อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 81 เตรียมถ่ายทำภาพยนตร์
ตอนที่ 81 เตรียมถ่ายทำภาพยนตร์
“ไอ้หนูเอาเงินออกมา”
“และผู้หญิงคนนี้ส่งมาให้พี่ชายด้วย ไม่อย่างนั้นนายก็ไม่ได้ออกไปแบบมีชีวิตแน่ ฮ่าๆ”
หลังจากพูดจบมันก็หยิบมีดออกมาและลูบไปตามเป้ากางเกง
เทย์เลอร์ตกใจกลัวกับพวกอันธพาลที่จู่ๆ ก็ปรากฎตัวขึ้นมา เธอจึงขยับตัวเข้าไปใกล้ฮาร์ดี้
ฮาร์ดี้กลัวว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บจากพวกอันธพาลเขาเลยโอบตัวเธอเข้ามาที่ไหล่
“เอาล่ะ! ยกมือขึ้นและส่งเงินมาให้…”
ปัง!
อันธพาลที่ถือมีดพูดยังไม่ทันจบ
เสียงปืนก็ดังขึ้นเสียก่อน!
และอันธพาลก็พบว่าตัวเองถูกยิงที่หน้าอกพร้อมกับที่มีดตกลงบนพื้น
เลือดก็ค่อยๆ ไหลออกมาจากหน้าอกของมัน
“อะไรวะ!”
เทย์เลอร์ตกใจกลัวและส่งเสียงกรีดร้องออกมา เธอขยับเข้าไปในอ้อมแขนฮาร์ดี้พร้อมกับซ่อนใบหน้าของเธอเข้ากับอกของเขา
หลังจากที่แก๊งของอีวานวิ่งเข้าไปหาพวกอันธพาล
พวกมันก็เริ่มหวาดกลัวเพราะมันรู้จักแก๊งอีวานดี ซึ่งแก๊งรัสเซียเป็นแก๊งที่ใหญ่ที่สุดในแถวนี้ ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะไปยั่วยุพวกเขา
หลังจากที่เห็นแก๊งอีวานพวกอันธพาลก็เริ่มคุกเข่าลงกับพื้น
“อย่าฆ่าพวกเราๆ”
พวกมันคุกเข่าลงบนพื้นและเริ่มอ้อนวอนขอชีวิต
อีวานไม่สนใจพวกอันธพาลเหล่านี้ เขาหันไปมองฮาร์ดี้อย่างประหม่าและพูดอย่างระมัดระวัง “บอส พวกเราขอโทษ นี่เป็นความประมาทของผมเองที่ทำให้พวกคุณตกใจ”
ฮาร์ดี้ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
สิ่งนี่มันคืออุบัติเหตุ
เดิมทีเขาต้องการพาเทย์เลอร์ไปสัมผัสประสบการณ์ชีวิตที่สลัม แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังให้อันธพาลนี้มาปล้นพวกเขา
เมื่อมองลงไปที่เทย์เลอร์ในอ้อมแขน เขาสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวของเธอที่เหมือนนกตัวน้อยๆ ที่กำลังกอดเอวของฮาร์ดี้และปิดตาซุกหน้าไปที่หน้าอกของเขา
“อีวานจัดการพวกนี้ซะ ฉันจะพาเทย์เลอร์ไปที่สลัมต่อ” หลังจากพูดจบเขาก็พาเทย์เลอร์เดินออกไป
อีวานรีบส่งชายสองคนติดตามคุ้มกันพวกเขาไป
หลังจากฮาร์ดี้ออกไปอีวานก็หันกลับมาหาพวกอันธพาลที่คุกเข่าอยู่บนพื้น พร้อมกับที่ใบหน้าของเขากลายเป็นหน้าเกลียด
บ้าเอ้ย!
ในที่สุดบอสก็ให้ฉันทำในสิ่งที่ต้องทำ
ฉันต้องทำมันให้ดี!
ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะพวกนายหาเรื่องผิดคนเองนะ
“ยกพวกมันขึ้นมาแล้วเอาไปจัดการให้หมด” อีวานกัดฟันพูดอย่างเย็นชา
กลับมาที่รถ
ฮาร์ดี้ให้เธอไปนั่งเบาะหลัง
และเขาก็ขับไปที่สลัม
เธอขดตัวอยู่ที่นั่งตลอดทาง ฮาร์ดี้รู้ว่าเทย์เลอร์กลัวมาก
เธอนั้นได้รับการดูแลอย่างดีตั้งแต่เด็กและไม่เคยสัมผัสกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้มาก่อน
ซึ่งการได้เห็นคนถูกฆ่าต่อหน้า มันส่งผลกระทบต่อคนๆ นั้นอย่างใหญ่หลวงจริงๆ
เขาคิดเกี่ยวกับมัน
เขาจอดรถที่ลานจอดขนาดเล็ก
และลงจากรถไปนั่งที่เบาะหลัง
เด็กหญิงร้องไห้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา
ฮาร์ดี้ขยับเธอเข้ามาที่แขนของเขา
“นี้เป็นครั้งแรกที่เธอเจอเรื่องแบบนี้อย่างนั้นหรอ”
“ใช่…”
เธอพยักหน้าและร้องไห้
“จำได้ไหมที่ฉันบอกเธอว่า มาทิลด้ากลับมาจากซื้อของและเห็นประตูเปิดอยู่ และที่ตรงนั้นมีครอบครัวของเธอถูกฆ่าตาย เธอลองนึกภาพดูว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น?”
“ความเศร้า ความกลัว ความตายและเพื่อความอยู่รอด เธอกัดฟันเดินไปห้องข้างๆ เคาะประตูห้องลีอองเพื่อบอกเขาให้เปิดประตูเพราะนี้คือโอกาสเดียวที่เธอจะมีชีวิตอยู่ ลองคิดดูสิว่าเธอจะกลัวแค่ไหน”
“เธอจะพอเข้าใจความแข็งแกร่งของมาทิลด้าบ้างไหม?”
เทย์เลอร์อยู่ในอ้อมแขนของฮาร์ดี้และน้ำตาของเธอก็เริ่มหยุดไหล
“ความเข้าใจเกี่ยวกับมาทิลด้าของฉันนั้นยังน้อยเกินไป คุณฮาร์ดี้ช่วยเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับภาพยนตร์ให้ฉันฟังใหม่หน่อยได้ไหม? ฉันต้องการทำความเข้าใจมันใหม่ทั้งหมด” เทย์เลอร์พูดออกมา
“ไม่มีปัญหา”
ฮาร์ดี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับมาทิลด้าอีกครั้ง คราวนี้เขาเล่าอย่างช้าๆ
เทย์เลอร์ตั้งใจฟังขณะที่อยู่ในอ้อมแขนของฮาร์ดี้
เธอพบว่าทุกสิ่งที่เธอเห็นเมื่อสองวันที่ผ่านมานั้นสามารถนำไปใช้กับตัวละครในภาพยนต์ได้จริงๆ และคุณฮาร์ดี้ก็พาเธอออกมาฝึกฝนด้วยใจจริงๆ
เธอมองขึ้นไปที่ผู้ชายคนนี้
มันใช้เวลานานก่อนที่จะละสายตาออกไป
จนกระทั่งตอนเย็นฮาร์ดี้ได้ส่งเทย์เลอร์กลับบ้าน เทย์เลอร์ออกจากรถและโบกมือลาเขา
เธอเปิดประตูและเดินเข้าไปในบ้าน
ซาร่าห์เห็นเทย์เลอร์และพบว่าเธอนั้นซึมลงเล็กน้อย เพราะหลังจากที่ลูกสาวของเธอกลับมาเมื่อวานนี้เธอเต็มไปด้วยพลังและเริ่มดื้อมากขึ้น
แต่วันนี้เกิดอะไรขึ้น?
