ตอนที่แล้วEp.166 - พาแฟรี่ตัวน้อยเข้าบ้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.168 - พาเสี่ยวไป๋ออกสู้

Ep.167 - น้องสาวจากโลกวิญญาณของเจ้าถิ่นฮัง


3/3

Ep.167 - น้องสาวจากโลกวิญญาณของเจ้าถิ่นฮัง

โลกวิญญาณคือโลกแบบไหน?

ป่าแห่งการเริ่มต้นในโลกวิญญาณ แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงดินแดนเล็กๆแห่งหนึ่งเท่านั้น

การรุกรานจากโลกวิญญาณในโลกจริงนับวันยิ่งลึกและหนักหนาขึ้นเรื่อยๆ ไม่ช้าก็เร็ว มนุษย์ทุกคนและโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่จะถูกผนวกรวมเข้ากับโลกวิญญาณอย่างสมบูรณ์ และกลายเป็นหนึ่งในดินแดนของโลกวิญญาณ

โลกวิญญาณกว้างใหญ่แค่ไหนน่ะหรือ?

กระทั่งความทรงจำของจอมปราชญ์ที่ฮังอวี่ครอบครองก็ยังไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้

แต่ที่แน่ๆก็คือ สัดส่วนของสายพันธุ์ทรงภูมิปัญญาระดับสูงในโลกวิญญาณมีน้อยมาก

มอนสเตอร์ส่วนใหญ่เมื่อเกิดมาจะไม่สามารตถเปิดภูมิปัญญาได้ทันที ต้องค่อยๆเรียนรู้และใช้ระยะเวลายาวนาน

ขณะที่มนุษย์เป็นสายพันธุ์ที่ครอบครองสติปัญญาตั้งแต่แรกเกิด!

ฮังอวี่ขอให้เสืออ้วนส่งคนนำอุปกรณ์มา

ไม่จำเป็นต้องเป็นอุปกรณ์ชั้นดีก็ได้ ขอแค่มันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก็พอ

ฮังเสี่ยวไป๋กลับคืนรูปลักษณ์เดิม เธอสวมเสื้อคลุมสีเทาคุณภาพต่ำ หมวกขนสัตว์หยาบๆที่สร้างโดยสมาคมมังกรฟ้า และสวมรองเท้าหนังเกรดต่ำที่ไม่เพิ่มโบนัสค่าคุณสมบัติใดๆ

แม้อุปกรณ์พวกนี้จะไม่ใช่ของดี

แต่โดยพื้นฐานแล้วสามารถช่วยปกปิดรูปลักษณ์ได้

เมื่อสวมใส่อุปกรณ์จากโลกวิญญาณ ขนาดของมันจะเปลี่ยนไปตามรูปร่างของผู้สวมใส่โดยอัตโนมัติ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะใส่พอดีตัวหรือไม่

ฮังเสี่ยวไป๋สวมเสื้อคลุม เสื้อคลุมเริ่มปรับขนาดโดยอัตโนมัติ แหวกหลังเล็กน้อยเผยช่องว่างให้ปีกแฟรี่ของเธอ ช่วยให้มันสามารถสยายได้อย่างอิสระ

อย่างไรก็ตาม ปีกแฟรี่สามารถเลือกที่จะซ่อนได้

เมื่อฮังเสี่ยวไป๋ซ่อนปีกและหูแหลม เธอก็ไม่ต่างจากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆทั่วไป

แม้ผมยาวสีเงิน ดวงตาสีม่วงอ่อน และผิวขาวเด่นของเธอจะทำให้กลายเป็นจุดสนใจก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ไม่ทำให้คนอื่นๆรู้ว่าเธอคือผู้มาเยือนจากโลกวิญญาณ

“คฤหาสน์หลังนี้คือที่ๆเธออาศัยอยู่นับจากนี้ไป”

“ห้องนั่งเล่นอยู่ทางซ้าย ตรงกลางคือห้องนอนฉัน ส่วนทางซ้ายเป็นห้องนอนของเธอนับแต่นี้ไป”

“นอกจากนี้ ทางปีกซ้ายของคฤหาสน์จะเป็นสำนักงานและห้องทดลองส่วนตัวของฉัน ปีกขวายังไม่ได้ใช้งาน แต่สามารถเก็บกวาดแล้วใช้เป็นห้องสำนักงานของเธอได้ เดี๋ยวฉันจะยกพวกอุปกรณ์กลั่นโพชั่นกับของที่จำเป็นอย่างอื่นมาให้”

“ต้นไม้วิญญาณกับพืชวิญญาณที่ฉันปลูกในลานบ้านขอส่งต่อให้เธอดูแล ด้วยสกิลเพาะปลูกระดับเธอ น่าจะสามารถฝึกฝนต้นไม้วิญญาณทั้งสองต้นให้กลายเป็นชั้นยอดขั้นโกลด์ได้ ถูกไหม?”

