บทที่ 69 เชินเชิน เธอเป็นคนในอุดมคติของเจียงหลี
เฉินซีรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าประเมินเฉินเยวี่ยนและเฉียวเนี่ยนสูงเกินไป และเธอก็ไม่คิดว่าตัวเองจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ดังนั้น เฉินซีจึงตอบตกลงทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
“ตกลง! ฉันจะทำตามที่เธอพูด!”
หลังจากที่เธอพูดจบ เฉินซีก็หยิบแผนการสอนขึ้นมา จากนั้น ก็ยกยิ้มมุมปากและเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยขึ้นทันที “ครูเสิ่น ฉันรอให้เธอมอบห้องเรียนที่ดีที่สุดให้กับฉันอยู่นะ!”
…..
การทะเลาะวิวาทระหว่างครูประจำชั้นสองคนในสํานักงาน ได้แแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั่วทั้งโรงเรียน
ในชั้นเรียนของห้อง B จ้าวจิ้งเวยเป็นคนแรกที่ได้รับข่าวนี้ และทันทีที่ได้รับข่าว เธอก็รีบวิ่งไปหาเฉียวเชินเพื่อแบ่งปันข่าวดีนี้กับเธอ “เชินเชิน ครูเฉินและครูประจําชั้นห้อง A ปะทะกัน และทั้งสองคนก็ได้วางเดิมพันไว้กับผลการสอบที่กำลังจะมาถึงนี้ ถ้าหากห้องเรียนของเราแพ้ ครูเฉินจะต้องไปขอโทษห้อง A แต่ถ้าห้อง A แพ้ พวกเราจะกลายเป็นห้อง A ในอนาคต เธอดูสิ่งที่เฉียวเนี่ยนกำลังทำสิ”
เฉียวเชินกําลังรวบรวมข้อมูลในมือถือของตัวเองอยู่ และเมื่อได้ยินคำพูดนั้นของจ้าวจิ้งเวย เธอก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ซึ่งข่าวนี้ถือว่าเป็นข่าวดีจริงๆ จากนั้น ก็พูดขึ้นว่า “ฉันหวังว่าพวกเราจะชนะได้”
จ้าวจิ้งเวยตอบโดยไม่ต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ตอนนี้ห้อง A มีขวดน้ำมัน*ถึงสองคน ฉันมั่นใจว่าพวกเราจะชนะอย่างแน่นนอน แต่ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ เชินเชิน เธอจะเข้าร่วมรายการทีวีไหม?”
* (拖油瓶 ขวดน้ำมัน เป็นคำสแลงภาษาจีน แปลว่า ลูกที่เกิดจากหญิงคนก่อน ลูกติดหญิงม่าย เพี้ยนมาจากคำว่า 拖有病 ซึ่งแปลว่า ป่วยเรื้อรัง)
จ้าวจิ้งเวยมองไปที่ใบรับรองกิตติมศักดิ์ต่างๆ ที่ถูกวางเรียงอยู่บนโต๊ะของเฉียวเชิน และพูดออกมาด้วยความอิจฉาอย่างมาก “เชินเชิน ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก ที่เธอจะได้ไปสัมภาษณ์ในรายการเดียวกับเจียงหลี”
ตระกูลเฉียวร่ำรวย หลังจากเฉียวเชินตัดสินใจที่จะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปะการแสดง เฉียวเว่ยหมินก็ใช้เงินจํานวนมากเพื่อลูกสาวเพียงคนเดียว และนั่นก็ทำให้เธอกลายเป็นผู้สมัครที่มีพรสวรรค์ที่สุด
เดิมทีเฉียวเชินก็มีบัญชีออนไลน์อยู่แล้ว และเธอมักจะชอบแบ่งปันสิ่งของที่อร่อยและสนุกสนานลงในบัญชีของเธอ รวมถึงการเซลฟี่บางภาพที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี
เฉียวเชินจะทำตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ และจงใจสร้างภาพลวงตาว่าเป็นคนดีด้วยพลังบวก จึงทำให้เธอมีผู้ติดตามทางออนไลน์ค่อนข้างเยอะ
และคราวนี้ ชื่อของผู้สมัครที่มีพรสวรรค์ที่สุด ก็จะทำให้เฉียวเชินกลายเป็นคนดังคนหนึ่งบนอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งรายการทีวีบางรายการเห็นว่าเฉียวเชินได้รับความนิยมอย่างมาก พวกเขาจึงได้ส่งคําเชิญมาถึงเธอ และรายการที่เฉียวเชินกําลังจะไปเข้าร่วม ก็คือรายการทอล์คโชว์ที่เน้นประเด็นร้อนในปัจจุบัน
ว่ากันว่าเจียงหลีก็จะมารายการนี้ด้วย!
