บทที่ 36: ไร้มนุษยธรรม
บทที่ 36: ไร้มนุษยธรรม
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด ลำแสงก็พุ่งเข้าใส่ฝูงชนราวกับดาวตก มันระเบิดและสร้างหลุมขนาดใหญ่บนภูเขาขึ้นในทันที
ลมแรงพัดโหมกระหน่ำ ก้อนหินบนภูเขาแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และฝุ่นละอองก็ปลิวไปทุกหนทุกแห่ง
ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ศิษย์นิกายอสูรกระดูกขาวจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้เสียชีวิตลง
จื่ออู๋เซียกำร่มพลิกภูผาไว้ในมือของเธอขณะที่เคล็ดวิชาเก้าฟีนิกซ์เปลี่ยนรูปในร่างกายของเธอกำลังหมุนเวียนด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด เงาฟีนิกซ์ที่อยู่ข้างหลังเธอยังคงกระพือปีก มันพัดลมไปข้างหน้าราวกับเป็นพายุลูกใหญ่
การระเบิดที่รุนแรงดังขึ้นบนภูเขาอย่างต่อเนื่องและเสียงกรีดร้องที่บีบหัวใจก็ส่งเสียงดังลั่นไปทั่วทุกที่
ไม่เพียงแค่นั้น แต่จื่ออู๋เซียก็ยังโยนร่มพลิกภูผาออกมาจากมือของเธอ
ทุกครั้งที่เธอขว้างมันออกไป ร่มพลิกภูผาก็จะทำลายศิษย์ของนิกายอสูรกระดูกขาวโดยตรง
“จะมากเกินไปแล้ว! เจ้าคิดจริงๆ หรอว่าไม่มีใครในนิกายอสูรกระดูกขาวของเราที่จะสามารถจัดการเจ้าได้?”
ขณะที่จื่ออู๋เซียกำลังเข่นฆ่าอย่างมีความสุข ออร่าอันทรงพลังก็ได้ปะทุขึ้นจากด้านซ้ายของเธอ มันคือผู้อาวุโสที่อยู่ในขอบเขตวิญญาณ
ขณะที่การโจมตีของเขากำลังจะตกกระทบบนตัวจื่ออู๋เซีย ทันใดนั้นลำแสงอันเยือกเย็นก็พุ่งออกมาจากความมืด จากนั้นหอกที่ดูเหมือนกับมังกรก็แทงทะลุหน้าอกของผู้อาวุโสจากนิกายอสูรกระดูกขาวโดยตรงและตอกเขาไว้ติดกับกำแพงหินด้านหลัง
“ศิษย์น้องจื่อ เจ้ามาถึงเร็วจริงๆ!”
หยุนหลี่เกอยิ้มอย่างชั่วร้ายและก้าวไปข้างหน้า เขาคว้าหอกโลงศพมังกรออกมาและเข้าร่วมการต่อสู้
ฟางเทียนหยวนมาถึงเป็นคนสุดท้าย แต่การแสดงออกของเขาก็ค่อนข้างหดหู่อย่างเห็นได้ชัด
ความแข็งแกร่งของกายาทองไร้เทียมทานนั้นเหนือกว่าคัมภีร์โกลาหลบรรพกาลมาก แต่ความเร็วของมันก็ช้ากว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกัน
เขาทำได้เพียงโยนเอาความโกรธทั้งหมดไประบายลงกับศิษย์และผู้อาวุโสของนิกายอสูรกระดูกขาว ด้วยค้อนอินทรีทองคำในมือของเขา เขาก็สามารถสังหารศิษย์นิกายอสูรกระดูกขาวลงได้อย่างง่ายดาย
นี่คือการสังหารหมู่ การสังหารหมู่ฝ่ายเดียว!
ด้วยหยุนหลี่เกอและอีกสองคนที่ทำงานผสานกัน ศิษย์ระดับต่ำจากนิกายอสูรกระดูกขาวจึงไม่สามารถต้านทานพวกเขาได้
ราวกับว่าทั้งสามกำลังหั่นผัก
เมื่อเห็นศิษย์ของนิกายอสูรกระดูกขาวและผู้อาวุโสระดับต่ำตายลงไปทีละคน ในที่สุดผู้อาวุโสที่แท้จริงของนิกายอสูรกระดูกขาวก็อดไม่ได้ที่จะโจมตี
“อย่าให้มันมากเกินไปนะ!”
ผู้อาวุโสขอบเขตภูผาสมุทรของนิกายอสูรกระดูกขาวเหยียบสายลมและมุ่งหน้าตรงไปยังหยุนหลี่เกอ
ขณะที่เขาพูด เขาก็ได้ฟันกระบี่ออกไปแล้ว
ลำแสงกระบี่พุ่งออกไปไกลกว่า 200 เมตรในท้องฟ้ายามค่ำคืน มันส่องสว่างในยามค่ำคืนและทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องอุทาน
“นั่นมันผู้อาวุโสเฉียนนี่ เขาเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตภูผาสมุทรและฝึกฝนเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตปฐพีขั้นกลาง กระบี่มาร! นอกจากนี้เขายังฝึกมันจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว! เรารอดแล้ว!!!”