“...”

ฮังอวี่พาเสี่ยวไป๋เดินชมรอบๆ

มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังพาลูกพี่ลูกน้องที่พึ่งออกจากชนบทเดินเที่ยว

ฮังเสี่ยวไป๋เป็นแฟรี่ระดับสูง และลักษณะนิสัยของแฟรี่ระดับสูงส่วนใหญ่อ่อนโยนและมีความอยากรู้อยากเห็น เธอพบว่าการอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ช่างแตกต่างกับตอนที่อยู่ในโลกวิญญาณ

สามารถอยู่ร่วมกับเจ้านายใหญ่เช่นนี้

นอกจากนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญามากมายอาศัยยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

ทันทีที่ก้าวออกจากคฤหาสน์ก็จะพบกับเพื่อนบ้านของเธอ

เสี่ยวไป๋เคยชินกับการอยู่อย่างสันโดษ แต่จู่ๆก็ต้องมาอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ สารภาพตามตรงเธออึดอัดอยู่บ้าง ... แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นก็คือ เผ่ามนุษย์ดูเหมือนจะเป็นมิตรมาก ซึ่งอะไรแบบนี้ในโลกวิญญาณเป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่ง

แนะนำสถานที่เสร็จแล้ว

ต่อไปก็แนะนำงานกันต่อเลย

ฮังอวี่พบว่าภูติสาวไม่มีท่าทีต่อต้านใดๆ สำหรับเธออยากให้ชื่ออะไรก็เรียกได้ตามสะดวก

สำหรับเธออยากให้อาศัยอยู่ที่ไหนเธอก็ยินดี

อยากให้เธอช่วยรับหน้าที่กลั่นโพชั่นและดูแลพืชวิญญาณ เธอก็ยอมรับคำสั่งอย่างเชื่อฟัง

ดูเหมือนว่าเธอไม่คิดปฏิเสธเลย บอกให้ทำอะไร เธอยอมร่วมมืออย่างว่าง่ายและไม่ปริปากบ่น

นี่ไม่ใช่การรับน้องสาวจากโลกวิญญาณมาแล้ว แต่มันเป็นการรับแม่บ้านตัวน้อยที่ขยันขันแข็งมาต่างหาก อ๊า~~

แน่นอน

ฮังอวี่ตระหนักดี

ว่านี่เป็นเพราะบุคลิกทางสายพันธุ์และวัฒนธรรม

เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวไป๋ไม่มีประสบการณ์ทางสังคม ดังนั้นเธอแทบจะเป็นเหมือนกระดาษเปล่า

ตอนนี้เธอตระหนักว่าตนติดอยู่ในอีกโลกหนึ่ง มีอุปสรรคทางภาษา สถานการณ์ไม่แน่นอน พลังรบและอุปกรณ์หายไป และทำได้เพียงพึ่งพาฮังอวี่เพื่อตั้งหลักเท่านั้น

ในมุมมองของสิ่งมีชีวิตจากโลกวิญญาณ สถานการณ์ที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นเช่นนี้ มันเท่ากับเป็นการยอมรับโดยปริยายว่าอีกฝ่ายคือเจ้านายของตัวเอง

ในโลกวิญญาณ

เจ้านายของดินแดนนั้นๆถือเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาด

และเป็นเรื่องปกติที่เจ้านายใหญ่จะเอาเปรียบผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

อีกทั้งเวลานี้ เสี่ยวไป๋ไม่ใช่เจ้านายตัวน้อยในอาณาเขตเล็กๆอีกต่อไปแล้ว!

