752 - คัมภีร์โบราณที่ยังมีชีวิต
752 - คัมภีร์โบราณที่ยังมีชีวิต
เย่ฟ่านถามจักรพรรดิดำและวานรศักดิ์สิทธิ์อย่างละเอียดเพราะเห็นว่าเด็กหนุ่มราชวงศ์โบราณไม่สามารถตอบได้ เขสงสัยอยู่เสมอว่าทำไมจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์มนุษย์จึงไม่ฝังตัวเองอยู่ในต้นกำเนิดสวรรค์?
วานรศักดิ์สิทธิ์ให้คำตอบแก่เขาและกล่าวว่าเวลาเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดสามารถหลีกเลี่ยงได้! และคำตอบของจักรพรรดิดำก็มีรายละเอียดมากขึ้น
ต้นกำเนิดสวรรค์ที่พยุงชีวิตไม่ให้กลายเป็นคนตายนั้นไม่ได้ผลอย่างสมบูรณ์สำหรับจักรพรรดิโบราณ เพราะพวกเขามีพลังมากเกินไป ไม่มีอะไรสามารถผนึกพลังชีวิตที่ผันผวนได้!
และในความเป็นจริงในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ยังคงมีต้นกำเนิดบริสุทธิ์ธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติในขณะที่ต้นกำเนิดสวรรค์สิ้นสุดลงในช่วงปีโบราณ
หากต้องการพยุงชีวิตนเองด้วยการอาศัยหินต้นกำเนิด หินต้นกำเนิดที่ก่อตัวขึ้นแล้วจะไม่สามารถใช้งานได้เลย และพวกเขาจำเป็นต้องใช้ของเหลวต้นกำเนิดที่บริสุทธิ์เท่านั้น
ของเหลวต้นกำเนิดสวรรค์เป็นแก่นแท้ของต้นกำเนิดของสวรรค์และพิภพ มันค่อยๆ สูญพันธุ์ไปในช่วงปีบรรพกาล อย่างน้อยในรอบหลายล้านปีที่ผ่านมามันก็ไม่เคยกำเนิดขึ้นเลย
จากนั้นเมื่อหลายล้านปีก่อนก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น และเผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพ์ที่รุ่งเรืองได้ถูกทำลายจนแทบหมดสิ้น ดังนั้นพวกเขาจึงค้นหาของเหลวต้นกำเนิดทั้งหมดในโลกมาปิดผนึกทายาทของตัวเอง
ในโลกนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ปลาใหญ่จะกินปลาเล็ก และด้วยของเหลวต้นกำเนิดสวรรค์ที่มีจำนวนน้อยนิดมันจึงเป็นเหตุผลให้มีราชวงศ์โบราณเพียงไม่กี่ตระกูลเท่านั้นที่สามารถรักษาชีวิตของลูกหลานไว้ได้
“ในอดีตมีเผ่าพันธุ์โบราณมากมายและพวกเขาก็เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก แต่ในบรรดาผู้คนหลายสิบล้านหรือหลายร้อยล้านคนกลับมีของเหลวต้นกำเนิดสวรรค์เพียงน้อยนิดอย่างมากสุดก็ปิดผนึกสิ่งมีชีวิตได้เพียงไม่กี่คน” วานรศักดิ์สิทธิ์ถอนหายใจ
“เผ่าพันธุ์มนุษย์รอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณ และคนรุ่นต่อไปไม่จำเป็นต้องใช้มัน นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เขาพันมนุษย์ครองโลกตั้งแต่นั้นมา” เย่ฟ่านกล่าวหลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
สำหรับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์แม้ว่าพวกเขาจะสามารถท้าทายสวรรค์ และมีความสามารถในการค้นหาสถานที่ที่มีของเหลวต้นกำเนิดสวรรค์ได้
แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันก็ไม่เพียงพอที่จะปิดผนึกพลังชีวิตของตัวเอง! เพราะพวกเขามีพลังมากเกินไป
เหนือสิ่งอื่นใดในโลก วัตถุที่สามารถใช้ยืดชีวิตของพวกเขาได้ในสวรรค์พิภพนี้ก็แทบจะดับสลายไปหมดแล้ว
เย่ฟ่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานก็กลับมารู้สึกตัว มีปราชญ์โบราณที่ยังมีชีวิตอยู่ตรงหน้า มันเป็นข่าวที่สะเทือนโลกจริงๆ
ชายชราผู้นี้ดูเก่าแก่เกินไปจนน่าเหลือเชื่อ ผิวของเขาเป็นสีทองและแห้งเหี่ยว หนังสัตว์ใต้เอวมีลายจุดๆ มันเป็นผิวหนังของสัตว์ดุร้ายที่ทรงพลังอย่างแน่นอน!
