บทที่ 70 อันดับหนึ่ง
ทุกคนในห้องได้ยินเกี่ยวกับการวางเดิมพันระหว่างครูประจําชั้นสองคนในตอนเช้าแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกมากนัก และมีเพียงไม่กี่คนที่อ่านข้อความนั้นอย่างจริงจัง
เสิ่นชิงชิงเป็นตัวแทนของห้องเรียน และเมื่อเห็นว่าทุกคนไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้เท่าไรนัก เธอจึงตบโต๊ะและพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า “ทุกคนกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ไปอ่านหนังสือกันล่ะ? การสอบจะเริ่มสัปดาห์หน้าอยู่แล้วนะ หรือทุกคนอยากแพ้งั้นเหรอ?”
มีคนด้านล่างพูดขึ้นมาทันทีว่า “ใครอยากจะแพ้กันล่ะ แต่จะให้ทำยังไงได้ เพราะตอนนี้ในห้องเรียนของเรากำลังถูกใครบางคนรั้งเอาไว้อยู่”
เสิ่นชิงชิงไม่ชอบเห็นใครมารังแกเพื่อนร่วมโต๊ะของเธอ ดังนั้น เธอจึงหันไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายทันที “เธอคิดว่าใครเป็นอุปสรรคงั้นเหรอ? ทำไมไม่พูดออกมาให้มันชัดเจนไปเลยล่ะ”
เจี่ยงถิงถิงก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ “จะเป็นใครได้อีกล่ะ ก็ต้องเป็นเฉียวเนี่ยนอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ครูเสิ่นจะเดิมพันกับครูเฉินได้ยังไง?”
“ไม่ว่าห้อง B จะพุ่งเป้าไปที่เฉียวเนี่ยนหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ห้อง B ได้พุ่งเป้ามาที่ห้อง A ของพวกเรา” เสิ่นชิงชิงวางมือไว้บนแท่น ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ
ในเวลาต่อมา เหลียงป๋อเหวินก็ลุกขึ้นยืน แล้วกระแทกหนังสือบนโต๊ะเรียนของตัวเอง แล้วเหลือบมองไปทั้งชั้นเรียน จากนั้น เขาก็หยุดมองอยู่ที่ใบหน้าของหญิงสาวที่กําลังโต้เถียงกับเสิ่นชิงชิง แล้วพูดขึ้นว่า “ช่างเป็นอะไรที่ฟังดูน่าเสียดาย! เธอไม่อยากชนะใช่ไหม? อย่าลืมว่าทุกคนเป็นสมาชิกของห้อง A และทุกคนก็เป็นกลุ่ม ถ้าหากเราชนะก็คือชนะ และถ้าแพ้ นั่นก็หมายความว่าทุกคนก็แพ้เหมือนกัน”
“ตอนนี้ มีใครไหมที่ไม่อยากชนะ?”
เมื่อเหลียงป๋อเหวินถามคำถามนี้ขึ้นมา ทุกคนในห้อง A ต่างก็ก้มหน้าลง และไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ แม้แต่เจี่ยงถิงถิงก็ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด เพราะเธอเองก็อยากชนะเช่นเดียวกัน
เหลียงป๋อเหวินเห็นว่าภายในห้องเงียบลงแล้ว และหัวใจของทุกคนก็หดกลับเช่นเดียวกัน สายตาของเขาก็จ้องไปที่เฉียวเนี่ยนแล้วพูดว่า “เฉียวเนี่ยน เธอเพิ่งจะย้ายเข้ามาใหม่ แต่ทุกคนก็เคยเห็นคะแนนการสอบแต่ละครั้งในโรงเรียนเก่าของเธอมาบ้างแล้ว ซึ่งเกรดของเธอนั้นถือได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง แล้วคิดว่าการสอบที่จะถึงนี้ เธอจะได้กี่คะแนน”
“ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่เชื่อเธอ แต่ทุกคนอยู่ห้องเดียวกัน และเมื่อเธอเข้ามาอยู่ในห้องนี้แล้ว ในใจของทุกคนจะรู้ว่าควรปฎิบัติยังไง ดังนั้น ช่วงนี้ควรกลับไปทบทวนบทเรียนที่บ้าน เพื่อพยายามดึงเธอกับเฉินเยวี่ยนขึ้นมา”
ตอนนี้เฉินเยวี่ยนยังไม่ได้มาโรงเรียน แต่พอเฉินเยวี่ยนมา เขาจะเป็นคนพูดกับเฉินเยวี่ยนด้วยตัวเอง เพราะถึงยังไง เกรดก่อนหน้านี้ของเฉินเยวี่ยนไม่น่าเป็นห่วงเท่าไรนัก แต่กุญแจสำคัญก็คือเฉียวเนี่ยน
เฉียวเนี่ยนสามารถทําคะแนนได้มากแค่ไหนนั้นสำคัญมาก
เฉียวเนี่ยนกำลังยืนพิงกําแพงเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ แต่เมื่อได้ยินเหลีงป๋อเหวินพูด เธอก็เงยหน้าขึ้น และดูเหมือนจะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสอบได้กี่คะแนน ตามนิสัยที่ผ่านมาของเธอนั้น มันไม่สำคัญว่าตัวเองจะสอบผ่านหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม เธอไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นแบบนี้ มันน่ารำคาญ!
