ผมอะตัวร้ายในโนเวล ตอนที่ 5
ผมอะตัวร้ายในโนเวล ตอนที่ 5
ณ วิลล่าของตระกูลเย่
ช่วงเช้า เย่เฟยได้ร่วมทานอาหารเช้าพร้อมกับพ่อแม่ของเขา
พ่อของเย่เฟยคือ เย่เหอ ส่วนแม่ของเย่เฟยมีชื่อว่า หลินเสวี่ย ทั้งสองเป็นคู่รักที่รักใคร่กลมเกลียว
พ่อของเย่เฟยทำหน้าที่ดูแลบริหารเย่กรุ๊ปมาตลอดหลายปี จึงมีบารมีอย่างสูงในแวดวงธุรกิจ
ซึ่งเย่เฟยนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานของเย่กรุ๊ป ทำหน้าที่คอยดูแลหลายๆบริษัท ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ ภาพยนตร์ บันเทิงและโทรทัศน์
ความสัมพันธ์ของเย่เฟยกับพ่อแม่ของเขานั้นดีมาก ถึงยังไงเขาก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียว ดังนั้นพ่อแม่จึงมอบความรักความอบอุ่นทั้งหมดให้แก่เขา
ขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังทานอาหารกันอย่างมีความสุข จู่ๆหลินเสวี่ยก็ถามขึ้นมา "เสี่ยวเฟย แม่ได้ยินมาว่าลูกจะไม่ตามจีบหลานสาวตระกูลซูแล้วเหรอ?"
หลินเสวี่ยทราบดี
การตามตื้ออย่างบ้าคลั่งของเย่เฟยก่อนหน้านี้เป็นเรื่องที่รู้กันไปทั่วแวดวงชนชั้นสูงของเหยียนจิง ซึ่งหลายคนต่างก็คิดว่าเย่เฟยคงหลงอีกฝ่ายหัวปักหัวปำแล้ว
แต่ตอนนี้เย่เฟยไม่คิดจะตามตื้อซูชิงจู้อีกต่อไปแล้ว?
แม้แต่หลินเสวี่ยก็ยังต้องประหลาดใจพร้อมถอนหายใจในเวลาเดียวกัน
แม่ของเย่เฟยนั้นพึงพอใจซูชิงจู้มาก เพราะซูชิงจู้ไม่ใช่แค่หน้าตาดีมากเท่านั้น แต่ทั้งสองตระกูลยังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน นี่จึงนับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับลูกชายของเธอ
ทว่าน่าเสียดายที่ลูกชายของเธอจะไม่ตามจีบซูชิงจู้อีกต่อไปแล้ว
เย่เฟยพยักหน้า "ครับ หวังว่าแม่จะเข้าใจ ในเมื่อซูชิงจู้ไม่ได้ชอบผม แล้วผมจะตามตื้อไปทำไม? โลกนี้ไม่ได้ขาดแคลนผู้หญิงสักหน่อยนี่ครับ"
เย่เหอปรบมือชอบใจ จากนั้นจึงพูดว่า "ช่างเป็นคนหนุ่มที่ยอดเยี่ยม! พูดได้ถูกเผง แบบนี้สิที่ผู้ชายตระกูลเย่ควรจะเป็น!"
เมื่อเห็นว่าเย่เฟยไม่ได้เศร้าโศกใดๆ ทั้งยังเฉยชาต่อเรื่องนี้ พ่อแม่ของเขาก็รู้สึกโล่งใจ
..................
หลังจากทานอาหารพร้อมครอบครัวแล้ว เย่เฟยก็ทำการตรวจสอบทรัพย์ในปัจจุบันของเขา
แม้เย่กรุ๊ปจะเป็นกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ กระนั้นเย่เฟยก็ยังเป็นเจ้าของบริษัทลูกหลายบริษัท
ยกตัวอย่างเช่น วงการบันเทิง
เขาเป็นเจ้าของบริษัทชั้นนำอย่าง "ฮุยหวง" ในเหยียนจิง
บริษัทบันเทิงแห่งนี้ได้เซ็นสัญญากับนักแสดงและผู้กำกับชั้นนำของวงการไว้หลายสิบคน
และยังเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้มากที่สุดของเย่เฟยอีกด้วย
อิงจากข้อมูลในระบบของเย่เฟยแล้ว ทรัพย์สินจำนวนหลายพันล้านในช่องทรัพย์สินส่วนตัวก็มาจากบริษัทฮุยหวงนี่เอง
นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอเกมขนาดเล็กและสตูดิโอแอนิเมชั่นอีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้พูดถึง
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของเย่เฟย
ซึ่งหากว่านำทรัพย์สินทั้งหมดของเย่กรุ๊ปมารวมกันแล้วล่ะก็ ตัวเลขที่ได้ก็จะน่ากลัวมาก
เพราะมีฐานะเป็นลูกคนเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เย่กรุ๊ปถือครองอยู่จะตกเป็นของเย่เฟยในอนาคตอย่างแน่นอน
เย่เฟยเป็นทายาทรุ่นที่สองที่ร่ำรวยที่สุด เขามีทรัพย์สินมากมายเหลือคณา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรถหรูแบรนด์ต่างๆ เขามีรถยนต์มากพอๆกับเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าของเขา
นอกจากนี้ เขายังมีเครื่องบินส่วนตัวและเรือยอทช์อีกสองลำในชื่อของเขา
หลังจากตรวจสอบทรัพย์สินส่วนตัวที่เขามีแล้ว เย่เฟยก็รู้ว่าเขานั้นรวยแค่ไหน
อย่างน้อย มองในแง่ของความมั่งคั่งแล้ว เย่เฟยเหนือกว่าพระเอกอย่างเฉินหลัวลิบลับ
จากนั้นเย่เฟยจึงทำการสื่อสารกับระบบ
'โฮสต์ คุณได้แย่งชิงวาสนาของตัวเอกเฉินหลัวและได้รับคัมภีร์เน่ยจิงมาแล้ว คุณทำดีมาก' ระบบแสดงความยินดีกับเย่เฟยด้วยน้ำเสียงร่าเริง
แย่งชิงเส้นทางของตัวเอกเพื่อให้ตัวเอกสิ้นไร้ไม้ตอก!
