ตอนที่26 ราชามาเฟียตื่นขึ้นมา – รู้สึกโกรธ(1)
เหมิงหยาวิ่งเข้าไปในลิฟต์อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะวิ่งเข้ามาทันเธอ
“แบละ”เธอแลบลิ้นออกมา เธอมองไปที่แผงควบคุมซึ่งมีปุ่มมากมาย มีถึงชั้นที่สี่สิบห้า ออฟฟิตของซีอีโออยู่ชั้นบนสุดไม่ใช่เหรอ เธอจำได้ว่าเคยเห็นที่ไหนสักแห่งเขียนไว้ว่าชั้นที่ห้าสิบ แต่ที่นี่มีถึงแค่ชั้นที่สี่สิบห้าเท่านั้น จากชั้นที่สี่สิบห้าก็ยังมีลิฟต์อีกหนึ่งตัวเพื่อที่จะให้ขึ้นไปอีก แต่เธอไม่มีเวลาที่จะมองหามัน ทันทีที่ลิฟต์เปิดออกเธอรีบวิ่งไปที่บันได เพื่อที่จะขึ้นไปที่ชั้นสุดท้าย หลีหัวฉันขอให้เธอปลอดภัยนะ โอเคไหม? เมื่อฉันได้พบกับคุณเจียงแล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อย
ส่วนเหว่ยนั้นเขาเช็คโทรศัพท์อยู่บ่อยๆ เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เขาอยากได้ยินเสียงของหลีหัว เมื่อเช้าเขาไม่ได้พบกับเธอ และตอนนี้เขาสงสัยว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ เขาเช็คดูเวลาตอนนี้เธอน่าจะอยู่ในห้องเรียน... เขาบอกให้พนักงานพัก “ห้านาที” พนักงานรีบออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เมื่อฟูเหรินชูเดินเข้ามาเขาเกือบจะสะดุดกับเท้าของเหว่ย และดวงตาของเบิกกว้าง “เจ้านาย...รอยฟอกช้ำบนหัวของคุณเป็นอะไรครับ?”
เขากัดฟัน “ใครกล้าทำแบบนี้กับเจ้านายครับ” บอกชื่อผมมาหน่อย! ผมจะทำให้มันรู้ว่านรกนั้นมีจริง”
“ผมทำเอง...”
“...”
ฟูเหรินชูมองไปที่เขา “อะไรนะครับ”
เหว่ยขมวดคิ้ว “ทำไมคุณทำหน้าแปลกจัง คุณบอกให้ผมคุกเข่าขอโทษเธอ ผมก็ทำตามคำแนะนำ หลีหัวก็ยกโทษให้ผมแล้วสำหรับเรื่องนั้น...
ฟูเหรินชูรู้สึกวิงเวียนศีรษะกับการกระทำของเจ้านาย เขาตัวสั่นและทรุดตัวลงนั่ง “เจ้านาย...คุณทำแบบนี้เลยหรือครับ”
“ใช่”
เพื่อซงหลีหัวหรือครับ?”
“ใช่”
ฟูเหรินชูรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่และถูกกระแทกเข้าอย่างแรง เมื่อเจ้านายมาถามเคล็ดลับขอคำแนะนำจากเขา เขารู้สึกว่าโลกของเขาเหมือนถูกพังทลาย
“เจ้านายทำไมไม่บอกผม วิธีนี้มันไม่ได้มีไว้สำหรับเจ้านาย ผม...ผมจะไม่มีวันทำแบบนี้ มันบาปนะครับ ผมจะให้อภัยตัวเองได้อย่างไร... เจ้านายทำร้ายตัวเองเพราะผม ผมเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ผมให้คำแนะนำที่ผิดๆกับเจ้านายและผมก็รู้ภูมิใจกับตัวเองด้วย”
ในตอนท้ายเขาก็พูดพึมพำกับตัว “ดูหมิ่นเช่นนี้ ลงโทษสถานเดียวคือความตาย!”
เขาโค้งคำนับเก้าสิบองศา “เจ้านาย ได้โปรดตัดหัวของผมทิ้งเสียเถอะ! ผมไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ผมทำหน้าที่ล้มเหลว ได้โปรดแสดงความเมตตาผมด้วยเถอะ!”
เหว่ยเม้มริมฝีปากของเขา เขาไม่เข้าใจความสำนึกผิดของผู้ช่วยที่น่าสงสารของเขา
“ไม่มีการตัดหัวอะไรทั้งนั้น”
“แต่...”
