Ep.188 - กลับมาตั้งแผงลอย
2/3
Ep.188 - กลับมาตั้งแผงลอย
“ฮ่ง! เจ้านาย ดูนั่น มีของดีอยู่ที่นี่ด้วย”
หมาหวังเอ๋อสมกับที่เป็นนักล่าสมบัติ หลังจากบุกมายังรังของปีศาจแมวป่า มันก็เริ่มขุดพืชวิญญาณขึ้นจากดิน
แม้ส่วนใหญ่จะเป็นไอเท็มคุณภาพทั่วไป(สีเทา) และมีบางส่วนที่เป็นไอเท็มคุณภาพสูง(สีขาว) แต่ในจำนวนนั้นก็มีสองสามชิ้นที่มีคุณภาพสีเขียว
ฮังอวี่กวาดสายตามอง
แต่กลับพบว่าพวกมันไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา
เจ้าตัวโบกมือส่งๆ “หวังเอ๋อ ผลลัพธ์ในครั้งนี้ต้องยกเครดิตให้นาย นายพาฉันมาที่รัง ปีศาจแมวป่าและในเมื่อนายเป็นคนค้นพบ เพราะงั้นทั้งหมดนี่เป็นของนาย ถือเป็นรางวัลสำหรับผลงานในครั้งนี้”
“พูดจริงหรอ ... เจ้านายใจดีสุดๆ!”
หมาหวังเอ๋อตื่นเต้นมาก มันยิ้มกว้าง กระโดดไปมาอย่างมีความสุข
หวังเอ๋อคาบสมุนไพรสองสามต้นขึ้นมากินก่อน ส่วนที่เหลือฝากให้ฮังอวี่เก็บใส่มิติเก็บของ
พืชวิญญาณที่นี่มีเป็นร้อยต้น ต่อให้สุนัขตะกละอยากกินทั้งหมดในลมหายใจเดียว ก็ไม่สามารถย่อยพวกมันได้
ฮัสกี้น้อมรับรางวัลมากมายอย่างไม่เกรงใจ
ทั้งยังเกิดความคิดว่าหากกลับไปจะสร้างห้องสมบัติเป็นของตัวเอง!
“เจ้านาย เจ้านาย แล้วพวกเราจะทำยังไงกันต่อ?”
ฮังอวี่ก้มมองเวลา และพบว่าตั้งแต่เขาเข้าสู่โลกวิญญาณ เวลายังผ่านไปไม่ถึง 4 ชั่วโมง “พวกเราจะสำรวจรอบนอกเขาวงกตกันต่อ ยังเหลือสมบัติอีกมากมายซ่อนอยู่ ไปสำรวจเส้นทางกันต่อ”
“รับทราบเจ้านาย!”
หวังเอ๋อแยกร่างสองฮัสกี้ออกไปเพื่อสำรวจเส้นทาง
ฮังอวี่กับหวังเอ๋อมุ่งหน้าผจญภัยในเขาวงกตของหอคอยเขตแดน
แต่ครั้งนี้เขาระมัดระวังมากขึ้น ไม่กล้าเปิดเผยตัวโจ่งแจ้งเป็นเวลานาน เพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจจากพวกการ์กอยล์ เพราะอาจไม่โชคดีเหมือนในครั้งนี้อีก
ที่พูดแบบนั้น อย่างแรกก็เพราะระยะเวลาของโพชั่นมนตราแปลงร่างน่ะมีคูลดาวน์นานมาก
ต่อให้เวลาคูลดาวน์สั้นที่สุด โพชั่นประเภทนี้ก็ยังไม่สามารถใช้ซ้ำในวันเดียวกันได้
อย่างที่สองก็เพราะพวกเขาไม่น่าจะมีโอกาสหารังปีศาจแมวป่ารังที่สองเจออีกในบริเวณนี้ ดังนั้นไม่สามารถสร้างสถานการณ์เดิมได้อีกต่อไป การต่อสู้กับมอนสเตอร์อย่างตรงไปตรงมาเพื่ออัพเลเวลและดรอปอุปกรณ์คือหนทางที่ดีที่สุด
มอนสเตอร์ในเขาวงกตรอบนอกมีเลเวลอยู่ที่ 6 7
และสัดส่วนของมอนสเตอร์ชั้นยอดค่อนข้างสูง
โดยเฉลี่ยแล้ว ในบรรดามอนสเตอร์ 4 ตัว จะมีชั้นยอด 1 ตัวปะปนอยู่
นอกจากนี้ ยังมีพวกมอนสเตอร์ชั้นยอดที่อยู่รวมกันเป็นฝูงอย่างปีศาจแมวป่า
พลังรบในปัจจุบันของฮังอวี่เพียงพอที่จะสู้กับมอนสเตอร์รอบนอกของเขาวงกต สามารถล่าได้แค่พวกที่อยู่รอบนอกเท่านั้น
แต่ประเด็นก็คือ ฮังอวี่มีข้อได้เปรียบที่คนอื่นๆไม่มี -- นั่นคือสามฮัสกี้นักล่าสมบัติ!
