CD บทที่ 218 ร่ายมนต์อีกครั้ง
‘ฮ่าวเกิงอยู่ที่ไหน เขาหนีไม่แล้วเหรอ! ผู้ชายคนนี้มีเงินตั้งมามาย หากเขาหนีไปได้ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจับเขาอีกครั้ง!’
ยังดีที่กล้องวงจรปิดล่องหนยังคงทำงานอยู่ จ้าวหยู่สามารถใช้กล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ทันทีและตระหนักว่าฮ่าวเกิงอยู่ในลิฟต์แล้ว!
"เร็วเข้า!" จ้าวหยู่ไม่มีเวลาอธิบาย เขาชี้ไปที่ห้องเก็บของและตะโกนใส่เหมี่ยวอิงว่า "ภายในห้องนั้นมีประตูเล็ก ๆ อยู่ข้างในเหลียงซือซือถูกขังอยู่นั้น ฮ่าวเกิง! ฮ่าวเกิงเป็นคนร้ายของคดีลักพาตัวเมียนหลิง เขายังเป็นคนขังเหลียงซือซือไว้ตลอด 26 ปี!"
“อะไรนะ! เหลียงซือซือ!?” เหมี่ยวอิงตกตะลึง เธอไม่รู้ว่าจ้าวหยู่กำลังพูดเรื่องอะไร ขณะที่เธอกำลังจะเข้าไปในห้อง เธอมองไปที่ไหล่ของจ้าวหยู่ซึ่งเต็มไปด้วยเลือด เธอถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “เดี๋ยวฉัน… เดี๋ยวฉันห้ามเลือดให้คุณก่อน!”
“ไม่ต้อง ฉันจะไล่ตามฮ่าวเกิง! ฉันปล่อยให้เขาหนีไปไม่ได้!” จ้าวหยู่ตอบแล้วรีบไปที่ทางออกทันที ทว่า ก่อนที่เขาจะเข้าใกล้ประตู ผู้คนจำนวนมากก็รีบเข้ามาแทน!
พวกเขาเป็นรปภ. ของบริษัท ทุกคนถือกระบองตำรวจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับคำสั่งจากฮ่าวเกิงและมาจัดการกับผู้บุกรุก
“หนอย!” จ้าวหยู่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ เมื่อเห็นรปภ. จำนวนมาก เขานึกถึงปืนที่บอดี้การ์ดที่มีรอยแผลเป็นใช้ก่อนหน้านี้ ถึงอย่างนั้น สถาพในห้องเละเทะมาก เขาไม่รู้ว่าปืนมันอยู่ตรงไหน
ทางรปภ. ไม่รอช้า พวกเขาเหวี่ยงกระบองพร้อมที่จะโจมตี หากไม่มีทางเลือกอื่น จ้าวหยู่ทำได้เพียงต่อสู้กลับด้วยหมัดเท่านั้น
คนเหล่านี้แตกต่างจากนักต้มตุ๋นที่จ้าวหยู่เคยเจอมาก่อนหน้านี้มาก คนเหล่านี้ล้วนเป็นมืออาชีพทั้งหมด แม้แต่ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวพวกเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าจ้าวหยู่แม้แต่น้อย ไม่นานจ้าวหยู่ก็ถูกทุบตีและไม่สามารถโต้กลับได้
"ย๊าก!"
ทันใดนั้นเอง มีเสียงคำรามดังขึ้นมา เหมี่ยวอิงได้กระโจนเข้าร่วมต่อสู้!
