STY-ตอนที่ 4 ศิษย์พี่หญิงทั้ง 7 คน
เย่เฉิน ที่ฝึกฝนเพียงแค่เวลา 5 ชั่วยาม แต่กลับ บรรลุระดับสูงของอาณาจักรปรับแต่งพลังปราณ งั้นหรือไม่?
นี่มันพรสวรรค์แบไหนกัน?
พวกนางไม่กล้าที่จะจินตนาการ
ในขณะนี้ ความตกใจได้ปรากฏบนใบหน้าน้อย ๆ ของ จ้าวซือเหยา
อีกฝ่ายใช้ระยะเวลา 5 ชั่วยาม ในการบรรลุระดับสูงของอาณาจักรปรับแต่งพลังปราณ แต่ นางกลับใช้เวลาตั้ง 1 เดือน กว่าจะเข้าสู่ระดับสูงของอาณาจักรปรับแต่งพลังปราณได้ ศิษย์น้องเล็กของนางคนนี้…
ใบหน้าเล็ก ๆ ของ จ้าวซือเหยา ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย จากนั้นนางก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับสั่นศีรษะ
“ศิษย์น้องเล็ก เจ้าช่างสุดยอดมากจริง ๆ!”เหมี่ยวหาน ได้อุ้ม เย่เฉิน ขึ้น
ซึ่งใบหน้าของ เย่เฉิน ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที
“นี่น้องชาย เหตุใดยังเขินอายอยู่เล่า? ทีเมื่อคืนเจ้าไม่เห็นดูเขินอายเลย!”เหมี่ยวหาน ที่เห็นใบหน้าที่แดงก่ำของ เย่เฉิน นางได้ยิ้มออกมาในทันที
ในปัจจุบัน เซียนหยกอมตะ ได้มองไปที่เหล่าศิษย์ของนางและกล่าวพูดออกมา“ศิษย์น้องของพวกเจ้ามีรากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะพลังและพลังเหนือธรรมชาติได้ทุกประเภท นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในฐานะที่พวกเจ้าเป็นศิษย์พี่พวกเจ้าจะต้องคอยดูแลศิษย์น้องคนนี้ให้ดี”
“เหมี่ยวหาน เจ้าเก่งในเรื่องเทคนิคการหายใจ ดังนั้นเจ้าจะต้องสอนเทคนิคกายหายใจให้กับเขา”เซียนหยกอมตะ ได้มองไปที่ เหมี่ยวหาน และ กล่าวพูดขึ้น
“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์!”เหมี่ยวหาน ได้โค้งคำนับอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้ เซียนหยกอมตะ ได้หันไปทางศิษย์พี่หญิงสี่ เยว่หลิงซือ และ ยิ้มออกมา “หลิงซือ เจ้าเก่งกาจในด้านศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุ ดังนั้น เจ้าจะต้องสอนความรู้ในเรื่องนี้ให้ศิษย์น้องของเจ้า”
“เจ้าค่ะ!”เยว่หลิงซือ ได้ตอบตกลงทันที
“จื่อหยาน เจ้ามีพรสวรรค์ที่หาจับตัวได้ยาก และ มีความชำนาญในด้าน พิณ หมากรุก การประดิษฐ์ตัวอักษร และ การวาดภาพ ด้วยความสามารถที่มากมายของเจ้า ข้าไม่ต้องการให้ศิษย์น้องเล็กน้องเจ้าต้องเป็นคนไม่รู้ความในอนาคต”เซียนหยกอมตะ ได้มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงห้า หลี่จื่อหยาน
“ท่านอาจารย์โปรดวางใจ ข้าจะสอนศิษย์น้องเล็กในสิ่งที่ข้าได้เรียนรู้มาทั้งหมด”หลี่จื่อหยาน ได้ตอบกลับทันที
จากนั้น…เซียนหยกอมตะ ก็มองไปที่ ลู่อวี๋ถิง และ ยิ้มออกมา “อวี๋ถิง เจ้าเก่งเรื่องการใช้พลังจิตวิญญาณ ดังนั้นให้เจ้าสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วน ซือเหยา เจ้าและเฉินเอ๋อร์ ต่างก็มีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา ให้พวกเจ้าเรียนรู้จากกันและกัน มันจะช่วยให้พวกเจ้าเติบโตมากยิ่งขึ้น!”
“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์!”ลู่อวี๋ถิง และ จ้าวซือเหยา ได้กล่าวพร้อมกัน
“สำหรับ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ และ ศิษย์พี่หญิงรอง ของพวกเจ้า หลังจากที่พวกนางกลับมา ข้าจะขอให้พวกนางสอน เฉินเอ๋อร์ เกี่ยวกับ คัมภีร์แห่งความชอบธรรม และ วิถีแห่งกระบี่!”
