ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0040
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0042

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0041


บทที่ 16 ฟาร์มมิ่งเวิร์ม, สัตว์ร้ายที่แย่งชิงพลังธรรมชาติจากภูเขา, แต่ตอนนี้มัน… (1)

* * *

เดินต่อไปอีกสักพัก ฉันพบว่าข้างหน้าเป็นทางแยก

อันดับแรก พวกเราหยุดเดิน

ลิลี่ที่ตามหลังมา เผยสีหน้ากระสับกระส่าย

“เจ้าจะจับมันจริงหรือ”

ฉันผงกหัวพลางมองตรงโดยไม่หันสายตา

“ระบุตำแหน่งมันได้แล้ว?”

สิ่งที่ลิลี่พูด คือประเด็นที่ฉันกำลังกังวล

ข้อเท็จจริงที่ว่า เส้นทางของเรายังคงเป็นรากภูเขาที่เสียหาย และความรู้สึก ‘จี๊ดๆ’ ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ฉันมั่นใจว่าพวกเรามาถูกทาง

แต่ก็ยังไม่ทราบพิกัดที่แน่ชัดอยู่ดี เพราะรากภูเขามักคดเคี้ยวราวกับวงกต

ในอดีต สมัยยังดิ้นรนในต่างโลก ฉันยังไม่ลืมช่วงเวลาที่เคยเสี่ยงชีวิตสู้กับฟาร์มมิ่งเวิร์มโตเต็มวัย

ตอนนั้นฉันสู้แทบขาดใจ แม้จะถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ก็กัดฟันขยับแขนขาที่สั่นเป็นเจ้าเข้า

จนถึงปัจจุบัน ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฟาร์มมิ่งเวิร์มถึงจู่โจม และไม่อยากเข้าใจสักเท่าไร

ในเมื่อเป็นฝ่ายถูกจู่โจม ตัวเลือกเดียวคือการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

ความทรงจำในสมัยนั้น กลายมาเป็นอาวุธชั้นดีสำหรับฉัน

ฉันหลับตาและสัมผัสถึงกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ที่ไหลเข้ามาในตัว มันเบาบางมากจนไม่อยากเรียกกระแสไฟฟ้า เป็นความรู้สึกคล้ายกับไฟฟ้าสถิตในคาบเรียนวิทยาศาสตร์

แต่หนึ่งสิ่งที่แน่ชัดก็คือ ละแวกนี้เป็นขอบเขตการตรวจจับของฟาร์มมิ่งเวิร์ม

ฟาร์มมิ่งเวิร์มรับรู้ถึงการมีตัวตนของพวกเรา

อันดับแรก ต้องลงมือทำไปทีละขั้นตอน

หัวใจสำคัญของการล่า คือขั้นตอนสอดแนมและเตรียมตัว ฉันมักเน้นย้ำคำพูดเหล่านี้เพื่อเตือนให้ตัวเองใจเย็น

ความผิดพลาดแค่ครั้งเดียวอาจหมายถึงชีวิต ถึงฉันจะเป็นคนง่ายๆ แต่ก็ไม่เคยวิ่งเข้าหาอันตรายเหมือนกับเป็นเรื่องตลก

คล้ายกับการทำสมาธิเพื่อสะกดจิตตัวเองก่อนออกไปทำงาน

สมองของฉันเยือกเย็นขึ้น หัวใจที่เคยตื่นเต้นมาสักพักเริ่มสงบนิ่ง

* * *

รูม่านตาลิลี่เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม นี่คือหนึ่งในเอกลักษณ์ของรอยัลบลัดซึ่งสามารถมองเห็นโฉมวิญญาณ

กล่าวคือ ลิลี่กำลังเปิดเนตรส่องโฉมวิญญาณ

เป็นภาพที่เธอไม่ได้เห็นมาสักพักแล้ว และนั่นช่วยให้เข้าใจคังซอนฮูมากขึ้น

เดิมที ลิลี่คิดว่าอาการตื่นเต้นก่อนจะออกล่าของคังซอนฮู เป็นผลมาจากการเปิดโฉมนักล่า

แต่เมื่อได้เห็นในระยะใกล้เต็มสองตา เธอเพิ่งตระหนักว่าความจริงแล้วตรงกันข้าม

‘ไม่ใช่ตื่นเต้น แต่เป็นความเยือกเย็น’

ตรงข้ามกับภาพจำแรก คังซอนฮูไม่ได้ฉลาดปราดเปรื่องอย่างที่ลิลี่เข้าใจ ยังมีมุมที่นิสัยเหมือนเด็ก ตื่นเต้นได้ง่ายและเบื่อได้ง่าย

แม้จะเป็นคนที่ทำงานหนัก แต่ก็มีบางช่วงเวลาที่เอาแต่นอนโง่ๆ นานหลายวัน

ชายผู้ใช้ชีวิตตามใจปรารถนา

แต่ผู้ชายคนเดียวกัน ในวินาทีที่เตรียมออกล่า กลับเยือกเย็นจนน่าขนลุก

สงบนิ่งประหนึ่งตัดขาดทุกความรู้สึก

ราวกับกำลังใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่หากไม่เยือกเย็นก็จะตายทันที

ผู้ปกครองส่วนใหญ่สืบทอดทางสายเลือด

คังซอนฮูมาจากตระกูลขุนนางใด และมีชีวิตในอดีตแบบใดกันแน่?

ในหัวลิลี่เต็มไปด้วยจินตนาการสุดฟุ้งซ่าน

ขณะเดียวกัน คังซอนฮูร่ายภาษารูน

“ธาม-ทัตซาTham-tatha”

ภาษารูนที่จะหยิบยืมประสาทสัมผัสของสิ่งมีชีวิตสติปัญหาต่ำโดยรอบ

ลิลี่ถามเสียงแผ่ว ด้วยเกรงว่าจะไปรบกวนอีกฝ่าย

“เป็นยังไงบ้าง”

คังซอนฮูที่กำลังหลับตา ส่ายหน้าแทนคำตอบ

“สิ่งมีชีวิตโดยรอบทั้งหมดอาศัยอยู่ในดิน ฉันบอกไม่ได้ว่าอะไรเป็นอะไร”

คังซอนฮูยืมได้เพียงประสาทสัมผัส มิอาจยืมการมองเห็นจากสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีตา

และสิ่งมีชีวิตใต้ดินแทบทั้งหมดไม่มีตา

“รับสัมผัสจากฟาร์มมิ่งเวิร์มได้ไหม”

คังซอนฮูส่ายหน้า

“ดูเหมือนว่าจะอยู่นอกระยะ”

“ยากล่ะสิ พวกเราจะหามันเจอได้ยังไง?”

“อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามันอยู่นอกระยะ”

คังซอนฮูมองในมุมต่าง

“ลิลี่”

“อื้อ”

“ถอยออกไปหน่อย”

“คิดจะทำอะไร…”

“ไม่ต้องห่วง ไม่อันตราย”

ลิลี่ขยับถอยหลังสองสามก้าว จากนั้น คังซอนฮูเหยียดปลายนิ้วออกไป

ตามด้วยเปล่งเสียง

“เทอร์มาtterma”

เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!

สำหรับลิลี่ นี่เป็นเสียงที่จะได้ยินจากห้องวิจัยของจอมเวทเท่านั้น

พลาสม่าที่ส่องประกายบนปลายนิ้วคังซอนฮูค่อยๆ แผ่ขยายออกไปรอบๆ

คังซอนฮูกัดริมฝีปากเพื่อเอาชนะความเจ็บปวดเล็กๆ

แม้จะเป็นระดับที่ค่อนข้างหนัก แต่ก็ยังพอทนไหว

เพียงไม่นาน เธอเข้าใจเจตนาของคังซอนฮู

“…ไหลไปทางเดียวกัน”

“ถูกต้อง”

กระแสไฟฟ้าที่พุ่งออกจากปลายนิ้วคังซอนฮู ทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในกำแพงและหายไป

ใช่แล้ว กระแสไฟฟ้าไหลไปในทิศทางเดียว

ตรงนั้น

“ฟาร์มมิ่งเวิร์มอยู่ทางนี้สินะ”

ลิลี่ไม่เข้าใจหลักการ แต่สิ่งที่เธอคาใจกว่านั้นก็คือ คังซอนฮูรู้วิธีตรวจจับแบบนี้ได้ยังไง

นี่มันขอบเขตความรู้ในสาขาปรัชญาธรรมชาติ ที่เรียนได้เฉพาะหลักสูตรขั้นสูงของเมืองใหญ่เท่านั้น!

