SWO ตอนที่ 29 วิธีการไร้ยางอาย
เฉียวหยิงหันไปมองทางต้นเสียงทันที เมื่อพบว่าเป็นผู้หญิงที่แต่งหน้าจัด สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป ขณะที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธ “หยานเสวี่ย อย่าล้ำเส้นเกินไปนัก!”
พฤติกรรมแย่งลูกค้าแบบนี้เป็นเรื่องปกติในห้างพันธมิตรใต้ดิน แต่เฉียวหยิงไม่คิดเลยว่าหยานเสวี่ยจะแอบตามเธอจนมาถึงโกดังแบบนี้
หยานเสวี่ยเมินเฉียวหยิงที่กำลังโกรธ และค่อย ๆ เดินไปหาโจวเฮาอย่างช้า ๆ ก่อนยิ้มอย่างมีเลศนัย และกล่าวว่า “ท่านคะ ท่านพอใจกับ 8 ล้านที่ข้าเสนอไปรึไม่? ถือว่าเป็นราคาสำหรับมิตรภาพ”
เฉียวหยิงทั้งโกรธและกังวล
7.2 ล้านเป็นขีดจำกัดที่เธอสามารถให้ได้ ด้วยราคานี้เธอแทบไม่ได้กำไร อย่างไรก็ตามหยานเสวี่ยกลับเสนอเพิ่มไปเป็น 8 ล้าน เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการใช้การสูญเสียเพื่อแลกกับความโปรดปรานจากผู้เชี่ยวชาญท่านนี้
ขณะที่เฉียวหยิงคิดว่าโจวเฮาต้องเห็นด้วยเป็นแน่
เสียงอันแผ่วเบากลับทำให้เธอตะลึง..
“ขอโทษด้วย พอดีข้าคุยกับคุณเฉียวทางนี้ก่อน”
หยานเสวี่ยตกใจเช่นกัน แต่ไม่นานเธอก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และตะโกนขึ้นอีกครั้ง “9 ล้าน ข้าให้ท่าน 9 ล้าน!”
เฉียวหยิงที่เพิ่งเปลี่ยนจากความกังวลเป็นความสุข รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง
โจวเฮาขมวดคิ้ว และไม่สนใจผู้หญิงที่ชื่อหยานเสวี่ยอีก เขามองไปที่เฉียวหยิงก่อนกล่าว “คุณเฉียว ตกลงเจ้ายังรับซื้อพวกมันอยู่ไหม?”
เฉียวหยิงตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วกล่าว “อะ! ค่ะ แน่นอน!”
เธอรีบสั่งคนงานที่กำลังตกตะลึงทันที “หยุดเหม่อได้แล้ว รีบไปชำแหละพวกมันเร็วเข้า”
“ครับ คุณเฉียว!”
ทันใดนั้น คนงานเจ็ดถึงแปดคนรีบเข้าไปล้อมงูหลามจุดแดง และจระเข้ฟันเหล็กก่อนจะเริ่มชำแหละพวกมัน
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หยานเสวี่ยอดกล่าวออกมาไม่ได้ “ท่านคะ 9 ล้านเป็นราคาสูงสุดที่ข้าสามารถให้ได้ เห็นข้าเต็มใจจ่ายเพิ่มเพื่อเป็นเพื่อนกับท่านขนาดนี้แล้ว ท่านไม่คิดสนใจบ้างเลยรึ~?”
ขณะพูดเธอก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว และแนบร่างกายของเธอจนเกือบกดโจวเฮา
เฉียวหยิงกัดฟัน เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหยานเสวี่ยตั้งใจจะใช้ร่างกายของเธอเป็นทุนหลังจากการติดสินบนของเธอล้มเหลว?
ในอดีตลูกค้าจำนวนมากจากร้านอื่น ๆ ถูกหยานเสวี่ยแย่งชิงไปด้วยวิธีการอันน่ารังเกียจเช่นนี้
โจวเฮาผลักหยานเสวี่ยออกไป และกล่าวอย่างหมดความอดทน“เจ้าไม่เข้าใจภาษามนุษย์รึไง? ข้าแน่ใจว่าข้าบอกชัดแล้วว่าคุณเฉียวมาก่อน ส่วนเจ้าจะไสหัวไปไหนก็ไป!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ไม่เพียงแต่เฉียวหยิงที่ตกตะลึง แต่แม้แต่หยานเสวี่ยก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน
“ทะ ท่าน…”
โจวเฮาขัดจังหวะเธอทันทีก่อนที่เธอจะพูดจบ “คุณเฉียว เจ้าไม่คิดจะไล่คนนอกอย่างนางออกไปหน่อยรึ?”
เฉียวหยิงตอบสนองทันที และรีบสั่งให้คนของเธอไล่หยานเสวี่ยออกจากโกดัง
เมื่อสิ่งนี้หยานเสวี่ยก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า เธอเป็นถึงผู้จัดการวัสดุของห้างพันธมิตรใต้ดิน ทำไมเขาถึงไม่ไว้หน้าเธอเลยหลังจากที่เธอพยายามไปถึงขนาดนั้น?
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอโกรธ
เธอก่นด่าออกมาทันที “จะเล่นตัวทำไมนักหนา? ข้าเคยเห็นผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก็มากมาย เพียงฆ่าแม่ทัพอสูรระดับล่างได้สองตัว เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน ห่ะ!?”
วูป
โจวเฮากวาดสายตาเย็นชาของเขาไป
ร่างกายของหยานเสวี่ยเกร็งขึ้น เธอรู้สึกราวกับตกลงไปในห้องน้ำแข็งใต้ดิน มันอึดอัดมากจนทำให้เธอหายใจลำบาก
แต่เธอยังคงกัดฟัน และกล่าวอย่างแข็งกร้าว "อะไร? ข้าพูดอะไรผิดไปรึไง? ถ้าเจ้ามีความสามารถจริง ๆ งั้นทำไมเจ้าไม่ไปล่าแม่ทัพอสูรขั้นสูงเลยเล่า!”
เมื่อมาถึงจุดนี้ สายตาของเธอก็หันไปหาเฉียวหยิง “เฉียวหยิง เจ้าอย่าได้ลำพองใจไปนัก วัตถุดิบจากแม่ทัพอสูรขั้นต่ำสองตัวเจ้าคิดว่ามันมีค่าขนาดนั้นเลยงั้นรึ? เหอะ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
สีหน้าของเฉียวหยิงเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดขณะที่เธอกล่าวอย่างเย็นชา "พวกเจ้ากำลังรออะไรอยู่? รีบลากนางออกไป!”
ไม่นานคนงานสองคนจากโกดังก็เดินไปทางเธอ
หยานเสวี่ยกรีดร้องทันที “เฉียวหยิง ยัยสารเลว! หากวันนี้เจ้ากล้าแตะต้องข้า อย่าหวังว่าจะได้ทำงานในห้างพันธมิตรใต้ดินอีกเลย!”
เฉียวหยิงกำหมัดแน่น เธอรู้ดีถึงผลของการไปขัดขาหยานเสวี่ย แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถถอยได้อีกแล้ว
ขณะที่คนงานสองคนกำลังจะอุ้มหยานเสวี่ย และโยนเธอออกไป เสียงต่ำก็ดังขึ้น "เดี๋ยวก่อน"
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ดวงตาของหยานเสวี่ยก็สว่างขึ้น เธอหันกลับมาก่อนเห็นร่างที่คุ้นเคย คนที่มาเป็นราวกับฟางช่วยชีวิตเธอไว้ “ผะ ผู้อำนวยการหาน ช่วยข้าด้วย”
ผู้อำนวยการหานซึ่งสวมสูทพร้อมด้วยรองเท้าหนังเดินเข้ามา เขากวาดสายตาและถามเสียงเข้ม “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ผู้อำนวยการหานเป็นคนดูแลร้านรวงทั้งหมดบนชั้น 12 ของห้างพันธมิตรใต้ดิน แม้แต่เฉียวหยิงก็ไม่กล้าละเลยเขา เธอรีบก้าวไปข้างหน้า และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง
ผู้อำนวยการหานพ่นลมหายใจ
“คุณเฉียว ครั้งนี้เจ้าเป็นฝ่ายผิด” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ผู้จัดการหยานแค่หวังดีอยากช่วยดูแลลูกค้าเท่านั้น เจ้าไปไล่นางออกจากโกดังได้ยังไง?”
เมื่อเฉียวหยิงได้ยินดังนั้น ใบหน้าที่งดงามของเธอก็ซีดทันที
เธอไม่ได้โง่ มองจากนอกโลกเธอยังบอกได้เลยว่าผู้อำนวยการหานกำลังช่วยหยานเสวี่ยอยู่
คนงานคนอื่น ๆ ก็โกรธเช่นกัน แต่พวกเขาไม่กล้าพูดอะไร
นับตั้งแต่ดาวเคราะห์โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การหางานในเมืองก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป หากไปขัดใจผิดคนเข้า งานที่พวกเขาทำอยู่อาจจะหายไป
เวลานี้หยานเสวี่ยเดินกลับเข้ามาในโกดังอย่างภาคภูมิ และมองลงไปที่เฉียวหยิง “ผู้อำนวยการหาน ข้าว่าที่มาของสัตว์อสูรทั้งสองนี้ดูน่าสงสัยไม่น้อย สงสัยเราคงต้องปิดโกดัง และตรวจสอบที่มาให้ถูกต้องเพื่อป้องกันการแทรกซึมจากเผ่าพันธุ์ภายนอก”
ผู้อำนวยการหานเข้าใจในทันที และตีหน้าเคร่งขรึม “ผู้จัดการหยานไม่ผิด บังเอิญว่าคราวนี้ข้ามาที่นี่เพื่อตรวจสอบโกดังพอดี”
เขามองไปที่เฉียวหยิง “เอาล่ะ คุณเฉียว เราคงต้องขอปิดโกดังของเจ้าก่อนสักสองสามชั่วโมง หลังจากตรวจสอบเสร็จสิ้นจนแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เจ้าจึงสามารถใช้โกดังของเจ้าต่อไปได้”
ใบหน้าซีดเซียวของเฉียวหยิงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่เธอยังคงกล่าวอย่างไม่เต็มใจ “ผู้อำนวยการหาน ท่านไม่มีสิทธิ์มาปิดโกดังของข้า!”
ผู้อำนวยการหานหัวเราะ
“ใช่ ข้าไม่มีสิทธิ์ แต่หัวหน้าเขตหวู่มี” พูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาทันที
นิ้วของเขาขยับไปมา ไม่นานวิดีโอก็เชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว
“หัวหน้าเขตหวู่ นี่ข้าเอง” เขาพูดอย่างกระตือรือร้น
“โอ้ ที่แท้ก็ผู้อำนวยการหานนี่เอง มีอะไรงั้นรึ?” ชายวัยกลางคนปรากฏตัวในวิดีโอ
ผู้อำนวยการหานอธิบายสั้น ๆ ถึงเรื่องราวทั้งหมด
“ไหนให้ข้าดูศพพวกมันหน่อยสิ” หัวหน้าเขตหวู่กล่าวอย่างเป็นกันเอง
ผู้อำนวยการหานรีบกวาดโทรศัพท์ของเขาไปทางงูหลามจุดแดงและจระเข้ฟันเหล็กทันที
นั่นทำให้หัวใจของเฉียวหยิงไปหล่นอยู่ที่ตาตุ่ม
…
TL: ขอโทษที่สำหรับการลงไม่ต่อเนื่องด้วยครับ ช่วงที่ผ่านมาผมต้องออกไปข้างนอกกลับมาทีก็หมดแรง และมันน่าจะยังเป็นแบบนี้ต่อไปจนถึงวันจันทน์หน้า แต่จะพยายามลงให้ได้ทุกวันเหมือนเดิม ต้องขอโทษคนที่รอด้วยนะครับ