ซาร่าห์นั้นมีความกังวลเล็กน้อย
“ไอช่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?” ซาร่าถาม
“คุณฮาร์ดี้พาฉันไปที่สลัมวันนี้ ฉันเห็นเด็กยากจนจำนวนมาก พวกเขาบางคนต่อสู้เพื่อขนมปังหนึ่งชิ้น ทำให้เรื่องที่มาทิลด้ามักจะหิวโหยในภาพยนต์นั้นมันคือเรื่องจริง” เทย์เลอร์กล่าว
ซาร่าห์โล่งใจเมื่อได้ยินลูกสาวพูดอย่างนั้น
เธอคิดว่าสิ่งที่ฮาร์ดี้ทำนั้นคือแค่พาลูกสาวของเธอไปที่สลัมเฉยๆ
ซาร่าห์ลูบหัวของเธอและพูดว่า “ชีวิตมักมีโชคร้ายอยู่เสมอ ดังนั้นเราต้องทำงานให้หนัก เข้าใจใช่ไหมไอช่า”
“เข้าใจ…ฉันอยากอาบน้ำแล้ว”
“ไปเถอะ”
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอที่เห็นคนถูกฆ่า
ถึงแม้คุณฮาร์ดี้จะกล่าวไว้ว่าเขาฆ่าไปมากกว่า 30 คนแล้ว ซึ่งถ้าคิดถึงเรื่องนี้แสดงว่าคุณฮาร์ดี้นั้นกล้าหาญมาก
และยังมีไหล่ของคุณฮาร์ดี้ที่ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย
หลังจากคิดว่าฮาร์ดี้ไม่สามารถมาหาเธอได้ในวันพรุ่งนี้ เธอก็หวังว่าผู้กำกับฮิตช์ค็อก และหัวหน้าเอ็มจีเอ็มเมเยอร์จะอ่านบทและพิจารณาเลือกเธอให้แสดงบทมาทิลด้า…
แต่ตอนนี้เธอก็รู้สึกหลงทางนิดหน่อย
เธออาจจะคาดหวังมากเกินไป
เพราะเธอไม่รู้ว่าเธอจะได้รับบทมาทิลด้าหรือไม่
…
วันต่อมา
ฮาร์ดี้มาที่บริษัทภาพยนต์
นักเขียนบททั้งสองคนมาถึงแล้ว และก็ได้ทำการยื่นต้นฉบับภาพยนต์ให้ฮาร์ดี้
“คุณฮาร์ดี้ ยิ่งฉันเขียนมากเท่าไร ฉันก็คิดว่าเรื่องนี้มันเยี่ยมมาก! ฉันเชื่อว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะได้รับความนิยมมากแน่ๆ” นักเขียนบทกล่าว
“และหนังเรื่องนี้ดีพอที่จะได้ขึ้นชิงออสการ์อย่างแน่นอน” นักเขียนบทอีกคนกล่าวสมทบ
หลังจากอ่านต้นฉบับฮาร์ดี้ก็รู้สึกว่ามันคล้ายกับสิ่งที่เขาคิดไว้
ซึ่งเรื่องหลักๆ ที่เขากังวลก็คือเรื่องนี้มันมีหลายละเอียดมากเกินไป แต่ผู้ชายสองคนนี้ก็ทำให้มันสมบูรณ์ขึ้นได้
“แน่นอน! และพวกคุณช่วยเอาบทภาพยนตร์มาให้ผมอีก 5 ชุดด้วย” ฮาร์ดี้กล่าว
นักเขียนบทสองคนรับต้นฉบับมาและออกไปหาคนทำสำเนา
ฮาร์ดี้หยิบโทรศัพท์ออกมาและติดต่อหัวหน้าเอ็มจีเอ็มเมเยอร์
“ฮาร์ดี้มาที่คฤหาสน์ของฉันเพื่อมาทานอาหารค่ำในคืนนี้ ฉันได้โทรหาฮิตช์ค็อกและผู้กำกับฝ่ายผลิตมาดูบทของคุณด้วยกันแล้ว”
“ตกลงครับ คุณเมเยอร์”
ในตอนเย็น
