บทที่ 728 ประชุม(ตอนฟรี)
บทที่ 728 ประชุม
สองวันผ่านไปในชั่วพริบตา
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา จี้เฟิงและฮั่นจงได้พูดคุยวางแผนและจัดการระเบียบข้อบังคับของสมาคมผู้ค้าจีน... ถึงจะบอกว่าเป็นสมาคมผู้ค้าแห่งประเทศจีน แต่จริงๆแล้วเป็นเพียงการเชิญผู้ค้าขายเพียงไม่กี่คนมาตกลงทำสัญญาเพื่อให้พวกเขาช่วยโปรโมตคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ที่ผลิตโดยโรงงานผลิตยาเถิงเฟยโดยแลกกับกำไรบางส่วนที่พวกเขาจะได้รับ นั่นคือประเด็นหลักที่จะพูดถึงในการประชุมนี้
และเพื่อแยกความแตกต่างของโรงงานสาขาออกจากโรงงานหลัง จี้เฟิงและเซียวหยูซวนได้ไปที่แผนกที่เกี่ยวข้องเพื่อเปลี่ยนชื่อโรงงานสาขาเป็น โรงงานเซียวฟามาซูติคอล และเซียวหยูซวนเป็นนิติบุคคลของโรงงานเซียวฟามาซูติคอลและถือหุ้นทั้งหมดของโรงงาน
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป โรงงานสาขาและโรงงานผลิตยาเถิงเฟยจะถูกแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าโรงงานผลิตยาทั้งสองแห่งจะมีบุคคลคนเดียวกันเป็นเจ้าของ แต่ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกันระหว่างทั้งสองโรงงาน
นอกจากนี้ จี้เฟิงยังวางแผนเอาไว้ว่าจะเปลี่ยนนิติบุคคลของโรงงานผลิตยาเถิงเฟยให้เป็นฮั่นจงถึงเมื่อเวลา แต่เนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องการถือหุ้นและปัญหาอื่นๆ จี้เฟิงจึงยังไม่ได้คิดว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร เขาจึงวางโครงการนี้เอาไว้ก่อน
สำหรับหุ้นก่อนหน้านี้ของฮั่นจงในโรงงานสาขา นั่นก็คือโรงงานเซียวฟามาซูติคอลในปัจจุบัน จี้เฟิงได้โอนโดยตรงไปยังโรงงานผลิตยาเถิงเฟย
นอกจากนี้ จี้เฟิงได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของเขาในการประชุมส่งเสริมนักลงทุนที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น จี้เฟิงไม่ต้องการที่จะวอกแวกไปยังเรื่องอื่นในตอนนี้ เพราะการประชุมส่งเสริมการลงทุนนี้มีความสำคัญมากที่สุดในปัจจุบัน!
เพราะขั้นตอนแรกของการโปรโมตคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ถูกขัดขวาง นั่นจึงทำให้จี้เฟิงต้องหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับมันในทันที
ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้จี้เฟิงไม่ได้ใส่ใจกับการทำการโปรโมตคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์จนมากเกินไป จิตใจของเขาเหม่อลอยตลอดเวลา ไม่ได้ตั้งสมาธิจดจ่อกับงานของเขาจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อการโปรโมตคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์เกิดปัญหาเพราะถูกหม่าเต๋อหว่องและรองคณบดีของโรงพยาบาลเฟิร์สพีเพิลขัดขวาง จี้เฟิงก็เหมือนกับได้สติ มันทำให้เขาคิดได้ว่าการจะทำอะไร ก็ควรตั้งใจและใส่ใจกับมันอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่มีทางออกมาดีได้!
………………..
“ประธานจี้ พ่อค้าทั้งหมดที่ฉันแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ยืนยันว่าจะมา มีลูกค้าเก่าห้ารายและลูกค้าใหม่สองสามราย ซึ่งทั้งหมดเป็นบริษัททางการแพทย์ขนาดเล็ก แม้ว่าฉันจะแจ้งบริษัททางการแพทย์ขนาดใหญ่หลายแห่งในเจียงโจวไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครมาเลย”
ในห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงงานเซียวฟามาซูติคอล หยางเต๋อจ้าวกำลังรายงานสถานการณ์ของการประชุมส่งเสริมการลงทุน และที่ข้างๆเขาก็มีซูหยวนนั่งอยู่ด้วย
วันนี้ซูหยวนใส่ชุดนักธุรกิจที่เผยให้เห็นเนินอกเล็กน้อย มันทำให้เธอดูน่าเชื่อถือและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกัน
“ลุงหยาง ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่เหล่านั้นหรอกครับ พวกเขาล้วนแต่มองข้ามหัวพวกเรา ตอนนี้ธุรกิจของโรงงานเรายังเล็กมาก พวกเขาจะมาสนใจไปทำไม แต่ตราบใดที่เรายังมีลูกค้าเก่าๆและลูกค้ารายย่อยที่สนใจจะมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับพวกเรา แค่นั้นก็ดีมากแล้ว!” จี้เฟิงยิ้ม
“ก็จริง! ในสายตาของคนอื่น โรงงานของเราคงเป็นโรงงานเล็กๆ แต่ถ้าทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่จนเกินไป ก็อาจไปขัดหูขัดตาใครเข้าอีก!” หยางเต๋อจ้าวส่ายหัวและยิ้ม
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “ลุงหยาง เรายังต้องเตรียมตัวอีก เพราะแม้แต่ลูกค้ารายย่อย เราก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะร่วมมือกับเราหรือเปล่า!”
“แต่ถ้าพวกเขาไม่ให้ความร่วมมือ... มันจะไม่กลายเป็นว่าการประชุมส่งเสริมการลงทุนครั้งนี้มันเปล่าประโยชน์หรอกเหรอ?” หยางเต๋อจ้าวถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“มันก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ซะทีเดียวหรอก!” จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อย “ขอแค่มีผู้ค้าซักรายที่เต็มใจจะช่วยเราโปรโมตคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ การประชุมในครั้งนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว สิ่งที่เราขาดในตอนนี้เป็นเพียงช่องทางและโอกาส ขอแค่ผ่านก้าวแรกไปได้ คุณภาพและผลลัพธ์ของคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์จะพลิกสถานการณ์ของเราได้อย่างแน่นอน!”
ยิ่งถูกขัดขวางมากเท่าไหร่ จี้เฟิงก็ยิ่งมีความมุ่งมั่นมากขึ้นเท่านั้น !
เพราะวิธีการที่น่ารังเกียจของหัวหน้าแผนกทั่วไปอย่างหม่าเต๋อหว่องและรองคณบดีโรงพยาบาลเฟิร์สพีเพิลหูอี้กุ้ยที่ทำให้จี้เฟิงรู้สึกโกรธ
เพราะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลเฟิร์สพีเพิลในการโปรโมต จี้เฟิงก็อยากที่จะทำให้คังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์เป็นที่รู้จักด้วยตัวของมันเอง แต่ต้องทำให้มันโด่งดังจนทุกคนเป็นฝ่ายที่จะมาขอร้องอ้อนวอนเขาที่จะขายมัน!
ในตอนที่จี้เฟิงยังเด็ก เขาสามารถเข้าไปในป่าและขุดผักป่ากินเพื่อประทังความหิว แต่ในเมื่อตอนนี้ชีวิตของเราดีขึ้นและมีพร้อมแทบทุกอย่าง เขาก็จะยิ่งทุ่มเทสมองและพละกำลังทั้งหมดของเขาเพื่อให้ขั้นตอนแรกของแผนการเกิดประสบความสำเร็จเพื่อที่จะได้ก้าวต่อไป
เมื่อมองไปที่สีหน้าและท่าทางที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของจี้เฟิง หยางเต๋อจ้าวก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เป็นการดีที่ริเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะคนในช่วงวัยนี้จะไม่ย่อท้อและเปลี่ยนแปลงไปเพราะความพ่ายแพ้เล็กๆน้อยๆ และถึงแม้จะเสียใจมากแค่ไหน แต่หลังจากเลียแผลของตัวเองจนหายดีแล้ว เขาก็จะยิ่งกลับมามีพลังและกระตือรือร้นอีกครั้งในทันที
ซูหยวนมองไปที่จี้เฟิง และเห็นถึงความมั่นใจและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในแววตาของเขา และการแสดงออกแปลกๆก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเธอ แต่มันก็หายวับไปในทันที
“บอส ทางฉันติดต่อกับลูกค้ารายใหญ่สองสามราย ทั้งหมดนี้คือบริษัทที่ฉันเคยติดต่อธุรกิจด้วยมาก่อน แต่ฉันไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่าเขาจะมาหรือเปล่า!” หลังจากที่หยางเต๋อจ้าวรายงานเสร็จ ซูหยวนที่อยู่ข้างๆหยางเต๋อจ้าวก็พูดขึ้น
“โอเค ขอบคุณมาก!” จี้เฟิงกล่าวอย่างจริงจัง เขารู้ดีว่าการที่ซูหยวนจะเชิญลูกค้ารายใหญ่เหล่านี้มาได้ เธอจะต้องเป็นหนี้บุญคุณของใครบางคน
อันที่จริงการทำธุรกิจและการขายก็เป็นแบบนี้ หลังจากที่พนักงานขายทำงานมาเป็นเวลางาน ทางลูกค้าก็จะรู้จักแต่พนักงานขาย ไม่ได้รู้จักบริษัทที่พนักงานขายทำงานให้ และถ้าหากพนักงานขายย้ายที่ทำงาน ความสัมพันธ์ทางธุรกิจก็จะย้ายตามไปด้วย
นี่คือความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือซึ่งกันและกันที่เกิดขึ้นในการติดต่อกันทางธุรกิจ
แต่อย่างไรก็ตามสำหรับมิตรภาพเหล่านี้ เมื่อไม่มีการติดต่อทางธุรกิจ มันจะทำให้ความสัมพันธ์นั้นเบาบางลง
และการที่ซูหยวนใช้ความสัมพันธ์เก่าของเธอในวันนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะทำให้มิตรภาพระหว่างเธอและคนอื่นๆยิ่งอ่อนแอลง และแม้แต่ลูกค้าบางคนที่ติดหนี้บุญคุณเธอ ในตอนนี้เธออาจกลายเป็นฝ่ายที่ติดหนี้บุญคุณแทน!