“ออกไปทำหน้าที่ข้างนอกได้แล้ว...ผมจะโทรหาหลีหัว”
“ซงหลีหัว” ฟูเหรินชูจ้องตาเขม็ง
“ฉันรอโทรศัพท์จากเธอ...”
เขาจากไปด้วยความไม่เต็มใจ หลังจากที่เหว่ยทำให้เขาไม่มีทางเลือก
เหว่ยรู้ว่าหลีหัวไม่รับโทรศัพท์ของเขา แต่เขาก็บังคับตัวเองไม่ได้ เขาจึงกดหมายเลขโทรศัพท์โทรหาเธอ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ เหมือนจะอยู่นอกพื้นที่เครือข่าย
เขาขมวดคิ้ว เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ถ้ามันดังขึ้นและเธอไม่รับสายแสดงว่าเธออยู่ในห้องเรียน แต่ว่าทำไมเธอออกไปนอกพื้นที่เครือข่ายเหรอ? ที่วิทยาลัยหมายเลขโทรศัพท์ของเธอก็ไม่มีปัญหาด้านสัญญาณเครือข่าย เขาพยายามโทรหาเธออีกครั้งแต่ผลลัพท์ก็ยังเหมือนเดิม เหว่ยหรี่ตาลงและคิดในใจ
เหมิงหยาวิ่งมาถึงบันไดขั้นสุดท้ายชั้นที่ห้าสิบ เธอหายใจหอบเหนื่อย เธอเลี้ยวและชนเข้ากับใครคนหนึ่งที่กำลังเดินไปทางบันได
“อุ้ย!”
“เฮ้!”
พวกเขาทั้งสองล้มลงกับพื้นโดยที่ผู้ชายคนนั้นล้มทับอยู่ข้างบนตัวเธอ
“โอ้ย! โอ้ย! โอ้ย! หลังของฉัน...คุณมองไม่เห็นทางที่จะไปหรือยังไงฮ่ะ?”ไม่กี่วินาที่ต่อมาเธอลืมตาขึ้นและมองดูดวงตาของเธอเบิกกว้าง เมื่อเธอเห็นฟูเหรินชูอยู่ข้างบนตัวเธอและเธอก็อยู่ในอาการมึนงงชั่วครู่
ฟูเหรินชูมองดูเธอและพูดขึ้นว่า “คุณ...เหมิงหยาใช่ไหม? คุณมาทำอะไรที่นี่” จากนั้นเขาก็ทำหน้าตาบูดบึ้ง
“เมื่อกี้คุณพูดอะไรนะ คุณตาบอดหรือยังไงจู่ๆถึงเดินมาชนฉัน” เหมิงหยาตะคอกออกมา เธอนึกถึงคำพูดของพนักงานต้อนรับพูดถึงเขาว่า “ผู้ช่วยฟู่เป็นผู้ที่มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด ถ้าหากไม่ได้นัดหมายไว้ก็จะไม่สามารถพบกับคุณเจียงได้”
“คุณเป็นต้นเหตุปัญหาของฉัน”
ฟูเหรินชูตกใจ “ฮะ?”
เธอมองดูสภาพของเธอกับเขาตอนนี้ “คุณจะลุกขึ้นเดี๋ยวนี้มั้ย คุณจะอยู่ข้างบนอีกนานมั้ย?”
ฟูเหรินชูผู้ที่มีความเข้มแข็ง เขารู้สึกเหมือนโดนน้ำร้อนจากหม้อหุงข้าวที่กำลังเดือดและร้อนจัดๆลวกเขา ดังนั้นการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างน่าเกลียดทันที และดวงตาเขาของก็จ้องเขม็ง เขารีบลุกขึ้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณมาที่นี่ได้อย่างไร? อย่างแรก ซงหลีหัว ตอนนี้เพื่อนของคุณ...”
เหมิงหยาจ้องมองเขา โดยปกติแล้วเธอจะเป็นคนที่สุภาพกับเขาซึ่งเป็นผู้ช่วยของเหว่ย และมีวุฒิภาวะที่สูงกว่าเธอมากแต่ความกังวลที่ต่อหลีหัว ทำให้เธอขาดการยับยั้งชั่งใจ
“ฉันก็ไม่ต้องการจะทำอะไรแบบนี้หรอก แต่เพราะกฎโง่ๆบ้าบอของคุณนั้นแหละ ฉันต้องการพูดกับคุณเจียง แต่พนักงานต้อนรับงี่เง่าคนนั้นไม่ยอมให้ฉัน... จากนั้นฉันก็เลยมาที่นี่เพื่อที่จะมาพบเขา แต่เธอก็ยังไม่ยอมให้ฉันพบเขาอยู่ดี ฉันต้องวิ่งหนีรปภ.เพื่อมาที่นี่!”
ฟูเหรินชูพูดอะไรไม่ออก “คุณโง่หรือเปล่า มันแน่นอนอยู่แล้วที่เธอไม่ยอมให้คุณเข้ามาพบ คุณคิดว่าเจ้านายเป็นใคร คุณอย่าคิดว่ามาทำอะไรโง่ๆแถวนี้แล้วเราจะให้คุณพบกับเจ้านายนะ”
เธอไอ “คุณว่าใครหน้าโง่?”
“ที่นี่ยังมีใครอีกมั้ย”เขาสูดลมหายใจ ไม่แปลกใจเลยที่คุณจะเป็นเพื่อนกับซงหลีหัว พอๆกันเลย
ตอนนี้เหมิงหยาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เธอจึงระเบิดออกมา เธอกำหมัดแน่นและชกไปที่หน้าอกของเขาอย่างแรงและสุดกำลังของเธอ แต่ฟูเหรินชูก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนส่วนใดๆของร่างกายของเขาเลย เขาแค่เอามือปัดมือที่น่าสงสารของเธอออกไป
“อุ้ย!!!”
ปากของเขากระตุก “นี่เขาเรียกว่าหมัดหรือว่าคุณกำลังจั๊กจี้ผม”
“นี่มันคือผิวหนังหรือก้อนหินที่ไร้ประโยชน์?” เธอจับมือตัวเองเพราะรู้สึกเจ็บ
เขายิ้มอย่างเย็นชา “คนที่อยู่เหนือโลกเท่านั้นที่ไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างก้อนหินกับกล้ามเนื้อ”
เหมิงหยากัดฟัน “ฉันเสียเวลามากแล้ว ฉันต้องการพบคุณเจียงเดี๋ยวนี้! ความวุ่นวายทั้งหมดเกิดขึ้นจากคุณเท่านั้น ฉันจะไม่มีทางออกไปจากที่นี่ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าคุณเจียงจะมาช่วยฉัน มันเป็นเรื่องของหลีหัว มีคนลักพาตัวเธอไป”
ฟูเหรินชูเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“คุณพูดว่าอะไรนะ?”คำถามนี้เป็นเสียงของใครอีกคนหนึ่งที่ถามออกมา
เหมิงหยารู้สึกว่ามีลมเย็นๆที่ด้านหลังของเธอ เธอหันกลับมาและเห็นเหว่ยยืนอยู่ข้างหลังของเธอ เหมือนเขาจะได้ยินทุกอย่างแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมา แต่เหมิงหยารู้สึกบรรยากาศกลับกลายเป็นเย็นชาและรุนแรงขึ้นมาทันที
“ทำไมฉันถึงรู้สึกกลัวจัง?”เธอรีบผละออกมา “คุณเจียง ฉันพูดความจริงนะค่ะ เมื่อเช้านี้มีวีดีโอที่แพร่ภาพในเว่ยปอ และ...และ...” เดี๋ยวก่อนค่ะ มีหลีหัวอยู่ในนั้นด้วย...”
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดวีดีโอให้เขาดู เขานิ่งเงียบตลอดเวลา ลูกน้องทั้งสามคนสวมหน้ากากพวกมันลากผู้ชายคนนั้นและหลีหัวขึ้นรถตู้และขับรถออกไป เขารู้จักพวกมันดีแค่ชำเลืองมองเพียงครั้งเดียวก็รู้แล้ว เป้าหมายของพวกมันคือนักธุรกิจคนนั้น แต่หลีหัวเข้าไปพัวพันกับพวกมันโดยไม่ได้ตั้งใจ
เขาเห็นพวกมันแตะต้องและจัดการกับหลีหัวมากเท่าไร อารมณ์ของเขาก็ยิ่งพลุ่งพล่านมากขึ้นเท่านั้น ความรู้สึกนั้นคล้ายๆกับตอนที่ไอ้โรคจิตสะกดรอยตามเธอ แต่มันรุนแรงมากกว่าตอนนั้น และตอนนี้เขารู้สึกว่ามีอันตรายเกิดขึ้นรอบๆตัวเขามากยิ่งขึ้น
เหว่ยเป็นราชามาเฟียและคนจากโลกของเขาเองได้ลักพาตัวหลีหัวไป ซึ่งมันอยู่ใต้จมูกของเขานี่เอง!
“เหรินชู”
ฟูเหรินชูยืดตัวขึ้น
“ตามหาแก็งค์...เพราะตอนนี้ผมกำลังโกรธพวกมันมาก”