คังซอนฮูที่เธอคิดว่าดำรงชีวิตเยี่ยงคนเถื่อน กำลังนำความรู้เชิงปรัชญาของขุนนางมาใช้จริง

‘…หรือว่าเขาจะเป็นทายาทของตระกูลขุนนางจริงๆ?’

คำอธิบายเดียวที่เธอนึกออกก็คือ คังซอนฮูในวัยเด็กถูกส่งเข้าเรียนในหลักสูตรขุนนาง

ลำพังการที่มนุษย์พูดภาษารูนก็พิสดารมากพอแล้ว นี่ยังมีศาสตร์ของชนชั้นสูงติดตัวอีก

แต่เขากลับเลือกละทิ้งความรุ่งโรจน์และใช้ชีวิตเยี่ยงคนเถื่อน…

แถมยังพึงพอใจกับชีวิตแบบนั้นมาก

ที่ผ่านมา เขาเป็นใครกันแน่?

* * *

ฉันได้ไอเดียมาจากประสบการณ์เมื่อครั้งสร้างประจุพลาสม่าบนฝ่ามือ

แน่นอน ฉันเองก็ไม่เข้าใจหลักการเบื้องหลัง แค่ลองนำมาทดสอบใช้

แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นคำตอบที่ถูก กระแสไฟฟ้าของเทอร์มาtterma ชี้ไปยังทิศทางเดียว

สามารถอนุมานได้ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากการที่ กระแสไฟฟ้าตอบสนองต่ออวัยวะตรวจจับของฟาร์มมิ่งเวิร์ม

พอจะทราบทิศทางอย่างคร่าวแล้ว

กระแสไฟฟ้าพุ่งไปทางซ้าย ฉันจึงเลี้ยวเข้าทางแยกซ้าย ลิลี่ตามหลังมาไม่ห่าง

ยิ่งเดินเข้าไป กระแสไฟฟ้าที่สัมผัสได้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

“ข้าเริ่มรู้สึกจี๊ดๆ เหมือนกันแล้ว”

คำพูดของลิลี่สื่อเป็นนัยว่า พวกเรากำลังมาถูกทาง

จะได้พบฟาร์มมิ่งเวิร์มตอนไหนก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

เรื่องที่สำคัญกว่าก็คือ

พวกเราไม่ได้กำลังตามล่าหนอน แต่เป็นสมบัติล้ำค่า

ปลายทางการผจญภัยคราวนี้มีไอ้หนอนเวรที่ดูดซับพลังจนรากภูเขาแห้งเหือด ถึงมันจะตัวใหญ่ แต่ชะตากรรมเดียวที่รออยู่คือความตาย

ทุกครั้งที่พบทางแยก วิธีเดิมจะถูกนำมาใช้เพื่อระบุทิศ

ยิ่งเข้าใกล้เป้าหมาย กระแสไฟฟ้าจากประจุพลาสม่าก็ยิ่งแล่นไปในทิศทางที่ชัดเจน ช่วยให้มั่นใจขึ้นเรื่อยๆ

“…เฮือก”

ลิลี่สะดุ้ง

อาการ ‘จี๊ดๆ’ ที่เธอสัมผัสได้ รุนแรงจนถึงระดับที่เส้นขนตั้งชัน

จะต้องตัวใหญ่ขนาดไหนกัน?

และเดิมที การซ่อนร่างกายที่ใหญ่โตเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

พวกเรามาถึงโพรงถ้ำขนาดใหญ่

รากภูเขามักมีโพรงถ้ำแบบนี้อยู่เป็นระยะ

จุดประสงค์ดั้งเดิมคือการ ‘กักเก็บ’ พลังธรรมชาติที่ไหลไปตามราก คล้ายกับคลังเสบียงของสารอาหาร

สวบ!

ทุกย่างก้าวรู้สึกราวกับเหยียบลงบนฟองน้ำ

ฟ้าว—!

เสียงลมกระโชกดังกึกก้อง

ที่นี่อยู่ต่ำกว่าพื้นดินประมาณสองร้อยเมตร ไม่มีทางที่ลมธรรมชาติจะพัดเข้ามาได้

ถ้าอย่างนั้น คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว

ลิลี่แหงนมองขึ้นไปด้านบน ฉันก็เช่นกัน

ภาพที่พวกเรายืนนิ่งและเอาแต่เงยหน้าโดยไม่ขยับเขยื้อน คงดูเหมือนคนโง่ในสายตาคนอื่น

แต่นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

ลิลี่เปิดปากเปล่งเสียงโดยไม่รู้ตัว

“…โมห์ส, ทูริต โฟมาmohs, turit foma”

ลูกไฟสว่างขึ้นและลอยไปยังทิศทางที่กำหนด

เดิมที ประโยคดังกล่าวแทบไม่มีโอกาสได้พูดบนพื้นดิน เพราะอาจทำให้เกิดอัคคีภัย

แต่ที่นี่คือใต้ดิน ไม่มีสิ่งใดถูกไฟเผา

ลูกไฟลอยสูงจนกระทั่งถึงเพดาน

จากนั้นก็ถูกดูดเข้าไปในรูหนึ่ง

แม้จะเพียงครู่เดียว แต่ก็ช่วยให้เห็นกว้างของหลุม และเห็นความอัปลักษณ์ของไอ้เวรที่อยู่ในหลุม

“น่าขยะแขยง…”

เธออุทานออกมาจากจิตใต้สำนึก

“เห็นด้วย”

บนเพดานมีรูขนาดใหญ่ที่สามารถกลืนรถทั้งคันเข้าไปได้ ไม่สิ อาจจะกลืนห้องในคอนโดเข้าไปได้ทั้งห้อง

ปากวงกลมหลายชั้นกำลังกระดุกกระดิกอยู่ด้านใน หนามแหลมจำนวนมากขยับไปมารอบๆ ปากรู

สิ่งเดียวที่ยื่นออกจากรูคือปากของฟาร์มมิ่งเวิร์ม

ดังที่เคยทำเป็นกิจวัตร มันกำลังดูดซับพลังธรรมชาติที่ไหลเข้ามาในโพรง

ถึงเวลาจับกุมหัวขโมยที่ลักลอบเจาะท่อส่งน้ำมันแล้ว

“ลิลี่”

“อื้อ”

“ถ้าเป็นเธอ จะล่ามันยังไงให้ตัวเองบาดเจ็บน้อยที่สุด”

“บาดเจ็บน้อยที่สุด?”

ลิลี่จ้องหน้าฉัน

“มีวิธีจับมันแบบไม่เจ็บตัวด้วยหรือ?”

“ฉันคิดออกสองวิธี”

“…”

ลิลี่ยังคงจ้องราวกับฉันเป็นไอ้บ้า แต่ท้ายที่สุด เธอตัดสินใจครุ่นคิดคำพูดของฉันอย่างจริงจัง

“มีวิธีในใจแล้วจะถามข้าทำไม? ถ้าเป็นข้าก็คง… ใช้ภาษารูนให้เหมาะกับสถานการณ์”

“โอ้? น่าสนใจ เป็นคำแนะนำที่ดี”

“…ยังไม่ได้แนะนำอะไรเลย”

ฉันวางกระเป๋าเป้ลงบนพื้นและเปิดออก จากนั้นก็ทยอยวางขวดสารประกอบทางเคมีที่เตรียมไว้จนทั่ว

ปิดท้ายด้วยการใช้มีดสลักอักษรรูน

พลางแหงนหน้ามองเพดานเป็นระยะเพื่อคำนวณตำแหน่ง

เป็นอันเสร็จสิ้นการวางกับดักบนพื้น ส่วนใหญ่เป็นขวดสารเคมี แต่ละขวดมีอักษรรูนกำกับ

