Chapter 1
"เฮอร์ม่า! ลุกขึ้นได้แล้วพวกเราจะต้องไปตรอกไดแอกอนกันนะ ... แต่ถ้าเกิดว่าพี่ไม่อยากไป ? งั้นก็ช่างมันเถอะ!"
"หืม ... ตรอกไดแอกอนอย่างงั้นหรอ ? เอาล่ะ! พี่จะลุกขึ้นเดี๋ยวนี้แหละ แต่ว่าแฮนนาห์ ... เธอช่วยลงไปข้างล่างก่อนได้ไหม ?"
วุ่ยรุ่นรูปหล่อค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ โดยยังคงมีความมึนงงเล็กน้อย พร้อมกับเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา
ปอยผมหยิกบลอนด์ทับอยู่บนจมูกของเขาทำให้เขาอยากจะจามออกมา
"นี่มันเตียงนอนของหนู ... พี่ขึ้นมานอนบนเตียงของหนูได้ยังไง!"
เด็กสาวพูดขึ้นมาพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากันและค่อย ๆ กดน้ำหนักตัวของเธอลงไปทำให้เฮอร์ม่าที่ถูกทับอยู่เริ่มหายใจไม่ออก
"แฮน ... แฮนนาห์! นี่เป็นความผิดของพี่เอง เพราะว่าแม่บอกกับพี่ว่าพรุ่งนี้จะพาพวกเราไปซื้อเตียงใหม่ เดี๋ยวพี่ยกเตียงใหม่ให้เธอเลยเป็นไง" เฮอร์ม่ารีบหันไปพูดขอโทษกับน้องสาวของเขาอย่างรวดเร็ว
"ตกลงตามนั้น!" แฮนนาห์พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลุกขึ้นและวิ่งออกจากห้องไป
เมื่อมองไปยังเสื้อคลุมบนร่างกายของแฮนนาห์ตัวน้อย เฮอร์ม่าก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
เพราะท้ายที่สุดแล้วน้องสาวของเขาก็ได้รับเลือกให้ไปเรียนที่ฮอกวอตส์เมื่อปีที่แล้ว แต่เขาในฐานะพี่ชายกับไม่ได้รับมัน
แต่สิ่งนี้เขาสามารถอธิบายได้ก็เพราะว่าเขาไม่ใช่ลูกจริง ๆ ของครอบครัวอับบอต แต่เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกรับมาเลี้ยง
แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นคนที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ถูกกำหนดมาให้เป็นตัวพระเอก ? แล้วทำไมเขาถึงไม่ได้รับจดหมาย ?
นกฮูกของเขาถูกใครบางคนกินไปอย่างงั้นหรอ ?
แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น ถึงแม้ว่าเวทย์มนตร์จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ในเรื่อง แฮรี่พอร์ตเตอร์ นั้นมันไม่ใช่เรื่องราวเกี่ยวกับเทพนิยาย แต่เป็นเรื่องราวสุดแสนแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยความดำมืด
ยกตัวอย่างเช่น แม่ของแฮนนาห์ซึ่งถือได้ว่าเป็นแม่บุญธรรมของเขานั้นได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้าด้วยน้ำมือของผู้เสพความตาย
ดังนั้นสำหรับเขาแล้วเขาไม่ต้องการที่จะต้องไปต่อสู้มนุษย์ลุงที่ไม่มีจมูก หรือชายแก่เคราขาวที่มีสติปัญญาอันล้ำเลิศแต่ชอบแสดงหน้าตาเย็นชาอยู่ตลอดเวลา
มันคงจะดีกว่าถ้าเกิดว่าเขาไม่ไปที่ฮอกวอตส์! เพราะแค่มีแฮรี่คนเดียวก็สามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้อยู่แล้ว
ก่อนที่เฮอร์ม่าจะนึกอะไรไปไกลนอกจากนี้ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างมาจากทางหน้าต่าง
เขาเห็นนกฮูกตัวสีเทาดำกำลังบินมาทางหน้าต่างของบ้านเขา และโยนซองจดหมายที่คาบอยู่ในปากของมันเข้ามาในรอยแยกของหน้าต่าง
ทำให้เฮอร์ม่าที่เห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงพร้อมกับรีบเดินไปหยิบซองจดหมายมาพร้อมกับพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ว่า "อย่าให้เป็นใบประกาศการรับเข้าโรงเรียน ... อย่าให้เป็นใบประกาศการรับเข้าโรงเรียน!"
และมันก็ดูเหมือนว่าจดหมายฉบับนี้มันน่าจะเป็นของเขาละมั้ง ? เขาที่เป็นเด็กกำพร้า และ ถูกรับมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในโลกมักเกิ้ล
ถ้าเกิดว่าเด็กกำพร้าทุกคนมีความสามารถด้านเวทย์มนตร์กันทุกคน โลกเวทย์มนตร์มันจะไม่ยุ่งเหยิงกันตายเลยหรอ ?
"เฮอร์ม่า ทำไมพี่ยังไม่ทำความสะอาดห้องอีก หืม ... จดหมายนั่นมัน เฮอร์ม่า!? พี่ก็ได้รับเลือกให้ไปเรียนที่ฮอกวอตส์ด้วยอย่างงั้นหรอ ... !"
แฮนนาห์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงมีความสุขหลังจากได้เห็นจดหมายบนมือของเฮอร์ม่า ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งสองคนจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงชื่นชมพี่ชายของเธออยู่อย่างลับ ๆ
เพราะท้ายที่สุดแล้วตั้งแต่เด็กเฮอร์ม่าก็เป็นเด็กที่ฉลาดกว่าคนอื่น ๆ มาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา หรือในด้านของความรู้ก็ตาม!
ดังนั้นเมื่อเฮอร์ม่าไปที่ฮอกวอตส์เธอก็เชื่อว่าเขาจะต้องทำได้ดีกว่าคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน
แต่ทันใดนั้นจู่ ๆ เฮอร์ม่าก็โบกมือของเขาไปมาและชี้ไปที่ชื่อของเธอ ทำให้รอยยิ้มของเธอจางหายไปอย่างรวดเร็ว
เธอมองไปที่เฮอร์ม่าด้วยใบหน้าหน้าสงสารเล็กน้อย เพราะเธอคิดว่าพี่ของเธอน่าจะเศร้าที่เขาไม่มีพรสวรรค์ในด้านเวทย์มนตร์
"อย่าเสียใจไปเลยพี่เฮอร์ม่า ถึงแม้ว่าพี่จะไม่มีพรสวรรค์ในด้านเวทย์มนตร์ แต่พี่ก็ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะสำหรับพวกมักเกิ้ล หนูเชื่อในตัวพี่นะ!"
เมื่อได้ยินคำพูดให้กำลังใจของแฮนนาห์ เฮอร์ม่าที่กำลังยืนยิ้มก็อดไม่ได้ที่จะลูบหัวของเธอเบา ๆ
แต่ดูเหมือนว่าตัวของแฮนนาห์จะสูงกว่าเขาเล็กน้อย ทำให้มันดูเหมือนว่าแฮนนาห์เป็นคนที่โตกว่าเขาคนที่เป็นพี่ชายของเธอ
"แฮนนาห์! พี่สบายดี ... อันที่จริงแล้วเรื่องนี้มันไม่ค่อยสำคัญสักเท่าไหร่ ไม่ว่าพี่จะมีพรสวรรค์ด้านเวทย์มนตร์หรือไม่มีก็ตาม เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพี่แล้วก็คือเธอกับแม่ที่สามารถใช้ชีวิตกับอย่างสงบสุขอย่างปัจจุบันนี้"
"ไหนหนูขอดูเนื้อหาในจดหมายหน่อย!"
แฮนนาห์รีบเปิดซองจดหมายอ่านอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นไม่นานใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงบของเธอก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ
"แย่แล้วพี่เฮอร์ม่า! ... กำลังจะมีแขกคนสำคัญมาที่บ้านของเรา อาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ หนูจะรีบไปบอกแม่ก่อนนะ!"