ลูกเตะหมุนของเหมี่ยวอิงได้ส่งรปภ. คนหนึ่งกระเด็นออกไปแต่เมื่อเธอเตะเสร็จ พวกรปภ. ที่เหลือได้เข้ามาโจมตีพร้อมกัน ด้วยจำนวนกระบองที่มากมาย ทำให้เธอคำรามด้วยความเจ็บปวด
ทางด้านจ้าวหยู่ เขาต้านอีกฝ่ายไม่ไหวเช่นกัน เขาจึงถอยไปตั้งหลักแต่ด้วยกระบองที่ถาโถมมาที่เขา ทำให้เขาถอยกลับด้วยความเจ็บปวด
พลังของกระบองไม่ควรมองข้าม มันสามารถหักกระดูกได้อย่างง่ายดาย
จ้าวหยู่สังเกตว่าเขาและเหมี่ยวอิงไม่สามารถโต้กลับได้เลยและตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการของเขา เขาเปิดใช้งานเครื่องตัดไฟล่องหนที่เขาได้รับจากระบบทันที
หลังจากที่เขาใช้มัน พื้นที่ทั้งหมดได้มืดสนิท รปภ. ที่จดจ่ออยู่กับการต่อสู้ได้ชะงักอย่างกะทันหัน เนื่องจากมองไม่เห็นอะไรเลยและตกอยู่ในความโกลาหลอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง จ้าวหยู่ก็หัวเราะอย่างเย็นชา เขาพูดกับตัวเองว่า “พวกแกหมดเวลาสนุกแล้ว ตอนนี้ถึงตาฉันแล้ว!”
จ้าวหยู่เปิดใช้กล้องมองที่มืดล่องหนทันทีและเขาก็เห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน เขายิ้มให้กับตัวเองอย่างสะใจ จากนั้น เขาคว้าศีรษะของรปภ. ทันทีและกระแทกเข้ากับกระจกเต็มแรง!
*เพล้ง!*
บอดี้การ์ดคนนั้นมีเลือดไหลและล้มลงกับพื้นทันที จ้าวหยู่หยิบกระบองขึ้นมาและเริ่มแก้แค้นอย่างชั่วร้าย!
เมื่อพูดถึงการต่อสู้ จ้าวหยู่เป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน สำหรับการต่อสู้กับไม้ มันเป็นความถนัดพิเศษของจ้าวหยู่!
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์นี้สามารถตัดสินความเป็นความตายได้ เขาจึงไม่มีความจำเป็นต้องรีรอ เขาเหวี่ยงกระบองทันทีและเล็งไปที่ศีรษะ ใบหน้าและท้ายทอยของรปภ. และเริ่มฟาดทีละคน โดยใส่แรงบนกระบองแบบไม่ยั้ง!
ในไม่ช้า ห้องทำงานก็เต็มไปด้วยเสียงคร่ำครวญอันเจ็บปวด หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่พวกเขาจะถูกจู่โจมโดยจ้าวหยู่ จากนั้นก็หมดสติไปทันที!
พวกรปภ. ก็ไม่ได้โง่ เมื่อเห็นว่าไม่มีแสง พวกเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาทันที โดยตั้งใจจะใช้แสงจากโทรศัพท์ส่องดูรอบ ๆ แต่ทว่าโทรศัพท์เสีย พวกมันใช้งานไม่ได้ไม่ว่าจะทำอะไรกับมันก็ตาม!
“อ๊าก…”
"โอ๊ย!"
"อา…"
"โอย พอได้แล้ว…"
ภายใต้ความโกลาหล มีรปภ. คนหนึ่งที่มีไหวพริบ เมื่อเห็นว่าโทรศัพท์ของเขาใช้งานไม่ได้ เขาจึงดึงไฟแช็กออกมาแล้วจุดทันที
*พรึ่บ*
“อ๊ากกกก!!”
ทว่าทันทีที่เปลวเพลิงปรากฏขึ้น เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าที่น่าสะพรึงกลัวเบื้องหน้าเขา เขาตกใจและทรุดตัวลงกับพื้นทันที
เจ้าของใบหน้านั้นคือจ้าวหยู่ เขาได้เห็นรปภ. คนนั้นกำลังจะจุดไฟแช็กและมายืนรออยู่ตรงหน้าเขาแล้ว พร้อมที่จะทำให้เขาตกใจ!