ด้วยเหตุนี้ ฮังอวี่ขอให้เธอทำอะไรตั้งมากมาย แต่เธอกลับไม่รู้สึกว่าถูกบังคับเลย เมื่อเทียบกับในโลกวิญญาณที่มักต้องเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเพื่อเจ้านายใหญ่แล้ว งานแค่นี้ไม่นับเป็นสิ่งใด

หากในโลกวิญญาณสามารถพบเจอกับเจ้านายใหญ่เช่นฮังอวี่ เสี่ยวไป๋คงคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่

“เธอคงกลับไปโลกวิญญาณไม่ได้ อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาสั้นๆ”

“ในเมื่อตอนนี้อยู่ในโลกมนุษย์ ฉะนั้นต้องปรับตัวให้เข้ากับที่นี่”

“ฉันจะแบ่งเวลาเล็กๆน้อยๆทุกวันเพื่อมาสอนเธอเรียนภาษาจีนกลางและอักษรจีน ส่วนเรื่องเรียนรู้การใช้งานอุปกรณ์อย่างพวกมือถือหรือคอมพิวเตอร์ ฉันจะให้หวังเอ๋อสอนเธอ”

“มีคำถามอะไรไหม?”

“ไม่มี” เสี่ยวไป๋ตอบเฉียบขาด แต่จู่ๆคล้ายเกิดอาการบางอย่าง มือน้อยๆลูบท้อง เอ่ยเสียงแผ่วว่า “เราขอไปล่าสัตว์แถวๆนี้จะได้หรือไม่?”

ฮังอวี่ชะงักไปครู่หนึ่ง

น้องสาวจากโลกวิญญาณดูเหมือนจะหิว

ตั้งแต่เธอติดอยู่ในภาชนะที่เหมือนโลงศพ มันน่าจะผ่านมานานกว่าสองวันแล้ว

สิ่งมีชีวิตจากโลกวิญญาณก็ต้องกินต้องดื่มเช่นกัน เมื่อเสี่ยวไป๋ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น เธอจึงอยู่ในสภาวะอ่อนแอเล็กน้อย

แต่ถึงแม้เธอจะอยู่ในสภาวะอ่อนแอเล็กน้อย และค่าคุณสมบัติทั้งหมดลดลง 30% แต่ก็ยังเหลือพลังรบมากพอที่จะไล่ต้อนฮังอวี่ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่าเธอแข็งแกร่งเพียงใด

แต่ตอนนี้เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว

สภาวะของเด็กสาวตัวน้อยน่าจะตกลงมาอยู่ในสภาวะอ่อนแอปานกลาง

คุณสมบัติทั้งหมดของเธอลดลง 60% หากสู้กันตอนนี้ เธอไม่น่าจะเอาชนะฮังอวี่ได้

หากยังปล่อยให้เธออดอยากต่อไปอีกซักหนึ่งวันหรือมากกว่านั้น เด็กสาวจะตกอยู่ในสภาวะอ่อนแอขั้นรุนแรง ค่าคุณสมบัติทั้งหมดลดลง 90% ถึงเวลานั้น แม้แต่หมาหวังเอ๋อก็อาจเป็นภัยคุกคามแก่เธอได้

อาหารคือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง!

“เธอทำงานให้ฉัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องล่าสัตว์ด้วยตัวเอง ฉันจะพาเธอไปกินอาหารที่ร้าน”

ฮังอวี่จะปล่อยให้เสี่ยวไป๋ออกไปล่าสัตว์ได้อย่างไร?

แม้พลังรบของเธอจะแข็งแกร่งมาก แต่ทำแบบนั้นมันเหมือนใช้แรงงานโดยเปล่าประโยชน์!

ปล่อยให้เธออยู่บ้านเพื่อช่วยตนกลั่นโพชั่นและเพาะปลูกด้วยสกิลสายผลิตที่ไม่ต่ำกว่าระดับกลาง แบบนั้นต่างหากถึงจะสร้างกำไรได้มากกว่า!

ฮังอวี่ให้ความสำคัญกับน้องสาวตัวน้อยมาก!

เขาพาเสี่ยวไป๋และหวังเอ๋อออกไปร้านอาหารของเจ้าอ้วน

ฉากอันมีชีวิตชีวาบนถนนมังกรฟ้าสร้างความตกใจให้เสี่ยวไป๋อีกครั้ง

หลังจากการถือกำเนิดของยุคสมัยใหม่ แทนที่จะทรุดโทรมและผุพัง ถนนสายนี้นับวันกลับยิ่งกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

เวลานี้มันสว่างไสวไปด้วยแสงจากบาร์ รถฟู๊ดทรัค และร้านอาหาร ผู้คนพลุกพล่าน หลายคนมาตั้งแผงขายของกันที่นี่ และมีคนไม่น้อยแวะมาเดินเล่น

มีสถานที่เช่นนี้อยู่ด้วยหรือ?

