ตอนที่21 ราชามาเฟียมีติวเตอร์
เหว่ยกำลังมีปัญหาในการทำความเข้าใจกับหลีหัว เขาจำได้ว่าป้าจางเคยบอกให้เขาทำแบบเดียวกันนี้ “คุณแค่พูดว่าเสียใจจริงๆ เธอก็จะให้อภัยคุณแล้ว”
แต่เหว่ยก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับคำสองคำนี้แต่อย่างใด มันเป็นคำพูดง่ายๆแต่เขาไม่รู้จัก หลีหัวเข้าใจในสิ่งที่เหว่ยคิด ตั้งแต่เธอกับเหว่ยรู้จักกันมาจนถึงตอนนี้ บางทีก็ทำให้เธออึดอัด “บอสเมื่อคืนคุณจูบฉัน”
เธอหน้าแดงขึ้นเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “คุณเคยถามใครให้แนะนำเรื่องนี้มั้ยค่ะ?”
เหว่ยพยักหน้า “เมื่อคืนคุณกลัวและร้องไห้ ผมเลยถามคนรู้จักว่าควรจะปลอบคุณยังไงดี เขาบอกให้ผมจูบปากคุณ”
“...”เธอไม่เคยคิดเลยว่าจูบครั้งแรกของเธอนั้นจะมาจากคำแนะนำของใครบางคน ที่เขาต้องการจะปลอบโยนเธอ ไม่แปลกใจเลยที่ดูเหมือนบอสจะไม่รู้สึกอะไรมากนัก
จากนั้นเขาก็พูดกับเธอว่า “ผมกำลังจะบอกเรื่องของซงเจียว่าเป็นยังไง แต่คุณกลับโกรธผมมาก”
เธอเบิกตากว้าง “เป็นเขาเหรอ?”
“จบ” หลีหัวกัดฟัน ผู้คนชายนั้น! ตอนนั้นเธอก็โทษบอสผู้น่าสงสาร
จากนั้นเหว่ยก็พูดถึงสาเหตุที่เขานำเครื่องเพชรมาให้เธอนั้น เพราะเขาค้นหาคำขอโทษผ่านอินเตอร์เนต “ผมอ่านเจอผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบเครื่องประดับ และถ้าผมให้สิ่งนั้นกับเธอ เธอก็คงจะมีความสุข แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้คุณจะไม่ชอบมัน ผมก็เลยไปถามฟูเหรินชู”
ปากของหลีหัวกระตุก “แสดงการขอโทษด้วยเลือด”
“จบ”
หลีหัวพันแผลให้เขาเสร็จแล้ว เธอเข้าใจปัญหาว่าอยู่ตรงไหน “บอสถ้าฉันจะบอกว่า...อย่าโกรธฉันนะค่ะ”
เหว่ยมองเธอด้วยความสงสัย
“ได้โปรดอย่าขอคำแนะนำกับคนรู้จักของคุณและผู้ช่วยฟู่นะค่ะ พวกเขาไม่น่าเชื่อถือ”
เหว่ยกระพริบตา
“พวกเขาให้คำแนะนำที่ผิดๆกับคุณ”
“เป็นเช่นนั้นเหรอ...? แต่คำแนะนำของฟูเหรินชูมันได้ผล”
หลีหัวถอนหายใจ “ที่ฉันพูดไปก็เพราะบอสกำลังทำร้ายตัวเอง และการคุกเข่าขอโทษต่อหน้าทุกคนนั้น ทำไมบอสไม่นึกถึงภาพลักษณ์ของตัวเองบ้างค่ะ? คุณคิดว่ามันน่าอายมั้ย คุณเป็นถึงซีอีโอ มหาเศรษฐีแต่ฉันเป็นแค่...”
เหว่ยเอียงศีรษะของเขา “ผมแค่อยากให้คุณพูดกับผมอีกครั้ง ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหน”
“ตาทึม”
หัวใจของหลีหัวเต้นตึกตัก มันเต้นเร็วขึ้นและเร็วขึ้น เมื่อสายตาที่จริงจังของเขาจ้องมองมาที่เธอ หลีหัวมองเขาตาโต เขาทำเจ้าชู้แบบไร้เดียงสากับเธออีกแล้วโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว เธอก้มศีรษะลงพยายามซ่อนแก้มสีชมพูของเธอเอาไว้
“เออ...ยังไงก็เถอะ ฉันมีคำถามที่จะถามคุณ...เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับเขา
“คุณมีปัญหาอะไรในใจหรือเปล่าค่ะ”
เหว่ยตัวแข็งทื่อ เขาสงสัยว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ เขาคิดว่าเธอพบความลับบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขา ซึ่งเธอไม่ควรจะรู้ เขามีความรู้ความสามารถหลายๆอย่าง แต่หลีหัวถามเรื่องที่เขาไม่รู้จัก เหว่ยรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป และเขาก็ต้องการที่จะซ่อนบางอย่างจากเธอด้วยเหมือนกัน
โดยสัญชาตญาณเพราะเขาต้องการให้เธอเห็นแต่ข้อดีของเขา และเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนั้น
เหว่ยไม่สามารถตอบคำถามเธอได้แต่หลีหัวก็เข้าใจเขาอยู่ดี อา...ไม่น่าแปลกใจเพราะพฤติกรรมของเขา มักจะกล้าได้กล้าเสียอยู่เสมอ เช่นเช็คเปล่า จูบ ชุดเครื่องเพชร และการคุกเข่าขอโทษ...และเธอก็ไม่เข้าใจอีกนั่นแหละว่าทำไมใครๆถึงไม่กล้าวิจารณ์เกี่ยวกับตัวเขาเลย
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หัวใจของหลีหัวรู้สึกเจ็บปวด เธออยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันทีเมื่อคิดถึงความจริงข้อนี้
การใช้ชีวิตที่ปราศจากความสุข ทำตัวเหมือนเครื่องจักรคงจะเหงา และทำตัวราวกับกระดาษสีขาวที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับชีวิตที่มีสีสันสวยงาม
เธอเห็นเหว่ยพยายามค้นหาคำตอบและทำความเข้าใจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่เธอก็รู้สึกปวดใจ ซีอีโอ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อที่มีทุกอย่างและใครๆก็อิจฉาเขา ที่ใช้ชีวิตอย่างสันโดษมาจนถึงทุกวันนี้ เขาเห็นคนอื่นมีชีวิตที่มีความสุข แต่ตัวเขาเองไม่รู้จักใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
หลีหัวน้ำตาไหล ทำให้เหว่ยตกใจ “คุณร้องไห้อีกแล้ว ความรู้สึกแปลกๆนี้มันบีบหัวใจของเขาอีกแล้ว เขาไม่อยากเห็นเธอร้องให้
ก่อนที่หลีหัวจะพูดอะไรออกมา เหว่ยก็เอนตัวเข้ามาหาและจูบที่ริมฝีปากของเธออีกครั้งเหมือนเมื่อคืนนี้ หลีหัวสะดุ้งและเปิดตากว้าง เจ้าชายรูปหล่อจูบฉันอีกแล้ว! จิตใจของเธอเริ่มสับสน เธอคิดอะไรไม่ออกเพราะสมองและความคิดของเธอถูกล้อมละลายไปในทันทีที่ริมฝีปากนุ่มของเขาสัมผัสกับริมฝีปากของเธอ เขาจูบริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยนในลักษณะที่ปลอบโยน ซึ่งทำให้หัวใจของเธอสดชื่นมีความสุขและอบอุ่น
เหว่ยค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาและก้มหน้าลงมองใบหน้าสีแดงระเรื่อของเธอ ใบหน้าของเธออยู่ใกล้เขาเมื่อไรก็มีอันตรายสำหรับเธอเมื่อนั้น
“คุณบอกว่าคำแนะนำของพวกเขานั้นไม่ดี แต่ถ้าคุณร้องให้เมื่อไรผมจะหยุดคุณด้วยการจูบ หมายความว่ามันใช้ได้ผล”
เขาดูคิดหนัก แต่หลีหัวหน้าแดงอย่างโกรธจัด “...นั้นสิ!”เธอรู้สึกเสียหน้า
“ฉัน-ฉันพูดถูก คุณจูบฉันไม่ได้ทุกครั้งที่ฉันร้องไห้ แต่คนที่เป็นแฟนกันเท่านั้นที่เขาจูบกัน แต่พวกเราไม่ได้เป็นแบบนั้น...”เธอพึมพำ
เหว่ยเอียงศีรษะของเขา “เพื่อนของคุณบอกว่า คนรักกันก็ต้องจูบกันตอนนี้เราจูบกันถึงสองครั้งแล้ว เราก็ควรจะเป็นคู่รักกันด้วย”
“...”ญาญ่า!
“ไม่ค่ะบอส เราไม่ใช่ จะเป็นคู่รักกันก็ต่อเมื่อ คุณชอบคนๆนั้นและรู้สึกดีกับเขา แค่จับมือหรือจูบยังไม่เรียกว่าความรัก
อีกครั้งแล้วที่เขารู้สึกมีปัญหาและไม่เข้าใจ “แค่นั้นแหละ ผมตัดสินใจแล้ว”
“บอส เรามาทำบางอย่างกันเถอะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะบอกให้คุณเปลี่ยนความคิดใหม่ทั้งหมด ฉันไม่สามารถสอนให้คุณรับรู้ถึงความรู้สึกได้ แต่ประสบการณ์เล็กๆของฉันก็สามารถบอกคุณได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ของดีราคาแพงก็ได้
ดวงตาของเธอส่องประกายราวกับดวงดาวที่เจิดจ้าที่สุดในท้องฟ้า ปล่อยให้เหว่ยอยู่ในอาการที่มึนงงขณะที่เขามองดูเธอ
“ชีวิตที่น่าเบื่อของคุณจบลงแล้ว! เชื่อฉันสิ ฉันจะเติมเต็มชีวิตของคุณด้วยสีสันที่คุณไม่เคยพบมาก่อน ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณต้องค้นหาคำตอบอีกต่อไป เพราะต่อไปนี้ฉันจะอยู่ข้างๆคุณ”