Ep.178 - วันนี้แกต้องตาย!
1/3
Ep.178 - วันนี้แกต้องตาย!
เวลาบ่ายแก่ๆ
หมาหวังเอ๋อทำงานล่วงเวลายังไม่กลับบ้าน
แต่ตอนนี้ฮังอวี่กลับมาถึงแล้ว
เสี่ยวไป๋ถือคู่มือพินอินเล่มเล็กๆสำหรับเด็ก
เธอกำลังเทียบพินอินและฝึกอ่านออกเสียงอย่างจริงจัง
ฮังอวี่ “มีความคืบหน้ายังไงบ้าง?”
“อื้ม เสี่ยวไป๋พอจะอ่านออกเสียงภาษาจีนกลางได้แล้ว”
ฮังอวี่ประหลาดใจนิดหน่อย “เร็วขนาดนี้เชียว? ไหนลองท่องให้ฉันฟังซิ”
เสี่ยวไป๋เปิดหนังสือสำหรับเด็กในมือเธอ และเริ่มอ่านออกเสียงมัน “ต้าเหนาฝู ต้าชี้จี่ เหม่ยฟานู่ เสี่ยวฉงฉือ ต้าเฟยหนาง เสี่ยวโหวจี๋ เสี่ยวฝูลี่ ...”
ใบหน้าของฮังอวี่ปรากฏเครื่องหมายคำถาม
แมนดาริน? นี่มันสำเนียงจีนแมนดารินไม่ใช่หรอ!
ไหงการอ่านออกเสียงของเสี่ยวไป๋ถึงเป็นแบบนี้ไปได้?
ฮังอวี่สอนว่า “ไม่ใช่ต้าเหนาฝู แต่เป็นต้าเหล่าหู”
เสี่ยวไป๋กระพริบตา “มันอ่านว่าต้าเหนาฝู!”
ฮังอวี่ “อ่านตามฉัน ต้า-เหล่า-หู!”
เสี่ยวไป๋แสดงสีหน้าจริงจัง “ต้า-เหนา-ฝู!”
ฮังอวี่ตบหน้าผาก
สามชีวิตที่อยู่ร่วมกันในคฤหาสน์เก่านี้ พูดสำเนียงไม่เหมือนกันซักคน
ฮังอวี่พูดสำเนียงจีนกลาง หมาหวังเอ๋อพูดสำเนียงเมืองหลวง เสี่ยวไป๋พูดสำเนียงแมนดาริน
ฮังเสี่ยวไป๋เริ่มไม่มั่นใจ “เราพูดอะไรผิดหรือเปล่า?”
“ไม่หรอก เธอทำได้ดีมากแล้ว”
ไม่ควรทำลายความมั่นใจของเสี่ยวไป๋
ในเมื่อความหมายที่จะสื่อสามารถเข้าใจได้ เรื่องสำเนียงก็ช่างมันเถอะ ไม่ต้องสนใจรายละเอียดพวกนี้ก็ได้!
ความเร็วในการเรียนรู้ของเสี่ยวไป๋ค่อนข้างไว แม้ยังไม่มีความสามารถในการเขียน แต่หากเป็นการสนทนาพื้นฐาน ด้วยอัตราเร็วในปัจจุบันที่เกิดขึ้น คาดว่าภายในครึ่งเดือนน่าจะไม่ใช่ปัญหา
“แม้ภาษาจีนกลางจะเรียนรู้ได้ยาก”
“แต่เสี่ยวไป๋จะพยายามให้มากขึ้น!”
“อ้อ โพชั่นที่พี่ชายต้องการ เสี่ยวไป๋กลั่นพวกมันเสร็จแล้ว ทั้งหมดอยู่ตรงนั้น”
ฮังอวี่ตรวจสอบแล้ว พบว่ามีโพชั่นฟื้นฟูพลังจิต 300 ขวดที่ผลิตจากสมุนไพรพลังจิตธรรมดา และโพชั่นฟื้นฟูพลังจิตเวอร์ชั่นอัพเกรด 30 ขวดที่กลั่นจากสมุนไพรวิญญาณระดับสูงที่ได้จากเนินเขามด
เสี่ยวไป๋มีความสามารถในการกลั่นโพชั่นอันยอดเยี่ยม
ผลงานเธอไม่เพียงมีประสิทธิภาพและแทบไม่มีผิดพลาด แต่คุณภาพยังค่อนข้างสูงอีกด้วย
สมมติง่ายๆ ต่อให้ฮังอวี่ใช้วัตถุดิบเดียวกันในการกลั่นโพชั่น แต่ผลลัพธ์ที่ออกมายังคงอ่อนแอกว่าเสี่ยวไป๋ประมาณ 20%
สำหรับโพชั่นเวอร์ชั่นอัพเกรดที่กลั่นโดยเสี่ยวไป๋นั้นให้ผลลัพธ์ดีกว่าการกินสมุนไพรพลังจิตระดับสูงโดยตรงเยอะมาก
และเอฟเฟกต์ของมันสูงกว่าโพชั่นพลังจิตธรรมดาถึงสามเท่า
ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของมันเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับใช้ในการต่อสู้ที่กำลังจะถึงนี้
“ยอดเยี่ยม”
“เสี่ยวไป๋ทำงานได้ดีมาก”
“เธอช่วยฉันได้มากจริงๆ”
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเสี่ยวไป๋เลย
เธอนึกไม่ถึงว่าเพียงทำเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ กลับสามารถได้รับคำชมจากพี่ชาย ดวงตาคู่งามสีม่วงสว่างไสวขึ้นสามส่วน
“เสี่ยวไป๋ยังมีมีแรงกลั่นอีกมาก เสี่ยวไป๋ยินดีช่วยพี่ชายอีก!”