ฮาร์ดี้มาที่คฤหาสน์ของเมเยอร์อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ไม่มีแขกอยู่ที่นี้ ทำให้คฤหาสน์หลังใหญ่เงียบมากๆ
และฮิตช์ค็อกและฮันต์ผู้กำกับฝ่ายเอ็มจีเอ็มก็อยู่ที่นี่
ก่อนที่มื้อเย็นจะเริ่มพวกเขาทั้งสามคนก็ไปดูต้นฉบับภาพยนต์ด้วยกัน
เมเยอร์เป็นคนแรกที่วางต้นฉบับภาพยนต์ลง เขาเป็นหัวหน้าใหญ่เพียงแค่ต้องการรู้โครงร่างของหนังเรื่องนี้ว่ามันน่าตื่นเต้นหรือไม่เท่านั้น
ฮันต์เป็นคนวางลงคนที่สอง
ฮิตช์ค็อกเป็นคนที่ดูนานที่สุด
เมเยอร์มองพวกเขาทั้งสองคน “คุณคิดยังไงเกี่ยวกับต้นฉบับนี้”
ฮิตช์ค็อกเป็นคนแรกที่พูด “ฉันเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนและตอนหลังที่ได้อ่านบท ฉันว่ามันน่าสนใจมากขึ้น เรื่องราวความรักระหว่างเด็กหญิงกับชายวัยกลางคน การแก้แค้นเพื่อพ่อแม่ นักฆ่าที่ตัวคนเดียวและเสียสละตัวเองเพื่อเด็กสาว”
“เนื้อหาเข้มข้นมาก เรื่องราวและผลกระทบก็ดีมากเช่นกัน มันเป็นหนึ่งในต้นฉบับที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเห็นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉันคิดว่าคนดูจะชอบมันแน่นอนเมื่อถ่ายทำเสร็จ และมันก็มีสิทธิ์ที่เข้าชิงออสการ์ได้อย่างแน่นอน!”
เมเยอร์มองไปที่ฮันต์ผู้ควบคุมการผลิต
“ฮันต์พูดเกี่ยวกับมันสิ”
“นี้คือหนังที่ถ่ายในเมืองได้ ไม่ต้องจำเป็นต้องตั้งฉากแค่เพียงหาสถานที่เหมาะสมในสลัมให้ก็พอ และผมคาดว่าค่าใช้จ่ายน่าจะน้อยกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ ไม่รวมค่าจ้างนักแสดง”
เมเยอร์มองไปที่ฮิตช์ค็อกและฮาร์ดี้ “พวกคุณคิดว่าใครที่เหมาะสมสำหรับบทภาพยนต์เรื่องนี้”
เนื่องจากนักแสดงเป็นผู้กำหนดระดับค่าจ้างและระดับความดึงดูดผู้คนยิ่งดาราดังๆ จะนำผู้คนมาเองและยังสามารถใช้เพื่อโปรโมตได้
ซึ่งจะดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มาชมภาพยนต์ได้อีก
ฮิตช์ค็อกมองไปฮาร์ดี้คนแรก “คุณเป็นคนเอาต้นฉบับภาพยนต์มาคุณชอบใคร?”
ฮาร์ดี้ไม่ปฏิเสธ
“เด็กผู้หญิงผมคิดว่าเอลิซาเบธ เทย์เลอร์น่าจะดี”
ฮิตช์ค็อกขมวดคิ้ว
“ฉันรู้จักผู้หญิงคนนี้ ฉันคิดว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวเธอนั้นแตกต่างจากมาทิลด้า ฉันกังวลว่าเธอจะแสดงบทบาทนี้ได้ไม่ดี คุณรู้ไหมมาทิลด้านะคือนางเอกของหนังเรื่องนี้!”
