เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 221
ตอนที่ 221
“นี่มันหมายความเช่นไร? มิใช่ว่าข้าเพียงแค่แตะต้องร่างกายเจ้าหน่อยเดียวหรอกรึ? เหตุใดจึงตอบโต้เสียรุนแรงถึงเพียงนี้? ราวกับว่าข้าเอาเปรียบเจ้าเสียมากมาย พิลึกยิ่งนัก!” หลินซวนเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด
หลินซวนเพียงบ่นเท่านั้น และมิได้รู้สึกว่าตนเองพูดสิ่งใดผิดไป อย่างไรก็ตาม ในหูของหญิงสาวคนนั้น ถ้อยคำของเขากลับเสียดแทงยิ่ง
“ปล่อยข้า!”
“ปล่อยเจ้า? มาทางนี้ เจ้ามันตัวไร้เหตุผล!” หลินซวนยังคงโมโห เขาจึงลากนางออกมาจากบริเวณที่อยู่ของบงกชสวรรค์ด้วยหวังจะกำราบนางให้รู้เสียบ้างว่าเขาเป็นผู้ใด
“เหตุใดจึงเป็นเจ้า?”
หญิงสาวผู้นั้นชะงักไปชั่วครู่ ใบหน้าอันงดงามของนางเต็มไปด้วยความตกตะลึงและไม่อยากเชื่อถือ
อันที่จริงแล้ว นางมีความประทับใจต่อเด็กน้อยเบื้องหน้าพอสมควร ในยามที่เขาเข้าปะทะกับนางและผู้อื่นเพียงลำพังสลักอยู่ในความทรงจำ
หญิงสาวในชุดขาว ผิวพรรณนุ่มละมุน ความงามดั่งภาพวาดช่างเหนือกว่าที่จะเป็นจริงได้ ไม่มีผู้ใดกล้าเสียมารยาทกับนางมาก่อน
จากนั้น หลินซวนก็ดูเหมือนจะจดจำนางได้ นางคือเซียนสาวฉิงหู่ที่เคยปะทะกับเขาและลู่สีหลีมาก่อน
อย่างไรก็ดี ฉิงหู่มิใช่คนที่ดีนัก หลังจากที่พบว่าคนที่ล่วงเกินนางคือหลินซวนซึ่งเคยมีข้อขัดแย้งกันมาก่อน นางจึงไม่คิดจะยั้งมือใดๆ
นางจึงนำเอากระบี่ยาวของตนออกมา ปราณจากกระบี่เล่มนั้นกวาดผ่านหลินซน แต่มันกลับหยุดอยู่ในระยะที่ห่างจากกายของเด็กน้อยไม่มากนัก ปรากฏเป็นสายฟ้าสีทองล้อมรอบร่างของเขา และมันก็ปกป้องเขาจากการโจมตีทั้งมวล
‘นี่? เหตุใดเด็กคนนี้ถึงทรงพลังนัก? แม้ว่าจะเป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตาและข้ามิได้เตรียมตัวให้ดีนัด แต่มันก็มิควรจะสามารถรับมือได้อย่างง่ายดายเช่นนี้มิใช่หรือ?’
อย่างไรก็ตาม คำพูดถัดมาของหลินซวนก็ทำให้นางตัวสั่นด้วยความโกรธแค้น
“เฮ้อ เหตุใดจึงทำตัวเช่นนี้? ไม่มีความเป็นสตรีที่ดีแม้แต่น้อย!”