“มีคนมากเกินไปบนยอดเขาหยกอมตะ ถ้าข้าลงมือสอน เฉินเอ๋อร์ ด้วยตัวเอง เกรงว่าคนอื่นจะผิดสังเกตุเอาได้ ดังนั้น ให้พวกเจ้าแต่ละคนพาเฉินเอ๋อร์ไปเล่นในแต่ละวันและช่วยสอนเขา สิ่งนี้มันจะได้ไม่ดึงดูดความสนใจเกินไป และ ทำให้ข้าสบายใจมากยิ่งขึ้น”เซียนหยกอมตะ ได้กล่าวออกมา
“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์!”ศิษย์พี่หญิงทั้ง 5 คนได้กล่าวพูดพร้อมกัน
…
ตั้งแต่นั้นมา เย่เฉิน ก็เริ่มผลัดกันเรียนรู้ในหมู่ศิษย์พี่หญิงทั้ง 7 คนของเขา
นอกจาก ศิษย์พี่หญิงใหญ่ และ ศิษย์พี่หญิงรอง แล้ว เขาก็เรียนกับศิษย์พี่หญิงทุกคน
เหตุผลก็เพราะ ศิษย์พี่หญิงใหญ่กำลังออกไปฝึก ส่วนศิษย์พี่หญิงรองก็กำลังปิดด่านฝึกตน
ดังนั้นในวันแรก เหมี่ยวหาน ได้เริ่มสอน เย่เฉิน
ในถ้ำของ เหมี่ยวหาน
เหมี่ยวหาน ได้มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้องเล็ก ข้ามีเทคนิคการปกปิดตัวตนที่ทรงพลัง เทคนิคการเปลี่ยนแปลงนับพัน และ เทคนิคการใช้เสน่ห์ ถ้าให้ข้าแนะนำ ข้าควรจะสอนเทคนิคการใช้เสน่ห์ให้กับเจ้าก่อนดีหรือไม่?”
เย่เฉิน ที่ตั้งใจฟังรู้สึกตกใจมาก
“หืม ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากจะฝึกฝนกับพี่สาวคนนี้มาตลอดงั้นเหรอ? หลังจากที่เจ้าเรียนเทคนิคการใช้เสน่ห์แล้ว เจ้าจะสามารถฝึกฝนร่วมกับข้าได้ ว่าอย่างไร ศิษย์น้องเล็ก เจ้าอยากจะเรียนรู้มันหรือไม่?”เหมี่ยวหานได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
เย่เฉิน รู้สึกพูดไม่ออกและอดไม่ได้ที่จะยิ้มแห้งออกมา “เอ่อ…ศิษย์พี่หญิงสาม ลืมมันไปเถอะ ข้าต้องการจะเรียนรู้เทคนิคการปกปิดตัวตนและศิลปะการเปลี่ยนแปลงนับพันก่อนดีกว่า!”
“เห้อ เด็กโง่ เจ้านี่ไม่ได้เรียนรู้จากพี่สาวคนนี้เลยงั้นเหรอ เอาแต่เลือกเฉพาะสิ่งที่ไร้ประโยชน์เหล่านั้น”เหมี่ยวหาน ได้แซวแล่น
“ฮ่าฮ่า…ไว้ข้าจะเรียนรู้พวกมันภายหลังแล้วกัน”เย่เฉิน ได้เกาศีรษะและหัวเราะ
“หนุ่มน้อย เจ้านี่แสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอีกแล้ว ทั้งที่เมื่อคืนเจ้ายังคิดเรื่องไม่ดีอยู่เลย!”เหมี่ยวหาน ได้แซว เย่เฉิน อีกครั้ง
“เอาล่ะ ไม่แกล้งเจ้าแล้ว ข้าจะสอนเทคนิคการปกปิดตัวตนให้เจ้าก่อน!”เหมี่ยวหาน ได้กล่าวออกมา ในขณะที่ นางเริ่มถ่ายทอดเทคนิคการปกปิดกลิ่นอายให้กับ เย่เฉิน
เย่เฉิน รู้ดีว่า แม้ว่า เหมี่ยวหาน จะเป็นคนขี้เล่นเช่นนี้ แต่นางก็ไม่ใช่คนที่ไม่จริงจัง
ตามที่เขารู้ ศิษย์พี่หญิงทั้ง 7 ของเขาล้วนเป็น หญิงสาวที่บริสุทธิ์และไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาก่อน สำหรับ เหมี่ยวหาน นางก็แค่แซวเขาเล่นเท่านั้น
“เฉินน้อย คอยดูให้ดี นี่คือเทคนิคการปกปิดกลิ่นอาย!”เหมี่ยวหาน ได้กล่าวออกมา และ หายตัวไปต่อหน้าของ เย่เฉิน
โดย เย่เฉิน ได้เริ่มควบแน่นพลังปราณของเขาและพักฟื้น จากนั้นเขาก็จดจ่ออยู่กับการค้นหา แต่เขาก็ไม่สามารถตรวจพบกลิ่นอายของนางได้เลยแม้แต่น้อย
“ศิษย์น้องเล็ก ข้าอยู่ตรงนี้!”