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนจะทำแบบนั้นไม่ได้
เหลียงป๋อเหวินเห็นเฉียวเนี่ยนไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาก็คิดว่าเธอมีผลการเรียนไม่ดีจริงๆ และเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของเธอและเสิ่นชิงชิง น้ำเสียงของเขาก็อ่อนลง และมองไปที่เฉียวเนี่ยนโดยไม่มีตําหนิแต่ให้กําลังใจว่า “ไม่เป็นไร ถ้าเธอทําข้อสอบไม่ได้ ฉัน เสิ่นชิงชิง และทุกคนในห้องจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อดึงเธอขึ้นมาเอง ซึ่งครูเสิ่นได้เสียสละเพื่อพวกเราในครั้งนี้ และฉันไม่ต้องการให้เธอแพ้”
เฉียวเนี่ยนหรี่ตาลงแล้วกวาดสายตามองไปรอบห้อง เธอก็พบดวงตาหลายสิบคู่ตั้งตารอเธออยู่ และนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เธอมีความรับผิดชอบมากขนาดขึ้น เธอเปิดหนังสือเรียนที่ว่างเปล่า แล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วอ้าปากบอกทุกคนอย่างเกียจคร้าน “อันดับหนึ่ง”
เหลียงป๋อเหวิน “........”
เสิ่นชิงชิง “........”
ห้อง A “........”
โอ้ เธอยังไม่ตื่นอย่างนั้นเหรอ?
เหลียงป๋อเหวินเป็นคนแรกที่ตอบสนองกลับด้วยท่าทางจริงจัง ซึ่งน้ำเสียงของเขาต่ำกว่าทุกครั้ง “เฉียวเนี่ยน ฉันกําลังคุยกับเธออย่างจริงจัง!”
และจู่ๆ โทรศัพท์ของเธอก็สั่น
[เว่ยโหลวผู้สูงร้อยฉื่อ : เฉียวเนี่ยน ฉันกําลังคุยกับเธออย่างจริงจัง!]
ทันใดนั้น หางตาของเฉียวเนี่ยนก็กระตุกขึ้นสองครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเหลียงป๋อเหวินและเว่ยโหลวไม่รู้จักกัน เธอคงสงสัยว่าพวกเขามีความเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน
พูดเหมือนกันเป๊ะ!
เฉียวเนี่ยนแตะไปที่หน้าจอโทรศัพท์ และบนหน้าจอก็เต็มไปด้วยสิ่งที่เธอขอให้เว่ยโหลวตรวจสอบมาให้ จากนั้น เธอก็ตอบกลับเหลียงป๋อเหวินอย่างไม่ใส่ใจว่า “ฉันก็บอกนายอย่างจริงจังเช่นกันว่า อันดับหนึ่ง”
จมูกวัว! เป็นครั้งแรกที่เหลียงป๋อเหวินต้องการพูดสองคํานี้กับใครสักคน และอย่าถามว่าใครจะได้อันดับหนึ่ง แต่ปัญหาคืออันดับหนึ่งในห้อง A มักจะเป็นที่หนึ่งในโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งเสมอ และก็ถือว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในการจัดอันดับในเมืองอีกด้วย เฉียวเนี่ยนเธอเข้าใจสถานการณ์นี้หรือไม่?!