ในดวงตาของเขาเย้ยหยัน และมีรอยยิ้มยั่วยุปรากฏขึ้นที่มุมปาก ไม่ว่าจะฟังเช่นไร คำพูดเช่นนี้ก็กำลังเหยียดหยามนางอยู่
จากนั้น หลินซวนก็กระแทกหมัดเข้าใส่ร่างของนางและทำลายการป้องกันทั้งหมดลง ก่อนจะคว้าจับเข้าที่ลำคอและลากร่างของนางลึกลงไปในแม่น้ำ ด้วยต้องการจะประทับตราบางอย่างที่หลังของนางเพื่อกำราบนางให้ราบคาบ
เมื่อสัมผัสกับอุ้งมือของหลินซวน ร่างของฉิงหู่สั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้ามได้
“เพ้ย เจ้ากำลังจะทำสิ่งใด? ข้าแตะต้องเจ้าเพียงเล็กน้อย เหตุใดต้องแสดงปฏิกิริยามากมายเช่นนี้? หรือมองว่าข้าเป็นอสูรดุร้ายเช่นนั้นหรือ? น่าสับสนนัก!” หลินซวนที่ผิดหวังกับความสามารถของนางจึงเอ่ยด้วยความเบื่อหน่าย
“อ๊า!!” ฉิงหู่กรีดร้องด้วยความกราดเกรี้ยว ลำแสงควบแน่นบนท้องฟ้า ก่อนที่มันจะพุ่งลงมาและโจมตีเข้าใส่หลินซวน
หัวใจของเด็กน้อยเต้นกระตุก เขาเกือบจะปล่อยมือทำให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ
บัดนี้ เขารับรู้ได้แล้วว่าเหล่าอัจฉริยะชั้นยอดนั้นร้ายกาจเพียงใด โดยใช้หญิงสาวในมือเป็นตัวทดลอง แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของนางจะไม่ได้สูงส่งมากนัก แต่กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาก็ทรงพลังไม่น้อย
มองไปยังหลินซวนที่ยังคงไม่ปล่อยมือออกจากร่างของนาง ฉิงหู่เองก็ปรากฏสีหน้าตื่นตระหนก นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลังจากปะทะเข้ากับพลังโจมตีเช่นนี้ ฝ่ายตรงข้ามกลับมิได้รับผลกระทบใดทั้งสิ้น
ต้องรู้ก่อนว่าการโจมตีที่นางใช้เมื่อครู่นั้นมิได้สามัญ มันเป็นการโจมตีเข้าที่วิญญาณของผู้อื่น และกระบวนท่านี้สามารถทำลายวิญญาณของศัตรูให้แตกสลายได้ คนธรรมดาย่อมต้องตกตายลงหลังจากรับการโจมตีเช่นนี้เข้าไป
อย่างไรก็ตาม หลินซวนกลับมิได้รับบาดเจ็บใด มือของเขายังคงกำร่างของนางไว้แน่น นี่ทำให้หญิงสาวสับสนนัก ทั่วร่างของนางเริ่มปลดปล่อยกลิ่นอายหนาวเหน็บ แต่ในใจแทบจะเสียสติด้วยความโกรธแค้น
“อ๊า!! เจ้าคนชั่วช้า ปล่อยข้าออกไปนะ!”
“อย่าได้เรียกข้าเช่นนั้น ข้าไม่ชอบยิ่งนัก ข้ามีนามว่าหวงซวน!”
หลินซวนยังคงเอ่ยปากเพื่อยั่วยุนาง แม้ว่ามือของเขาจะยังคงกำรอบผิวของนางแน่นก็ตามที ก่อนที่เขาจะขย้ำฝ่ามือเป็นกรงเล็บเข้าไปยังศีรษะของนาง
ต้องรู้ก่อนว่าฉิงหู่นั้นเป็นสาวงามผู้หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นตัวตนเช่นใด เมื่อพบเจอกับความงามของนาง ผู้คนทั้งหลายต่างปฏิบัติกับนางอย่างทะนุถนอม
ทว่าหลินซวนมิใช่ผู้อื่น เขาค้นพบว่าเขาไม่ควรจะไว้ชีวิตนาง และเพราะเหตุนี้ เขาจึงวางแผนว่าจะสังหารนางเสีย
ประกายแสงสว่างขึ้น และนิ้วของเขาปลดปล่อยแรงกดดันลงไปตรงกลางระหว่างคิ้วของนาง การกระทำนี้ของหลินซวนทำให้น้ำโดยรอบระเหยไปเป็นรัศมีกว่าห้าสิบลี้
การโจมตีของเขานั้นรวดเร็วยิ่ง ชัดเจนว่าฉิงหู่ย่อมไม่มีทางคาดคิดว่าจะโดยสังหารลงเช่นนี้ และพริบตาถัดมา โลหิตก็ไหลออกมาจากเป้าหมายของการโจมตีของหลินซวน
อาศัยเพียงนิ้วเดียวก็สามารถแทงทะลุหว่างคิ้วของผู้อื่นได้ ทันใดนั้นก็ปรากฏเสียงแตกหักดังขึ้น
หลินซวนจึงมองไปยังหน้าผากของฉิงหู่อย่างประหลาดใจ อักขระแห่งเต๋าปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันในบริเวณนั้น บัดนี้ นิ้วของหลินซวนถูกป้องกันเอาไว้ด้วยอักขระแห่งเต๋าและไม่สามารถขยับไปด้านหน้าได้อีก
ยิ่งกว่านั้น อักขระศักดิ์สิทธิ์นี้ยังเริ่มขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนครอบคลุมร่างทั้งหมดของนางเอาไว้ จากนั้นก็มีพลังสายหนึ่งกระแทกหลินซวนด้วยหวังจะผลักเขาออกจากร่างของฉิงหู่
พลังมหาศาลและแก่นแห่งความศักดิ์สิทธิ์เริ่มก่อร่างล้อมรอบกายนาง ก่อนที่มันจะกลายเป็นชุดเกราะสีขาวสว่าง
“หืม? เหตุใดจึงมีกระดองเต่าปรากฏขึ้นที่นี่เล่า?” หลินซวนเยาะเย้ย
อย่างไรก็ดี ฉิงหู่ย่อมไม่อาจปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดลอยไป นางระเบิดพลังออกมาอีกคราและควบแน่นมันจนกลายเป็นดาบขนาดเล็กพร้อมแทงมันใส่หน้าผากของหลินซวน
เผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนี้ หลินซวนกลับมิได้หลบหลีกหรือต่อต้านแม้แต่น้อย
ทักษะการบ่มเพาะของเขาทรงอำนาจอย่างยิ่งยวด เพราะเหตุนี้ความแข็งแกร่งของวิญญาณเขาจึงมิอาจจินตนาการได้ ต้องรู้ก่อนว่าในยามที่เขายังเป็นเพียงทารกแรกเกิด เขาสามารถทำให้วิญญาณออกจากร่างมาเดินเล่นไป แล้วทักษะที่อ่อนแอเช่นพลังของฉิงหู่จะทำอันใดแก่เขาได้หรือ?
ความแข็งแกร่งของวิญญาณเขานั้นมหาศาล หลังจากที่ดาบเล่มเล็กแทงเข้ามา มันก็ถูกกลืนกินด้วยดวงวิญญาณที่ทรงอำนาจของเขา
ตูม!
จากนั้นหลินซวนก็ตะปบฝ่ามือต่างกรงเล็บใส่ศัตรูโดยเล็งไปยังจุดชีพจรของนาง เขาไม่ได้ยั้งมือแม้แต่น้อย แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกลับอยู่เหนือสิ่งที่คาดคิดไว้
แม้ว่าฉิงหู่บัดนี้จะดูมิได้แตกต่างจากก่อนหน้า แต่หากสังเกตให้ดีจะพบว่าร่างของนางนั้นถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเกราะสีขาวสว่าง... เมื่อการโจมตีของหลินซวนบรรลุถึงร่างนาง ประกายแสงก็บังเกิดขึ้น ตามมาด้วยความเจ็บปวดจนเขาต้องกัดฟันแน่น