ดังนั้นจี้เฟิงจึงรู้ดีว่าประโยคง่ายๆของซูหยวนนั้นมีน้ำหนักมากขนาดไหน!
พูดกันตามตรง ในโรงงานเซียวฟามาซูติคอลแห่งนี้ แม้ว่าซูหยวนจะได้รับหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไป แต่เธอก็เป็นเพียงพนักงานเงินเดือนคนหนึ่ง เธอไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมีหุ้นส่วนใดๆของโรงงานเลย แต่เธอกลับใช้ความสัมพันธ์ที่สำคัญในอดีตมาใช้กับงานในครั้งนี้ ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงความจริงใจ
มีคนมากมายที่ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อแสดงความจริงใจ แต่จะมีซักกี่คนที่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อความสำเร็จของส่วนรวม เช่นเดียวกับซูหยวน เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยจี้เฟิงในขณะที่เขากำลังประสบปัญหา และจี้เฟิงก็รู้สึกขอบคุณมาก ไม่ว่าความช่วยเหลือนี้จะเป็นประโยชน์กับเขาหรือไม่ก็ตาม
ซูหยวนยิ้มและพูดว่า “บอส ถ้าคุณอยากจะขอบคุณฉันจริงๆ ก็ขอให้บริหารโรงงานอย่างเต็มที่และดีที่สุด เพราะฉันในฐานะผู้จัดการทั่วไปของโรงงาน ก็จะถือว่าได้มีช่วงเวลาที่ดี และไปพูดอวดกับใครต่อใครอย่างภาคภูมิใจได้ว่าฉันเป็นผู้จัดการของที่นี่ บอสว่าดีมั้ย?”
“ดีๆ! แต่ไม่ต้องห่วง ฉันทำให้เธอได้มีช่วงเวลาที่ดีอย่างแน่นอน ฮ่าๆๆ!” จี้เฟิงหัวเราะ
………………..
เวลาเก้าโมงเช้าในวันที่สาม การประชุมส่งเสริมการลงทุนของโรงงานเซียวฟามาซูติคอลได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และสถานที่ตั้งก็อยู่ในอาคารขนาดเล็กแห่งใหม่ในโรงงานผลิตยา
เดิมทีอาคารแห่งนี้จี้เฟิงใช้สำหรับจัดเก็บสายการผลิตใหม่ที่ซื้อจากต่างประเทศ แต่หลังจากที่โรงงานผลิตยาเถิงเฟยได้เปิดทำการอย่างเป็นทางการอาคารแห่งนี้ก็ว่างเปล่า บางครั้งใช้เพื่อเก็บยาเป็นการชั่วคราว
หยางเต๋อจ้าวและซูหยวนให้การต้อนรับผู้ค้าที่มาประชุมส่งเสริมการลงทุนในโรงงานผลิตยาอย่างอบอุ่นและพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการโปรโมตคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์แค่ผู้ค้าเหล่านั้น ในเวลาเดียวกัน จี้เฟิงอยู่กับฮั่นรุ่ยเชาและเหล่าอู๋จากฝ่ายขาย เพื่อหารือเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าในตลาดระดับกลาง
วันนี้ฮั่นรุ่ยเชาและเหล่าอู๋ซึ่งเป็นผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการฝ่ายขาย ทั้งคู่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลทีมของตนในระดับต่างๆ ซึ่งแบ่งไปตามพื้นที่ที่แตกต่างกัน
สำหรับฮั่นรุ่ยเชาที่ไต่เต้าข้ามหัวเขามาอย่างรวดเร็วจนได้เป็นผู้อำนวยการในขณะที่เขายังเป็นเพียงแค่รองผู้อำนวยการฝ่ายการขาย เหล่าอู๋ไม่ได้มีความคิดเห็นหรือคัดค้านใดๆเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกขอบคุณจี้เฟิงด้วยซ้ำ
เพราะเขารู้ตัวดีว่าด้วยอายุของเขามันมาถึงเส้นชัยแล้ว เขาไม่สามารถออกไปทำงานขายเหมือนอย่างในอดีตได้อีกต่อไป ขนาดเด็กๆในทีมภายใต้การบริหารของเขาก็ดูลำบากนิดหน่อย แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์เก่าๆอยู่ในมือ และพอจะนำยอดขายและผลกำไรมาสู่โรงงานได้ทุกเดือน แต่กำไรนี้ก็ต้องจ่ายออกมาเป็นค่าจ้างให้กับพวกเขาเช่นกัน
ในตอนก่อนที่ฮั่นรุ่ยเชาจะไปอยู่ที่โรงงานผลิตยาเถิงเฟย ปริมาณการขายของลูกทีมของเขาสองสามคนได้แซงหน้ายอดขายของทีมที่นำโดยเหล่าอู๋ทั้งหมดแล้ว
เหล่าอู๋รู้ดีว่าเหตุผลที่จี้เฟิงยังไม่ไล่เขาออกเป็นเพราะจี้เฟิงเห็นแก่หน้าของหยางเต๋อจ้าวและเห็นแก่หน้าของเขาในฐานะผู้อาวุโสคนหนึ่งในโรงงานผลิตยา แม้ว่าจะไม่มีลูกค้าใหม่เพิ่มเติม แต่เขาก็ยังคงทำงานอย่างหนัก
เจ้านายคนนี้ค่อนข้างใจดี และเหล่าอู๋ก็รู้สึกขอบคุณโดยธรรมชาติ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจฝึกเด็กๆทุกคนภายใต้การบังคับบัญชาของเขาอย่างดี และมอบความสัมพันธ์เก่าทั้งหมดของเขาให้กับฮั่นรุ่ยเชา หลังจากการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยดีแล้ว เขาก็มีความคิดที่จะลาออกเพื่อไม่เป็นการเพิ่มภาระให้กับโรงงานอีกต่อไป
“บอสครับ นี่คือแผนที่ผมและเหล่าอู๋วางไว้เมื่อคืนนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่ทั้งช่องทางและปลายทาง และพยายามกระจายสินค้าให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะโปรโมตได้ง่ายขึ้น!” ฮั่นรุ่ยเชากล่าว
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า “สินค้าสามารถกระจายออกไปได้ แต่ปริมาณไม่ควรมากเกินไป และควรจะทำหลังจากการประชุมส่งเสริมการลงทุนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว!”
“ทำไมล่ะครับ?” ฮั่นรุ่ยเชาไม่เข้าใจ เพราะคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์มีอายุการเก็บรักษาที่ไม่สั้นเกินไป และตอนนี้จี้เฟิงก็ไม่ได้ขาดเงินทุนสนับสนุนตรงส่วนนี้ หากสินค้าถูกเปิดตัวอย่างเต็มที่ในตอนนี้ ยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนั้นไม่ดีกว่าเหรอ?
จี้เฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เนื่องจากเราได้จัดประชุมส่งเสริมการลงทุน เราก็ต้องแบ่งสันปันส่วนสำหรับผู้ที่มาให้กำลังใจกับเราหน่อยสิ แม้ว่าผู้ขายที่เป็นพ่อค้าคนกลางหรือลูกค้าซื้อปลีกจะเป็นลูกค้าของเรา แต่ถ้าตัวแทนเหล่านั้นยังไม่ได้รับสินค้า แต่ร้านอื่นๆกลับเต็มไปด้วยสินค้าของเรา เราจะอธิบายให้กับตัวแทนเหล่านั้นฟังว่ายังไง?”
“อย่างนี้นี่เอง!” ฮั่นรุ่ยเชาเข้าใจในทันที จากนั้นเขาก็พูดด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย “ขอโทษด้วยจริงๆครับบอส ผมไม่ทันได้คิดถึงเรื่องนั้น!”
จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อย เขาโบกมือและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“ขอโทษทำไม! คุณรับผิดชอบการขาย ส่วนผมรับผิดชอบโรงงานทั้งหมด พวกเรามองปัญหาจากในมุมมองที่แตกต่างกัน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดี แต่สุดท้ายแล้วพวกเราต่างก็มีจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายเป็นจุดหมายเดียวกัน!”
ฮั่นรุ่ยเชาพยักหน้า แต่เขาแอบจดบันทึกไว้ในใจว่าสิ่งที่ควรทำในอนาคต เขาไม่ควรที่จะมองจากมุมมองของเขาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองจากสถานการณ์โดยรวมด้วย เพื่อทำให้การสูญเสียเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด!
นอกจากนี้ หากเขาต้องการได้รับความสนใจจากเจ้านายและต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่ง การพัฒนาวิสัยทัศน์และความคิดคือพื้นฐานของการเลื่อนตำแหน่ง!
...จบบทที่ 728~❤️