ตอนที่ 5 ข้อเสนอของราชาสิงโต (2) [อ่านฟรี]
พื้นที่อากาศที่บิดเบี้ยวที่ด้านหน้ารถตรงข้าง ๆ ของคนขับและจากนั้นก็มีสตรีมเมอร์หญิงเซเนีย ปรากฏตัวออกมาจากตรงนั้น เธอเป็นสตรีมเมอร์หญิงที่สวยมาก แต่สำหรับเขา เธอไม่ได้ดูสวยเลยสักนิด
“สนามฝึกสอนนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตามคำขอของราชาสิงโตผู้กล้าหาญ ”
“…”
เหตุการณ์เช่นนี้เองก็เกิดขึ้นเป็นบางครั้ง เหล่าผู้พิทักษ์สามารถใช้อำนาจพิเศษของพวกเขาเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ตามอำเภอใจและ คิม ฮยอกจิน ก็พอจะรู้ว่ารราชาสิงโตนั้นต้องการอะไร
‘หวังว่าคงจะไม่ใช่อย่างที่คิดจริง ๆ หรอกนะ’ คิม ฮยอกจิน กัดริมฝีปากเล็กน้อย ‘เขาคงจะพยายามชักชวนให้ฉันต้องต่อสู้แน่ ๆ’
เขาแน่ใจว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้น
‘วิธีที่ดีที่สุดในการบังคับฉันให้ต้องต่อสู้ก็คือ การทำลายจุดเซฟโซนที่มีเงื่อนไขนี้ให้หายไป’
ผู้พิทักษ์มีข้อจำกัดในการเข้าไปมีส่วนร่วมกับเพลย์เยอร์ แต่พวกเขาสามารถทำสิ่งต่าง ๆ อย่างอื่นได้เช่น การสนับสนุนเพลย์เยอร์หรือสนับสนุนพวกเพลย์เยอร์ด้วยคอยน์ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอีกมากมายที่สามารถทำการแทรกแซงการเล่นโดยตรงและการกระทำเช่นนี้ก็ยังอยู่ในข้อจำกัดของพวกเขา พวกเขายังคงสามารถขอให้ผู้ดูแลระบบระดับกลางทำลายจุดเซฟโซนแบบมีเงื่อนไขได้โดยไม่มีความผิด
“การแลกเปลี่ยนเสร็จสิ้นแล้ว ตามคำขอของราชาสิงโตผู้กล้าหาญ จุดเซฟโซนแบบมีเงื่อนไขจะถูกยกเลิกภายในสามสิบวินาที ”
เธอพูดคำเหล่านี้ออกมาโดยไม่กระพริบตาและเต็มไปด้วยความเลือดเย็น แม้เขาจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเขาไม่สามารถจัดการกับฝูงก็อบลินได้ด้วยกำลังที่มีอยู่ของเขาได้ในตอนนี้
‘ฉันรู้ว่าแกรู้เรื่องนี้ดีแต่ก็ยังคงอยากเห็นฉันดิ้นรนสินะ แต่แล้วไงล่ะ ฉันเองก็รู้เรื่องของโลกนี้ที่เปลี่ยนไปดีเหมือนกัน’
บางที คิม ฮยอกจิน อาจจะรู้เรื่องของโลกนี้มากกว่าเซเนียเสียอีก เธอไม่ควรมองข้าม คิม ฮยอกจิน ที่เป็นเพลย์เยอร์เนิร์ดที่เอาแต่ตั้งใจเรียนในช่วงสามปีของการเตรียมสอบเข้าราชการ
เขาพูดขึ้นว่า “ ถ้าผู้พิทักษ์บังคับเปลี่ยนหรือแทรกแทรงในสถานการณ์ที่เพลย์เยอร์กำลังเจอ เมื่อเพลย์เยอร์สามารถผ่านมันไปได้ก็จะได้รางวัลพิเศษไม่ใช่หรอกเหรอ?”