เมื่อรปภ. ล้มลง จ้าวหยู่ก็ฟาดกระบองใส่เขาสองสามที จนทำให้เขาแน่นิ่งไป
ตอนรปภ. คนอื่น ๆ ก็มีสภาพไม่ต่างกัน พวกเขามีราว ๆ 10 คนหรือมากกว่านั้นแต่ก็ถูกจ้าวหยู่จัดการอย่างรวดเร็ว แต่ละคนมีสภาพไม่น่าดูและคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
ในเวลานั้น จ้าวหยู่ต้องการไล่ตามฮ่าวเกิง แต่ว่าเหมี่ยวอิงกับเหลียงซือซืออยู่ที่นี่ เขาจึงไม่สามารถออกไปได้ เขามองไปที่กล้องวงจรปิดล่องหนในหัวของเขาทันทีและตกใจเมื่อเห็นว่าฮ่าวเกิงยืนอยู่ในล็อบบี้แล้วและเขากำลังออกคำสั่งกลุ่มคนที่ดูเหมือนพวกรปภ.
รปภ. ดูเหมือนคนผิวสีจำนวนหนึ่ง โดยมีจำนวนช่วงอายุสี่สิบห้าสิบปี หลังจากคำสั่งของฮ่าวเกิง พวกเขาทั้งหมดก็รีบขึ้นบันไดมาทันที
‘เชี่ย…’ จ้าวหยู่ตกตะลึง ฮ่าวเกิงมีกองทัพอยู่ในอาคารนี้ด้วยเหรอ? เขาจะต่อสู้กับคนจำนวนมากในคราวเดียวได้อย่างไร?
ในเวลาเดียวกัน โถงทางเดินก็เต็มไปด้วยเสียงฝีเท้า เห็นได้ชัดว่า ‘กองทัพ’ ของฮ่าวเกิงกำลังมาถึงแล้ว!
แม้ว่าจ้าวหยู่จะยังคงใช้เครื่องตัดไฟล่องหนและยังสามารถมองเห็นในที่มืดได้ แต่บาดแผลที่ไหล่ของเขากลับแย่ลงเรื่อย ๆ เขาแทบจะยกไหล่ของเขาขึ้นไม่ได้อีกต่อไป มันคงไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะต่อสู้ในตอนนี้
จ้าวหยูคิดหนักและจู่ ๆ ก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา เขายืนอยู่ตรงหน้าเหมี่ยวอิงทันที อยากจะดึงมือเธอ แม้ว่าเหมี่ยวอิงจะมองไม่เห็น แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของเธอก็ยังอยู่ในระดับสูงสุด เธอส่งหมัดออกไปทันทีและเกือบจะต่อยจ้าวหยู่
"เดี๋ยว ฉันเอง!" จ้าวหยู่ตะโกนขณะที่เขาปิดเครื่องตัดไฟล่องหนและห้องทำงานก็กลับมาสว่างไสวอีกครั้ง
เหมี่ยวอิงซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่ง เมื่อไฟเปิดขึ้น เธอก็เงยหน้าขึ้น เธอดูตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเธอเห็นจ้าวหยู่ยืนหยัดอย่างกล้าหาญต่อหน้าเธอ ข้างหลังเขามีศัตรูจำนวนมากแผ่กระจายอยู่บนพื้น! อย่างน้อยก็ไม่มีใครดูโอเคเลย แต่ละคนก็คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด เหมี่ยวอิงไม่รู้ว่าจ้าวหยู่จัดการอีกฝ่ายได้อย่างไร?
ตอนนี้เป็นสถานการณ์เร่งด่วน จ้าวหยู่จึงไม่มีกะจิตกะใจที่จะหยอกล้อเหมี่ยวอิง เขาคว้าข้อมือเหมี่ยวอิงทันทีและดึงเธอเข้าไปในห้องเก็บของ วิ่งผ่านประตูเหล็ก จากนั้นเข้าไปในห้องลับของฮ่าวเกิง
เหมี่ยวอิงถึงกับพูดไม่ออกอีกครั้ง เธอนึกไม่ถึงเลยว่าภายในห้องทำงานจะมีห้องลับอยู่ด้วย
เมื่อพวกเขาเข้าไป จ้าวหยู่ก็ล็อคประตูเหล็กทันที ประตูมีความหนาเป็นพิเศษ จ้าวหยู่คิดว่ามันคงได้รับการออกแบบโดยฮ่าวเกิง มันต้องแข็งแรงมากเพื่อที่จะไม่สามารถทำลายได้!