ทุกอย่างอยู่นอกเหนือความเข้าใจของเสี่ยวไป๋

เสี่ยวไป๋ไม่เคยได้ยินอะไรอย่างเช่นร้านอาหารมาก่อน

ตอนอยู่ในโลกวิญญาณ เธอมักหาของกินด้วยตัวเอง

วันนี้ผังต้าไห่บังเอิญอยู่ร้านพอดี เมื่อได้ยินว่าฮังอวี่มากินข้าว เขาจึงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง

ตาตี่ของเขาก้มๆเงยๆ จ้องมองไปยังเสี่ยวไป๋ที่ยืนอยู่ข้างหลังฮังอวี่ ในสมองเริ่มเกิดความคิดไปต่างๆนาๆ

เชี่ยเถอะ!

ฮังอวี่ไอ้หนุ่มที่เมื่อก่อนเป็นแค่ปลาเค็มใช้ชีวิตไปวันๆ

ไม่น่าเชื่อว่าจะโชคดีได้ควงสาวสวยขนาดนี้!

ว่าแต่เธอไม่เด็กเกินไปหน่อยหรือ? รออีกซักสามปีก็ว่าไปอย่าง สัตว์ร้าย! นายมันสัตว์ร้าย! อ๊าาาา~~

แน่นอน ฮังอวี่รู้ความคิดสกปรกในใจผังต้าไห่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะอธิบาย ไม่เห็นหรือว่าเด็กสาวตัวน้อยจ้องมองอาหารในห้องโถงจนน้ำลายไหลแล้ว?

“นายยังเหลือวัตถุดิบดีๆอยู่ไหม?”

“ยังเหลืออยู่ เพราะพึ่งผ่านสงครามกองทัพมอนสเตอร์มาหมาดๆ ทำให้วัตถุดิบเฟ้อ ราคาในท้องตลาดลดลง ฉันเลยมีโอกาสซื้อวัตถุดิบคุณภาพสูงเลเวล 4 , 5 มาไม่น้อย เดี๋ยวจะปรุงมันเป็นพิเศษให้นายซักสองจาน”

“ฮ่ง! เจ้าอ้วนนี่ ไม่เห็นหรอว่ามีแขกสามคน” หมาหวังเอ๋อส่ายหางและพูดว่า “อาหารสองจานมันจะไปพออะไร ด้วยศักดิ์ศรีของเจ้านาย ต้องเอามาสิบจาน!”

ผังต้าไห่คิดว่าเจ้าหมานี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ มาถึงก็เอ่ยปากขอสิบจาน แน่ใจหรือว่าจะกินหมด?

อาหารร้านนี้มีไว้สำหรับคนกินนะโว้ย!

เจ้าฮัสกี้ตัวนี้นับวันยิ่งเหิมเกริม!

ฮังอวี่กล่าว “หวังเอ๋อพูดถูกแล้ว ขออาหารให้พวกเราสิบจานก่อน ถ้าไม่พอเดี๋ยวจะสั่งเพิ่มอีก”

“นายจะเอาสิบจานจริงๆหรอ?”

“สถานการณ์ค่อนข้างพิเศษ ไปทำอาหารก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน”

ฮังอวี่กินไม่หมดแน่ๆ อันที่จริงกินเกินสองจานก็เสียของเปล่าแล้ว แต่สำหรับเด็กสาวตัวน้อยข้างๆเขามันไม่เหมือนกัน

พลังรบของเธอค่อนข้างสูง ดังนั้นความต้องการในพลังงานวิญญาณจึงค่อนข้างมาก

แล้วอีกอย่าง ต่อให้กินไม่หมดมันก็ไม่ใช่ปัญหาไม่ใช่รึไง?

ฮังอวี่เป็นลูกพี่ใหญ่

ไม่ต้องพูดถึงสิบจาน ต่อให้เขาสั่งร้อยจาน ผังต้าไห่ก็ต้องทำให้กิน!

หลังจากสั่งเมนูอาหารดีๆ

ฮังอวี่พาเสี่ยวไปเข้าไปในห้องส่วนตัว

เสี่ยวไป๋นั่งลงบนเก้าอี้อย่างอยากรู้อยากเห็น หันไปมองรอบๆด้วยความสนอกสนใจ

เธออยากรู้ทุกอย่างของที่นี่

เมื่อฮังอวี่นั่งลง เขาจมหายไปในห้วงความคิด การเจอเสี่ยวไป๋เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย ด้วยความช่วยเหลือจากพลังรบและสกิลของเธอ เขาเตรียมแผนการไว้มากมายในภายหลัง

และเมื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น มันจะนำมาซึ่งข้อได้เปรียบมหาศาลให้แก่ตนเอง!

*พรุ่งนี้งดครับ