ตอนที่ 013 พูดคุยกับพ่อ
เมื่อซูเจียงกัวเห็นซูแคนเดินเข้ามา เขารู้สึกได้เลยว่าลูกชายของเขาได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
แววตาของเขาเต็มไปด้วยมุ่งมั่น
"พ่อ!!"
ซูแคนเรียกเบาๆ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยเห็นพ่อนั่งอยู่บนโซฟาพร้อมเอกสารโครงการที่เขาเขียน
หัวใจของซูแคนเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย
"ซู้ด!!"
พ่อหายใจเข้าลึกๆ แล้วชี้ไปที่โซฟาข้างๆเขา
"นั่งลง!!"
ซูแคนนั่งลงข้างๆพ่อ
"แกเขียนพวกนี้เหรอ?"
พ่อยกจดหมายในมือขึ้นและถามช้าๆ ด้วยใบหน้าที่ไม่เชื่อว่าลูกชายของตนได้เขียน
"ใช่!!"
ซูแคนตอบโดยไม่ลังเล
"...!!"
ซูเจียงกัวตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าซูแคนจะตอบโดยไม่ลังเลอะไรเลย
มันทำให้ซูเจียงกัวหยุดใจไปชั่วขณะ
"แอ่กๆ!!"
เขาไอกระแอมสองสามครั้ง กลั้นหายใจ ทำสมองให้ปลอดโปร่งแล้วจึงถามลูกชาย
"ทำไมแกถึงคิดว่ารถไฟในประเทศจีนจะทำให้ประเทศพัฒนาแบบก้าวกระโดด"
"เพราะจำนวนประชากร"
ซูแคนตอบออกมาทันที
"ประชากร…"
เมื่อซูเจียงกัวได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างโตทันทีและมองไปที่ซูแคน
ซูแคนพูดต่อ
"การสำรวจจำนวนประชากรล่าสุดที่เพิ่งผ่านมา ประชากรในประเทศพวกเรามีมากกว่า 987 ล้านคน ซึ่งยังไม่ได้นับรวมพวกพื้นที่ในภูเขาหรือพื้นที่ชนบทที่ห่างไกลจากตัวเมือง ผมคิดว่าประชากรน่าจะเกินพันล้านคนแล้ว พวกเรามีรากฐานของประชาชนเป็นจำนวนมาก"
"รถไฟเป็นคมนาคมที่สะดวกที่สุดในบรรดารูปแบบการคมนาคมทุกประเภท สามารถบรรทุกคนหรือของได้จำนวนมาก แถมยังมีเงื่อนไขที่ต้องการน้อยมาก ซึ่งมันจะเป็นหัวใจหลักของการขนส่งภายในประเทศจีนในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า"
"ปัจจุบันด้วยนโยบายที่เราใช้กันอยู่ตอนนี้ สิ่งที่เราทำได้คือขยายเครือข่ายทางรถไฟและเพิ่มคุณภาพของหัวจักรรถให้สามารถเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น"
"นอกจากนี้แผนพัฒนาประเทศในอนาคต รถไฟจะเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ การเดินทาง หรือว่าการขนส่ง"
เมื่อได้ยินคำพูดของซูแคน ซูเจียงกัวก็ถามด้วยความตกใจว่า
"แกบอกจะให้รัฐบาลใช้รถไฟเป็นคมนาคมหลักอย่างงั้นเหรอ?"
"ใช่ !!"
ซูแคนตอบ เขาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดต่อ
"การเติบโตอย่างรวดเร็วของรถไฟในจีน ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งได้"
ใช่แล้วชาติก่อน ตระกูลซูพลาดโอกาสนี้ไป
มันเป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าตระกูลซูได้เดินเกมผิด สุดท้ายแล้วตระกูลซูก็ทรุดโทรมอย่างรวดเร็ว
ซูแคนไม่อยากไปเจอกับจุดจบแบบนั้นอีกแล้ว
เพื่อเปลี่ยนชะตากรรมของตระกูลซู ขั้นตอนแรกคือการเปลี่ยนตำแหน่งของตระกูล หากตระกูลเรายังทำตัวเป็นกลาง สุดท้ายแล้วทั้งสองฝั่งก็จะไม่พอใจในตระกูลเรา
"ตาเฒ่านั้นแก่แล้ว..."
ซูแคนพูดเบาๆ
"อวดดี… !!"
จู่ๆ ซูเจียงกัวก็โกรธจัดเมื่อเขาได้ยินคำพูดสุดท้ายของซูแคน เขามองไปยังซูแคน เขาตะโกนพร้อมทั้งตบโต๊ะเสียงดัง
สิ่งที่ซูเจียงกัวแปลกใจก็คือซูแคน เขายังนั่งบนโซฟาอย่างใจเย็น ราวกับว่าเขาไม่สนใจคำพูดด้วยความโกรธของเขาเลย
ซูแคนแน่นิ่งไม่ตอบโต้ เขานิ่งเหมือภูเขาที่มีเทพประทับอยู่
"ไม่ว่าตาเฒ่าจะอายุเท่าไหร่ เขาก็ยังเป็นคนเก่า คนแก่ของตระกูลซู"
เมื่อเห็นซูแคนไม่ได้ตกใจ ซูเจียงกัวก็ส่ายหัวและพูดเสริม
"นี่คือการพัฒนาต่อประชาชนทั้งประเทศ ใครที่กล้าขัดขวาง คนนั้นก็จะโดนประชาชนนี่แหละเขี่ยทิ้งออกจากประเทศ เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง"
ซูแคนกล่าวต่อ
"แก..."
ซูเจียงกัวประหลาดใจเล็กน้อยๆ ต้องมีอะไรบางอย่าง อยู่ดีๆลูกชายของเขาก็มีความรู้เกี่ยวกับตัวรถไฟพวกนั้นทั้งหมด
เมื่อมองดูโครงการรถไฟที่เขา ซูเจียงกัวก็พูดอะไรไม่ออก
"พ่อ!"
ซูแคนมองมาที่พ่อและพูดต่อว่า
"ตาเฒ่านั่นตอนนี้วางตัวเป็นกลางอยู่ ตอนนี้มันยังไม่เกิดอะไรขึ้นหรอก แต่ไม่กี่ปีข้างหน้ามันอาจจะสายไปแล้ว ดังนั้นพ่อต้องดำเนินการโครงการนี้ให้ได้"
"พ่อไม่จำเป็นต้องเป็น…ให้คุณลุงเป็นก็ได้"
ซูแคนพูด
ซูเจียงกัวมองไปยังซูแคน เขาก็พลางคิดตาม เขาเป็นลูกคนที่สองของตระกูลซู โดยมีซูเจียงจุนเป็นพี่ชาย เจียงจุนได้รับการยอมรับว่าจะเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปของตระกูลซู
แต่ในตอนนี้เขาเป็นเพียงตัวเลือกถัดไปจากพี่ชายของเขา...
ถ้าเขาส่งโครงนี้ไป คนอื่นจะคิดว่ามันเป็นความคิดของเขา ไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวซูอีกด้วย
ยังพอมีช่องอยู่...
"โอเค!!"
ซูเจียงกัวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นแต่ใบหน้ายังคงนิ่งเหมือนเดิม
"เฮ้อ!!"
ซูแคนเห็นสีหน้าของพ่อที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตราบใดที่พ่อของเขาส่งโครงการนี้ไปยังด้านบนให้พิจารณา จะต้องมีใครบางคนในนั้นเห็นอะไรบ้างอย่างแน่ๆ
ถึงตอนนั้นตำแหน่งผู้นำตระกูลซูจะต้องสั่นครออย่างแน่นอน