“มันยื่นปากออกจากรูบนเพดาน แต่ทำไมเจ้าถึงวางกับดักที่นี่…”

ยังไม่ทันที่ลิลี่จะพูดจบ ฉันโก่งคันศรนักพเนจรพร้อมกับเสกลูกธนูล่ามเชือก

“…เจ้าคงไม่คิดจะ…”

ฉันขี้เกียจฟังลิลี่บ่น จึงปล่อยสายทันทีที่ศรสร้างเสร็จ

ฟ้าว!

ลูกธนูบินขึ้นไปกระแทกปากฟาร์มมิ่งเวิร์มอย่างแม่นยำ

โฮก—!

ฟาร์มมิ่งเวิร์มสะดุ้งหลังจากถูกวัตถุปริศนาจู่โจมกะทันหัน

“ลิลี่!”

“เดี๋ยวก่อน! เจ้าบุ่มบ่ามเกินไปแล้ว…”

“ไอ้เวรนั่นกำลังจะร่วง! รีบถอยออกไป!”

ฉันใช้มือจับสายเชือกที่ผูกอยู่กับลูกธนู

“เทอร์มาtterma”

‘เชือกสร้างจากวัสดุที่เหนี่ยวนำไฟฟ้าได้ดี’

ฉันคาใจมาตลอดว่าทำแบบนี้ได้ไหม

ถ้าทำไม่ได้ ก็แค่ปีนเชือกขึ้นไปสอยมันลงมา

ทว่า

เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!

ดูเหมือนจะได้ผล

ฉันสร้างกระแสไฟฟ้าให้แรงที่สุดเท่าที่ร่างกายรับไหว พลังงานไฟฟ้าไต่ขึ้นไปตามเชือกและช็อตใส่ฟาร์มมิ่งเวิร์ม

…เขารู้อยู่แล้วว่าฟาร์มมิ่งเวิร์มแพ้ทางไฟฟ้า?

“โฮกกกกก—!”

พร้อมกันกับเสียงคำรามหนแรก ฟาร์มมิ่งเวิร์มตัวกระตุกจนหัวฟาดกับขอบรู สร้างแรงสะเทือนไปทุกทิศ

คล้ายกับร่างกายสูญเสียการควบคุมชั่วขณะ ลำตัวขนาดมหึมาร่วงลงมาด้านล่างประหนึ่งหยดน้ำจากปากก๊อก

โครมมมมม!!

ผลจากกระแสไฟฟ้าที่ไม่คาดคิด ร่างฟาร์มมิ่งเวิร์มกระแทกพื้นเข้าอย่างจัง

ตัวฉันที่ต้องทนผลข้างเคียงของกระแสไฟฟ้า ได้รับการตอบแทนอย่างคุ้มค่า

พื้นดินยุบตัวเป็นวงกว้างเนื่องจากถูกน้ำหนักมหาศาลกดทับ

“มาร์คามา ทูมาร์ค เดอ โมห์สMarlkaama to marlk de mohs”

ลูกไฟถูกเสกขึ้นกลางอากาศ พุ่งไปทางอักษรรูนที่ฉันสลักไว้ล่วงหน้า

รอบบริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยขวดสารเคมี

บึ้มมมมม—!

เกิดระเบิดรุนแรง ขากรรไกรฟาร์มมิ่งเวิร์มถูกทำลายทันที ฟันแหลมรอบปากแตกหักและกระเด็นไปทุกทิศ

“โฮกกก!”

แต่มันยังไม่ตายเพราะการโจมตีแค่นี้

* * *

โฮก—!

โครม!

“นี่มัน…”

นักบวชจากหมู่บ้านทางใต้ ได้ยินเสียงคำรามผ่านกำแพง

มันเคยเป็นเอลฟ์นักล่ามากประสบการณ์ สิ่งสำคัญของการเป็นเอลฟ์นักล่าคือประสาทสัมผัส

ใบหน้าที่มีริ้วรอย เผยความเคร่งเครียดทันที

“เสียงเมื่อครู่…”

“ท่านผู้นำหมู่บ้าน”

“เรียกข้าว่านักบวช!”

“ข…ขอรับท่านนักบวช… เสียงเมื่อครู่… เสียงระเบิดใช่ไหม?”

“เป็นเสียงตกกระแทกพื้นของบางสิ่งที่มีขนาดใหญ่”

นอกจากนั้น เสียงคำรามยังดังขึ้นอีกหลายระลอก แม้จะเบาบาง แต่ก็เกิดการสั่นสะเทือนชัดเจน

หลังจากได้รับวิวรณ์จาก ‘ท่านดารากร’ ผู้นำหมู่บ้านเลือกที่จะเชื่อสัญชาตญาณตัวเองมากขึ้น

ครั้งนี้ก็เช่นกัน

ลางสังหรณ์ของมันกำลังบอกว่า

“…ท่านคนบ้ากำลังตกอยู่ในอันตราย!”

ไม่ผิดแน่

“ทุกคน! รีบมุ่งหน้าไปรักษาชีวิตท่านคนบ้า!”

ผู้นำหมู่บ้านและกลุ่มอาวุโสอีกกว่ายี่สิบคน รีบวิ่งกลับมายังทางแยกที่มีเชือกห้อย

เชือกที่คังซอนฮูเกี่ยวไว้กับขอบหน้าผา ยังคงอยู่ในสภาพเดิม ช่วยให้พวกมันลงไปข้างล่างได้รวดเร็ว

ทุกคนตามรอยเท้าของลิลี่และคังซอนฮูไป

ยิ่งเดินลึก ทิวทัศน์ก็ยิ่งแห้งผาก สีหน้าของชาวบ้านค่อยๆ หดหู่

“ให้ตายสิ… เกิดอะไรขึ้นกับรากภูเขากันแน่”

“ท่านคนบ้า…!”

และเมื่อมาถึงสุดทางเดิน

“…”

พวกมันได้พบกับคนบ้า

“ท่านคนบ้า…?”

“เอ่อ…”

คนบ้ากำลังก่อกองไฟ

บนกองไฟกำลังปรุงเนื้อและเลือดของบางสิ่ง

นักบวชมองไปทางศพของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ด้านหลังคังซอนฮู

“นั่นมัน…”

“มาก็ดีแล้ว กำลังจะไปเรียกพอดี”

เชือกสิบกว่าเส้นถูกมัดไว้รอบศพขนาดมหึมา

“ช่วยขนย้ายมันได้ไหม”

“ท่านจะย้ายไปไว้ที่ไหน?”

คังซอนฮูชี้นิ้วขึ้นไปด้านบน

“พื้นดิน”

“…”

“…”

เหล่าอาวุโสหมู่บ้านที่ยืนข้างนักบวช ต่างรีบจ้องนักบวชด้วยใบหน้าซีดเซียวเจือความกังวล

ทว่า แววตาของนักบวชกำลังเปี่ยมไปด้วยความฮึกเหิม

“…เริ่มปฏิบัติการลำเลียง! ระดมพลสาวกของหมู่บ้านทุกคนเป็นการด่วน!”

“…”

“ปฏิบัติ!”

“…”

“ปฏิ! บัติ!!”

“ป…ปฏิบัติ!”

“เห็นแล้วนึกถึงตอนอยู่ในค่ายทหาร”

“ค่ายทหาร?”

ลิลี่ถาม

“ถ้าไอ้จ่าเวรพูดว่าเขาไม่ชอบภูเขา ในวันนั้น ทหารเกณฑ์ทุกคนในค่ายต้องช่วยกันถือพลั่วไปขุดเขาทั้งลูกขึ้นมา”

“กองทัพอะไร? ทำไมถึงทำงานไร้ประสิทธิภาพแบบนี้”

“นั่นแหละประเด็น”

คังซอนฮูฉีกยิ้มกว้างขณะนั่งมองชาวบ้านลงมืออย่างกระฉับกระเฉง

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (2/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด