บทที่ 68 ห้อง A กําลังจะกลายเป็นเพิงขยะ
เสิ่นฮุ่ยเดินกลับมาจากห้องทํางานของผู้อำนวยการด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง และตลอดทางเธอก็มีอาการปวดหัวแทบจะระเบิด แล้วเธอควรจะทำอย่างไร ในเมื่อการสอบกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
เกรดของห้อง B นั้น เป็นอันตรายสำหรับห้อง A มาโดยตลอด
อีกทั้งยังมีเฉียวเชินที่ได้เรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอีกด้วย
หากห้อง A ของเธอถูกบดขยี้โดยห้อง B ในการสอบครั้งนี้ มันจะกลายเป็นเรื่องตลกที่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียน
เสิ่นฮุ่ยเปิดประตูสำนักงานของคณะครูด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความกังวล แต่ก่อนที่จะเดินเข้าไป เธอก็ได้ยินเฉินซีหัวเราะเยาะ และกำลังพูดคุยกับผู้คนที่อยู่ในห้อง
“ฉันได้ยินมาว่าเฉินเยวี่ยนที่ถูกพักการเรียนของห้อง A จะได้กลับมาแล้ว”
“เฉียวเนี่ยนย้ายเข้ามา ส่วนเฉินเยวี่ยนก็กำลังจะกลับมาอีกคน ตอนนี้ฉันคิดว่าห้อง A กําลังจะกลายเป็นเพิงขยะ”
และดูเหมือนว่าครูประจําชั้นของห้อง F กําลังคุยกับเฉินซีอยู่ “ครูเฉิน ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าสำหรับการโต้กลับในการสอบที่จะถึงนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เฉินซีไม่เห็นด้วย “มีอะไรให้น่ายินดีกับการชนะห้องเรียนขยะแบบนั้นกัน ซึ่งมันเป็นเพียงการแสดงแบบธรรมดาๆ เท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน
ประตูห้องสำนักงานก็ถูกกระแทกจนเปิดออก
เวลานี้เป็นเวลาของการอ่านหนังสือในตอนเช้า ซึ่งมีครูประจําชั้นหลายคนออกไปดูแลชั้นเรียนของตัวเอง และก็มีครูบางคนไม่ได้ไป แต่อยู่ในสํานักงานเพื่อดื่มชา
และทันทีที่เสิ่นฮุ่ยเข้ามาด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง บรรดาครูที่กำลังดื่มชาต่างก็กลับไปนั่งที่ของตัวเอง
เฉินซีวางถ้วยชาลงด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย และเตรียมนําแผนการสอนไปชั้นเรียนของตัวเอง
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเสิ่นฮุ่ยจะเข้ามาขวางทางเธอโดยตรง จากนั้น คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็ยกมือขึ้นตบลงบนกองแผนการสอนที่วางอยู่บนโต๊ะของเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ขอโทษเดี๋ยวนี้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นฮุ่ย เฉินซีก็เงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย “เธอเป็นอะไรไป? แล้วทําไมฉันต้องขอโทษเธอด้วย?”
