STY-ตอนที่ 2 รากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
วันถัดไป.
เย่เฉินได้ตื่นขึ้นมา
ในเวลานี้ เหมี่ยวหาน กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งและกำลังแต่งหน้า
ร่างกายเล็ก ๆ ของ เย่เฉิน ได้พลิกไปมา ก่อนที่จะลุกขึ้น และ ในเวลานี้ เหมี่ยวหาน ก็ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า “หนุ่มน้อย รีบลุกขึ้นมาแล้วไปล้างหน้าเร็ว จากนั้นจะได้รีบไปทักทายท่านอาจารย์!”
เหมี่ยวหาน ไม่ได้พูดอะไรราวกับว่านางได้ลืมเหตุการณ์เมื่อคืนไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เหมี่ยวหาน มีบุคลิกที่กล้าหาญและไม่ได้ถูกจำกัด สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก็เป็นเพียงแค่เรื่องขบขันสำหรับนาง ดังนั้นนางจะเก็บมาใส่ใจได้อย่างไร
เย่เฉิน ได้ล้างหน้า แล้ว พยายามคิดถึงเรื่องการลงชื่อเข้าใช้ในวันนี้
เขาที่มีประสบการณ์ และ ตามที่ระบบแนะนำ เขาพอจะรู้แล้วว่า ยิ่งสถานที่ที่มีกลิ่นอายพลังเต๋าแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ รางวัลที่ได้รับจากการลงชื่อเข้าใช้ก็จะยิ่งดีมากยิ่งขึ้น
เมื่อคืน เขาได้ลงชื่อเข้าใช้ในห้องของ เหมี่ยวหาน แต่เดิมห้องของ เหมี่ยวหาน ก็เป็นสถานที่หลับนอน ดังนั้นเขาจึงได้รับ ผงเสน่ห์ เป็นของรางวัล ทว่า ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ของพวกเขา มีสถานที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังเต๋าที่แข็งแกร่งจำนวนมาก
หลังจากที่ อันเหมี่ยวหาน แต่งตัวเสร็จ
เย่เฉิน ก็ชื่นชมความงามของ อันเหมี่ยวหาน ในทันที
เขาได้เงยหน้าขึ้นมอง เหมี่ยวหาน ที่สวมชุดคลุมสีขาวธรรมดา และ มันไม่สามารถห่อหุ้มร่างที่เล็กกระทัดรัดของนางได้ อีกทั้งนางยังดูเย็นชาและเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างยิ่ง เมื่อนางสะบัดผม ผมสีดำยาวของนางก็ร่วงหล่นลงมาราวกับน้ำตก
โดยเฉพาะช่วงรอบคอที่เนียนดุจหยก มันช่างน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก
อีกทั้งยังมีดวงตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และ มุมปากเล็ก ๆ ที่ดูเย้ายวน มันค่อนข้างน่าดึงดูดใจ ให้คนอื่นมาจุมพิตนาง
ในบรรดาศิษย์พี่หญิงทั้ง 7 คน อันเหมี่ยวหาน ถือเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากที่สุด
ทุกครั้งที่ นางออกจากยอดเขาหยกอมตะ การปรากฏตัวของ อันเหมี่ยวหาน จะถูกจินตนาการโดยบุรุษที่มีกลิ่นเหม็นจากยอดเขาอื่น ๆ
“น้องชาย พวกเราไปกันเถอะ!”เหมี่ยวหาน ได้กล่าวพูดเบา ๆ นางชอบน้องชายของนางคนนี้มาก และ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่านางถึงพาเขาเข้ามาที่นี่เพื่อนอนทุกคืน
เย่เฉิน ได้ตอบกลับด้วยคำว่า ‘อืม’ โดยมือของเขาได้ถูก เหมี่ยวหาน จูงไป ในขณะที่พวกเขาเดินไปที่พระราชวังหยกอมตะ
พระราชวังหยกอมตะ ก็คือ พระราชวังหลักของยอดเขาหยกอมตะ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่ยอดเขาหยกอมตะ ทำการเทศนาเพื่อการเรียนรู้
ยอดเขาหยกอมตะมีผู้อาวุโสทั้งหมด 7 คน โดยเซียนหยกอมตะเป็นคนนำพวกเขาเข้ามา ซึ่ง ผู้อาวุโสแต่ละคนก็มีศิษย์มากมายภายใต้พวกเขา ซึ่งเมื่อเทียบกับ เซียนหยกอมตะ แล้ว ศิษย์ของพวกเขามีค่อนข้างมาก เพราะตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาของ เซียนหยกอมตะ นางได้รับ ศิษย์เพียงแค่ 7 คน และ ถือเป็นศิษย์พี่หญิงทั้ง 7 คนของ เย่เฉิน
อย่างไรก็ตาม ศิษย์ทั้ง 7 คนนี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากในยอดเขาหยกอมตะ พวกนางเกือบทั้งหมดเกือบจะเป็นศิษย์ชั้นยอด แม้แต่ใน 4 ยอดเขา มีเพียง ศิษย์ที่พิเศษไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถเปรียบเทียบพวกนางได้
เหมี่ยวหาน ได้พา เย่เฉิน ไปที่พระราชวังหยกอมตะ
โดยที่นี่เต็มไปด้วยเมฆและหมอกที่ปั่นป่วนราวกับ ดินแดนแห่งความเป็นอมตะ…
ระหว่างทาง เมื่อเหล่าศิษย์คนอื่น เห็น เหมี่ยวหาน และ เย่เฉิน พวกเขาก็โค้งคำนับเล็กน้อยและกล่าวทักทาย “ทำความเคารพ ศิษย์พี่หญิงสาม และ สวัสดี ศิษย์น้องเล็ก!”
เหมี่ยวหาน ก็ดูสุภาพมาก นางได้ตอบกลับคำทักทาย
หลังจากนั้น เหมี่ยวหาน ก็พา เย่เฉิน เดินเข้าไปในพระราชวังหยกอมตะ
เมื่อเข้าไปในพระราชวังหยกอมตะ พวกเขาก็เห็น เซียนหยกอมตะ นั่งอยู่บนที่นั่งหลักในห้องโถง ซึ่งนางได้เปล่งประกายออร่าดุจเซียนออกมา
ศิษย์ทั้ง 3,000 คนที่อยู่ต่ำกว่าทั้งหมดต่างโค้งคำนับและแสดงความเคารพต่อ เซียนหยกอมตะ
นี่คือมารยาทของ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ในช่วงเช้าวันแรกของทุกเดือน นอกจากศิษย์ที่กำลังปิดด่านฝึกตน เหล่าศิษย์ทั้งหมดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์จะต้องออกมาสักการะอาจารย์ของพวกเขา
เย่เฉิน ได้มองไปที่ ศิษย์ทั้ง 3,000 คน ที่ล้วนแต่งกายด้วยชุดขาวดุจหิมะ หากพวกนางได้รับการจัดอันดับ พวกนางทั้งหมดย่อมถูกจัดว่าเป็นสตรีที่เลอโฉมทุกคน แม้ว่า ยอดเขาหยกอมตะ ของพวกเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่พวกเขาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คน โดยเฉพาะเหล่าสาวงามทั้ง 3,000 คน ที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับยอดเขา
โดย อีก 3 ยอดเขานั้นเต็มไปด้วย ศิษย์บุรุษ ดังนั้น พวกเขาจะพลาดชมความงามทั้ง 3,000 คน ของยอดเขาหยกอมตะงั้นหรือไม่?
