SWO ตอนที่ 32
ทันทีที่เฉียวหยิงกล่าว หัวใจของหวู่เถาก็กระชับขึ้น
นี่คือปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุด
แม้จะเป็นเพียงความร่วมมือทางธุรกิจ แต่นั่นก็แสดงถึงความเป็นไปได้มากมาย
โจวเฮายิ้ม "แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว"
เฉียวหยิงเผยรอยยิ้มที่ดูงดงาม และจริงใจ "ขอบคุณค่ะ"
โจวเฮามองรอยยิ้มที่จริงใจของเธอ และกล่าวให้กำลังใจ “พยายามเข้าล่ะ”
สิ้นเสียงเขาก็แตะเท้า และทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที
เพียงสิบวินาทีหลังจากที่เขาจากไป...
บูม! บูม! บูม!
ร่างที่มีบรรยากาศสะกดข่มก็ค่อย ๆ ลงมาจากฟ้าทีละคน
ในหมู่พวกเขามีคนผู้หนึ่งที่มีกลิ่นอายน่าหวาดหวั่นจนกดขี่รอบข้างเป็นพิเศษอยู่ด้วย
“ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดท่านนั้นไปไหนแล้ว?”
คนเหล่านี้เป็นปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธของเมืองหัวตง ฉะนั้นแล้วเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้น ณ โกดังเขต B ของห้างพันธมิตรใต้ดินจึงไม่สามารถซ่อนจากสายตาพวกเขาได้
ทันทีที่พวกเขาได้รับข่าวพวกเขาก็รีบพุ่งมาทันที
ผู้บัญชาการจ้าวมองไปยังประธานเหอ
ประธานเหอส่ายหัวเบา ๆ อันที่จริงหวู่เถาเป็นสายลับที่เขาฝังไว้ในห้างพันธมิตรใต้ดิน อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้มีแผนจะเปิดเผยเรื่องนั้นในตอนนี้
ปรมาจารย์เจิ้นแห่งห้างพันธมิตรใต้ดินกวาดสายตาไปยังหวู่เถา “ไหนบอกมาสิ ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดท่านนั้นอยู่ไหน?”
หวู่เถารีบตอบทันที “ผู้อาวุโสท่านนั้นออกไปเมื่อครู่นี้เอง”
สีหน้าของปรมาจารย์เจิ้นเปลี่ยนไป "อะไรนะ? ทำไมเจ้าไม่หยุดท่านไว้!”
หวู่เถายิ้มอย่างขมขื่น
ผู้บัญชาการจ้าวกล่าวเบา ๆ “เจิ้นหงใส่ใจกับทัศนคติของเจ้าด้วย เอาเข้าจริงอย่าว่าแต่หวู่เถาเลย แม้จะเป็นพวกเรา หากท่านผู้นั้นอยากไปเราก็ไม่สามารถรั้งท่านไว้ได้”
เจิ้นหงพยักหน้าอย่างเร่งรีบ เขากังวลเช่นกัน ท้ายที่สุดคนที่พวกเขากำลังพูดถึงนั้นเป็นถึงปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุด
เมื่อวานเขาคิดว่าจะไม่ได้เจออีกแล้ว แต่ใครเล่าจะไปคิดว่าปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธท่านนั้นจะมาขายวัตถุดิบที่ห้างพันธมิตรใต้ดินวันนี้
เจิ้นหงต้องการคว้าโอกาสอันล้ำค่าและหากยากนี้ไว้
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธที่เหลือต่างก็กังวลเช่นกัน แต่ในเวลานี้พวกเขาทำได้เพียงอดทนเท่านั้น
ผู้บัญชาการจ้าวยิ้มให้หวู่เถาก่อนถาม “หัวหน้าเขตหวู่ เจ้าช่วยบอกข้าหน่อยได้รึไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
หวู่เถาอธิบายทุกอย่างอย่างละเอียดทันที
“ข้าไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้น แต่ผู้อำนวยการเฉียวควรรู้” ต่อหน้าเทพเจ้าสงครามอย่างผู้บัญชาการจ้าว เขาไม่กล้าปิดบัง
บัญชาการจ้าวมองไปที่เฉียวหยิง
เฉียวหยิงระงับความตื่นเต้นในใจ และอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
เมื่อเจิ้นหงได้ยินเรื่องนี้ เขาก็อดสบถด่าด้วยความโกรธไม่ได้ "เจ้าว่าอะไรนะ? ไอ้สารเลวที่ชื่อหานกับหยานกล้าตวาดปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธท่านนั้น? พวกมันไปกินกินดีหมีหัวใจเสือมากันรึไงกัน หวู่เถา เจ้าไม่รู้วิธีจัดการลูกน้องของเจ้าเลยงั้นรึ?”