“ฉันได้ยินทุกอย่างที่เธอพูดเมื่อกี้”
ใบหน้าของเสิ่นฮุ่ยเคร่งขรึมมาก แต่เธอก็ยังดูดีกว่าเฉินซี และในทางกลับกัน เสิ่นฮุ่ยเป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบการแต่งตัว และมักจะทำทรงผมที่พิถีพิถันอยู่เสมอ ดังนั้น เฉินซีจึงกลายเป็นครูที่สวยที่สุดในโรงเรียน แต่ในเวลานี้ เสิ่นฮุ่ยกำลังโกรธมาก และออร่าที่แข็งแกร่งในร่างกายของเธอก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ความเบื่อหน่ายได้สะท้อนอยู่ในดวงตาของเฉินซี จากนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ฉันพูดอะไรผิดงั้นเหรอ? แล้วเธอกล้าพูดไหมว่าตัวเองไม่เคยสงสัยเฉียวเนี่ยนที่มีเกรดธรรมดาในโรงเรียนเก่า แต่กลับสอบเข้าห้องเรียนของเธอด้วยคะแนนเต็ม นอกจากนี้ ยังมีเฉินเยวี่ยนที่ถูกพักการเรียนไปตั้งแต่ภาคเรียนที่สองของชั้นมัธยมปลายปีที่สอง และทั้งๆ ที่เขายังเรียนไม่จบหลักสูตรปีที่สองเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ยังสามารถกลับมาเรียนต่อในชั้นมัธยมปลายปีที่สามได้ แล้วอะไรที่ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับห้อง A”
เสิ่นฮุ่ยจ้องไปที่ผู้หญิงตรงหน้า ซึ่งปากของเธอก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น “แต่นั่นเป็นเรื่องภายในห้องเรียนของฉัน และมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ แล้วทำไมเธอถึงได้มาใส่ร้ายนักเรียนของฉัน และห้องเรียนของฉันให้เสียชื่อเสียงแบบนี้”
“ฉันแค่สงสัยนะครูเฉิน เธอเอาแต่พูดว่าห้อง A เป็นห้องขยะ แล้วห้อง B ที่แพ้ห้อง A ในการสอบของทุกปีนั่นคืออะไรอย่างนั้นเหรอ?”
ตอนนี้ครูประจําชั้นของสองห้องเรียนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโรงเรียนกำลังทะเลาะกัน โดยที่ครูประจําชั้นห้องเรียนอื่นไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาสักคำ
ซึ่งการต่อสู้ระดับหัวกะทิแบบนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับห้อง E D F S ของพวกเขาแม้แต่น้อย
เฉินซีถึงกลับพูดไม่ออกเมื่อถูกจี้ด้วยคำถามนั้น และหลังจากอดกลั้นเป็นเวลานาน เธอก็ลุกขึ้นยืนและพูดกับอีกฝ่ายว่า “ในเมื่อเธอพูดออกมาแบบนั้น เรามาพนันกันไหมล่ะ? การสอบของโรงเรียนกำลังจะเริ่มแล้ว และถ้าหากห้องเรียนของฉันสามารถชนะห้องเรียนของเธอได้ เธอจะต้องสละตําแหน่งห้องเรียนที่ดีที่สุดให้กับฉัน”
“ได้!”
เสิ่นฮุ่ยตอบตกลงอย่างง่ายดาย
ถึงเสิ่นฮุ่ยจะไม่ชอบเฉียวเนี่ยนที่โดดเรียนในชั้นเรียนของเธอ และเฉินเยวี่ยนที่กำลังจะกลับมาเรียนอีกครั้ง แต่เนื่องจากพวกเขาทั้งคู่เป็นนักเรียนในห้องเรียนที่เธอรับผิดชอบ ซึ่งเธอจะไม่ยอมให้คนนอกมาด่าพวกเขาว่าเป็นขยะเด็ดขาด
“แล้วถ้าเธอแพ้ล่ะ?”
“ฉันจะแพ้งั้นเหรอ?” เฉินซีเยาะเย้ยและพูดต่อว่า “ครูเสิ่น การจัดอันดับห้องเรียนของเราในทุกปีอยู่ไม่ไกลกันมากนัก แต่ในปีนี้ ห้องเรียนของเธอมีคนที่เรียนล่าช้าอยู่ถึงสองคน แล้วฉันจะปล่อยให้ห้องเรียนของตัวเองแพ้ได้ยังไง? แล้วก็ต้องขอโทษด้วย คนอย่างฉันไม่รู้จักคำว่าแพ้!”
เสิ่นฮุ่ยไม่เคยเป็นคนที่ชอบอวดดีกับใครมาก่อน แต่พอเฉินซีบอกว่าไม่คิดจะแพ้ ดังนั้น เธอจึงช่วยอีกฝ่ายพูดว่า “ถ้าเธอแพ้ เธอจะต้องมาขอโทษต่อหน้าเฉียวเนี่ยนและเฉินเยวี่ยนในห้องเรียนของฉัน! และที่สำคัญเธอจะต้องขอโทษฉันด้วย!”