม้จะไม่บริสุทธิ์นัก แต่เมื่อเขาเห็นวานรศักดิ์ส้ทธิ์โดยไม่ได้ตั้งใจ เขาก็ผงะ คิ้วและเขาของเขามีประกายแวววาว
“ท่านคือวานรศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่!” กู่เต้าหยาตกใจและสัมผัสได้ถึงปราณที่คุ้นเคย
วานรศักดิ์สิทธิ์นั้นค่อนข้างสงบ เขานั่งนิ่งโดยไม่แสดงอาการใดๆ
“ตอนที่จักรพรรดิผู้เฒ่าจากไป เขาทิ้งลูกชายและน้องชายไว้ ท่านคือ...องค์ชายศักดิ์สิทธิ์หรือ!” กู่เต้าหยาคุกเข่าลงและแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม
จักรพรรดิวานรศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิโบราณคนสุดท้ายเป็นผู้ที่อยู่ยงคงกระพันในโลก เขาคือเทพเจ้าของเผ่าพันธุ์โบราณทั้งมวล แม้แต่ราชาโบราณหลายคนก็ยังยกย่องเขาเป็นจักรพรรดิของทุกเผ่าพันธุ์
ภูมิหลังของวานรศักดิ์สิทธิ์นั้นใหญ่โตอย่างน่าประหลาด เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โต้วจ้านและเขาเป็นองค์ชายศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง
กู่เต้าหยามีท่าทางซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากและกล่าวว่า
"ถวายบังคมองค์ชาย!"
“พ่อของข้าตายไปหลายล้านปี ตอนนี้อาจจะมีราชาโบราณคนใหม่กลายเป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แทนพ่อข้าแล้ว ข้าเป็นเพียงเชื้อพระวงศ์เท่านั้นไม่คู่ควรให้เจ้าแสดงความเคารพ” วานรศักดิ์สิทธิ์โบกมือของเขา
"เกียรติยศของท่านผู้เฒ่าไม่มีผู้ใดเทียบได้ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแต่ก็ไม่มีผู้ใดลืมความยิ่งใหญ่ของเขา" กู่เต้าหยาค่อนข้างให้เกียรติวานรศักดิ์สิทธิ์
ในห้องโถงใหญ่ ทุกคนประหลาดใจ พวกเขาไม่คิดว่าภูมิหลังของวานรศักดิ์สิทธิ์จะใหญ่โตเช่นนี้
วานรศักดิ์สิทธิ์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาชี้ไปที่ผู้คนในนิกายหยินหยางและกล่าวว่า
“จดจำกลิ่นอายของคนเหล่านี้ไว้ นี่เป็นกลุ่มคนที่ชั่วช้า พวกเขาอาจจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์โบราณของเราก็ได้” จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดและคนอื่นๆ ด้วย
ทุกคนที่ถูกชี้เต็มไปด้วยความโกรธ วานรตัวนี้ไร้ยางอายจริงๆ
“ช่วยเหลือพวกเขา” วานรศักดิ์สิทธิ์ชี้ไปที่เย่ฟ่านและคนอื่นๆ
กู่เต้าหยา มีหน้าที่ส่งจดหมายเท่านั้นและเขาก็อยู่ได้ไม่นาน แต่แม้ว่าเขาจะจากไปแล้ว ผู้คนมากมายก็ยังไม่สามารถสงบลงได้
ในอีกห้าพันปีข้างหน้า เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดจะตื่นขึ้นอีกครั้งและโลกจะไม่สงบอีกต่อไป
แม้ว่าบางคนไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้เย่ฟ่านมีชีวิตอยู่ แต่นักพรตมังกรแดง ราชานกยูง และคนอื่นๆ ก็แข็งแกร่งมากจนไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาอีก
ยิ่งกว่านั้น ราชินีศักดิ์สิทธิ์กล่าวอย่างชัดเจนว่าทะเลสาบหยกจะปกป้องเย่ฟ่านด้วย และการสังหารหมู่ในรังหมื่นมังกรไม่สามารถตำหนิเขาได้
พายุลูกใหญ่ถูกเปิดเผย แต่เป็นเรื่องยากที่จะพูดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากเย่ฟ่านเดินออกจากทะเลสาบหยก