ในตอนนั้นเอง เสี่ยวไป๋พลันนึกได้ถึงสำนวนหนึ่ง เธอเอ่ยมันออกมาเป็นภาษาจีนกลางที่ยังไม่เชี่ยวชาญ “พี่ชายหวังเอ๋อเคยสอนเสี่ยวไป๋ว่าเวลาแบบนี้ให้พูดว่า ‘ยินดีร่วมรัก!’”
“...”
“เอ่อ เสี่ยวไป๋ ไม่น่าจะออกเสียงแบบนั้น!” ฮังอวี่รีบเตือน “มันน่าจะออกเสียงว่า ‘ยินดีร่วมมือ’ มากกว่า”
ใบหน้าของเสี่ยวไป๋ดูงงงวย
ภาษามนุษย์ช่างพูดยากนัก
“ระหว่างอยู่บ้าน เธอทำตัวตามสบายได้เลยนะ เปิดทีวีหรือดูอนิเมะของมนุษย์เราก็ได้ ภาษาจีนของเราค่อนข้างกว้างและลึกซึ้ง เธอต้องค่อยๆใช้เวลาทำความเข้าใจมัน ไม่ต้องรีบร้อน ยังมีเวลาอีกเยอะ”
เมื่อต้องเผชิญกับดวงตาไร้เดียงสาของเสี่ยวไป๋
ฮังอวี่ก็เกิดความรู้สึกเป็นห่วงเธอขึ้นมา ทักษะการเข้าสังคมของเด็กสาวยังอ่อนแอ การออกเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานบวกกับท่าทางที่ไม่ชัดเจน และการใช้สำนวนแบบผิดๆ หากปล่อยเธอออกไปคุยกับคนอื่นๆเดี๋ยวจะเกิดความเข้าใจผิดได้
ดังนั้นเรื่องพาเธอออกไปแนะนำตัวกับโลกภายนอกคงต้องชะลอออกไปอีกซักพัก
ฮังอวี่ใช้เวลาที่เหลือร่วมมือกับเสี่ยวไป๋ผสมระเบิดเมือกได้ 50 ก้อน
และ ณ ขณะนี้
โลกวิญญาณได้เปิดออกอีกครั้ง
ฮังอวี่เรียกหวังเอ๋อที่อยู่อีกสถานที่หนึ่งเข้าสู่มิติสัตว์วิญญาณ
และก่อนไปเขายังเปิดการ์ตูน The Legend of Hei (ชื่อไทยภูติแมวมหัศจรรย์เป็นเรื่องประมาณภูติในป่าถูกมนุษย์บุกรุกที่แล้วโดนไล่มาอยู่ในเมืองที่มีแต่เทคโนโลยี ที่จงใจเปิดเรื่องนี้คาดว่าเพราะมันคล้ายคลึงกับสถานการณ์ของเด็กสาว) ให้เสี่ยวไป๋ดู
เสี่ยวไป๋ไม่มีกิจกรรมบันเทิงใดๆในโลกวิญญาณ ยิ่งไปกว่านั้นไม่เคยดูการ์ตูน เวลานี้ดวงตาทั้งสองไม่กะพริบ เห็นได้ชัดว่าถูกดึงดูดจมอยู่กับมัน
อันที่จริงจุดประสงค์ของฮังอวี่คือต้องการให้เธอพัฒนาภาษาจีน แต่เห็นได้ชัดว่าฮังอวี่คิดตื้นไป ในอนาคตเขาจะรู้ว่าการเปิดการ์ตูนให้เสี่ยวไป๋ดูนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ...
...