ศิษย์คนหนึ่งที่รู้จักตัวตนของอีกฝ่ายรีบตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้น
ความสิ้นหวังในดวงตาของศิษย์คนอื่นๆ เองก็ถูกกวาดออกไปและกลายเป็นความตื่นเต้นและความคาดหวัง
อย่างไรก็ตาม!
หยุนหลี่เกอก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลบเลย ยิ่งไปกว่านั้น เขายังก้าวไปข้างหน้าและโบกหอกโลงศพมังกรในมือขณะที่ปลดปล่อยเสียงคำรามของมังกรที่สั่นสะเทือนโลก ลำแสงหอกตัดผ่าลำแสงกระบี่ของผู้อาวุโสเฉียนโดยตรง
ลำแสงหอกของหยุนหลี่เกอไม่ได้สูญเสียความทรงพลังของมัน ในขณะนี้ มันก็ยังคงพุ่งไปข้างหน้าต่อไป เมื่อมันพัดผ่านร่างของผู้อาวุโสเฉียน ความเร็วของมันก็จึงค่อยลดลง
หลังจากเดินโซเซไปสองก้าว หัวของผู้อาวุโสเฉียนก็กลิ้งหลุดลงมาจากบ่าของเขา และร่างกายของเขาก็ล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
“อะไรกัน?!”
ศิษย์นิกายอสูรกระดูกขาวต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งนี้
ผู้อาวุโสเฉียนซึ่งอยู่ที่ขอบเขตภูผาสมุทรล้มเหลวในการสกัดกั้นการโจมตีของอีกฝ่าย!
นี่อีกฝ่ายแข็งแกร่งท้าทายสวรรค์ขนาดไหนกัน?
ในขณะนี้ หยุนหลี่เกอก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งเขาจะสามารถฆ่าผู้ฝึกตนขอบเขตภูผาสมุทรได้ในทันที!
แม้ว่าจะมีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้องและมันก็ยังไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาเพียงอย่างเดียว แต่มันก็ยังทำให้เขารู้สึกโหยหาความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
วันหนึ่ง เขาจะฝึกตนจนถึงจุดที่เขาสามารถพึ่งพาความแข็งแกร่งของตนเพียงอย่างเดียวเพื่อฆ่าผู้ฝึกตนขอบเขตภูผาสมุทรได้!
นิกายอสูรกระดูกขาวไม่ได้โง่เขลา หลังจากประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ พวกเขาก็เริ่มเป็นห่วงผู้อาวุโสและศิษย์ทุกคนที่มีการฝึกตนที่อ่อนแอในทันที
“ผู้อาวุโสและศิษย์ทุกคนที่มีระดับการฝึกตนอยู่ต่ำกว่าขอบเขตภูผาสมุทรจงรีบกลับเข้าไปในภูเขาทันที!”
ทันทีที่มีการประกาศเกิดขึ้น ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกราวกับว่าชีวิตของพวกเขาได้รับการช่วยเหลือแล้ว พวกเขารีบกลับขึ้นไปบนภูเขาอย่างรวดเร็ว
“ใครอนุญาติให้เจ้าไปกัน?”
ฟางเทียนหยวนมีอารมณ์ไม่ดีนักหลังจากที่พ่ายแพ้เรื่องความเร็วให้กับศิษย์พี่ทั้งสอง เขาต้องการจะหาที่ระบาย ดังนั้นแล้วอะไรจะเหมาะสำหรับการระบายอารมณ์ไปได้มากกว่าการสังหารศัตรู?
อย่างไรก็ตาม นิกายอสูรกระดูกขาวก็ไม่ยอมถูกล้อเลียนเช่นกัน ผู้อาวุโสขอบเขตสกัดวิญญาณพุ่งเข้ามาหาฟางเทียนหยวนโดยตรง ในขณะเดียวกัน เขาก็ปลดปล่อยการโจมตีที่รุนแรงออกมา
“แล้วใครอนุญาติให้เจ้าฆ่าศิษย์ของนิกายอสูรกระดูกขาวกัน?”
ฟางเทียนหยวนพ่นลมหายใจออกมา
“แล้วทำไมข้าถึงต้องขออนุญาตเจ้าด้วย!”
ขณะที่เขาพูด เขาก็ปล่อยหมัดออกไปเช่นกัน เงาปีศาจยักษ์สีทองเองก็
โบกมือและทำเช่นเดียวกัน
ในท้ายที่สุด หมัดของผู้อาวุโสขอบเขตสกัดวิญญาณและฟางเทียนหยวนก็ปะทะกัน
บู้มมมม!
ด้วยการระเบิด คลื่นพลังวิญญาณก็ได้สร้างหลุมขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าหนึ่งกิโลเมตรขึ้นในทันที!
ดอกไม้และต้นไม้จำนวนนับไม่ถ้วนถูกพัดปลิวออกไปเนื่องจากคลื่นแรงระเบิดที่รุนแรง จากนั้นพวกมันก็ถูกทำลายลงและกลายเป็นฝุ่น
เปลวเพลิงจากการระเบิดได้ลุกไหม้ภูเขาหลายลูกที่อยู่รายรอบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อแสงจ้าจากการระเบิดหายไป ทุกคนก็พบว่าฟางเทียนหยวนไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสขอบเขตสกัดวิญญาณก็กระเด็นกลับออกไปหนึ่งร้อยเมตร
เสื้อผ้าที่แขนของเขาถูกฉีกขาดทั้งหมด และเส้นเลือดบนแขนของเขาก็ระเบิดเนื่องจากแรงกดดันอันมหาศาล สิ่งนี้ทำให้เลือดของเขาไหลออกมาไม่หยุด
“มันเป็นไปได้ยังไง!”
สมาชิกของนิกายอสูรกระดูกขาวต่างตกตะลึง!
“ผู้อาวุโสหยุนอยู่ที่ขอบเขตสกัดวิญญาณขั้นสอง แต่เขาก็ยังพ่ายแพ้ให้กับอีกฝ่าย! นี่มันเป็นไปไม่ได้! เห็นได้ชัดว่าออร่าของอีกฝ่ายไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น!”
ผู้อาวุโสหยุนไอเบาๆ และกล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึมว่า “มีคนตั้งค่ายกลเพื่อระงับความแข็งแกร่งของข้า แม้ว่าระดับการฝึกตนของข้าจะอยู่ที่ขอบเขตสกัดวิญญาณขั้นสอง แต่ความแข็งแกร่งที่ข้าสามารถปลดปล่อยได้ในตอนนี้นั้นก็อยู่แค่ขอบเขตภูผาสมุทรขั้นสองเท่านั้น!”
“อย่างไรก็ตาม ออร่าของอีกฝ่ายก็ยังอยู่ในขอบเขตภูผาสมุทรขั้นสองด้วยเช่นกัน!”
ดวงตาของผู้อาวุโสหยุนดูลึกล้ำในขณะที่เขาจ้องไปที่ฟางเทียนหยวนอย่างจดจ่อ
“นี่จะต้องเป็นเพราะเคล็ดวิชาการฝึกตนของเขานั้นไม่ใช่เคล็ดวิชาการฝึกตนธรรมดา อย่างน้อยๆ มันก็จะต้องเป็นเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตเซียน! ในสถานการณ์ที่ระดับการฝึกตนของเราเท่ากัน พลังวิญญาณของเขาก็จะมีมากกว่าของข้าหลายเท่า!”
“อะไรนะ?!”
ในเวลานี้ รูม่านตาของทุกคนในนิกายอสูรกระดูกขาวก็หดตัวลงและหนังศีรษะของพวกมันก็ชา!
อีกฝ่ายมีเคล็ดวิชาการฝึกตนเหนือกว่าขอบเขตเซียน!
เป็นที่ทราบกันดีว่าในอาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่ มันก็มีเพียงราชวงศ์และผู้ที่มีอำนาจล้นเหลือเท่านั้นที่จะมีเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตเซียน เกือบทุกนิกายในอาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่นั้นไม่มีเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตเซียน อย่างมากที่สุด พวกเขาก็มีแค่เคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตสวรรค์ชั้นยอดเท่านั้น
สำหรับเคล็ดวิชาการฝึกตนที่แข็งแกร่งที่สุดของนิกายอสูรกระดูกขาว มันก็เป็นเพียงเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตสวรรค์ขั้นสูงเท่านั้น
หลังจากที่ผู้อาวุโสหยุนกล่าวจบ ร่างๆ หนึ่งก็มาถึงอย่างเงียบๆ ขณะที่มือของเขาไขว้อยู่ที่ด้านหลัง
“ข้าเกรงว่าพวกมันจะมีเคล็ดวิชาการฝึกตนเหนือกว่าขอบเขตเซียนมากกว่าหนึ่ง”
เมื่อเห็นคนๆ นี้มาถึง ทุกคนก็คุกเข่าลงทันที
“ทำความเคารพท่านผู้นำนิกาย!”
“ลุกขึ้นได้!”
ทุกคนยืนขึ้นและผู้อาวุโสคนหนึ่งก็รีบเดินไปที่ด้านข้างของผู้นำนิกาย
“ท่านผู้นำนิกาย เมื่อกี้ท่านหมายความว่าอย่างไร…?”