ฮาร์ดี้ยิ้ม
“ทุกวันนี้ผมกำลังฝึกเทย์เลอร์อยู่ ผมรู้จักมาทิลด้าดีกว่าใครผมเชื่อว่าผมสามารถทำให้เทย์เลอร์เป็นเหมือนมาทิลด้าได้”
อีกสามคนในห้องเข้าใจทุกอย่าง
ฮาร์ดี้ไปหาเทย์เลอร์โดยเฉพาะและเริ่มฝึกเธอแล้ว
“แล้วคุณคิดว่านักแสดงอีกคนจะเป็นใคร?” เมเยอร์ถาม
ฮาร์ดี้ยิ้ม “มันจะไม่ดีกว่าหรือ ที่จะให้คุณเมเยอร์และผู้กำกับฮิตช์ค็อกเลือกหาผู้สมัครที่เหมาะสมเอง”
ภาพยนต์เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการต่อสู้และการฆ่า แต่มันเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ของทั้งสอง
เรื่องแบบนี้เค้าไม่ควรคิดคนเดียว
ตราบใดที่เทย์เลอร์เป็นนางเอก เป้าหมายของเขาก็สำเร็จไปแล้ว
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอีกฝ่ายไม่เห็นด้วยที่จะให้บทเทย์เลอร์?
ซึ่งการลงทุนของเขายังไม่จบ ยังไงก็ตามเขานั้นมีเงินอยู่ในมือ และการลงทุนด้านภาพยนต์ก็สามารถหลีกเลี่ยงภาษีได้
รวมถึงการฟอกเงินซึ่งจะสามารถทำเงินให้เขาได้มากขึ้น
เพราะหนังทำเงินในบ็อกซ์ออฟฟิศนั้นถูกถ่ายทำโดยผู้กำกับไม่ใช่พ่อค้า
“แกรี่ แกรนต์,จอห์น เวย์น,แกรี่ คูเปอร์,เจมส์ สจ๊วต,เฮนรี ฟอนดา, มอนต์กอเมอรี่ คลิฟต์, เออร์รอล ฟอร์เต,รอน โบลิ้ง,วิลเลียม โฮนเดน”
พวกเขาร่ายรายชื่อนักแสดงมาทีละคนและพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยการเทียบคนต่อคน
ในบรรดารายชื่อเหล่านี้คนที่น่าสนใจสุดคือแกรี่ แกรนท์ เขานั้นโด่งดังในบ็อกซ์ออฟฟิศและน่าดึงดูดที่สุด
แกรี่ แกรนท์ในปีนี้เขาอายุ 41 ปี ซึ่งลักษณะของเขาก็เป็นไปตามมาตรฐานของชายวัยกลางคนอายุ 40 ปีและค่าตัวของเขาก็สูงถึง 300,000 ดอลลาร์สำหรับภาพยนต์หนึ่งเรื่อง
“ฮาร์ดี้ คุณคิดยังไงเกี่ยวกับแกรี่สำหรับบทของลีออง?” เมเยอร์ถาม
หากเลือกแกรี่ แกรนท์เอ็มจีเอ็มจะได้เปรียบมากที่สุด เพราะแกรี่ แกรนท์เป็นนักแสดงของเอ็มจีเอ็ม มันจะทำให้พวกเขาสามารถได้รับค่าตัวหนึ่งในสามของนักแสดงได้
อันที่จริงแล้วเเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ก็ยังเป็นนักแสดงของเอ็มจีเอ็มอยู่ แต่ค่าตัวเธอน้อยเกินไป มันแค่ 10,000 หรือ 20,000 ดอลลาร์เท่านั้นเอง