หลังจากพูดจบแฮนนาห์ก็โยนซองจดหมายบนมือของเธอทิ้งพร้อมกับวิ่งลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันทางด้านของเฮอร์ม่าในตอนนี้ก็รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง
ชายชราเคราขาวกำลังจะมาที่นี่ ? มาหาแฮนนาห์ใช่ไหม ?
โอ้ไม่นะ ... ฉันไม่อยากเจอชายชราเคราขาวคนนี้เลย!
แต่หลังจากครึ่งชั่วโมงต่อมาเฮอร์ม่ากำลังนั่งมองไปยังชายเคราขาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรังเกียจเล็กน้อย
"คุณเฮอร์ม่า เธอไม่ต้องประหม่าจนเกินไปหรอก ฉันไม่ได้มาในฐานะของอาจารย์ใหญ่ แต่มาในฐานะของคนธรรมดาคนหนึ่ง"
ดัมเบิลดอร์มองไปที่เฮอร์ม่าด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหยิบขนมชิ้นหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาและค่อย ๆ แกะเปลือกกระดาษออกอย่างคล่องแคล่ว และนำเข้าไปในปากของเขา
"ไม่หรอกอาจารย์ดัมเบิลดอร์ ผมก็แค่แปลกใจมากกว่าทำไมคุณถึงได้มาหาผมที่นี่ด้วยตัวเองแบบนี้" เฮอร์ม่าพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจ
"อืม! ฉันรู้ว่าเธอจะต้องถามคำถามนี้ คุณเฮอร์ม่า ... คุณสนใจที่จะฟังเรื่องเล่าบางอย่างจากฉันไหม ?"
"สนใจครับ อาจารย์ใหญ่ดัมเบิลดอร์"
เมื่อเห็นว่าเฮอร์ม่าตอบตกลงเรียบร้อยแล้ว ดัมเบิลดอร์ก็หลับตาลงราวกับว่าเขากำลังนึกอะไรบางอย่างอยู่ และหลังจากผ่านไปสักครู่หนึ่งเขาก็ค่อย ๆ เปิดปากพูดขึ้นมา
เมื่อนานมาแล้วมีชายคนหนึ่งที่เป็นพ่อมดแห่งศาสตร์มืดที่ทรงพลังอย่างมากในโลกของพ่อมดซึ่งเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นเจ้าแห่งศาสตร์มืดคนแรก
และก็มีคนจำนวนมากที่เคารพบูชาเขาอยู่จำนวนมากมาย เขาใช้การปกครองผู้คนด้วยความโหดร้ายปลูกฝังความกลัว
ต่อมาหลังจากนั้นไม่นานเขาก็พ่ายแพ้ให้กับพ่อมดที่ทรงพลัง ผู้ติดตามหลายคนของเขาได้ถูกฆ่าตายและจับกุม
แต่ก็ยังมีอีกมากมายที่ยังคงซ่อนตัวรอการกลับมาของเขาอยู่ ซึ่งอันที่จริงแล้วในบรรดาผู้ศรัทธาของเขานั้นบางคนก็เต็มไปด้วยสติปัญญา และบางคนที่มีตามืดบอด
โดยสำหรับพวกผู้ศรัทธาที่ตามืดบอดจะคอยทำสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ อยู่ภายในเงามืด ทำให้คนบริสุทธิ์จำนวนมากต้องเสียชีวิตไป หนึ่งในนั้นก็คือกลุ่มพ่อมดที่ทรงพลังที่สุด "พ่อมดสายเลือดมังกร"
พวกเขาต้องการที่จะรวมพลังของสัตว์วิเศษเข้ากับมนุษย์เพื่อที่จะสร้างอาวุธชีวภาพที่สามารถทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมาได้
แต่ผลลัพธ์ของความล้มเหลวก็คือการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์จำนวนมากที่เสียชีวิตไป รวมถึงเด็กที่ถูกนำมาทดลองและถูกทิ้งขว้างอย่างไร้ความปราณี
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ตายในตอนแรก แต่ผลของการทดลองที่ล้มเหลวก็จะทำให้พวกเขาสามารถมีอายุอยู่ได้เพียงไม่เกิน 10 ปีเท่านั้น!
โดยก็มีพ่อมดบางคนที่คิดว่าพวกเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับพวกเขาและควรที่จะได้รับโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อครั้งในโลกใบนี้
ดังนั้นพวกพ่อมดจึงได้ปรึกษากับคนอื่น ๆ และได้ตัดสินใจออกมาอย่างกล้าหาญ
พ่อมดผู้ใจดีคนนี้ได้ส่งเด็ก ๆ ที่เหลือรอดจากการทดลองไปยังครอบครัวต่าง ๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างมีความสุขภายใต้การคุ้มครองของพ่อแม่
แต่ถึงอย่างนั้นผลที่ได้ก็ยังคงเป็นความตายก่อนวัยอันควรและเมื่อทุกคนกำลังสิ้นหวัง ทันใดนั้นก็มีเด็กแห่งความหวังปรากฏตัวขึ้นมา
เด็กคนนั้นเพิ่งจะผ่านวันเกิดครบรอบ 11 ปีของเขามาอย่างมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงและเขายังเป็นคนที่ฉลาดเกินอายุของเขา!
มันสามารถเรียกได้ว่าเป็นปาฎิหาริย์ และปาฏิหาริย์นั้นก็คือคุณ เฮอร์มา อับบอต!
เมื่อคำพูดของดัมเบิลดอร์จบลง เฮอร์ม่าที่กำลังนั่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับดัมเบิลดอร์ก็กำลังอยู่ในอาการตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
ถึงแม้ว่าเขาจะเคยคิดว่าร่างกายนี้อาจจะเป็นลูกของพ่อมดบางคนที่เสียชีวิตไปหมดแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเรื่องราวของเขามันจะน่าทึ่งขนาดนี้!
"และฉันก็ขอแสดงความยินดีและสุขสันต์วันเกิด! คุณเฮอร์ม่า!"
หลังจากดัมเบิลดอร์พูดจบเขาก็เอามือคว้าไปด้านหลังก่อนที่จะมีกล่องขนาดใหญ่ถูกนำขึ้นมาวางบนโต๊ะ โดยเขาสามารถเห็นได้ชัดว่าของภายในกล่องนั้นมันก็คือเค้กขนาดใหญ่
"ขอบคุณครับ อาจารย์ใหญ่ดัมเบิลดอร์!"
เฮอร์ม่าไม่สามารถที่จะสงบสติอารมณ์ของเขาได้อีกต่อไป พร้อมกับยืนขึ้นแล้วโค้งคำนับไปทางดัมเบิลดอร์หนึ่งที่
"ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก แต่เมื่อถึงเวลาที่เธอจะต้องไปที่ฮอกวอตส์ฉันก็หวังว่าเธอจะตอบสนองความต้องการของอาจารย์คนอื่น ๆ ได้"
ดัมเบิลดอร์มองไปยังเฮอร์ม่าที่กำลังเอาเค้กออกมาจากกล่องด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นก็มีจดหมายอีกฉบับหนึ่งปรากฏขึ้นมาในมือของเขา ทันใดนั้นตราสัญลักษณ์ของฮอกวอตส์ที่อยู่บนซองจดหมายก็ส่องแสงสว่างจ้าขึ้นมา
" ... " เฮอร์ม่าค่อยนำมีดหั่นเค้กออกเป็นชิ้น ๆ อย่างเบามืด พร้อมกับมองไปที่ดัมเบิลดอร์ด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง!
เขาค่อย ๆ นำเค้กเข้าปากพร้อมกับลิ้มรสมันอย่างช้า ๆ !
"เอ่อ ... คุณอับบอต และ คุณแฮนนาห์ อย่ามัวแต่ซ่อนตัวอยู่ตรงมุมห้องแบบนั้น ออกมากินเค้กและขนมที่ฉันนำมาด้วยกันเถอะ"
ดวงตาของดัมเบิลดอร์กวาดสายตามองไปยังมุมบันไดทำให้เห็นสองแม่ลูกอับบอตที่กำลังแอบฟังอยู่ ทำให้พวกเธอสองแม่ลูกที่ได้ยินคำพูดของดัมเบิลดอร์ค่อย ๆ เดินออกมาด้วยความเขินอายเล็กน้อย