750 - เซียนอมตะ
750 - เซียนอมตะ
“โลงศพโบราณที่สี่อยู่ข้างในรังมังกร!”
“มีประตูนำไปสู่ดินแดนแห่งความโกลาหล!”
ภายในรังเก่าแก่ของมังกรที่แท้จริงมีโลงศพขนาดใหญ่ซุกซ่อนอย่างลึกลับอยู่ภายใน
"ปราณโกลาหลที่เกิดจากรังมังกรที่แท้จริงมีระดับเดียวกับสมบัติอมตะงั้นหรือ!"
"มีคนจงใจปิดบังดินแดนแห่งความโกลาหลด้วยต้นไม้มังกรนี้!"
ทุกคนต่างตกตะลึง !
ที่ด้านล่างของถ้ำที่ทำจากต้นไม้มังกรมีประตูขนาดเล็กที่ปลดปล่อยปราณแห่งความโกลาหลออกมาอย่างไม่สิ้นสุด
ในตอนนี้โลงศพโบราณตั้งขวางหน้าประตูไว้ คล้ายกับจะไม่อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตอ่อนแอข้ามไปได้
“ร่างกายรุ่นที่สี่ของจักรพรรดิโบราณอยู่ที่นี่ เขาหรือนางมีความสามารถในการเลือกที่ตายอย่างแท้จริง!” จักรพรรดิดำตกใจ
“รังหมื่นมังกร ความโกลาหลภายในเป็นเช่นนี้จริงๆ!” เย่ฟ่านไตร่ตรองและอนุมานกับความรู้ในคัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์ของเขา
ทันใดนั้น หัวใจของเย่ฟ่านก็ตกตะลึงเขารีบหยิบหม้อปราณปัฐพีต้นกำเนิดออกมาปกป้องร่างกายด้วยใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือด
“นี่มัน…”
ร่างกายของเขาสั่นอยู่ตลอดเวลา และเขารู้สึกถึงบางสิ่งในรังโบราณ
“ชา!”
ที่ด้านล่างของรังเก่าแก่ของมังกรที่แท้จริง โลงศพโบราณถูกล้อมรอบด้วยปราณโกลาหล และฝาโลงศพก็ค่อยๆ เปิดออก
“ปัง”
ฝาโลงศพเคลื่อนช้าๆ และสิ่งที่อยู่ภายในก็เปิดเผยขึ้น
"นั่นมันอะไร!"
ฝาโลงหันไปด้านใดด้านหนึ่ง และเสียงนั้นทำให้จิตวิญญาณของหลายคนสั่นสะท้าน
บนศีรษะของเย่ฟ่านหม้อศักดิ์สิทธิ์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และมันแทบจะหลุดจากการควบคุมของเขาโดยที่มันพยายามพุ่งเข้าไปในโรงศพด้วยตนเอง
“นี่คือศพของจักรพรรดิกลืนสวรรค์”
ปราณปฐพีต้นกำเนิดที่อยู่บนศีรษะของเย่ฟ่านสั่นสะเทือนเพราะมันมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
"อย่าปล่อยมือเด็ดขาดไม่เช่นนั้นพวกเราจะตายอย่างไร้ที่กลบฝัง" จักรพรรดิดำคำรามด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้าน
จิตใจของเย่ฟ่านสงบ เขาไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับจักรพรรดิโบราณ และถ้าหม้อปราณหนีไป เขาก็จะไม่หลงทางมากนัก
เขายืนเงียบๆ และจ้องมองไปยังซากศพของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในโลง
"ศพ..."
วานรศักดิ์สิทธิ์รู้สึกประหม่าอย่างยิ่ง เขาหยิบอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองออกมาและจับจ้องไปยังโลงศพด้วยความหวาดกลัว
เด็กหนุ่มรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง เขารีบคุกเข่าลงพื้นไม่กล้ามองเข้าไปในโลงศพในขณะที่ส่งเสียงพึมพำด้วยภาษาโบราณอยู่ตลอดเวลา
“จักรพรรดิที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งมากที่สุดในโลก กลับใช้เวลานอนอยู่ในโลงศพอย่างยาวนานเพื่อรอความตายอย่างเงียบๆเพียงคนเดียว” ขนของจักรพรรดิดำตั้งตรงและถอยกลับไปสองสามก้าว
ในโลงศพโบราณมีหมอกและควันมากมาย ศพไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์และมันถูกทำลายอย่างย่อยยับ นี่คือชีวิตที่สี่ของจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยม
เห็นได้ชัดว่าเขาล้มเหลวที่จะสร้างชีวิตที่ห้าขึ้นมา!