ฮาร์ดี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแกรี่ แกรนท์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอันดับสองในรอบศตวรรษ
เขาเป็นนักแสดงภาพยนต์ตลกและละครโทรทัศน์ ในส่วนนี้น่าจะทำให้เขาเข้าถึงได้ทุกบทบาท แถมยังสูงถึง 187 เซ็นติเมตร อายุ 40 ปี น่าจะถือว่าใกล้เคียงกับบทบาทของลีอองมากที่สุด
“ผมคิดว่า คุณแกรี่น่าจะเหมาะสมสำหรับบทของลีออง”
ต่อมาคือผู้กำกับ โดยปกติแล้วฮิตช์ค็อกจะได้รับค่าตัวราวๆ 200,000 ดอลลาร์ ส่วนพวกตำรวจเลวที่มาจะแสดงน่าจะหานักแสดงในสังกัดซึ่งค่าตัวจะประมาณ 50,000 ดอลลาร์ได้
นอกจากนี้ยังต้องจ่ายค่าตัวให้เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ซึ่งจะเป็นค่าจ้างที่เธอได้รับบทนางเอก ถึงแม้ในสัญญาของเธอจะเป็นแค่นักแสดงสมทบก็ตาม
ทีแรกเมเยอร์คิดค่าตัวเธอที่ 30,000 ดอลลาร์ แต่ฮาร์ดี้จะจ่ายให้ 50,000 ดอลลาร์ ทำให้เมเยอร์ยิ้มและตกลงในที่สุด
ส่วนสัญญาของเทย์เลอร์ค่าตอบแทนจะเป็น 4 ต่อ 6 แน่นอนว่าเอ็มจีเอ็มหก ซึ่งเทย์เลอร์ก็ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นส่วนเอ็มจีเอ็มก็มีรายได้เยอะขึ้นด้วย
ตอนนี้มีนักแสดงสมทบและดาราหลายคนในเรื่องนี้ ซึ่งค่าใช้จ่ายนักแสดงก็ 900,000 ดอลลาร์แล้ว
และถ้ารวมค่าใช้ทั้งหมดก็น่าจะราวๆ 2.6 ล้านดอลลาร์
“ฮาร์ดี้เราคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ 2.6 ล้านดอลลาร์ แล้วนายคิดจะลงทุนเท่าไหร่ล่ะ?” เมเยอร์ถาม
ซึ่งจำนวนเงินลงทุนจะนับตามหุ้นโดยปกติ
“แล้วคุณวางแผนที่จะให้ผมจ่ายเท่าไหร่?” ฮาร์ดี้กล่าว
เมเยอร์ยังคงมั่นใจเกี่ยวกับภายยนตร์เรื่องนี้ “อืม…เอ็มจีเอ็มจะจ่าย 1.6 ล้านดอลลาร์สำหรับการถ่ายทำทั้งหมด และคุณจ่ายแค่หนึ่งล้านดอลลาร์ ส่วนพวกโฆษณาเดียวเรามาหารือกันในภายหลัง”
“ตกลง”
ฮาร์ดี้ตกลงอย่างเต็มใจ
และเมเยอร์ก็พอใจกับความร่วมมือนี้มาก
ฮาร์ดี้เป็นแค่คนเขียนบท ส่วนที่เหลือจะให้เอ็มจีเอ็มจัดการ
ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ผู้กำกับ ทีมผลิตภาพยนตร์ สตูดิโอก็เป็นของเอ็มจีเอ็มทั้งหมด แถมพวกเขายังต้องผลิตและจำหน่ายในขั้นตอนต่อไปด้วยตัวเอง
ถึงแม้ภาพยนตร์จะยังไม่ได้เริ่มถ่ายทำ แต่เอ็มจีเอ็มก็ได้เงินคืนเป็นจำนวนมากแล้ว
ติดตามข่าวสาร