หวู่เถารีบยอมรับความผิดพลาดของเขา "ขอโทษครับ เป็นเพราะความสะเพร่าของข้าเอง"
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ หัวเราะเยาะอย่างลับ ๆ โอกาสมาเคาะถึงหน้าประตูแล้วแท้ ๆ ถึงกระนั้นห้างพันธมิตรใต้ดินกลับไม่รับไว้แถมผลักไสออกไปอีก
เกรงว่าเวลานี้ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธท่านนั้นคงลบแต้มที่นี่ไปมากแล้วเป็นแน่
เจิ้นหงกัดฟัน เขาโกรธมาก
เมื่อเห็นท่าไม่ดี หวู่เถาจึงรีบกล่าวขึ้นทันที “ทะ ท่านเจิ้น ก่อนที่ผู้อาวุโสท่านนั้นจะจากไป ท่านบอกว่าท่านจะร่วมงานกับผู้อำนวยการเฉียวอีกครั้ง”
เมื่อเจิ้นหงที่กำลังจะระเบิดได้ยินดังนั้น ดวงตาของเขาก็เป็นประกายในทันใด
เขาจ้องไปที่เฉียวหยิง ก่อนเผยรอยยิ้มที่แลดูอบอุ่นและอ่อนโยนออกมา “ผู้อำนวยการเฉียว ไม่สิ น้องเฉียว ที่เขาพูดมาเป็นความจริงรึ? ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธท่านนั้นบอกว่าท่านจะร่วมงานกับเจ้าอีกครั้ง?”
เฉียวหยิงไม่ตอบสนองไปครู่หนึ่ง
ท้ายที่สุดอีกฝ่ายก็เป็นถึงปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธ
ตัวตนที่ทรงพลังขนาดเขย่าเมืองหัวตงทั้งหมดได้ด้วยเพียงคำพูดของเขาเท่านั้น
ทำไมเขาถึงกระตือรือร้นเรื่องเธอนัก?
อย่างไรก็ตาม หลังจากประสบ ‘การต่อสู้’ ร่วมกันเมื่อสักครู่ เธอจึงพยักหน้าอย่างเร่งรีบ “ผู้อาวุโสเจิ้น หัวหน้าเขตหวู่พูดถูก ก่อนที่ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธท่านนั้นจะจากไป ท่านบอกว่าท่านจะร่วมงานกับข้าอีกครั้ง”
“ฮ่าฮา ดี ดี ดี!” เจิ้นหงอดหัวเราะไม่ได้
เดิมทีเขาคิดว่าเขาทำให้ผู้อาวุโสท่านนั้นผิดหวัง แต่ในชั่วพริบตา โอกาสใหม่ก็ปรากฏขึ้นในตัวผู้อำนวยการคนนี้
แสงสว่างในความมืดมีอยู่จริง!
ปรมาจารย์ที่เหลือมีปฏิกิริยาไม่ต่างจากเขา
พวกเขารีบเดินเข้าหาเธอทันที
“น้องเฉียวคนสวย ตระกูลของเรายังขาดคนมีความสามารถเช่นเจ้า!”
“น้องเฉียว ครั้งนี้ห้างพันธมิตรใต้ดินทำผิดร้ายแรงด้วยการรังแกหญิงสาวที่สวย และสดใสดั่งแสงตะวันเช่นเจ้า เรื่องนี้ไม่ว่ามองยังไงก็ไม่ควรให้อภัยเลยจริง ๆ เอาแบบนี้เป็นไง เจ้ามาทำงานให้ข้าดีกว่า ข้ารับประกันเลยว่าไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าแน่!”
เหอเปียวหยิบตาให้หวู่เถารัว ๆ
หวู่เถายิ้มอย่างขมขื่น เขาจะไปกล้าพูดในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?
ผู้บัญชาการจ้าวมองโดยไม่พูดอะไร แต่ภายในเขาได้ตัดสินใจแล้ว
ตราบใดที่ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดผู้นั้นเต็มใจอยู่ในเมืองนี้ นั่นคือเกียรติของเมือง
สำหรับผู้คนรอบข้างที่กำลังเฝ้าดูความโกลาหลนี้อยู่ พวกเขาต่างตกตะลึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
จนกระทั่งเหล่าปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธจากไปพวกเขาจึงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
เมื่อมองไปยังจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กขนาดใหญ่ในโกดัง พวกเขาก็ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ทุกสิ่งกลับกลับตลับปัด!”
“อืม เจ้าไม่คิดว่าเฉียวหยิงโชคดีไปหน่อยรึ? ลูกค้าที่นางเพิ่งรับเป็นถึงปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดเชียวนะ!”
“อืม แต่เราจะทำอะไรได้? คิดได้เพียงนางโชคดีมากเท่านั้น”
“คราวนี้หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นผิดแปลกผู้อำนวยการหานกับผู้จัดการหยานคงจบสิ้นแล้ว”
“เจ้าคิดว่าพวกเขาจะกลับมาได้จริง ๆ เรอะหลังจากหาเรื่องปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดท่านนั้นไป? เจ้าต้องล้อเล่นแน่ ข้ามั่นใจเกิดร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าห้างพันธมิตรใต้ดินจะไม่ปล่อยพวกนั้นไป”
“แต่วันนี้เป็นบุญตาของข้าจริง ๆ ที่ได้เห็นปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธมารวมตัวกันมากขนาดนี้”
“ใช่ มันเป็นภาพที่หายากมาก”
หลังจากที่ผู้คนมากมาย รวมทั้งหัวหน้าเขตหวู่จากไป เฉียวหยิงก็ยังไม่สามารถสงบอารมณ์ของตัวเองได้
ประสบการณ์เพียงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานั้นน่าตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าทั้งชีวิตของเธอรวมกันเสียอีก
“ข้าสงสัยเหลือเกินว่าข้าจะสามารถตอบแทนความเมตตาของท่านในชีวิตนี้ได้หรือไม่!” เฉียวหยิงเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ทางเข้าโกดังขณะรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง..