บทที่ 33: นิกายอสูรกระดูกสีขาว
บทที่ 33: นิกายอสูรกระดูกสีขาว
ทั้งสามคนตกใจ
“ท่านอาจารย์หมายความว่า…?”
ลู่เสี่ยวหรันหันหลังเดินกลับไปที่ด้านบนยอดเขา
“ความลับของยอดเขาจื่อฉุ่ยจะต้องไม่รั่วไหลออกไป ข้าจะกลับไปเตรียมตัว รอข้าที่นี่ คืนนี้นิกายอสูรกระดูกขาวจะต้องถูกลบออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์!”
ห้ะ!
ทั้งสามคนรู้สึกได้ทันทีว่าหนังศีรษะของพวกเขากำลังลุกซู่
“ท่านอาจารย์ต้องการจะทำลายนิกายอสูรกระดูกขาวจริงๆ หรอ?”
“นี่มันบ้าเกินไปแล้ว! เขาต้องการจะทำลายทั้งนิกายเลยหรอ! แม้ว่าความแข็งแกร่งของนิกายอสูรกระดูกขาวจะด้อยกว่านิกายอสูรสวรรค์ แต่มันก็ยังเป็นนิกาย! หากเราทำลายนิกายอสูรกระดูกขาว มันก็จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน ผู้คนทั่วทั้งอาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่จะต้องทำการสืบสวนเรื่องนี้อย่างแน่นอน”
แม้ว่าการต่อสู้ระหว่างผู้ฝึกตนจะเป็นเรื่องปกติ แต่มันก็ย่อมมีขีดจำกัด
การฆ่าคนไม่กี่คนนั้นไม่ใช่ปัญหา
อย่างไรก็ตาม การทำลายนิกายทั้งนิกายนั้นก็เป็นเรื่องที่มากเกินไป
มิฉะนั้นแล้ว หากนิกายใดนิกายหนึ่งต้องการทรัพยากรของนิกายอื่นและเริ่มการสังหารหมู่ขึ้นมา อาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่ทั้งหมดจะไม่ตกอยู่ในความโกลาหลหรอกหรอ?
อาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่จะสอบสวนเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตาม ฟางเทียนหยวนก็กล่าวว่า “แต่ถ้าอาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่ทั้งหมดได้รับรู้ถึงความลับของยอดเขาจื่อฉุ่ยของเรา มันก็ไม่ต้องพูดถึงแค่พระราชวังจักรพรรดิสันติราชาเลย แม้แต่ศิษย์คนอื่นๆ ในนิกายอสูรสวรรค์ของเราก็จะต้องมุ่งเป้ามาโจมตีเราแน่!”
ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้ หยุนหลี่เกอและจื่ออู๋เซียก็เงียบสนิท
ความมั่งคั่งของบุคคลคือความพินาศของตัวเขาเอง
หากความลับของยอดเขาจื่อฉุ่ยถูกแพร่กระจายออกไป มันก็จะดึงดูดความสนใจผู้คนมากมาย
และเมื่อเรื่องแดงถึงระดับหนึ่ง พวกเขาก็จะไม่สามารถปิดบังเรื่องเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตราชันยุทธ์ได้อีกต่อไป และทั้งสี่คนก็จะกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนในอาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่
ในขณะนี้ แม้แต่จื่ออู๋เซียซึ่งมองโลกในแง่ดีก็ยังอดไม่ได้ที่จะแสดงความเย็นชาออกมา
มันเป็นความจริงที่เธอใจดี แต่เธอไม่ได้โง่
ไม่มีใครสามารถต้านทานการล่อลวงของเคล็ดวิชาการฝึกตนขอบเขตราชันยุทธ์ชั้นยอดได้
ท้ายที่สุดแล้ว นั่นก็คือใบเบิกทางสู่ขอบเขตราชันยุทธ์!
…
ห่างจากนิกายอสูรสวรรค์ไป 500 กิโลเมตร ในห้องโถงของนิกายอสูรกระดูกขาว
ผู้นำนิกายนั่งอยู่บนบัลลังค์ในห้องโถง บนเสื่อด้านล่าง ผู้อาวุโสนิกายหลายคนกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่
พื้นที่มืดดูค่อนข้างแปลกตา
ผู้นำนิกายสัมผัสแหวนหยกในมือของเขาและมองออกไปในระยะไกลในทิศทางของนิกายอสูรสวรรค์
“ผู้อาวุโสเฉินซวนไปที่นิกายอสูรสวรรค์เพื่อตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เขาน่าจะกลับมาในหนึ่งหรือสองวันนี้ แจ้งทั้งนิกายและศิษย์ทุกคนให้เตรียมพร้อม เมื่อผู้อาวุโสเฉินซวนพบข่าวดี พวกเราก็จะทำงานร่วมกับนิกายโดยรอบเพื่อจัดการกับนิกายอสูรสวรรค์ในทันที!”
“เราไม่สามารถปล่อยให้นิกายอสูรสวรรค์ผูกขาดผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียวได้!”
“ท่านผู้นำนิกายพูดถูก เราได้จัดเตรียมเหล่าศิษย์เรียบร้อยแล้ว ตราบใดที่ผู้นำนิกายสั่ง เราก็จะสามารถเริ่มโจมตีนิกายอสูรสวรรค์ได้ทุกเมื่อทุกเวลา”
“ดีมาก!”
ดวงตาของผู้นำนิกายอสูรกระดูกขาวเป็นประกาย
เขาจะไม่ทำลายนิกายอสูรสวรรค์อย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว อาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่ก็ไม่อนุญาตให้นิกายในอาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่ห้ำหั่นกันเอง
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขารวมพลังกับนิกายอีกสองสามนิกายเพื่อปิดล้อมนิกายอสูรสวรรค์และโจมตีเฉพาะพวกระดับสูงกว่าของนิกายอสูรสวรรค์โดยไม่ก่อให้เกิดการสังหารในวงกว้าง อาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่ก็จะเมินเฉยต่อมันเช่นกัน
นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ นิกายอสูรสวรรค์เป็นผู้ดำรงอยู่ที่ค่อนข้างทรงพลังในอาณาจักรโจวอันยิ่งใหญ่
เมื่อหลายเดือนก่อน นิกายอสูรสวรรค์ก็มีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง ผู้คนจึงพากันคาดเดาว่าพวกเขาจะต้องได้รับโอกาสที่ดีมาแน่ๆ
และหากนิกายอสูรสวรรค์ยังคงพัฒนาและเติบโตต่อไป พวกเขาก็จะกดนิกายอื่นๆ ให้ตกต่ำลงอย่างแน่นอน
แม้ว่านิกายใกล้เคียงกับนิกายอสูรสวรรค์นั้นจะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่บางทีพวกเขาก็อาจจะยังคงหวาดกลัวนิกายอสูรสวรรค์อยู่บ้าง แต่นั่นก็ไม่ใช่กับนิกายอสูรกระดูกขาว
นับตั้งแต่ก่อตั้งนิกาย นิกายอสูรกระดูกขาวก็ด้อยกว่านิกายอสูรสวรรค์มาก
หากนิกายอสูรสวรรค์ยังคงพัฒนาต่อไป มรดกวัฒนธรรมอันยาวนานของนิกายอสูรกระดูกขาวก็อาจจะถูกทำลายลงได้
เพราะฉะนั้นแล้ว ผู้นำนิกายอสูรกระดูกขาวจึงจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม!
ในขณะนี้ ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่อยู่ตรงกลางห้องโถงก็สว่างขึ้นในทันใด
สายตาของทุกคนขยับในขณะที่พวกเขาจ้องไปที่ค่ายกลพร้อมๆ กัน
ในวินาทีถัดมา วิญญาณของผู้อาวุโสเฉินซวนก็ทะลุผ่านค่ายกลและปรากฏตัวขึ้นในห้องโถง
รูม่านตาของทุกคนหดเกร็งในทันที
“ผู้อาวุโสเฉินซวน นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
วิญญาณของเฉินซวนนั้นดูอ่อนแอมาก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บของเขาเลย
เขารีบพูดขึ้นทันทีว่า “ท่านผู้นำ นิกายอสูรสวรรค์ได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่มาแล้วจริงๆ ข้าเพิ่งจะไปถึงนิกายอสูรสวรรค์และยังไม่พบสิ่งใดเลย แต่ข้าก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากศิษย์ของยอดเขาจื่อฉุ่ยแห่งนิกายอสูรสวรรค์แล้ว พวกเขาเกือบทั้งหมดมีการฝึกตนอยู่เหนือขอบเขตวิญญาณ ก่อนหน้านี้ตามสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับยอดเขาจื่อฉุ่ยแห่งนิกายอสูรสวรรค์ มันก็มีเพียงผู้นำยอดเขาลู่เสี่ยวหรันเท่านั้นที่มีการฝึกตนอยู่ในขอบเขตวิญญาณขั้นสาม”
ทุกคนตกอยู่ในความโกลาหล
“อะไรนะ ศิษย์ของยอดเขาจื่อฉุ่ยทั้งหมดอยู่ที่ขอบเขตวิญญาณ!”
“เห้อ~! โอ้เต๋าสวรรค์ ยอดเขาจื่อฉุ่ยเป็นเพียงยอดเล็กๆ ของนิกายอสูรสวรรค์ แต่พวกเขาก็ยังน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ? แบบนี้แล้วยอดเขาอื่นๆ ในนิกายอสูรสวรรค์จะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?”
“ท่านผู้นำนิกาย เห็นได้ชัดว่านิกายอสูรสวรรค์มีเจตนาร้ายในการซ่อนเร้นปิดบังการฝึกตนของศิษย์ของพวกเขา!”
ผู้นำนิกายอสูรกระดูกขาวจับที่จับเก้าอี้แน่นขณะที่เจตนาฆ่าพุ่งออกมาจากในดวงตาของเขา
“ให้ตายเถอะ นิกายอสูรสวรรค์ พวกเจ้ากล้าปิดบังการฝึกตนของศิษย์ในนิกายและโจมตีผู้อาวุโสนิกายอสูรกระดูกขาวของข้าจนเหลือเพียงวิญญาณ พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะดูหมิ่นนิกายอสูรกระดูกขาวของเราเช่นนี้ได้หรอ? หากผู้อาวุโสเฉินซวนไม่เข้าไปในถ้ำเสือและเสี่ยงชีวิตเพื่อล้วงเอาข้อมูลออกมา ข้าก็เกรงว่าเราคงจะทำได้แค่ยืนรอความตาย”
เหล่าผู้อาวุโสเริ่มรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง
แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ไม่ได้อยากจะต่อสู้กับนิกายอสูรสวรรค์มากขนาดนั้น
อย่างไรก็ตาม ในการต่อสู้ระหว่างนิกาย พวกเขาก็อาจจะมีโอกาสได้รับผลประโยชน์บางอย่างกลับมาได้
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้คนจะให้ความสำคัญกับความสนใจของตนเอง
“ท่านผู้นำนิกาย เราไม่สามารถปล่อยให้นิกายอสูรสวรรค์หลุดมือไปได้!”
“ถูกต้อง เราจะต้องโจมตีนิกายอสูรสวรรค์และเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ กระบวนท่าสังหารก็ได้พุ่งออกมาจากค่ายกลและโจมตีวิญญาณของผู้อาวุโสเฉินซวนในทันที
“ไม่นะ! ท่านผู้นิกายชะ...”
ผู้อาวุโสเฉินซวนส่งเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ กระบวนท่าสังหารก็ได้ระเบิดขึ้น
บู้มมมม!
การระเบิดครั้งใหญ่ทำให้ทุกคนในห้องโถงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
ออร่าอันทรงพลังได้ทำให้พลังวิญญาณของทุกคนสั่นสะเทือนและความผันผวนก็แพร่กระจายออกไปนอกห้องโถง หลายคนที่อยู่ใกล้ถึงกับถูกส่งกระเด็นออกไป
หลังจากความโกลาหลจบลง ฝุ่นบนพื้นก็ค่อยๆ จางหายไป กลุ่มคนที่รู้สึกตื่นเต้นเมื่อกี้เองก็เงียบเสียงลงไปในทันที
ทุกคนจ้องมองไปที่หลุมขนาดใหญ่ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเกี่ยวกับการปราบปรามนิกายอสูรสวรรค์อีกต่อไป
การโจมตีเมื่อครู่ได้สร้างหลุมขนาดใหญ่ในห้องโถง!
ต้องรู้ว่าพื้นด้านล่างของห้องโถงนั้นทำมาจากทองสมฤทธิ์ทมิฬ ไม่เพียงแต่มันจะเรียบเนียนเหมือนกระจกเท่านั้น แต่มันยังมีความสามารถในการดูดซับพลังวิญญาณอีกด้วย
อย่างน้อยที่สุดอีกฝ่ายก็จะต้องอยู่ในขอบเขตสูญสลายถึงจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับมันได้
และในขณะนี้ วิญญาณของผู้อาวุโสเฉินซวนก็ถูกแรงระเบิดพัดสลายหายไปแล้ว!
ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายจะต้องเหนือกว่าขอบเขตสรรค์สร้างอย่างแน่นอน!!