หลังจากแสดงความเคารพเสร็จแล้ว ศิษย์ทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปฝึกฝน
ดังนั้นที่นี่จึงเหลือเพียงแค่ 6 คน เท่านั้นที่ยืนอยู่ต่อหน้า เซียนหยกอมตะ
ทั้ง 6 คนนี้ เป็น ศิษย์พี่หญิงสามของเย่เฉิน ศิษย์พี่หญิงสี่ ศิษย์พี่หญิงห้า ศิษย์พี่หญิงหก และ ศิษย์พี่หญิงเจ็ด รวมทั้ง เย่เฉิน
ส่วนศิษย์พี่หญิงใหญ่ ได้ออกไปฝึกฝนในโลกภายนอกและไม่ได้อยู่ในนิกาย ศิษย์พี่หญิงรอง เองก็ปิดด่านฝึกตนอยู่
ศิษย์พี่หญิงของ เย่เฉิน แต่ละคน ล้วนมีความงามไร้ใดเปรียบ ซึ่งพวกนางทั้งหมด ราวกับนางเซียนนางสวรรค์ที่ไม่ได้แปดเปื้อนความโสมมบนโลกมนุษย์
ศิษย์พี่หญิงสี่ของเขา ศิษย์พี่หญิงห้า และ ศิษย์พี่หญิงหก มีอายุมากกว่าเขาเพียงเล็กน้อย ทว่าความงามของพวกนางก็สวยในระดับทำลายล้างด้วยกันทั้งคู่
ส่วนศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขา แก่กว่า เย่เฉินเพียง 2 ปี ถึงแม้ว่า นางจะอายุยังน้อย แต่ความงามอันไร้ใดเปรียบของนาง ก็สามารถทำลายโลกได้เลย
“เฉินเอ๋อร์ มานี่!”เซียนหยกอมตะ ได้โบกมือของนางเบา ๆ
โดย เย่เฉิน ได้เดินมาที่ด้านหน้า เซียนหยกอมตะ และ กล่าวพูดออกมา “แม่!”
การเรียก ‘แม่’ ของเขา ค่อนข้างแปลก อย่างไรก็ตาม เซียนหยกอมตะ กลับยิ้มออกมา และ จับมือ เย่เฉิน“เฉินเอ๋อร์ ในช่วง 2 วันนี้แม่ค่อนข้างยุ่ง ดังนั้น เจ้าคงไม่โทษแม่ที่ปล่อยให้ เหมี่ยวหาน ดูแลเจ้าหรอกใช่มั้ย?”
“ย่อมไม่แน่นอน!”เย่เฉิน รีบตอบกลับ
“ดีแล้ว ที่เจ้าไม่ได้คิดอะไร เอาล่ะ เฉินเอ๋อร์ รับนี่ไป!”เซียนหยกอมตะ ได้หยิบกล่องออกมาแล้วยื่นให้กับ เย่เฉิน
“นี่คือโอสถวิเศษที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณได้ ซึ่ง แม่ ได้เดินทางไปที่ หุบเขาราชาโอสถ เพื่อขอมันมา หลังจากกินเข้าไป บางทีเจ้าอาจจะมีความหวังที่จะสร้างรากวิญญาณขึ้นมาได้ และ หลังจากนั้น เจ้าก็จะมีโอกาสเริ่มต้นการฝึกฝน”เซียนหยกอมตะ ได้กล่าวออกมา
เย่เฉิน ได้เงยหน้าขึ้นและมองไปที่แม่ของเขา ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม่ของเขาไม่เคยหยุดที่จะดูแลเขาเลย โดย นางได้มองหาขุมทรัพย์และสมบัติมากมายมาประเคนให้กับเขา โดยหวังว่าเขาจะสามารถฝึกฝนได้เหมือนกับคนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม พวกมันทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์
แม่ของเขาช่างเป็นคนที่น่าภาคภูมิใจจริง ๆ นางได้ไปร้องขอคนอื่นเพื่อช่วยเหลือเขา เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าแม่ของเขา ได้พยายามอย่างหนักเพื่อเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โดย เย่เฉิน ได้พยักหน้า และ รีบกลืน โอสถวิเศษ ภายในกล่องนี้ลงไป
ในขณะนี้ ศิษย์หลายคนต่างมองไปที่ เย่เฉิน อย่างกระตือรือร้น โดยพวกนางหวังว่า เย่เฉิน จะสามารถสร้างรากวิญญาณได้
ในทวีปเทียนซวน โดยทั่วไปแล้วมีรากวิญญาณทั้งหมด 5 ประเภท ทอง,ไม้,น้ำ,ไฟ และ ดิน