นักล่าสมบัติทั้งสามไม่เพียงช่วยสอดแนมและแจ้งเตือนล่วงหน้าได้เท่านั้น แต่ยังสามารถค้นหาวัตถุดิบคุณภาพสีเขียวได้อีกมากมาย
แน่นอน
พวกเขาไม่พบสมบัติสวรรค์ที่ช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติอย่างถาวรอีกเลย
แม้ฮังอวี่จะรู้สึกเสียดาย แต่ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะหากมีสมบัติสวรรค์อยู่ทั่วทุกหนแห่งเฉกเช่นกะหล่ำปลีจีน เช่นนั้นแล้วพวกมันจะเป็นของล้ำค่าได้อย่างไร?
สำหรับวัตถุดิบที่รวบรวมมาได้
สิ่งไหนมีประโยชน์เขาเก็บไว้ใช้กับตัวเอง
สิ่งไหนไม่เหมาะให้เขาใช้งานก็มอบให้ฮัสกี้
วันนี้ฮัสกี้สามารถเก็บเกี่ยวพืชวิญญาณได้เป็นจำนวนมาก ห้องสมบัติของมันเริ่มมีของสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ การออกติดตามผจญภัยกับเจ้านาย ยังช่วยให้กอบโกยแต้มวิญญาณได้อีกด้วย
ตั้งแต่เข้าสู่เขาวงกตจนถึงตอนนี้
หวังเอ๋อสะสมแต้มวิญญาณได้มากกว่า 400 แต้ม
เนื่องจากแต้มวิญญาณที่ปล่อยออกมาจากมอนสเตอร์เลเวล 6 7 นั้นมีคุณภาพดีมาก สำหรับหวังเอ๋อที่อยู่เพียงเลเวล 4 มันจึงได้รับโบนัสแต้มวิญญาณเพิ่มเติม
สถานการณ์ของฮังอวี่ก็คล้ายคลึงกัน
เขานำดอกบัวทองรวมวิญญาณออกมา
ดอกบัวทองรวมวิญญาณสามารถช่วยเสริมการดูดซึมแต้มวิญญาณเพิ่มขึ้น 10%
ดังนั้น แม้อยู่ในเงื่อนไขแบ่งแต้มวิญญาณอย่างเท่าเทียม แต่ฮังอวี่ก็สามารถดูดซับแต้มวิญญาณได้ไม่น้อยไปกว่าหวังเอ๋อ และเอาจริงๆอาจสูงกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ
และเมื่อรวมเข้ากับแต้มวิญญาณจากการย่อยผลไม้ปราณวิญญาณเขียว
ส่งผลให้แต้มวิญญาณสะสมทะลุขีดจำกัด สามารถตัดผ่านไปได้อีกขั้น
หวังเอ๋อกล่าวทันที “ฮ่ง ขอแสดงความยินดีกับเจ้านายที่อัพเลเวล!”
ฮังอวี่กลายเป็นนักรบเลเวล 6 อย่างเป็นทางการ!
นักรบเลเวล 6 มีการพัฒนาที่ชัดเจนในทุกๆด้าน
เขารู้สึกว่าประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นหลังจากเลเวล 5 สู่เลเวล 6 นั้นดีกว่าครั้งก่อนๆ
ฮังอวี่เปิดข้อมูลส่วนตัว และพบว่าพลังชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 56 หน่วย , พลังจิตเพิ่มเป็น 36 หน่วย , และแต้มวิญญาณ 28/2000
ในเลเวล 1-5 ทุกครั้งที่อัพเลเวล พลังชีวิตจะเพิ่มขึ้นครั้งละ 5 หน่วย พลังจิตเพิ่มขึ้นครั้งละ 2 หน่วย
แต่เมื่อเลเวล 5 อัพขึ้นเป็นเลเวล 6 พลังชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็นครั้งละ 10 หน่วย และพลังจิตเพิ่มขึ้นครั้งละ 4 หน่วย
อันที่จริง นี่ถือเป็นเรื่องปกติ
เพราะการอัพเลเวลในโลกวิญญาณ ยิ่งสูงก็จะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ
อย่าคิดว่าตราบใดที่มีเวลาเพียงพอทุกคนจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ ห้ามคิดเชียวว่าทุกคนล้วนมีโอกาสขึ้นไปสู่จุดสูงสุดหรือการกลายเป็นเซียนจะช้าเร็วขึ้นอยู่กับเวลา
เพราะนั่นมันเป็นไปไม่ได้!
ยิ่งเลเวลสูงเท่าไหร่ การอัพเกรดก็จะยิ่งลำบากขึ้นเท่านั้น
และการอัพเลเวลในอนาคตไม่เพียงต้องใช้แต้มวิญญาณจำนวนมาก
แต่ยังมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นๆ เช่นการจะตัดผ่านสู่เลเวลต่อไป อาจไม่ได้ใช้แค่แต้มวิญญาณ แต่ต้องมีไอเท็มเฉพาะที่ใช้ทะลวงคอขวด เป็นต้น
ยิ่งเลเวลสูงเท่าไหร่
ก็ยิ่งยากจะตัดผ่าน
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สิ่งมีชีวิตในโลกวิญญาณบางตนจะติดอยู่ในเลเวลเดียวเป็นเวลานานหลายสิบปีหรือหลายร้อยปี นั่นเพราะพวกมันไม่สิ่งจำเป็นที่ใช้สำหรับปลดเงื่อนไขในการอัพเลเวลสู่ขั้นต่อไปนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม อย่าได้รู้สึกท้อแท้ไป
แม้เลเวลยิ่งสูงจะยิ่งอัพเลเวลยาก แต่ขณะเดียวกันโบนัสเพิ่มเติมที่ได้ในช่วงหลังๆก็จะยิ่งมากเช่นกัน ตัวอย่างเช่นฮังอวี่ที่พึ่งอัพเลเวล 6 แต่ได้โบนัสพลังชีวิตและพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นอย่างละ 2 เท่า
และประสิทธิภาพของมันจะยิ่งเพิ่มขึ้นตามเลเวลในอนาคต
แม้พึ่งเข้ามาในโลกวิญญาณ แต่เมื่อเทียบกับชาวพื้นเมืองส่วนใหญ่แล้ว มนุษย์มีข้อได้เปรียบอย่างมากในแง่พัฒนาการ ด้วยอัตราเร็วในปัจจุบัน ภายในสามปี พวกเขาจะสามารถตั้งหลักปักฐานในโลกวิญญาณได้
หลังจากไล่ฆ่ามอนสเตอณ์อีกสองสามระลอก
ฮังอวี่รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย “หวังเอ๋อ กลับกันเถอะ พวกเรากอบโกยมาทั้งวัน ได้มามากพอแล้ว”
“ฮ่ง ใกล้มืดแล้วหรอ เปิ่นหวังรู้สึกเหมือนพึ่งอุ่นเครื่อง ยังสู้ได้อีกสามวันสามคืน!”
“พวกการ์กอยล์ส่วนใหญ่จะออกล่าตอนกลางคืน สถานที่แห่งนี้อันตรายเกินกว่าจะอยู่ได้”
“ฮ่ง เป็นงั้นไป น่าเสียดาย”
ฮังอวี่นับจำนวนหินคริสตัล
ตอนเข้ามายังโลกวิญญาณ ฮังอวี่มีหินคริสตัลขาวในตัวเพียง 60 ก้อน และได้อีกสิบกว่าก้อนจากการล่าปีศาจแมวป่าครั้งแรก จากนั้นได้มาอีกประมาณ 50 ก้อนจากรังปีศาจแมว และ 40 กว่าก้อนจากการล่าในครั้งถัดๆไป
ขณะนี้มีหินคริสตัลทั้งสิ้น 178 ก้อน!
หากพูดกันตรงๆ
นี่ถือเป็นเงินจำนวนมหาศาล!
แต่สำหรับฮังอวี่ มันยังไม่มากพอที่จะใช้จ่าย!
การออกล่าหินคริสตัลด้วยตัวเองเป็นอะไรที่ทำได้ค่อนข้างยากและเสียเวลา
ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องสร้างช่องทางเพิ่มรายได้แบบพาสซีฟอินคัม เช่นร้านอาหาร ร้านขายโพชั่น ร้านขายอุปกรณ์ ฯลฯ หากร้านค้าเหล่านี้สามารถเติบโตขึ้นจนพอที่จะสร้างผลกำไรจำนวนมากทุกวัน นั่นจะง่ายกว่าการต้องออกล่าอย่างยากลำบากมาก
ฮังอวี่กลับไปที่สวนปีศาจแมวป่า
และเก็บสำรองหินคริสตัลขาวเผื่อค่าภาษีโลกวิญญาณเท่านั้น ที่เหลือถูกนำไปซื้อเมล็ดดอกไม้แมวปีศาจและเมล็ดสมุนไพรกรงเล็บครามจนหมด
ทำไมถึงทำแบบนี้น่ะหรือ?
เพราะนี่คือการซื้อขายที่สามารถฟันกำไรได้อย่างแน่นอน!
แม้เมล็ดของพืชทั้งสองชนิดนี้หนึ่งถุงจะต้องจ่ายถึง 15 หินคริสตัลขาว
แต่ภายในถุงมีมากถึง 200 เมล็ด!
อย่างเอฟเฟกต์ของโพชั่นแปลงร่างที่ใช้ดอกไม้ปีศาจแมวในการผลิตมันทรงพลังแค่ไหน?
โพชั่นนี้มีประโยชน์มากสำหรับผู้เล่นในช่วงต้นเกม
หากคุณกำลังสู้ BOSS และอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ การเลือกใช้งานมันบางทีอาจให้ผลลัพธ์ดีกว่าการใช้คัมภีร์สกิล
ดังนั้นจึงไม่มากเกินไปที่จะขายโพชั่นมนตราแปลงร่างในราคาขวดละ 2-3 หินคริสตัลขาว และหากผลิตได้ซัก 100 ขวด หลังจากหักค่าแรงและค่าวัตถุดิบแล้ว ประมาณการคร่าวๆเขาจะทำกำไรได้มากถึง 200 หินคริสตัลขาว!
เงินทองมั่งมี!
และหากมอบให้เสี่ยวไป๋กลั่นโพชั่น ด้วยเทคนิคเล่นแร่แปรธาตุระดับกลางที่เธอมี โอกาสกลั่นสำเร็จจะมีสูงถึง 80-90% แค่นึกภาพตามก็เป็นผลกำไรอันน่าทึ่ง!
โพชั่นมนตราอาจขายดีในช่วงแรกก็จริง
แต่เมื่อคนส่วนใหญ่มีเลเวลเกิน 6 ขึ้นไปแล้ว โพชั่นมนตราระดับต่ำนี้อาจขายได้ไม่ดีนัก
อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่ยังมีสูตรโพชั่นลับอยู่ในมือ
ใครบ้างเล่าจะไม่อยากเพิ่มค่าคุณสมบัติของพวกเขา?
ดังนั้น ดอกไม้ปีศาจแมว(ใช้ทำโพชั่นมนตรา) และสมุนไพรกรงเล็บคราม(ใช้ทำโพชั่นลับ ตอนก่อนหน้านี้ผมพิมเป็นใช้สำหรับโพชั่นเพิ่มความว่องไวธรรมดา ขออภัยด้วยครับ) จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ดังนั้น ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน เมล็ดพืชที่อยู่ในมือของฮังอวี่ หากปลูกมันจนงอกเงย และคอยเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างต่อเนื่อง เขาอาจฟันกำไรจากพวกมันได้มากกว่า 10 - 20 เท่า
เอารถเอาบ้านไปจำนองยังไม่ได้เงินเยอะเท่านี้เลย!
หลังจากฮังอวี่ซื้อเมล็ดพันธุ์ เขาเปิดใช้งานคัมภีร์เทเลพอร์ตทันที กลับไปยังแผ่นศิลาเทเลพอร์ตของเขาวงกต และวาร์ปกลับค่ายมนุษย์หมูป่า
ผลกอบโกยจากการเดินทางครั้งนี้ไม่เล็กน้อย
แต่หินสกิลและอุปกรณ์ส่วนใหญ่ไม่เหมาะจะใช้งาน
ดังนั้น ฮังอวี่ตัดสินใจว่าจะระบายพวกมันออก และจะได้นำเงินส่วนหนึ่งที่ได้มาไปซื้อสัญญาสัตว์วิญญาณเพื่อทำสัญญากับไข่มดยักษ์หน้ามนุษย์
แม้มดยักษ์จะไม่แกร่งในด้านการต่อสู้
แต่ในฐานะสัตว์วิญญาณประเภทอัญเชิญ มันควรค่าแก่การฝึกฝน
เวลานี้หลายคนยังไม่กลับมา
แต่นั่นไม่สำคัญ
ขั้นแรงเริ่มต้นด้วยการตั้งแผงลอย
หวังเอ๋อยืดอกขึ้นอย่างรู้งาน มันสะบัดขน กลั้วลำคอแล้วยืนสองขา
มันชอบทำธุรกิจกับมนุษย์มาก ดังนั้นหน้าที่ช่วยเจ้านายขายของขอให้เป็นหน้าที่สุนัขเอง!
เทคนิคแยกร่างสุนัข!
ฮัสกี้สามตัวปรากฏขึ้นในค่าย
ในเวลาเดียวกัน มีสองตัวเดินแยกออกไป เริ่มป่าวประกาศ
“ฮ่ง ฮ่ง ฮ่ง!”
“เชิญมาทางนี้ เชิญมาทางนี้”
“ใครที่เดินผ่านไปผ่านมาห้ามพลาด!”
“บอสอันดับหนึ่งของค่ายแห่งนี้ เจ้านายของเปิ่นหวังกำลังตั้งแผงลอยขายอุปกรณ์ที่ดีที่สุด ทุกคนยังมัวรออะไรอยู่ รีบมาซื้อกันเร็วววว!”