“…”
เซเนียจ้องมาที่เขาด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเธอ เขาอ่านสีหน้าเธอไม่ออก แต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะสื่อว่านี่เป็นคำพูดที่ไร้ค่าของพวกแมลงเลเวล 1 ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรสำหรับเธอเลยสักนิด เธอไม่ได้แสดงท่าทีหงุดหงิดหลังจากที่เขาพูดกับเธอ
“ พระบัญญัติมันไม่สามารถละเลยได้นะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันเกี่ยวข้องกับชีวิตหรือความตายของผมด้วย เธอจะทำเป็นเมินเฉยต่อกฎพวกนั้นได้ยังไง? ”
หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือน
[ ‘ผู้สังเกตการณ์นิรนาม’ แสดงความประหลาดใจ ]
[ ‘ราชาสิงโตผู้กล้าหาญ’ เงียบ ]
“คุณพูดว่าอะไรนะพระบัญญัติงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว พระบัญญิติ ”
ในระบบนี้มีกฎหรือที่เรียกว่าพระบัญญัติซึ่งเป็นกฏที่ถูกตั้งไว้ในระบบ
“คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับพระบัญญัติได้อย่างไร ”
“เรื่องนั้นมันไม่เห็นจะสำคัญอะไรเลย จริงไหม?”
มันจะสำคัญได้อย่างไรในเมื่อเขากำลังอยู่บนทางแยกระหว่างความเป็นกับความตาย
“ผมแน่ใจว่าคุณเองก็รู้ว่าพวกเพลย์เยอร์นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับการอธิบายถึงวิธีการเล่นของพวกเขาอย่างเป็นรูปธรรมใช่ไหม? ” (อันนี้คงหมายถึงการเล่นในระบบนั้นจะถูกถ่ายโอนเข้าไปในหัวของเพลย์เยอร์ได้ในทันที เหมือนกับการเปิดใช้หน้าต่างสถานะกับช่องเก็บของที่เพลย์เยอร์สามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง)
“…”
เซเนียไม่ได้พูดอะไรตอบกลับ แต่โดยปกติทั่วไปแล้ว พวกสตรีมเมอร์จะเป็นพวกช่างพูดไม่รู้จบ แต่ครั้งนี้ดูแตกต่างออกไป
‘เหตุผลที่คนสวยขนาดนี้กลับไม่เป็นที่รู้จัก… มันคงจะเกี่ยวกับความปากแข็งของเธอสินะ’
คิม ฮยอกจิน เหลือบมองดูเวลา ตอนนี้ผ่านไปได้สิบนาทีแล้ว
“ ผมไม่มีเวลาที่จะมานั่งพูดคุยกับคุณอย่างใจเย็นแล้วนะ จุดเซฟโซนนี้กำลังจะหายไป คุณผู้ดูแลระบบระดับกลางแล้วรางวัลของผมล่ะคืออะไร?”
“ตามพระบัญญัติ ฉันจะเพิ่มเวลาของจุดเซฟโซนให้แล้วกัน ก่อนที่จุดเซฟโซนนี้จะหายไปจุดเซฟโซนนี้จะยังคงอยู่ต่ออีกเป็นเวลาสิบวินาที หลังจากการสนทนาของคุณกับฉันสิ้นสุดลง ”
นั่นเยี่ยมมาก นั่นคือสิ่งที่ คิม ฮยอกจิน ต้องการ การบุกโจมตีระลอกแรกของก็อบลินกำลังจะจบลงอีกในไม่ช้า เขาแค่ต้องอดทนต่อไปอีกหน่อยเท่านั้น ราชาสิงโตผู้กล้าหาญพยายามที่จะเริ่มต้นทำเรื่องไร้สาระที่ตัวเองต้องการ แต่มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปเพราะยังไงเวลาจบของคลื่นลูกแรกก็ยังคงเหมือนเดิมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