หลังจากที่ ฮังอวี่เข้าสู่โลกวิญญาณ
เสียงของหวังเอ๋อดังขึ้นในหัวเขา
“ฮ่ง! เจ้านายเข้าสู่โลกวิญญาณแล้วใช่ไหม? มิติสัตว์วิญญาณค่อนข้างน่าเบื่อ มันคับแคบ สุนัขรู้สึกหายใจไม่ออก”
อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่ไม่มีเจตนาจะปล่อยมันออกมา
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้ช่วย”
“นายแค่อยู่ในมิติสัตว์วิญญาณอย่างเชื่อฟังก็พอ”
สิ่งต่อไปที่ฮังอวี่ต้องจัดการคือผู้พิทักษ์ต้นไม้ยักษ์
พลังรบของหวังเอ๋อไม่แกร่งพอที่จะช่วยเหลือ ตรงกันข้าม การเรียกมันออกมามีแต่สร้างปัญหาให้ตัวเอง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องปล่อยมันตอนนี้
ฮังอวี่อยู่ใกล้กับแผ่นศิลาเทเลพอร์ต
ทางเข้าเขาวงกตอยู่ไม่ไกลนัก
เขาเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง
หยิบคัมภีร์สกิลท่องสายลม โพชั่นแม่มดดำ เมล็ดบัวคลั่ง และโสมวิญญาณ 10 ปี ออกมา
สองอย่างแรกเขาแลกเปลี่ยนมันกับซูเจิ้งเฉิง
สองอย่างหลังเป็นของที่ฮังอวี่เก็บมาได้นานแล้ว
เมล็ดบัวคลั่งคือเมล็ดพันธ์วิญญาณที่ฮังอวี่รวบรวมมันมาจากดอกบัวรวมวิญญาณ
มันสามารถช่วยให้ผู้กินเข้าสู่สถานะคลุ้มคลั่งได้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพิ่มค่าคุณสมบัติทั้งหมดอย่างมีนัยสำคัญและไม่มีผลข้างเคียง
โสมวิญญาณ 10 ปีเป็นสมุนไพรหายากที่โล้นซ่ามอบให้เขาตอนแวะไปเที่ยวบ้านย่าหวางกับเสี่ยวเหมิงเหมิง ช่วงแรกเขานำมันไปปลูกในลานบ้านจนเอฟเฟกต์ทรงพลังขึ้น ตอนนี้มันสามารถเพิ่มขีดจำกัดพลังชีวิตได้ 20 หน่วย เป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง
ทั้งหมดล้วนเป็นของดี!
ส่วนเหตุผลที่ฮังอวี่ไม่นำพวกมันออกมาใช้ในการบุกค่ายมนุษย์หมูป่าครั้งก่อน
สาเหตุหลักๆเป็นเพราะเขามีทีมสายสนับสนุอยู่แล้ว
สถานะคลุ้มคลั่งไม่สามารถซ้อนทับกับสกิลสายสนับสนุนอื่นๆได้ และโสมวิญญาณก็มีเอฟเฟกต์คล้ายคลึงกัน หากกินจะไม่สามารถซ้อนทับด้วยสกิลอื่น ดังนั้นฮังอวี่จึงไม่ได้ใช้งานมัน และได้แต่พกติดตัวเอาไว้
“เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย!”
ฮังอวี่กินเมล็ดบัว โสมวิญญาณ และโพชั่น จากนั้นเปิดใช้งานคัมภีร์สกิล
พละกำลัง ความว่องไว ความเร็วในการเคลื่อนที่ ค่าพลังชีวิต ค่าพลังจิตพุ่งสูงขึ้นในพริบตา
พลังรบพรั่งพรูออกมาในวินาทีเดียว!
ฮังอวี่ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี
มันให้ความรู้สึกเหมือนเกิดใหม่!
หอกอันประณีตปรากฏขึ้นในมือเขา
หอกนี้ยาวสองเมตร ทั่วหอกสลักไปด้วยลวดลายสีทองเข้ม ปลายหอกมีความคมอย่างหาที่เปรียบมิได้ อีกทั้งรอบๆยังกระพริบไปด้วยแสงสายฟ้า
เจ้าสิ่งนี้จะเป็นอื่นใดไปได้อีกหากมิใช่หอกประกายแสง สำหรับมนุษย์ในช่วงต้นเกม มันเรียกได้เลยว่าเป็นอาวุธเทพ และขณะถือหอก ฮังอวี่จะได้รับค่าควาว่องไวเพิ่มขึ้น 5 หน่วย ช่วยให้เขาปราดเปรียวยิ่งขึ้น
เปิดใช้งานเทคนิคท่องวายุ!
เปิดใช้งานเทคนิคล่องหน!
“ผู้พิทักษ์ต้นไม้ยักษ์เอ๋ย”
“วันนี้แกต้องตาย!”
ฮังอวี่กระทืบเท้า
ดั่งศรที่หลุดจากเชือกธนู ทั้งคนทั้งร่างฉีกผ่านอากาศอย่างรุนแรง พริบตาเดียวพุ่งฉิวไปไกลกว่า 40-50 เมตร วัชพืชตามรายทางลอยฟุ้ง เป็นความเร็วที่เหนือกว่าความรู้ความเข้าใจของคนทั่วไป