อย่างไรก็ตาม มีคนพิเศษบางคนที่ไม่มีรากวิญญาณ เช่นเดียวกับ เย่เฉิน โดยพวกเขาจะถูกเรียกว่าพวกพิการรากวิญญาณ ซึ่ง คนเหล่านี้จะไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้
ทว่า ก็มีบางคนที่สามารถปลุกรากวิญญาณได้ 2-3 ประเภท คนเหล่านี้ถูกเรียกว่าอัจฉริยะ
อย่างไรก็ตาม มันก็มีบางคนที่สามารถปลุกรากวิญญาณพิเศษประเภทนึงขึ้นมา ที่สามารถฝึกฝนเทคนิคใดก็ได้ โดยรากวิญญาณเหล่านี้ จะถูกเรียกว่า รากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
เวลาได้ผ่านไปนาน แต่ร่างกายของ เย่เฉิน ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อย
“เห้อ นี่ก็ไม่ได้อีกงั้นเหรอ”
“ข้าไม่ได้ต้องการให้บุตรชายของข้ามีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา ข้าเพียงต้องการให้บุตรชายของข้าสามารถฝึกฝนและปกป้องตัวเองจากโลกที่วุ่นวายนี้ได้ แต่…”เซียนหยกอมตะ ได้สั่นศีรษะและกล่าวพูดขึ้น
“ท่านอาจารย์โปรดวางใจ แม้ว่า ศิษย์น้องเล็ก จะไม่สามารถฝึกฝนได้ แต่พวกเราก็จะคอยปกป้องเขาเอง”ในตอนนี้ ศิษย์พี่หญิงของเย่เฉิน ได้กล่าวออกมาทันที
เย่เฉิน ได้มองไปที่ แม่ของเขา เขาไม่อยากจะทำให้แม่ของเขาผิดหวัง ดังนั้นเขาจึงได้พยายามอย่างเต็มที่และกล่าวพูดในใจโดยตรง “ลงชื่อเข้าใช้!”
ขณะที่ ทุกคนกำลังผิดหวัง เสียงกลไกบางอย่างก็ดังขึ้นในใจของ เย่เฉิน
[ติ๊ง โฮสต์ ได้ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังหยกอมตะ แล้ว ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณได้รับ รากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!]
[รากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กำลังถูกแจกจ่าย…]
[การปรับปรุงร่างกายของโฮสต์ได้รับเริ่มต้นขึ้น…]
[ร่างของโฮสต์ได้รับการผูกมัดเข้ากับรากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เรียบร้อย]
ทันใดนั้น เย่เฉิน ก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นภายในร่างกายของเขา ในเวลานี้ คลื่นพลังบางอย่าง ได้ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของ เย่เฉิน
สิ่งนี้ทำให้ เซียนหยกอมตะ รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก ในขณะที่ นางจ้องมองไปที่ บุตรชาย ของนางอย่างกระตือรือร้น
ในปัจจุบัน ร่างของ เย่เฉิน ได้ลอยขึ้นไปในอากาศ และ เปล่งแสงสีทองอันเจิดจ้าออกมา
ลำแสงหลากสีได้ปรากฏขึ้นบนร่างกายของ เย่เฉิน
และมันได้แสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ปะปนกัน แม้กระทั่งเงาของ มังกรและฟีนิกซ์ที่ส่งเสียงร้องออกมา
“นี่คือ…รากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ บุตรชายของข้า มีคุณสมบัติที่จะกลายเป็นจักรพรรดิ!”เซียนหยกอมตะได้กล่าวออกมาด้วยความตกใจถึงสุดขีด
รากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!
ในเวลานี้ ทั่วทั้งสถานที่ได้กลายเป็นเงียบสงัด
แม้แต่ ศิษย์พี่หญิงของเย่เฉิน ก็ยังตกใจมากจนอ้าปากค้าง ราวกับว่าปากของพวกนางสามารถยัดไข่ไก่ลงไปได้ตลอดเวลา และ ร่างของพวกนางก็แข็งค้างกลายเป็นหินในทันที