เขาพูดขึ้นอีกครั้งว่า “นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตหรือความตายของผมเลยนะ ผมคิดว่ารางวัลที่ให้มานี้มันเหมาะสมแล้วจริง ๆ อย่างงั้นเหรอ? นี่ผมฟังผิดไปหรือเปล่า? ”
“…”
“ผมขอถามอีกครั้งแล้วกัน ว่าผมฟังผิดไปหรือเปล่า? ”
“…”
คิม ฮยอกจิน เดาว่าเธอนั้นคงค่อนข้างจะสับสนที่พวกแมลงเลวล 1 กำลังพูดกับสตรีมเมอร์ด้วยความไม่สุภาพเช่นนี้อย่างหน้าตาเฉย แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่เธอจะใช้เพื่อลงโทษเขาได้ นั่นเป็นเพราะนี่เป็นข้อโต้แย้งที่มีความเกี่ยวข้องกับ ‘กฎ’ หรือ ‘พระบัญญัติ’ ที่จะถูกค้นพบในเจ็ดปีถัดไปเท่านั้น
‘จริง ๆ แล้วเธออาจจะมีความสุขอยู่ก็ได้’
การกระทำของเขาในตอนนี้เป็นที่น่าจับตามองอย่างแน่นอนและน่าจะดึงดูดความสนใจของผู้พิทักษ์หลาย ๆ คนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอาจเป็นได้ว่าสตรีมเมอร์คนนี้อาจจะยินดีซะมากกว่ากับการกระทำของเขา
“…” หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็พูดว่า “เพลย์เยอร์ คิม ฮยอกจิน ที่คุณพูดนั้นถูกต้อง ”
หลังจากที่เธอพูดจบ ไอเท็มก็ถูกส่งเข้าไปในช่องเก็บของของเขา
___________________________________________________________________________
[ น้ำมันหล่อลื่นคุณภาพดี ]
น้ำมันหล่อลื่นคุณภาพดี สามารถใช้ลับใบมีดของสิ่งของที่มีคมได้หรือสามารถใช้กับส่วนที่ต้องการความหล่อลื่นก็ได้เช่นกัน เมื่อใช้จะทำให้ลักษณะพิเศษของน้ำมันแสดงผลออกมาคือพื้นผิวนั้นจะมีความเนียนมากถ้าใช้ลับคมก็จะมีความคมมาก
___________________________________________________________________________
‘รางวัลในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของฉัน มันมีแค่นี้เองงั้นเหรอ?’
คิม ฮยอกจิน ขมวดคิ้วเล็กน้อย มันดูน้อยเกินไปสำหรับเป้นของรางวัลพิเศษ แต่ถึงกระนั้น รางวัลก็คือรางวัล และเขาก็จะยื้อเวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ยิ่งการที่ได้คุยกับสตรีมเมอร์หรือผู้ดูแลระดับกลาง นั่นเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีมากเลยทีเดียว
‘ราชาสิงโต ไอ้โง่เอ้ย’
สิ่งที่ราชาสิงโตทำลงไปกลายเป็นว่าเป็นการช่วยเขาแทน ต้องขอบคุณราชาสิงโตเลยจริง ๆ ที่ทำให้เขาสามารถยื้อเวลาได้มากเลยทีเดียวและยื้อเวลามาได้อย่างปลอดภัย เขาแน่ใจว่าไม่มีใครคิดว่าเพลย์เยอร์เลเวล 1 จะใช้ ‘พระบัญญัติ’ ขึ้นมาพูดเป็นกลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อยื้อเวลาออกไป
[ การบุกโจมตีของคลื่นลูกที่ 1 จบลงแล้ว ]
[ ‘ราชาสิงโตผู้กล้าหาญ’ ผิดหวังอย่างแรง ]
คิม ฮยอกจิน แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
‘ฉันรอดจากคลื่นลูกแรกได้แล้ว’
เขาไม่แน่ใจว่าราชาสิงโตผู้กล้าหาญนั่นจะกำลังสาปแช่งเขาอยู่ไหม? เพราะพวกก็อบลินกำลังจะหายตัวไปจากสนามฝึกสอนนี้แล้ว
คิ๊คิ๊ก? คิ๊คิ๊คิ๊ก! คี๊คิ๊!