แท่งกระดูกสีขาวในมือของเขาอบอุ่นและใสราวกับผลึก มันเป็นสีขาวราวกับหยก และเมื่อมองแวบแรกก็สามารถสัมผัสได้ถึงความไม่ธรรมดา
หลังจากคิดดูแล้วเย่ฟ่านก็โล่งใจ อาวุธของปราชญ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณจะธรรมดาได้อย่างไร?!
น่าเสียดายที่ชายชราถูกมัดด้วยโซ่เหล็กสีแดงสดและเส้นลมปราณมากมายของเขาถูกทำลายไปแล้ว มันทำให้ชีวิตของเขาไม่แตกต่างจากคนตายเท่าไหร่
“คนนี้ปล่อยไปไม่ได้...” จู่ๆ วานรศักดิ์สิทธิ์ก็ขมวดคิ้วและพูดคำนั้น
“ทำไม” เย่ฟ่านถาม
“ตามที่เด็กคนนั้นพูด เขาเป็นคนไร้สติอย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าบางครั้งเขาจะรักษาสติไว้ได้ แต่เมื่อเกิดความคุ้มคลั่งเขาจะลงมือสังหารผู้คนอย่างไม่สิ้นสุด…”
นี่คือปราชญ์ที่เป็นมนุษย์ และเขาเป็นบุคคลที่น่าสยดสยองด้วยความแข็งแกร่งสุดขีด !
ในยุคดึกดำบรรพ์เผ่าพันธุ์มนุษย์มีศาสตร์แห่งสวรรค์สูงสุดอยู่เพียงสองชนิด แม้ว่ามันจะล้าสมัย แต่หากฝึกฝนจนบรรลุถึงระดับสูงสุดได้แม้แต่ราชาโบราณก็ยังยากที่จะต่อสู้กับพวกเขา
คนผู้นี้บ่มเพาะศิลปะที่แท้จริงของดวงอาทิตย์และบรรลุถึงสภาวะสูงสุด จากนั้นเขาก็ฝึกฝนศิลปะที่แท้จริงของหยิน และต้องการรวมศิลปะสุดขั้วทั้งสองเข้าด้วยกัน
แต่เขามีปัญหาใหญ่เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างพลังศักดิ์สิทธิ์ของหยินและหยาง แม้ว่าในอดีตเขาจะเคยเป็นยอดฝีมือที่น่าเคารพนับถือ แต่เมื่อเกิดการตีกลับของพลังมันกลับทำให้เขาเสียสติอย่างสมบูรณ์
เขาเป็นเทพผู้อ่อนโยนในตอนกลางวันและเป็นปีศาจในตอนกลางคืน เมื่อเขาขาดสติเขาจะสังหารผู้คนมากมายจากเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างเลือดเย็น
และแม้กระทั่งบุคคลที่โดดเด่นของเผ่าพันธุ์อื่นเขาก็ไม่คิดจะละเว้น อาจกล่าวได้ว่าปราชญ์โบราณผู้นี้ได้ก่อความหายนะครั้งใหญ่ และหลายเผ่าพันธุ์จึงร่วมมือกันโจมตีเขา
ในที่สุดปู่ของเด็กชายคนนี้และพ่อของเขาก็ออกมาร่วมกันปราบปรามปราชญ์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ก่อนจะผนึกเขาไว้ที่นี่ตลอดไป
“ไม่ฆ่าเขา?” หัวใจของเย่ฟ่านขยับ
เด็กชายรู้สึกเขินอายเล็กน้อยและการแสดงออกของเขาค่อนข้างไม่เป็นธรรมชาติ วานรศักดิ์สิทธิ์เข้าใจทันทีและพูดว่า
"ศิลปะลึกลับของทุกเผ่าพันธุ์สามารถเรียนรู้จากกันและกันได้"
ปราชญ์มนุษย์ผู้เป็นอมตะคนนี้มีทักษะสูงสุดสองเส้นทางอยู่ในร่างของตัวเอง
ในช่วงยุคบรรพกาล มีคัมภีร์โบราณเพียงสองเล่มในเผ่าพันธุ์มนุษย์ คนคนนี้มีความสามารถในการเรียนรู้มันทุกข้อ มิหนำซ้ำยังพยายามรวมมันเป็นตำราเพียงเล่มเดียว
นั่นเป็นเหตุผลให้เขาเสียสติมาจนถึงปัจจุบัน!
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนก็ตกใจเป็นอย่างมาก
“นี่เป็นคัมภีร์โบราณที่เก่าแก่ที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์” จักรพรรดิดำร้องอุทาน
เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณปรากฏตัวครั้งแรกใกล้กับพื้นที่ต้องห้ามโบราณในภาคใต้ ตามบันทึกของเผ่าพันธุ์อื่นๆ พวกเขาถูกสงสัยว่ามาจากโลกภายนอก
เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณมีคัมภีร์โบราณสองเล่มซึ่งจับความมหัศจรรย์ของสวรรค์และพิภพสามารถปลูกฝังหยินดั้งเดิมและหยางศักดิ์สิทธิ์จนถึงระดับสูงสุด
ทั้งสองพลังนี้ถือได้ว่าเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลและเป็นต้นกำเนิดของพลังทั้งมวล เมื่อทราบเช่นนี้แล้วก็เป็นเหตุผลที่พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมเผ่าพันธุ์โบราณถึงยังคงไว้ชีวิตเขา
เย่ฟ่านเคยได้ยินเกี่ยวกับจักรพรรดิโบราณมานานแล้ว เมื่อเขาสร้างพระคัมภีร์โบราณสูงสุดของเขาเอง เขาได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากพระคัมภีร์ดั้งเดิมที่สุดสองข้อนี้
"ปราชญ์โบราณผู้เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่ยังมีชีวิต!” จักรพรรดิดำคำรามด้วยความโล�
ปราชญ์โบราณสามารถฆ่ายอดฝีมือชั้นนำด้วยเลือดเพียงหยดเดียว และกระดูกสีขาวที่อยู่ในมือของเขาจะต้องเป็นอาวุธเต๋าสุดขั้วอันยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาได้เชี่ยวชาญคัมภีร์โบราณของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าที่สูญหายไปเป็นเวลาหลายล้านปี และโซ่เหล็กสีแดงที่ผูกติดอยู่กับร่างกายของเขาก็คงเป็นสิ่งปราบปรามซึ่งพยายามทำให้เขาคายความลับเหล่านั้น
เย่ฟ่านรู้สึกตื่นเต้นเช่นกันที่ชายผู้นี้ได้เรียนรู้ศิลปะที่แท้จริงของคำภีร์ไท่หยินและเขาในฐานะมนุษย์ก็ย่อมมีความฝันว่าจะมีโอกาสได้เรียนรู้ตำราโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้สักครั้ง
หากสามารถค้นหาคัมภีร์โบราณเล่มนี้ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเส้นทางในการกลับบ้านของเขาจะปรากฏขึ้นอย่างแน่นอน
“เอมมาทริ”
เด็กหนุ่มราชวงโบราณพูดอะไรบางอย่างเสียงดัง ดวงตาของเขาแสดงความระมัดระวัง และเขาก็ค่อยๆ ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“เขาบอกว่าอย่าแตะต้องนักฆ่าที่น่ากลัวคนนี้ เขาบอกให้เราจากไปโดยเร็ว” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าว
เย่ฟ่านรู้ว่าถ้าเขาต้องการช่วยเหลือปราชญ์โบราณ เด็กหนุ่มจะหยุดเขาอย่างแน่นอน และแม้กระทั่งปลุกพ่อของตัวเองขึ้นมา
"ปล่อยให้เขานอนสักพัก พวกเราจะไปค้นหาของอย่างอื่น"
เขาไม่ต้องการทำร้ายเด็กหนุ่ม ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่มีความแค้นใดๆ และเด็กน้อยคนนี้ก็พาพวกเขาออกมาค้นหาสมบัติมากมาย
“ปัง”
วานรศักดิ์สิทธิ์กรีดฝ่ามือเบาๆ และเด็กหนุ่มก็ถูกกระแทกจนสลบคาถ้ำโบราณ
“เขาจะตื่นขึ้นภายในหนึ่งชั่วยาม”