หลังจากครอบครองคัมภีร์เน่ยจิงแล้ว ทกษะแพทย์ของเย่เฟยก็ไม่ได้ด้อยกว่าเฉินหลัว เพียงแต่เขายังขาดประสบการณ์อยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เขาศึกษาคัมภีร์เน่ยจิงต่อไป ทักษะทางการแพทย์ของเขาจะเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับที่สูงขึ้น กระทั่งเหนือกว่าเฉินหลัว!
'แต่โฮสต์ไม่อาจประมาท เฉินหลัวมีรัศมีของตัวเอกในนิยาย และภูมิหลังของเขาก็ไม่ควรมองข้าม'
เย่เฟยพยักหน้าตอบ "รู้น่า"
นิยายเรื่อง แพทย์อัจฉริยะ ในโลกก่อนหน้านี้ของเย่เฟย เป็นนิยายที่พระเอกเป็นสุดยอดหมอซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดเนื่องจากความสนุกที่เกินมาตรฐานนิยายในแนวเดียวกันและทำให้ชาวเน็ตต้องประหลาดใจ
พระเอกอย่างเฉินหลัวสร้างชื่อเสียงในเหยียนจิงโดยอาศัยทักษะแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของเขา และผู้ป่วยแทบทั้งหมดที่เขาทำการรักษาให้นั้นต่างก็มีฐานะร่ำรวยและสูงส่ง
แน่นอนว่าโชคด้านความรักของเขานั้นออกจะเกินจริงไปสักหน่อย ประธานสาวที่เย็นชา เด็กสาวที่ประพฤติดี และน้องสาวของจักรพรรดิที่ไม่มีใครเทียบได้.....ทั้งหมดนี้ล้วนตบเท้าสมัครเข้าฮาเร็มของเขากันทั้งนั้น
และเฉินหลัวยังมีผู้สนับสนุนที่พิเศษมากอีกด้วย
นั่นก็คือ อาจารย์ของเฉินหลัว
เฉินหลัวเรียนการแพทย์กับอาจารย์ตั้งแต่เด็ก อาจารย์ของเขาเคยเป็นแพทย์อันดับหนึ่งในเหยียนจิงมาก่อน เขาเคยทำการรักษาบุคคลสำคัญและชนชั้นสูงมานับไม่ถ้วน ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้บุคคลเหล่านี้มีความสำนึกขอบคุณต่ออาจารย์ของเฉินหลัวมาก
ซึ่งจากเส้นสายความสัมพันธ์นี้เอง เฉินหลัวจึงไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้แก่ผู้ใด
แม้ว่าเย่เฟยจะมีเปรียบอยู่บ้างในด้านฐานะ แต่เขาก็ไม่ควรประมาทเฉินหลัว
โดยเฉพาะขุมกำลังของออาจารย์ของเฉินหลัวที่จะเข้าไปมีบทบาทอยู่ในหลายๆฉากสำคัญ
เย่เฟยจำได้อย่างแม่นยำว่าเย่เฟยในนิยายนั้นมีจุดจบอย่างไร
เย่กรุ๊ปถูกทำลายและในที่สุดก็ถูกเทคโอเวอร์โดยเฉินหลัว พ่อแม่ของเย่เฟยกลายเป็นนักโทษ และเย่เฟยก็ตายอนาถ
'โฮสต์ หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงโชคชะตา คุณก็ต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อต่อสู้กับเฉินหลัว' ระบบพูดเตือน
"ไม่ต้องให้เตือนเรื่องนี้หรอกน่า" เย่เฟยตอบเบาๆ
เย่เฟยทราบดี
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหันหลังหนี
แม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายหลีกเลี่ยงที่จะสร้างความขัดแย้งกับเฉินหลัวก่อน แต่เขาก็จะต้องซ่อนตัวจากเฉินหลัวไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ?
นั่นไม่ใช่นิสัยของเย่เฟย
ให้ตายเถอะน่า!
ตอนนี้ ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะชิงโชควาสนาของเฉินหลัว รอดูกันไปเถอะ!
เย่เฟยเริ่มเตรียมการวางแผน
"ระบบ รอดูฉันก็แล้วกัน" เย่เฟยพูดเบาๆ
'โอเค ฉันจะตั้งตารอ' เสียงของระบบเต็มไปด้วยความสุข
...........
เวลาไหลไปช้าๆ ผ่านไปอีกสามวัน
ในช่วงเวลานี้ เย่เฟยได้เตรียมการอย่างหนักและวางรากฐานของแผนการอันยิ่งใหญ่ของเขาอย่างรอบคอบ
วันนี้ เย่เฟยตัดสินใจว่าจะไปเยี่ยมคุณปู่ซู!
เย่เฟยเปลี่ยนเป็นใช้รถเบนท์ลีย์มูซานคันสีฟ้า เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังวิลล่าตระกูลซู.......