“มันยากที่จะจินตนาการว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน…”
“ผมเส้นเดียวก็สามารถทำลายภูเขาได้”
ร่างกายของเขาได้กลายเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีค่าที่สุดในโลกมานานแล้ว และมันสามารถใช้เป็นวัสดุล้ำค่าในการปรับแต่งอาวุธเต๋าสุดขั้วได้อย่างแน่นอน!
หลายคนตกตะลึงอย่างมาก ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิโบราณคนนี้เป็นสิ่งที่เกินจินตนาการของทุกคน บางทีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เทียบได้กับเทพโบราณอย่างแท้จริง
ตอนนี้สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าร่างสุดท้ายของจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมในโลงศพได้รับความเสียหายมากจนไม่สามารถสร้างใหม่ได้
แม้ว่าเขาจะสร้างศิลปะสวรรค์ที่ทำลายไม่ได้ แต่เขาก็สามารถดำเนินชีวิตได้ตลอดไปอย่างไม่รู้จบ
“อภัยให้ลูกด้วย”
ชายหนุ่มสายเลือดราชาโบราณคุกเข่าอยู่บนพื้นและส่งเสียงพึมพำไม่หยุด รังสีแห่งแรงกดดันในโลงศพโบราณทำให้เข่าของเขาอ่อนลงจนไม่มีแรงลุกขึ้น
หม้อปราณบนหัวของเย่ฟ่านแม้จะสั่นสะเทือน แต่ก็ไม่ได้บินออกไปจริงๆ สุดท้ายอาการของมันก็ค่อยๆสงบลงอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่าความสัมพันธิ์อันลึกลับกลับยังไม่ถูกตัดออก
ในขณะนี้ หลายคนมีอาการประสาทหลอนและรู้สึกอารมณ์แปรปรวน ราวกับว่ามีคนกระซิบข้างหูตลอดเวลา
พวกเขามองเห็นภาพจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมเดินบนท้องฟ้า ยืนอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะเอื้อมถึง เขามองลงมายังจักรพรรดิและจักรพรรดินีโบราณ ความแข็งแกร่งของเขานั้นเป็นสิ่งที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์
เขาไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตลอดไป ไม่ใช่เพราะเขาไม่เก่งพอ แต่เพราะเขาไม่สามารถเป็นอมตะในโลกนี้ และเขาก็ใช้ชีวิตมานานเกินไปจนไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้อีก
ถึงกระนั้นเขาก็ยังค้นคว้าหาวิธีมาต่ออายุตัวเองจนสามารถอยู่ได้ถึงสี่ชั่วอายุคน ด้วยความยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้จะไม่ให้ทุกคนหวาดกลัวเขาได้อย่างไร?
"ช่างมหัศจรรย์ ชั่วนิรันดร์ไม่มีใครเทียบได้ แม้ว่าจะตายไปแล้วก็ยังถือได้ว่ามีความแข็งแกร่งมากที่สุด เขาก้าวข้ามอดีตและปัจจุบัน กลายเป็นจักรพรรดิผู้อยู่ยงคงกระพันไปตลอดกาล"
หลังจากที่ภาพหลอนหายไปทุกคนก็ถอนหายใจอย่างเศร้าโศก
“นั่นคืออารมณ์ของจักรพรรดิโบราณที่หลงเหลืออยู่ในโลงศพหรือ? ก่อนจะร่วงหล่นเห็นได้ชัดว่าพลังของเขาไม่มีผู้ใดจะนำมาเปรียบเทียบได้”
หลังจากผ่านไปนานในที่สุดหมอกที่อยู่ในโลงศพในที่สุดก็เสื่อมสลายไปและเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
ที่นั่นไม่มีใครมองเห็นใบหน้าของเขาได้เพราะมันมีหน้ากากสีดำปิดบังใบหน้าทั้งหมดของเขาอยู่ หน้ากากนั้นมีสีหน้าบูดบึ้ง เหมือนร้องไห้แต่ไม่ได้ร้อง เหมือนหัวเราะแต่ไม่ได้ยิ้ม
อารมณ์ความรู้สึกของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ไม่มีผู้ใดสามารถทำความเข้าใจได้ บางทีหน้ากากนี้เท่านั้นที่เปิดเผยจิตใจภายในของเขา
"ตาย ตาย ตายกันหมด..."
จักรพรรดิดำถอนหายใจและในที่สุดก็นั่งลงพร้อมกับร้องไห้คร่ำครวญว่า
"จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อู๋เป่ยก็ตายเช่นกัน ตายทั้งหมดไม่มีใครสามารถอยู่ค้ำฟ้าได้ ความหวังสุดท้ายของข้าพังทลายลงแล้ว?!"
“ความหวังสุดท้ายพังทลายลง?” เย่ฟ่านงุนงงกับคำพูดของมัน
ไม่มีจักรพรรดิคนใดรอดชีวิตจริงๆ เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิดำเคยเป็นสหายของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อู๋เป่ย เมื่อเขาหายสาบสูญไปมันจึงตั้งความหวังไว้ว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จะยังมีชีวิตอยู่
แต่สุดท้ายความหวังของมันก็พังทลายลง เพราะต่อให้มันเชื่อมั่นในตัวอู๋เป่ยแค่ไหนมันก็ไม่เชื่อว่าเขาจะแข็งแกร่งไปกว่าจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมได้
“อืออ!”
มีเสียงคร่ำครวญเบาๆดังมาจากโลงศพโบราณ ทันใดนั้นแสงสีทองก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับตั้งใจที่จะกระโจนออกจากรังมังกร
“นั่นอะไร”
พวกเขาแตกตื่นตกใจเป็นอย่างมาก มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างเพิ่งออกมาจากโรงศพจริงๆ
สิ่งที่พุ่งออกมานั้นหากไม่ใช่สิ่งมีชีวิตก็ย่อมเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ระดับเซียนอมตะอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นทุกคนจึงเกิดความกระตือรือร้นอย่างถึงที่สุด
"จับ จับ!”
ใบหน้าของจักรพรรดิดำที่เคยเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเปลี่ยนเป็นสว่างสดใสและเต็มไปด้วยความโลภแทน
“ซิ่วเฉียง กุนาริ …” เด็กหนุ่มในราชวงศ์โบราณตะโกนและเตือน
วานรศักดิ์สิทธิ์แสดงท่าทางสง่งามและพูดว่า
"เขากล่าวว่าเราไม่อาจแตะต้องวิญญาณอมตะ ไม่เช่นนั้นต่อให้ราชาโบราณตื่นขึ้นมาก็มีโอกาสช่วยชีวิตเราได้”
จักรพรรดิดำทำเป็นหูทวนลมและส่งเสียงตะโกนว่า
"ใครจะสนใจมารดามัน ในเมื่อวิญญาณเซียนอมตะปรากฏขึ้นแล้วบิดาคนนี้จะแย่งชิงมาให้พวกเจ้าดู!”
"เคร้ง”
มันถือราชโองการของจักรพรรดิอมตะโบราณอยู่ในมือก่อนจะทุบมันไปที่รังของมังกร
"ราชโองการของจักรพรรดิผู้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่ ฟังคำเรียกหาของข้า…”
ทันใดนั้นแสงงดงามมากเหมือนดวงดาวก็ปกคลุมรังมังกรอย่างแน่นหนา และทำให้แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ออกมาจากโลงศพไม่มีทางหลบหนีออกจากรังมังกรนี้ได้
"เพล้ง..."
จักรพรรดิดำเคาะราชโองการของจักรพรรดิโบราณด้วยกรงเล็บขนาดใหญ่ของมันและกล่าวว่า
"ข้าคือทายาทของจักรพรรดิอมตะ รีบมาหาข้าเร็ว!”
แสงนั้นถูกดึงดูดเข้าหาจักรพรรดิ์ดำราวกับดวงจันทร์ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า จักรพรรดิดำส่งเสียงเห่าด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับยื่นกรงเล็กเข้าหาแสงสว่างนั้น
แต่แสงสว่างที่คาดว่าน่าจะเป็นวิญญาณเซียนอมตะยังคงพยายามดิ้นรนหลบหนี สุดท้ายเมื่อไม่สามารถลบรอดจากการเรียกหาของจักรพรรดิดำได้มันจึงพุ่งเข้าไปในหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดของเย่ฟ่าน!
ฉับ!
ฝาหม้อปิดลงอย่างรวดเร็ว
“เจ้าหนู เจ้ากล้าขโมยสมบัติของข้า วันนี้บิดาจะทุบเจ้าให้ตาย!”
จักรพรรดิดำโกรธมาก มันพุ่งเข้าหาหมอศักดิ์สิทธิ์และพยายามแย่งชิงสมบัติชิ้นนั้นมาจากเย่ฟ่าน
“มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้า มันบินเข้ามาเอง” เย่ฟ่านจับหัวที่ใหญ่โตของมันไว้ด้วยมือเดียว
“ไร้สาระ จักรพรรดิเรียกมันมาด้วยความเจ็บปวด แต่เจ้ามาฉวยโอกาสตอนครึ่งทาง!” จักรพรรดิดำโกรธจัดและบ้าคลั่งอย่างถึงที่สุด