เจียงหลีคือความฝันของสาวๆ หลายพันคน และเป็นเวลาสามปีติดต่อกันแล้ว ที่เขาได้รับการจัดอันดับที่หญิงสาวต้องการแต่งงานด้วยมากที่สุดในวงการบันเทิง นอกจากนี้ เขาเป็นคนที่หล่อมากจนเรียกได้ว่าหายนะ แถมยังมีบุคลิกที่อบอุ่นจนน่าสะพรึงกลัว และนั่นก็ทำให้สาวๆ หลายคนต่างก็หลงไหลในตัวเขาได้อย่างง่ายดาย
จ้าวจิ้งเวยเป็นแฟนคลับตัวยงของเจียงหลี ซึ่งที่บ้านของเธอจะเต็มไปด้วยโปสเตอร์ของเขา และเธอแทบรอไม่ไหวที่จะไล่ตามเจียงหลีทุกการเดินทาง
“เธอและเขาจะได้อยู่ในรายการเดียวกัน ดังนั้น เธอห้ามเข้าใกล้เจียงหลีเด็ดขาด” จ้าวจิ้งเวยมองไปที่เฉียวเชินด้วยความหึงหวงและอิจฉา จากนั้น ก็พูดอย่างไม่พอใจว่า “พี่ชายของฉันพูดก่อนหน้านี้ว่า เจียงหลีชอบน้องสาวที่ประพฤติตัวดี เชื่อฟัง และอ่อนโยน หรือจะให้พูดแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ เชินเชิน เธอเป็นคนในอุดมคติของเจียงหลี แล้วถ้าเขาเกิดตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น เธอต้องอย่าลืมว่าตัวเองมีรุ่นพี่ฟู่เกออยู่แล้ว”
ไม่ว่าเจียงหลีจะดีแค่ไหน แต่เขาก็เป็นได้แค่ดาราคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งชายคนนั้นไม่สามารถเทียบกับภูมิหลังของครอบครัวที่มีชื่อเสียงของฟู่เกอได้เลย
แต่ถ้าหากเจียงหลีเกิดชอบเธอขึ้นมาจริงๆ ถึงเธอจะเป็นได้แค่น้องสาวของเขาเท่านั้น แต่เธอก็ยังสามารถใช้ประโยชน์จากชายคนนั้นได้อยู่ดี หลังจากที่เฉียวเชินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็หลับตาลงครู่หนึ่ง เพื่อลดความเย่อหยิ่งในดวงตาของตัวเองลง และปลอบโยนคนตรงหน้าเบาๆ “ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น แล้วถ้ามีโอกาส ฉันจะขอลายเซ็นของเขามาให้เธอดีไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น จ้าวจิ้งเวยก็ไม่หดหู่อีกต่อไป เธอกระโดดขึ้นอย่างมีความสุข “จริงเหรอ?”
“จริงๆ”
## ???????
จ้าวจิ้งเวยจับมือของเฉียวเชิน ราวกับว่าเธอได้รับลายเซ็นแล้ว “เจียงหลีชอบคนแบบเธอที่สุด ดังนั้น เธอต้องทำได้แน่นอน!”
……
และในเวลาเดียวกัน
ห้อง A ก็ได้รับข่าวนี้เหมือนกัน
เมื่อเทียบกับความยินดีของห้อง B แล้ว บรรยากาศในห้อง A นั้น หดหู่จนน่ากลัว
มีเพียงเฉียวเนี่ยนเท่านั้นที่ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เมื่อคืนเธอนอนดึกมาก หลังจากที่เธอทำสิ่งที่ได้สัญญากับเว่ยโหลวข้ามคืนจนมันสำเร็จแล้ว ก็กินเวลาเข้าไปตีสาม และเธอต้องไปโรงเรียนตอนเจ็ดโมงเช้า ซึ่งเฉียวเนี่ยนไม่มีความสุขอย่างมากที่ต้องตื่นขึ้นมาแบบนี้