ตอนที่20 ราชามาเฟียประกาศความสัมพันธ์กับหลีหัว
เหว่ยขมวดคิ้ว “ผมคุกเข่าขอโทษคุณยังไม่เสร็จเลย”
หลีหัวพูดเสียงดัง “คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้”
“แต่คำขอโทษ...”
หลีหัวเหงื่อแตก “บอส...ฉันไม่ได้หมายความแบบนี้ คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรขนาดนี้ก็ได้”
“แต่เมื่อเช้าคุณไม่พอใจกับชุดเครื่องเพชรนั้น”
พวกนักเรียนที่ได้ยินก็แทบจะกระอักเลือดออกมา “ชุดเครื่องเพชรเหรอ?”
ซีอีโอเจียง เหว่ยให้ชุดเครื่องเพชรกับหลีหัวเหรอ? เขาไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไร
หลู่เจียแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเองเช่นกัน พวกเขาเจอกันแค่สองวัน แล้วเขาก็ได้มอบชุดเครื่องเพชรให้กับเธอแล้วเหรอ? หลีหัวเธอทำแบบนี้ได้อย่างไร จิตใจของเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา และตอนนี้เขาพูดกับหลีหัวคนเดียวเท่านั้น เขาไม่เหลือบไปมองใครเลยสักคน
หลีหัวจุกในอก เธอรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของหลู่เจียที่แสดงถึงความอิจฉา “คุณพูดถึงชุดเครื่องเพชรทำไม?”
เสียงของเธอตะกุกตะกัก “บ...บอส ฉันขอคุยหน่อยได้มั้ยค่ะ ได้โปรดลุกขึ้นก่อน”
เหว่ยถามแบบซื่อๆ “ถ้าผมทำยังไม่เสร็จ คุณจะยกโทษให้ผมได้อย่างไร”
“ไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้เสร็จทั้งนั้น ฉันให้อภัยคุณแล้ว! ใช่! ฉันให้อภัยคุณ!”
“ไชโย!!!”
“โอ้...”
เหว่ยพยักหน้าและลุกขึ้น เขาหยุดและพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็ว
ที่บ้านของฟูเหรินชู เขากำลังทำอาหารเช้าและเสียงโทรศัพท์ก็ส่งเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้า
“มันได้ผลคุณจะได้รับเงินเดือนเพิ่มเป็นสามเท่า”
“เขาตาโต...”
“โอ้! ในที่สุดเจ้านายก็ทำสำเร็จกับคำขอโทษแบบแย่ๆอย่างนั้น
“ทำได้ดีมากฟูเหรินชู”เขารู้สึกภูมิใจในตัวเอง
“ขอบคุณครับเจ้านาย” เขามองไปที่ไข่ของเขาและพูดว่า “ไปเลี้ยงฉลองกันเถอะ”
กลับไปที่วิทยาลัย พวกนักเรียนทั้งหลายก็กลับใจเปลี่ยนข้างกันทันที
“หลู่เจียโกหกพวกเรา เธอบอกว่า ซีอีโอเจียงไม่ยอมรับหลีหัว แต่นี่มันอะไรกันไม่เห็นเหมือนอย่างที่เธอพูดเลย
“ฉันคิดว่าเหมิงหยาพูดถูก เธออิจฉาที่หลีหัวได้งาน เธอจึงปล่อยข่าวให้หลีหัวขายหน้า”
“ใช่พวกเราเชื่อเธอ”
เสียงซุบซิบกันดังได้ยินไปถึงหูของเหว่ย และเขาก็เหลือบมองไปที่หลู่เจียอย่างเงียบๆ เธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมถึงก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว เขาทึ่งกับข่าวลือนี้และเขาก็มองไปที่หลีหัว “ผมปฏิเสธคุณตั้งแต่เมื่อไร คุณได้งานแล้ว”
หลีหัวไออย่างแรง “ทำไมบอสซื่อบื่อจัง”
นักเรียน “...”
เหมิงหยามองเขาอย่างงงๆ “พวกเราไม่ได้อยากรู้เรื่องงาน”
เป็นอีกครั้งที่เขาไม่ยอมตอบคำถามของพวกเธอ แต่เขาย้อนถามเธอกลับ
“แล้วอะไรอีกล่ะ!”