ด้วยกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บนผนัง จ้าวหยู่สามารถเห็นสถานการณ์ในห้องทำงานได้ หลังจากที่เขาและเหมี่ยวอิงหนีเข้าไปไปนาน ภายในห้องก็เต็มไปด้วยรปภ. จำนวนมากในทันที แต่ดูเหมือนว่าฮ่าวเกิงไม่ได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับห้องลับนี้ พวกเขาตรวจสอบห้องทำงานอยู่พักหนึ่ง จากนั้นหลายคนก็จากไป
จ้าวหยู่พบว่าพวกเขาจะปลอดภัยหากซ่อนตัวอยู่ในห้องลับ ถ้าไม่มีใครรู้เรื่องห้องนี้ก็คงไม่มีทางที่พวกรปภ. จะเจอพวกเขาได้
‘น่าสนใจมาก!’ จ้าวหยู่คิดกับตัวเอง ภายในไม่กี่นาที ห้องลับของฮ่าวเกิงก็กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเขาในทันใด
จ้าวหยู่หันกลับมาและเห็นว่าเหมี่ยวอิงได้เห็นเหลียงซือซือนอนอยู่บนพื้นแล้ว ในขณะนี้ เหลียงซือซือยังคงหมดสติและพึมพำอะไรบางอย่าง
เหมี่ยวอิงมองอย่างระมัดระวังและเมื่อเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนกับภาพถ่ายของเหลียงซือซือที่สร้างจากโปรแกรม เธอก็ตกตะลึงอีกครั้ง!
‘ผู้หญิงคนนี้คือเหลียงซือซือจริง ๆ เหรอ!?’
“หัวหน้าทีมเหมี่ยว!” จ้าวหยู่จับไหล่ที่มีเลือดออกและรีบไปหาเธอ “เร็วเข้า! ใช้โทรศัพท์ของคุณโทรหาใครก็ได้!”
“โอ้ จริงด้วย!” เหมี่ยวอิงเพิ่งฟื้นจากอาการตกใจและรีบหยิบโทรศัพท์ออกเพื่อกดโทรออกทันที แม้ว่าเธอจะบอกจางเหยาฮุ่ยและทีม B ให้มาแล้ว แต่อาคารนี้กลับถูกล้อมรอบด้วยรปภ. จำนวนมาก หากไม่มีหมายค้น พวกเขาก็จะเข้ามาไม่ได้อย่างแน่นอน ด้วยคดีที่ใหญ่โตเช่นนี้ พวกเขาจึงต้องใช้กำลังเสริมที่มีอาวุธครบมือเท่านั้น
จ้าวหยู่ยังบอกด้วยว่าฮานเหวินจวินมีโอกาสเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นหนึ่งในคนร้ายลักพาตัวด้วย ดังนั้นจึงต้องรายงานต่อตำรวจให้รีบไปจับกุมเขาก่อนที่เขาจะหลบหนี!
อย่างไรก็ตาม เหมี่ยวอิงยุ่งกับโทรศัพท์ของเธออยู่พักหนึ่งก่อนที่จะบอกจ้าวหยู่อย่างช่วยไม่ได้ว่า
“แปลกมาก มันไม่มีสัญญาณ เป็นไปได้ไหมว่า… ฮ่าวเกิงกลัวว่าเราจะโทรแจ้งคนอื่นและปิดกั้นสัญญาณทั่วทั้งอาคารแล้ว? ถ้าอย่างนั้น… เราต้องแย่แน่!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
อย่างไรก็ตาม เมื่อจ้าวหยู่ได้ยินอย่างนั้น เขาก็หัวเราะออกมาอย่างกับคนเสียสติ เขาคิดกับตัวเองว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องเปล่งประกายอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงพูดกับ เหมี่ยวอิงด้วยความมั่นใจว่า
"หัวหน้าทีมเหมี่ยวไม่ต้องกังวลไป! คุณลืมไปหรือเปล่าว่าฉันเป็นผู้ที่ได้รับพรจากพระเจ้า! ถือโทรศัพท์ของคุณให้ดีเพื่อไม่ให้คุณทำหล่นเนื่องจากตกใจกับพลังของฉัน
“ฉัน จ้าวหยู่ ในฐานะผู้วิเศษ ฉันขอใช้พลังจากพระเจ้าอีกครั้ง!”