เหมี่ยวหาน ได้กอด เย่เฉิน จากทางด้านหลัง
“เห็นไหม เทคนิคการปกปิดกลิ่นอายนี้ ค่อนข้างยากอยู่ แต่ด้วยพรสวรรค์ของศิษย์น้องเล็ก ข้าเชื่อว่าในครึ่งเดือน…”น้ำเสียงของ เหมี่ยวหาน ยังไม่ทันจางหายไป เย่เฉิน ที่จดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวและจดจำวิธีการฝึกได้ เขาได้เริ่มต้นการใช้เทคนิคการปกปิดกลิ่นอายในทันที จากนั้นร่างของเขาก็หายตัวไปต่อหน้านาง
เหมี่ยวหาน รู้สึกอึ้งเป็นอย่างมาก “เฉินน้อย…เจ้าเรียนรู้และใช้มันได้แล้วงั้นหรือไม่?”
“เป็นไปไม่ได้ ศิษย์น้อยเล็ก พรสวรรค์ของเจ้าจะท้าทายสวรรค์เกินไปแล้ว!”
เหมี่ยวหาน รู้สึกตกตะลึงโดยสมบูรณ์
ย้อนกลับไปในตอนนั้น นางได้ใช้เวลานานอย่างมากในการเรียนรู้เทคนิคการซ่อนกลิ่นอายของนาง แต่ เย่เฉิน กลับสามารถทำมันได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น เย่เฉิน สมควรได้รับการยกย่อง
ทั้งสองยังคงแลกเปลี่ยนและฝึกฝนกันต่อไป และ ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว มันก็ดึกมากแล้ว
เหมี่ยวหาน ได้พา เย่เฉิน เข้านอน
ซึ่ง เย่เฉิน ได้นอนอยู่บนเตียงของ เหมี่ยวหาน ในขณะที่เขาตกอยู่ในอ้อมแขนของนาง
…
หลังจากที่เมื่อวาน เหมี่ยวหาน ได้สอนเขา วันนี้ศิษย์พี่หญิงสี่ เยว่หลิงซือ ก็ได้มาสอน เย่เฉิน
เย่เฉิน ได้ตื่นตั้งแต่เช้าและเดินไปที่ถ้ำของ เยว่หลิงซือ
เยว่หลิงซือ เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุ
ทักษะการปรุงยา,ทักษะการปรับแต่งอาวุธ และ ทักษะการลงอักขระพลัง ของนางทั้งหมด ล้วนอยู่ในระดับสูง
อีกทั้งนางยังเชี่ยวชาญการแพทย์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การช่วยชีวิตผู้คนหรือการใช้พิษ นางล้วนเชี่ยวชาญพวกมันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในแง่ของบุคลิกภาพ นางไม่ได้ดูเด็ดขาดเหมือนกับ เหมี่ยวหาน โดยลักษณะตัวตนของนางดูค่อนข้างเย็นชา แต่ หลังจากที่ใช้เวลาอยู่กับนางมาพักนึง เขาก็รู้สึกว่านางดูบ้องตื้นเล็กน้อย
เย่เฉิน ได้เดินมาที่ถ้ำของ หลิงซือ และ เคาะประตู “ศิษย์พี่หลิงซือ ข้ามาแล้ว!”
ผ่านไปนานก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ เย่เฉิน ได้เคาะประตูอีกครั้ง
“ศิษย์พี่หญิงสี่!”เย่เฉิน ได้เคาะประตูอีกครั้ง
“ใครกัน?”ในเวลานี้ เยว่หลิงซือ ได้เปิดประตูถ้ำ โดยผมนุ่มฟูของนางยังคงมัดอยู่ และ ดวงตาของนางก็ดูมัวหมอง ราวกับพึ่งตื่นนอน
จากนั้น เยว่หลิงซือ ก็เหยียดมือและหาวออกมา
“ที่แท้ก็ เฉินน้อยนี่เอง!”หลิงซือได้หาวอีกครั้ง