หลีหัวพูดว่า “เลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะ”
เหมิงหยาพูดต่อ “หลีหัวสารภาพรักกับคุณ แต่คุณกลับปฏิเสธเธออย่าไม่มีเยื่อใย หลู่เจียก็ไปป่าวประกาศพูดเรื่องไม่จริง เธอมองไปที่เขา
หลีหัวพยักหน้าหงึกๆ ตอนนี้เธออยากจะแทรกตัวหนีไปให้ไกลๆ
ในที่สุดเหว่ยก็หันไปมองเหมิงหยา เพราะเขาอยากจะรู้ความจริง บางทีเขาก็ได้ยินลูกน้องคุยกันถึงเรื่องความรักของพวกเขา ซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไร เขาเข้าใจแค่ตัวเลข ธุรกิจ สถิติ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาเหล่านี้ถึงดูมีความสุขมาก เมื่อพูดถึงคู่รักของพวกเขา
“เรื่องคู่เหรอ?” เหว่ยถามหลีหัว
“บอสมันเป็นเรื่องไม่จริงค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” หลีหัวเริ่มเหงื่อแตกอีกครั้ง
เหมิงหยารู้สึกงงๆ แต่เหมือนเหว่ยจะเข้าใจความหมายนี้ดี ในที่สุดแล้วใครล่ะ ที่ไม่รู้และไม่เข้าใจความหมายนี้ล่ะ
“ใช่ เขาเข้าใจแล้วคำว่าแฟน – แฟน จับมือกัน กอดและจูบ...” ดวงตาของเหว่ยเปิดกว้างขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับว่าเขาได้เข้าใจความหมายของมันแล้ว และเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ “เออ...ถ้าอย่างนั้นผมคิดว่าเราเป็นคู่รักกันแล้ว เมื่อคืนนี้เราจูบกัน” เขาพูดอย่างจริงจัง
ความเงียบ ทุกคนเงียบกริบ
หลีหัวอยากจะเป็นลม เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเหว่ยจะกล้าพูดถึงการจูบของพวกเธออย่างง่ายๆ เธอรู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่สำหรับคนอื่นๆนั้นๆ...และเขาก็สรุปว่าเราเป็นคู่รักกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไรนั้น ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องนี้?
“อะไรนะ...”
อย่างที่คาดการณ์ไว้ ในวันเดียวกันเกิดความโกลาหลวุ่นวายครั้งใหญ่ พวกเขาตกใจมากและมีจิตใจที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะพวกผู้หญิง พวกเขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองแตกสลายเป็นชิ้นๆ
ครั้งแรกคุกเข่าขอโทษ...ตามด้วยด้วยชุดเครื่องเพชรและตอนนี้คือจูบ... ซีอีโอเจียงกับซงหลีหัว...พัฒนาการที่รวดเร็วกว่ารถไฟหัวกระสุนเสียอีก
ยังไงเหรอ ใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้นเป็นไปได้ยังไง ที่เธอสามารถทำให้เขาตกหลุมรักได้ขนาดนี้
“ไม่น่าเชื่อเลย”
“หลู่เจีย! เธอมันแย่มาก! ผู้หญิงขี้อิจฉา!”
แก้มของหลู่เจียแดงก่ำด้วยความละอายและเธอก็กัดฟันแน่นด้วยความเกลียดชัง เรื่องราวต่างๆกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เขาเป็นซีอีโอเจียง ทำไมเขาถึงเลือกคนอย่างหลีหัว?
“บอสฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ เดี๋ยวเรื่องราวต่างๆก็จะแย่ไปกว่านี้” และเธอก็รีบลากแขนของเขาออกไปโดยที่ไม่ให้เขาพูดอะไรเลย”
ในที่สุดหลีหัวก็หนีความวุ่นวายออกไปได้ และเธอก็พูดถึงความอัดอั้นตันใจออกมา “บอสมองที่หัวของคุณสิเลือดออกมาก กลับบ้านไปก่อนเถอะ เอ้! เดี๋ยวก่อนเราควรไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนดีกว่ามั้ย เพราะฉันกลัวว่าสมองของคุณอาจจะได้รับความกระทบกระเทือน”
จิตใจของหลีหัวสับสนวุ่นวายไปหมด เหว่ยพูดแบบเนิบๆ “ฉันสบายดี”
“คุณสบายดีเหรอ คุณเพิ่งจะเอาหัวโขกกับพื้นนะ”กลับบ้านกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวอาการของคุณจะรุนแรงกว่านี้” นี่เป็นครั้งแรกที่เธอกลัวมาก รอยแผลบนหน้าผากของเขาทำให้เธอรู้สึกเครียดและกลัว
ที่บ้านของหลีหัว เธอรีบทำการปฐมพยาบาลและทายาฆ่าเชื้อให้เขา “มันจะแสบหน่อยนะค่ะ” มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอกดสำลีลงบนบาดแผลของเขา หลีหัวหลับตาแน่นและหันหน้าไปทางอื่น
เหว่ยจ้องมองเธอด้วยความสงสัย “ปิดตาทำไม”
“ม-มันเจ็บใช่มั้ย! ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
เหว่ยมองเธออย่างแปลกใจ เธอทำราวกับว่าเธอเจ็บปวดเสียเอง ทำไม ทำไมเธอทำท่ากลัวแบบนั้น? เขาเป็นคนเจ็บไม่ใช่เธอ... เธอทำท่าทางตลกขำๆจนเหว่ยไม่สามารถละสายตาออกไปจากเธอได้ เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เหว่ยก็เห็นรอบดวงตาของเธอมีน้ำใสๆเล็กๆ เขาจึงเอาหัวแม่มือของเขาเช็ดที่มุมตาให้เธอ
“คุณร้องไห้ทำไม”
“เพราะอยู่ๆคุณก็ทำแบบนี้...คุณรู้มั้ยว่าคุณทำให้ฉันกลัวมากแค่ไหน คุณทำร้ายตัวเองเพียงแค่ต้องขอโทษฉัน ทำไมบอสถามฉันแบบนี้ค่ะ?
เหว่ยพูดว่า “ผมทำตามที่พูดแล้ว”
“เอ๊ะ! บอกเรื่องอะไร?” หลีหัวทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจ
เหว่ยก็ได้พูดถึงคำแนะนำของฟูเหรินชู และหลีหัวก็ตกใจมาก “บอสทำไมคุณต้องถามผู้ช่วยฟู่ด้วยค่ะ”
“เพราะคุณไม่ชอบชุดเครื่องเพชรนะสิ”เขาตอบ
“ไม่ ไม่ ฉันหมายความว่าทำไมคุณต้องค้นหาวิธีอะไรมากมายเพื่อที่จะมาขอโทษฉัน แต่ถ้าคุณรู้สึกผิด คุณก็พูดกับฉันว่าขอโทษก็พอ”
เหว่ยทำหน้างงและขมวดคิ้ว “แค่นั้นหรือแล้วจะพอได้อย่างไร”
หลีหัวพูดว่า”มีอะไรที่ดีกว่านี้ตั้งเยอะที่เขาทำได้ และที่สำคัญบุคคลนั้นยอมรับและให้อภัยกับความผิดพลาดของเขาจริงๆ นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ตอนที่20 ราชามาเฟียประกาศความสัมพันธ์กับหลีหัว
เหว่ยขมวดคิ้ว “ผมคุกเข่าขอโทษคุณยังไม่เสร็จเลย”
หลีหัวพูดเสียงดัง “คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้”
“แต่คำขอโทษ...”
หลีหัวเหงื่อแตก “บอส...ฉันไม่ได้หมายความแบบนี้ คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรขนาดนี้ก็ได้”
“แต่เมื่อเช้าคุณไม่พอใจกับชุดเครื่องเพชรนั้น”
พวกนักเรียนที่ได้ยินก็แทบจะกระอักเลือดออกมา “ชุดเครื่องเพชรเหรอ?”
ซีอีโอเจียง เหว่ยให้ชุดเครื่องเพชรกับหลีหัวเหรอ? เขาไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไร
หลู่เจียแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเองเช่นกัน พวกเขาเจอกันแค่สองวัน แล้วเขาก็ได้มอบชุดเครื่องเพชรให้กับเธอแล้วเหรอ? หลีหัวเธอทำแบบนี้ได้อย่างไร จิตใจของเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา และตอนนี้เขาพูดกับหลีหัวคนเดียวเท่านั้น เขาไม่เหลือบไปมองใครเลยสักคน
หลีหัวจุกในอก เธอรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของหลู่เจียที่แสดงถึงความอิจฉา “คุณพูดถึงชุดเครื่องเพชรทำไม?”
เสียงของเธอตะกุกตะกัก “บ...บอส ฉันขอคุยหน่อยได้มั้ยค่ะ ได้โปรดลุกขึ้นก่อน”
เหว่ยถามแบบซื่อๆ “ถ้าผมทำยังไม่เสร็จ คุณจะยกโทษให้ผมได้อย่างไร”
“ไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้เสร็จทั้งนั้น ฉันให้อภัยคุณแล้ว! ใช่! ฉันให้อภัยคุณ!”
“ไชโย!!!”
“โอ้...”
เหว่ยพยักหน้าและลุกขึ้น เขาหยุดและพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็ว
ที่บ้านของฟูเหรินชู เขากำลังทำอาหารเช้าและเสียงโทรศัพท์ก็ส่งเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้า
“มันได้ผลคุณจะได้รับเงินเดือนเพิ่มเป็นสามเท่า”
“เขาตาโต...”
“โอ้! ในที่สุดเจ้านายก็ทำสำเร็จกับคำขอโทษแบบแย่ๆอย่างนั้น
“ทำได้ดีมากฟูเหรินชู”เขารู้สึกภูมิใจในตัวเอง
“ขอบคุณครับเจ้านาย” เขามองไปที่ไข่ของเขาและพูดว่า “ไปเลี้ยงฉลองกันเถอะ”
กลับไปที่วิทยาลัย พวกนักเรียนทั้งหลายก็กลับใจเปลี่ยนข้างกันทันที
“หลู่เจียโกหกพวกเรา เธอบอกว่า ซีอีโอเจียงไม่ยอมรับหลีหัว แต่นี่มันอะไรกันไม่เห็นเหมือนอย่างที่เธอพูดเลย
“ฉันคิดว่าเหมิงหยาพูดถูก เธออิจฉาที่หลีหัวได้งาน เธอจึงปล่อยข่าวให้หลีหัวขายหน้า”
“ใช่พวกเราเชื่อเธอ”
เสียงซุบซิบกันดังได้ยินไปถึงหูของเหว่ย และเขาก็เหลือบมองไปที่หลู่เจียอย่างเงียบๆ เธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมถึงก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว เขาทึ่งกับข่าวลือนี้และเขาก็มองไปที่หลีหัว “ผมปฏิเสธคุณตั้งแต่เมื่อไร คุณได้งานแล้ว”
หลีหัวไออย่างแรง “ทำไมบอสซื่อบื่อจัง”
นักเรียน “...”
เหมิงหยามองเขาอย่างงงๆ “พวกเราไม่ได้อยากรู้เรื่องงาน”
เป็นอีกครั้งที่เขาไม่ยอมตอบคำถามของพวกเธอ แต่เขาย้อนถามเธอกลับ
“แล้วอะไรอีกล่ะ!”
หลีหัวพูดว่า “เลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะ”
เหมิงหยาพูดต่อ “หลีหัวสารภาพรักกับคุณ แต่คุณกลับปฏิเสธเธออย่าไม่มีเยื่อใย หลู่เจียก็ไปป่าวประกาศพูดเรื่องไม่จริง เธอมองไปที่เขา
หลีหัวพยักหน้าหงึกๆ ตอนนี้เธออยากจะแทรกตัวหนีไปให้ไกลๆ
ในที่สุดเหว่ยก็หันไปมองเหมิงหยา เพราะเขาอยากจะรู้ความจริง บางทีเขาก็ได้ยินลูกน้องคุยกันถึงเรื่องความรักของพวกเขา ซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไร เขาเข้าใจแค่ตัวเลข ธุรกิจ สถิติ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาเหล่านี้ถึงดูมีความสุขมาก เมื่อพูดถึงคู่รักของพวกเขา
“เรื่องคู่เหรอ?” เหว่ยถามหลีหัว
“บอสมันเป็นเรื่องไม่จริงค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” หลีหัวเริ่มเหงื่อแตกอีกครั้ง
เหมิงหยารู้สึกงงๆ แต่เหมือนเหว่ยจะเข้าใจความหมายนี้ดี ในที่สุดแล้วใครล่ะ ที่ไม่รู้และไม่เข้าใจความหมายนี้ล่ะ
“ใช่ เขาเข้าใจแล้วคำว่าแฟน – แฟน จับมือกัน กอดและจูบ...” ดวงตาของเหว่ยเปิดกว้างขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับว่าเขาได้เข้าใจความหมายของมันแล้ว และเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ “เออ...ถ้าอย่างนั้นผมคิดว่าเราเป็นคู่รักกันแล้ว เมื่อคืนนี้เราจูบกัน” เขาพูดอย่างจริงจัง
ความเงียบ ทุกคนเงียบกริบ
หลีหัวอยากจะเป็นลม เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเหว่ยจะกล้าพูดถึงการจูบของพวกเธออย่างง่ายๆ เธอรู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่สำหรับคนอื่นๆนั้นๆ...และเขาก็สรุปว่าเราเป็นคู่รักกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไรนั้น ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องนี้?
“อะไรนะ...”
อย่างที่คาดการณ์ไว้ ในวันเดียวกันเกิดความโกลาหลวุ่นวายครั้งใหญ่ พวกเขาตกใจมากและมีจิตใจที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะพวกผู้หญิง พวกเขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองแตกสลายเป็นชิ้นๆ
ครั้งแรกคุกเข่าขอโทษ...ตามด้วยด้วยชุดเครื่องเพชรและตอนนี้คือจูบ... ซีอีโอเจียงกับซงหลีหัว...พัฒนาการที่รวดเร็วกว่ารถไฟหัวกระสุนเสียอีก
ยังไงเหรอ ใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้นเป็นไปได้ยังไง ที่เธอสามารถทำให้เขาตกหลุมรักได้ขนาดนี้
“ไม่น่าเชื่อเลย”
“หลู่เจีย! เธอมันแย่มาก! ผู้หญิงขี้อิจฉา!”
แก้มของหลู่เจียแดงก่ำด้วยความละอายและเธอก็กัดฟันแน่นด้วยความเกลียดชัง เรื่องราวต่างๆกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เขาเป็นซีอีโอเจียง ทำไมเขาถึงเลือกคนอย่างหลีหัว?
“บอสฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ เดี๋ยวเรื่องราวต่างๆก็จะแย่ไปกว่านี้” และเธอก็รีบลากแขนของเขาออกไปโดยที่ไม่ให้เขาพูดอะไรเลย”
ในที่สุดหลีหัวก็หนีความวุ่นวายออกไปได้ และเธอก็พูดถึงความอัดอั้นตันใจออกมา “บอสมองที่หัวของคุณสิเลือดออกมาก กลับบ้านไปก่อนเถอะ เอ้! เดี๋ยวก่อนเราควรไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนดีกว่ามั้ย เพราะฉันกลัวว่าสมองของคุณอาจจะได้รับความกระทบกระเทือน”
จิตใจของหลีหัวสับสนวุ่นวายไปหมด เหว่ยพูดแบบเนิบๆ “ฉันสบายดี”
“คุณสบายดีเหรอ คุณเพิ่งจะเอาหัวโขกกับพื้นนะ”กลับบ้านกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวอาการของคุณจะรุนแรงกว่านี้” นี่เป็นครั้งแรกที่เธอกลัวมาก รอยแผลบนหน้าผากของเขาทำให้เธอรู้สึกเครียดและกลัว
ที่บ้านของหลีหัว เธอรีบทำการปฐมพยาบาลและทายาฆ่าเชื้อให้เขา “มันจะแสบหน่อยนะค่ะ” มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอกดสำลีลงบนบาดแผลของเขา หลีหัวหลับตาแน่นและหันหน้าไปทางอื่น
เหว่ยจ้องมองเธอด้วยความสงสัย “ปิดตาทำไม”
“ม-มันเจ็บใช่มั้ย! ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
เหว่ยมองเธออย่างแปลกใจ เธอทำราวกับว่าเธอเจ็บปวดเสียเอง ทำไม ทำไมเธอทำท่ากลัวแบบนั้น? เขาเป็นคนเจ็บไม่ใช่เธอ... เธอทำท่าทางตลกขำๆจนเหว่ยไม่สามารถละสายตาออกไปจากเธอได้ เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เหว่ยก็เห็นรอบดวงตาของเธอมีน้ำใสๆเล็กๆ เขาจึงเอาหัวแม่มือของเขาเช็ดที่มุมตาให้เธอ
“คุณร้องไห้ทำไม”
“เพราะอยู่ๆคุณก็ทำแบบนี้...คุณรู้มั้ยว่าคุณทำให้ฉันกลัวมากแค่ไหน คุณทำร้ายตัวเองเพียงแค่ต้องขอโทษฉัน ทำไมบอสถามฉันแบบนี้ค่ะ?
เหว่ยพูดว่า “ผมทำตามที่พูดแล้ว”
“เอ๊ะ! บอกเรื่องอะไร?” หลีหัวทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจ
เหว่ยก็ได้พูดถึงคำแนะนำของฟูเหรินชู และหลีหัวก็ตกใจมาก “บอสทำไมคุณต้องถามผู้ช่วยฟู่ด้วยค่ะ”
“เพราะคุณไม่ชอบชุดเครื่องเพชรนะสิ”เขาตอบ
“ไม่ ไม่ ฉันหมายความว่าทำไมคุณต้องค้นหาวิธีอะไรมากมายเพื่อที่จะมาขอโทษฉัน แต่ถ้าคุณรู้สึกผิด คุณก็พูดกับฉันว่าขอโทษก็พอ”
เหว่ยทำหน้างงและขมวดคิ้ว “แค่นั้นหรือแล้วจะพอได้อย่างไร”
หลีหัวพูดว่า”มีอะไรที่ดีกว่านี้ตั้งเยอะที่เขาทำได้ และที่สำคัญบุคคลนั้นยอมรับและให้อภัยกับความผิดพลาดของเขาจริงๆ นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด