อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 63 ปฏิบัติการยึดครอง
ตอนที่ 63 ปฏิบัติการยึดครอง
เฮนรี่และแมทธิวหยิบพลั่วเหล็กสองอันออกจากกระเป๋าเดินทาง และใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการขุดหลุมลึกจนเสร็จ
พวกเขาช่วยกันโยนร่างแดนี่กับบอดี้การ์ดลงไปในหลุม
แดนี่ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ และเป็นหัวหน้าแก๊งที่ใหญ่เป็นอันดับสามในเมืองลอสแองเจลิส ซึ่งมีคนหลายร้อยคนที่อยู่ภายใต้แก๊งเขา รวมไปถึงนักการเมือง คนดัง และผู้นำธุรกิจจำนวนนับไม่ถ้วน ทำให้ไม่มีใครกล้าคิดว่าแดนี่จะตายในสภาพแบบนี้
หลังจากถมดินกลบแล้วทั้งสองคนก็ขับรถออกไป
วันรุ่งขึ้นพวกเขาได้ซื้อตั๋วเพื่อกลับไปยังสหรัฐอเมริกา และทั้งสองก็ปรากฏตัวต่อหน้าฮาร์ดี้ในอีกสิบชั่วโมงต่อมา
“บอส! ภารกิจสำเร็จแล้ว”
เฮนรี่หยิบเช็คเงินสดออกมาแล้วยื่นให้ฮาร์ดี้
ฮาร์ดี้มองดู
“บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เอาแบบละเอียดๆ”
เฮนรี่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการทั้งหมด
มีทั้งแผนปฏิบัติการของเฮนรี่กับแมทธิว และความโชคดีที่เกิดขึ้น การที่แดนี่เลือกเข้าห้องน้ำคนเดียวทำให้พวกเขามีโอกาสลงมือฆ่าแดนี่อย่างเงียบๆ
อาจกล่าวได้ว่าเกือบทั้งหมดนั้นสมบูรณ์แบบ
ฮาร์ดี้ยิ้มและตบไหล่เฮนรี่และแมทธิวเบาๆ “เยี่ยมมาก! มันดีกว่าที่ฉันคาดไว้ซะอีก” หลังจากพูดจบเขาเหลือบมองเช็คและพูดกับทั้งสองคนนี้ “ฉันจะจ่ายค่าปฏิบัติภารกิจนี้ให้เพิ่ม! เพราะพวกนายสองคนทำให้เราได้เงินมหาศาล”
เมื่อได้ยินว่ามีเงินให้ ทั้งเฮนรี่และแมทธิวก็มีรอยยิ้มขึ้นมาทันที
ตามกฎของฮาร์ดี้ก่อนหน้านี้ ทั้งสองคนจะได้เงินส่วนแบ่งคนละ 75,000 ดอลลาร์
เงิน 75,000 ดอลลาร์ในปี 1946 นั้น มันเป็นเงินจำนวนมหาศาลมาก ซึ่งคุณสามารถซื้อบ้านหรูในแถบเบเวอร์ลี่ฮิลส์ได้เลย
และฮาร์ดี้จะไม่ยอมผิดคำพูดตัวเอง
หากผู้นำสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์แต่สุดท้ายกลับไม่ให้ นี่อาจเป็นการทำให้ลูกน้องไม่เคารพในตัวผู้นำอีกต่อไป
เฮนรี่และแมทธิวทำงานได้ดีในเรื่องนี้ พวกเขาก็ควรที่จะได้รับรางวัลตามผลงาน
“แมทธิวแจ้งหัวหน้าหน่วยทุกคนว่าให้เข้ามาห้องประชุม”
แมทธิวรู้ดีว่าหัวหน้าต้องมีเรื่องสำคัญจะประกาศ จึงรีบออกไปแจ้งข่าวในทันที
ในห้องประชุมฮาร์ดี้มองไปที่ชายทั้งแปดคนและพูด “พี่น้องทุกคน แดนี่ถูกฆ่าตายแล้วข่าวนี้ยังไม่ถูกเปิดเผยในตอนนี้ นี่จึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดของเรา พวกเราพร้อมแล้วที่จะเข้าจัดการแก๊งสเปนอย่างเต็มรูปแบบ”
บิลและคนอื่นๆ ตื่นเต้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้
“บอสคุณจะเริ่มจากที่ไหนแล้วจะเอากำลังพลไปกี่คนดี” บิลถาม
ฮาร์ดี้ส่ายหัว
“ไม่! การทำแบบนั้นจะทำให้ฝ่ายเราเสี่ยงโดยไม่จำเป็น”
จริงอยู่ที่ตอนนี้ฮาร์ดี้มีกำลังคนพอที่จะจัดการแก๊งสเปน แต่เขารู้สึกว่าการเปิดฉากยิงโดยตรงเป็นวิธีการที่โง่ที่สุด
ในสองวันที่เฮนรี่ แมทธิวไปโคลอมเบีย ฮาร์ดี้ได้คิดวิธีที่จะจัดการแก๊งสเปนและเข้ายึดพื้นที่เรียบร้อยแล้ว
สิ่งแรกที่เขาคิดคือการพากำลังคนพร้อมอาวุธไปยังสถานที่ต่างๆ ที่แก๊งสเปนครอบครอง แต่เขาพบว่าการทำแบบนี้มันลำบากเกินไปและผลลัพธ์อาจออกมาไม่น่าพอใจนัก
การเป็นจุดสนใจมากเกินไปย่อมจะกระตุ้นความสนใจของรัฐบาลและตำรวจ หากตกเป็นเป้าหมายย่อมจะสร้างความลำบากให้ฮาร์ดี้อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อแก๊งยิวและแก๊งไอริชใช้ความรุนแรงมาระยะหนึ่งแล้ว ทำให้ตอนนี้ผู้คนในลอสแองเจลิสนั้นอ่อนไหวอย่างมาก หากเกิดเหตุการณ์ใหญ่โตมากเกินไป
ความคิดเห็นของประชาชนจะทำให้รัฐบาลดำเนินการปราบปรามขั้นเด็ดขาดแน่นอน
แถมยังมีแก๊งอื่นรอบๆ อีก
ไม่มีใครสามารถรับรองได้ว่าแก๊งไอริชและแก๊งเม็กซิกันจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวตอนที่ฮาร์ดี้ดำเนินการ
แม้ว่าฮาร์ดี้จะชนะในท้ายที่สุด แต่มันก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย
การเข้ายึดพื้นที่แก๊งนั้นไม่ง่ายเหมือนฆ่าหัวหน้าแก๊ง มันมีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ
แต่ตอนนี้ฮาร์ดี้มีข้อได้เปรียบบางอย่าง
นั่นคือไม่มีใครรู้ข่าวการเสียชีวิตของแดนี่
เขาเลยอยากจะมุ่งเป้าไปที่บุคคลสำคัญในแก๊งสเปนแทน นั่นคือรองหัวหน้าแก๊งอย่างชาร์ล ไซมอนที่เพิ่งรับตำแหน่งนี้
“ทุกคน! ตอนนี้มาฟังแผนปฏิบัติการกันดีกว่า” ฮาร์ดี้กล่าว
หลายคนก็ตั้งใจฟังในทันที
......
ชาร์ล ไซมอนกำลังตรวจสอบรายงานในแก๊ง
สถานการณ์ด้านการเงินของแก๊งสเปนในช่วงเวลานี้แย่มาก
แก๊งสเปนมีแหล่งรายได้หลักหลายแหล่ง ทั้งผงโคเคน คาสิโน เงินกู้นอกระบบ มวยใต้ดิน และบริษัทนายหน้า
คราวที่แล้วผงโคเคนถูกปล้นทำให้แก๊งสเปนไม่มีสินค้าที่จะขาย หลังจากที่คาสิโนถูกปล้น แรงระเบิดที่เกิดขึ้นในคาสิโนทำให้ต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ โชคดีที่ตอนนี้ใกล้ปรับปรุงเสร็จแล้ว และแดนี่ได้วางแผนไว้ว่าหลังจากกลับมาจากโคลอมเบียจะมีการประชุมเพื่อหารือว่าจะจัดการคาสิโนและธุรกิจผงโคเคนใหม่อย่างไร…
และก็ยังมีธุรกิจให้กู้ยืมเงิน มวยใต้ดิน และบริษัทนายหน้าที่ช่วงนี้ทำเงินไม่ค่อยได้
ซึ่งธุรกิจที่เหลือนี้ทำให้เขากังวล
ไม่รู้ว่าแดนี่ที่เดินทางไปโคลอมเบียตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เขาควรจะได้พบกับนายพลกุสตาโวแล้วในวันนี้
เขาหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
และตอนนี้เวลา 1 ทุ่มข้างนอกก็มืดแล้ว ไซมอนจึงเตรียมตัวกลับบ้านไปทานข้าวเย็นกับครอบครัวทันที
ไซมอนเป็นผู้ชายที่รักครอบครัว เขาจะกลับบ้านเพื่อทานอาหารเย็นกับครอบครัวทุกวัน เพื่อพูดคุยกับลูกทั้งสี่คนในระหว่างมื้ออาหาร และกล่อมลูกสาวคนเล็กให้เข้านอนในตอนกลางคืน
ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ไซมอนเคยทำงานด้านการเงินให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ในขณะนั้นสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศฮังการีค่อนข้างไม่แน่นอน เขาได้ยินเพื่อนคนหนึ่งพูดถึงการย้ายถิ่นฐานไปสหรัฐอเมริกา
เขาจึงตัดสินใจพาครอบครัวอพยพมาที่สหรัฐอเมริกาด้วย
ต่อมาเขาก็พบว่าการเลือกย้ายถิ่นฐานของเขานั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ไม่นานหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองปะทุขึ้น ฮังการีกลายเป็นพันธมิตรของเยอรมนี ทำให้ชาวฮังการีจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเรียกให้เข้าร่วมการสู้รบ ซึ่งถ้าเขาอยู่ในประเทศนั้นเขาก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน
เมื่อมาที่สหรัฐอเมริกาครั้งแรก และผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ทำให้ผู้คนนับล้านยังคงตกงานอยู่เยอะมาก ซึ่งเขาหางานที่เหมาะสมไม่ได้มาระยะหนึ่งแล้ว มันทำให้ชีวิตของเขาเริ่มลำบากขึ้น
ในเวลานั้นเขาก็เห็นโฆษณารับสมัครนักบัญชี จึงลองไปสัมภาษณ์ดูและบังเอิญบริษัทนี้เป็นบริษัทเงินกู้ของพวกแก๊ง เขาต้องการปฏิเสธ แต่เงินเดือนที่แดนี่เสนอให้นั้นสูงมากดังนั้น ไซมอนจึงเลือกทำงานที่นี่
ด้วยความรู้ด้านบัญชีและการเงินอย่างมืออาชีพ เขาทำงานได้ยอดเยี่ยมและได้รับการชื่นชมอย่างรวดเร็วจากแดนี่ ทำให้ในปีต่อมา เขาเลยได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าบริษัทเงินกู้ของแก๊งสเปน ซึ่งรับผิดชอบธุรกิจเงินกู้และจัดการด้านการเงินของแก๊งทั้งหมด
เขาถูกมองว่าเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินของแก๊งไปโดยปริยาย
ทว่าเมื่อไม่นานมานี้รองหัวหน้าแก๊งเบอร์สไตน์ได้ถูกสังหารขณะติดต่อซื้อขายกับชาวโคลอมเบีย ทำให้ตำแหน่งรองหัวหน้าแก๊งจึงว่าง แถมแดนี่ก็ไม่สามารถหาคนมารับหน้าที่นี้ได้ ดังนั้นชาร์ล ไซมอนจึงถูกเลือกอย่างกะทันหันให้รับตำแหน่งนี้
แต่ถ้าว่ากันตรงๆ
เขาเป็นคนที่สามารถทำงานเฉพาะด้านได้ แต่ไม่มีความสามารถในการควบคุมคน ไซมอนเองก็รู้เรื่องนี้ดีเมื่อถูกเรียกให้รับตำแหน่งรองหัวหน้า เขาจึงทำงานหนักมากแต่ก็ยังเห็นได้ว่าแดนี่ไม่พอใจเขาอยู่เล็กน้อย
ไซมอนสวมเสื้อโค้ท ใส่หมวกแล้วลงไปข้างล่าง
บอดี้การ์ดช่วยเขาเปิดประตูรถจากนั้นรถได้แล่นออกไป
20 นาทีต่อมารถก็ได้มาถึงประตูบ้านของไซมอน
“กลับไปได้แล้วพรุ่งนี้มารับฉันเวลาเดิม”
ไซมอนกำลังจะลงจากรถทันใดนั้นมีคนสามคนปรากฏขึ้นข้างๆ เขา พร้อมกับปืนพกที่ยื่นเข้ามาทางหน้าต่างจ่อหัวคนขับรถ และไซมอนตามลำดับ
ไซมอนตกใจเมื่อรู้ว่าโดนปืนจ่อ แต่เขาก็ไม่กล้าขัดขืน เขาจึงยกมือขึ้นอย่างเชื่อฟัง
มีคนเปิดประตูรถฝั่งคนขับแล้วลากคนขับรถลงมา จากนั้นพาคนขับรถไปในรถคันอื่น
มีคนเข้ามานั่งเบาะคนขับ และอีกสองคนเข้าไปในรถ บีบไซมอนให้อยู่ตรงกลางแล้วรถก็ออกจากหน้าประตูบ้านไซมอนอย่างรวดเร็ว
ไซมอนเหลือบมองที่หน้าต่างบ้าน
แสงไฟสีเหลืองอบอุ่น
และดูเหมือนว่าเขาจะเห็นลูกสาวตัวน้อยของเขากำลังยิ้มอย่างมีความสุข…