พวกก็อบลินเริ่มเคลื่อนไหว พวกมันแห่กันมาเหมือนน้ำที่กำลังขึ้นและตอนนี้ พวกมันกำลังถอนกลับไปเหมือนน้ำที่กำลังลดอย่างรวดเร็ว
‘จังหวะนี้แหละนี่คือโอกาสของฉัน’
เขารีบก้มลงไปที่ขาของเขาทันที สตรีมเมอร์เซเนียยืนจ้องมองทุกการเคลื่อนไหวของเขา แต่ก็ไม่ได้เข้าไปช่วยหรือขัดขวางอะไรเขาเลยเพียงแค่มองอยู่อย่างนั้น เมื่อเขาเห็นว่าเธอยังไม่หายตัวไป นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเธอเริ่มสนใจเขาในระดับหนึ่งแล้ว
คิม ฮยอกจิน เดินตรงไปที่ประตูทางออกของรถบัส
‘อั๊กกก…’
มันเป็นเหมือนนรกที่น่าสยดสยองอยู่ตรงหน้าของเขา เขาแทบจะไม่เห็นศพที่ครบถ้วนทั้งสามสิบสองเลย เมื่อไม่กี่อึดใจที่แล้วทุกคนอยู่ในรถบัสธรรมดา ๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปในการเดินทางตอนเช้า แต่ตอนนี้มีศพเจ็ดศพกระจัดกระจายไปทั่วพื้น บางส่วนถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและบางส่วนก็ขาดหายไปอย่างไร้ร่องรอย
‘เอือกกก’
น้ำบางอย่างพุ่งย้อนขึ้นมาในลำคอของเขา มันให้ความรู้สึกที่แย่มาก ๆ เขาไม่อยากที่จะมองมันอีกต่อไป
‘จงมีสติ’
เขาต้องอดทนไว้ เพราะนี่คือสนามฝึกสอน สถานที่ที่มีอัตราการรอดชีวิตเพียง 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
‘ฉันต้องอดทนอีกหนึ่งสัปดาห์’
หนึ่งสัปดาห์—นั่นคือเวลาที่เขาต้องอดทน เขานั่งรถบัสคันนี้วันแล้ววันเล่ามาเป็นเวลาสามปีและมักจะผ่านบริเวณนี้อยู่เสมอ อย่างน้อยเขาก็รู้ดีว่าร้านสะดวกซื้อริมถนนอยู่ที่ไหน
‘หมอกเริ่มหนาขึ้นแล้วสิ’
หลังจากผลักประตูรถบัสเขาก็เดินลงไป กลิ่นท่อระบายน้ำที่น่าขยะแขยงพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดพุ่งเข้าใส่เขาในทันทีที่อย่างก้าวลงไป
‘ก่อนอื่นเลย ฉันต้องการน้ำและอาหาร’
แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีชีวิตอยู่ได้โดยที่ไม่กินไม่ดื่มเป็นเวลาเจ็ดวัน ร้านสะดวกซื้อคือเป้าหมายแรกของเขา
เขามีเวลาเพียงสิบนาที
‘รีบไปดีกว่า’
น่าแปลกที่เขานั้นกลับเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับคนที่เคยเล่นเกมแบบนี้มาก่อนหรือเหมือนกับคนที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
กระทั่งถึงจุดนั้น เขาก็ยังไม่รู้จริง ๆ ว่าสติของเขาเข้มแข็งแค่ไหน
สภาพแวดล้อมในตอนนี้พร่ามัวไปหมด เขามองเห็นรถยนต์คันหนึ่งท่ามกลางกลิ่นหนึ่งที่ส่งกลิ่นออกมา นั่นคือกลิ่นของร่างที่เปื้อนเลือดสีแดงสดกระจัดกระจายไปตามทางเดิน ท่ามกลางความน่าสยดสยองนั้นก็มีเสียงของผู้รอดชีวิตคนอื่นลอยมากับอากาศ มันดังอยู่ภายในหมอกบรรพกาล การมองเห็นและการได้ยินทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
‘เมื่อพิจารณาว่าเรากำลังอยู่ในหมอก ... คงมีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถเอาชีวิตรอดจากการบุกโจมตีของก๊อบลินในคลื่นลูกแรกได้’
เขาเริ่มวิ่งตรงดิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อ มีเขาเคยกล่าวไว้ว่าคุณลงทิศหลงทางได้ในหมอกบรรพกาลนี้และนั่นก็ดูเหมือนจะจริง เขาเหลือบมองกลับไปที่รถบัสสีน้ำเงิน เพียงแค่ไม่กี่ก้าวเขาก็แทบจะมองไม่เห็นตัวรถบัสแล้ว เขาจึงหันหลังให้รถบัสแล้วรีบวิ่งออกไปทันที
‘นี่คือวิธีที่ถูกต้องที่จะช่วยให้เราไม่หลงทาง’
ถ้าเขาวิ่งตรงไปทางนี้จะมีร้านสะดวกซื้อตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เขาวิ่งไปข้างหน้าโดยอาศัยความรู้สึกของเขา ระยะทางอย่างน้อยก็คงสักสามร้อยเมตร มันให้ความรู้สึกว่าเป็นทางที่ยาวอย่างบอกไม่ถูก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาให้คุณค่ากับคำว่า ‘ชีวิต’ มากขนาดนี้
แต่ในขณะวิ่ง เท้าของเขาเหมือนจะไปชนเข้ากับอะไรบางอย่าง ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นศพ
‘นี่ก็อีกศพงั้นเหรอ?’
แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ศพที่อยู่ใต้เท้าของเขา… นั่นคือบางคนที่ยังไม่เป็นตาย
เสียงสะอื้นดังขึ้นเข้ามาในหูของเขา “ชะ-ช่วยหนูด้วย ได้โปรด....โปรดช่วยหนูด้วย ”
มันเป็นเสียงของเด็กสาววัยรุ่นต้น ๆ ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เด็กคนนั้นกำลังนอนอยู่บนพื้นและคลุมศีรษะด้วยอาการตัวสั่น เธอเงยหน้าขึ้นและจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาของเด็กน้อยที่เงยหน้ามองผู้ใหญ่ สายตาที่โหยหาความช่วยเหลือ
จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างที่กำลังถูกหั่น ในขณะนั้นเขาทำได้เพียงสะดุ้งด้วยความตกใจ
‘มีก็อบลินอยู่ที่นี่เหรอ?’
เขาไม่สามารถมองเห็นมันได้เพราะหมอกบรรพกาล แต่เขาแน่ใจว่ายังมีก็อบลินอยู่ที่นี่
‘เป็นไปได้ยังไงกัน? การบุกโจมตีคลื่นลูกที่ 1 ของก็อบลินมันควรจะจบไปแล้วไม่ใช่เหรอ?’
ตามในหนังสือจำนวนนับไม่ถ้วนและการจำลองของดันเจี้ยนในวีอาร์ พวกก๊อบลินมันควรจะหายไปหมดแล้วสิ นั่นคือทฤษฎีที่ถูกตั้งขึ้นและไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องนี้เลยสักคนเดียว แสดงว่าก็อบลินนี้เป็น ‘ตัวแปร’ ไม่ได้อยู่ในบันทึกเหล่านั้น
คิ๊คิ๊ก! คิ๊คิ๊คิ๊ก!
มันมีความสูงประมาณห้าสิบเซนติเมตร
‘มันยังไม่ใช่ตัวเต็มวัยงั้นเหรอ’
มันไม่ใช่ก๊อบลินที่โตเต็มวัย แต่เป็นก็อบลินเด็ก ถึงกระนั้นก็เห็นได้ชัดว่ามันรู้สัญชาติญาณของก็อบลินที่น่าขยะแขยงบ้างแล้ว เพราะมันกำลังพยายามหั่นข้อเท้าของหญิงสาวคนหนึ่งด้วยมีดสั้นในมือ ฉึบ ฉึบ—มันช่างเป็นเสียงที่น่าสยดสยอง การที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เขาต้องตัดสินใจเลือกให้ดี
‘ฉันควรจะวิ่งหนีไปเลยดีไหม?’
จะวิ่งหรือไม่วิ่ง? จะวิ่งหรือไม่วิ่ง?
‘ฉันคิดว่าฉันในตอนนี้สามารถเอาชนะก็อบลินเด็กนี่ได้มั้งนะ’
มันแตกต่างกันไปแล้วแต่คน แต่เลเวลที่แนะนำสำหรับการล่าก็อบลินอยู่ที่เลเวล 5 แต่ตัวที่อยู่ข้างหน้าเขานั้นยังไม่ใช่ก็อบลินเต็มตัว แต่เป็นเหมือนเด็กทารก สำหรับเขาแล้วด้วยค่าสเตตัสเริ่มต้นของเพลย์เยอร์ที่มี เขาคิดว่าเขาน่าจะสามารถฆ่าก็อบลินเด็กตัวนี้ได้ถ้าเขามีเวลามาก
เขาได้ยินเสียงสะอื้นอีกครั้ง
“ฮึก ฮึก ฮือ ได้โปรดช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วยนะ ได้โปรด ได้โปรดช่วยหนูด้วย หนูอยากเจอแม่ ”
คิม ฮยอกจิน กัดริมฝีปากแน่น ถ้าเขาช่วยเด็กคนนี้มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะหลงทางได้ นั่นหมายความว่าเขาจะต้องเอาชีวิตรอดกับคลื่นลูกที่ 2 โดยไร้การป้องกัน
“ดะ-ได้โปรด ช่วยหนูด้วย ”
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดคิดเพื่อตัดสินใจว่าเขาจะทำอย่างไรดี จู่ ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่ามีบางอย่างที่แปลก ๆ อยู่อย่างหนึ่ง
‘คิดสิคิด...’ ขนบนแขนของเขาลุกขึ้นทันที ‘ฉันไม่เห็นเลือดเลยสักหยด’
ผู้หญิงคนนี้… ไม่ได้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอเพียงแค่ร้องไห้ออกมาจากอาการช็อก
นี่อาจจะเป็นแค่ก็อบลินเด็ก แต่มันก็ยังมีมีดสั้นอยู่ในมือ มันสามารถใช้มีดนั่นฟันหรือแทงไปที่ข้อเท้าของเด็กผู้หญิงคนนี้ แต่ดูเหมือนว่าก็อบลินเด็กนั่นจะกำลังเพลิดเพลินไปกับการหั่นข้อเท้าของหญิงสาวคนนั้นมากกว่า
‘เธอยังไม่ได้รับความบาดแผลใดๆ’
เด็กสาวคนนี้ได้รับโบนัสเริ่มต้นด้วยใช่ไหม? เธออาจได้รับไอเท็มที่สามารถปกป้องร่างกายของเธอได้
‘แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น... เด็กสาวคนนี้จะมีชีวิตรอดต่อไปได้ยังไง...?’
อย่างดีที่สุดเธอก็คงจะเป็นนักเรียนมัธยมต้น ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า ‘การ์ดแสดงพรสวรรค์’ มักจะเปิดมากที่สุดตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นตอนปลายจนถึงช่วงต้นทศวรรษที่ 20 ซึ่งหมายความว่าเด็กสาวคนนี้ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น การ์ดของเธอยังไม่ได้ถูกเปิดจนหมด
‘เธอกันมีดสั้นนั่นได้โดยไม่มีเกราะใด ๆ เธอกันมันด้วยความสามารถของร่างกายเปล่า ๆ ของเธอ’
มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย แม้แต่ราชาหมัดโซ ยูฮยุนตอนเลเวล 1 ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำเกี่ยวกับสภาพของเธอเองในตอนนี้ เธอเพียงแค่รู้สึกถึงความคมที่ข้อเท้าของเธอพร้อมกับเสียงที่กระทบกัน เธอกำลังตกอยู่ในสภาวะตื่นตระหนก เธอไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเธอยังสบายดีไร้บาดแผลใด ๆ
'นี่คือ... พรสวรรค์ที่ฉันเคยได้ยินมาเท่านั้นเหรอ?'
จะเกิดอะไรขึ้นหากเธอได้รับโอกาสในการมีชีวิตรอดต่อไป? และถ้าเขาสามารถทำให้เธอเป็นพันธมิตรกับเขาได้ล่ะ? หรือแม้แต่ทำให้เธอคิดว่าเธอเป็นหนี้ชีวิตเขาที่ได้เข้ามาช่วยชีวิตเธอเอาไว้
‘ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เธอสามารถ...’
อาจมีโอกาสไม่มากนักเช่นกัน แต่ ‘ความไร้เดียงสา’ ของเด็กคนนี้อาจจะช่วยเขาได้มากในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็เป็นไปได้ เธอเป็นคนที่มีความสำคัญต่างไปจากผู้ชายอย่างเขาที่ได้รับการประเมินว่า “ ไม่มีพรสวรรค์ ” เพราะเขาไม่มีการ์ดแสดงพรสวรรค์แล้ว
‘ไม่มีเวลาแล้ว’
การโจมตีคลื่นลูกที่ 2 กำลังจะเริ่มขึ้นอีกในไม่ช้า
เมื่อเธอตามเขามาทัน เซเนียก็พูดว่า “ถึงแม้จะเป็นก็อบลินเด็ก แต่มันยากมากสำหรับคนที่มีเลเวล 1 มันยากเกินไปที่จะเอาชนะมัน ”
เห็นได้ชัดว่าเซเนียให้คุณค่าเขาเหมือนกับว่าเป็น ‘เนื้อคุณภาพดี’ ดูเหมือนว่าอย่างน้อยเธอก็รู้ได้ว่าการปล่อยให้เขาตายที่นี่คงจะของเสียเปล่า ๆ
เขาต้องตัดสินใจ
‘ฉันจะ…!’