ตอนที่ 989+990 เสียหน้า
ตอนที่ 989 เสียหน้า
เจียงเหยาหัวเราะคิกคัก เธอเอื้อมมือไปแตะหน้าท้องของเขาราวกับเป็นนักเลงหัวไม้จริง ๆ หน้าท้องของเขาให้ความรู้สึกดีเมื่อสัมผัส เธอค่อย ๆ ลูบอย่างช้า ๆ อีกสองสามครั้งกระทั่งเธอคิดว่าเขาดูเหมือนจะมีปฏิกิริยากับมัน จากนั้นเธอก็รีบดึงมือของเธอและรีบกลับไปที่ห้อง
“คุณสนใจแค่จุดไฟ แต่ไม่คิดจะดับไฟเหรอ” ลู่ชิงสีพ่นลมหายใจอย่างไม่พอใจ จากนั้นเขาก็หยิบไม้ถูพื้นและเดินไปที่ระเบียง เขาคิดว่าคืนนี้ภรรยาของจะรอเขาอย่างไร
เมื่อลู่ชิงสีจัดบ้านเสร็จก็บ่ายสี่โมงแล้ว จากนั้นเขาก็บอกเจียงเหยาให้เตรียมพร้อมที่จะออกไป
ทั้งสองไม่คิดว่าจะเจอเรื่องบังเอิญเช่นนี้ เมื่อทั้งคู่เปิดประตูและกำลังจะออกไป ก็มีคนอยู่ที่หน้าห้องตรงข้าม
มีหญิงตั้งครรภ์ยืนอยู่ที่ประตู ดูแล้วเธอน่าจะท้องได้สี่-ห้าเดือน เมื่อเธอเห็นการเคลื่อนไหว หญิงมีครรภ์หันศีรษะไปมองดูพวกเขา เธอกล่าวว่า “ร้อยเอกลู่ นี่ภรรยาของคุณเหรอคะ”
“ครับ” ลู่ชิงสีตอบ แต่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะแนะนำพวกเขาทั้งสองคนให้รู้จักกัน
เจียงเหยายิ้มให้กับผู้หญิงคนนั้น พวกเขากำลังจะลงไปชั้นล่าง
จู่ ๆ เสียงของแม่สามีของหญิงคนนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่อดทน “เดินคลำทางอะไรอยู่ ขาไม่ทำงานหรือไง ไร้ประโยชน์เสียยิ่งกว่าหญิงชราอย่างฉันเสียอีก”
“แม่คะ หนูแค่อยากจะทักทายร้อยเอกลู่กับภรรยาของเขาก็เท่านั้นเอง” ผู้หญิงคนนั้นอธิบายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เสียงของเธอฟังดูเศร้าปนอยู่เล็กน้อย
แม่สามีเดินออกจากบ้านและเหลือบมองคนสองคนที่เดินลงไปข้างล่าง เธอดึงลูกสะใภ้ผ่านประตูและดุว่า “ทำไมต้องไปทักทายคนที่เขาไม่อยากจะทักทายเธอด้วย เธอนี่ทำให้ฉันขายหน้าอยู่เรื่อย”
จากนั้นประตูก็ปิดลง
“ไปกันเถอะ” ลู่ชิงสีคุ้นเคยกับมันแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย เขาจับมือเจียงเหยาและพวกเขาก็เดินลงไปที่ชั้นล่าง
เจียงเหยาเข้าใจความหมายของแม่สามีเธอ ลู่ชิงสีเป็นเพียงร้อยเอก แต่พันตรีเป็นผู้บัญชาการกองพัน ดังนั้นลู่ชิงสีควรเป็นฝ่ายทักทายครอบครัวของผู้บัญชาการกองพันก่อน ผู้ที่มีสถานะต่ำกว่าควรเริ่มเป็นฝ่ายทักทายผู้ที่มีสถานะสูงกว่า ผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าจะเสียสถานะหากพวกเขาเป็นผู้กล่าวทักทายก่อน
หญิงชราดูเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่างทั้งวิธีการพูดและวิธีที่เธอปฏิบัติต่อผู้อื่น
“หลังปีใหม่ผมจะย้ายไปหน่วยรบพิเศษและไม่อยู่ที่นี่แล้ว เขาจะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ก็ช่างเขาเถอะ เราแค่อดทนอีกสักระยะ” ลู่ชิงสีกลัวว่าเจียงเหยาจะไม่มีความสุข ดังนั้นเขาจึงปลอบโยนเธอ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเคยอดทนกับคนประเภทนี้ อีกอย่าง เราคนละครอบครัวกัน พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันเสียหน่อย ตราบใดที่คุณปฏิบัติต่อฉันดี อีกอย่างพ่อแม่ก็ปฏิบัติต่อฉันอย่างดี” เจียงเหยายิ้มเบา ๆ จากนั้นเธอก็ขยับเข้าไปใกล้หูของลู่ชิงสีและพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ แม่ให้ซองแดงหนา ๆ แก่เราละ”
“ผมรู้ นี่คุณกำลังพยายามเตือนผมว่าผมต้องให้ซองแดงกับคุณในช่วงปีใหม่ล่ะสิ” ลู่ชิงสีล้อเล่นอย่างมีความสุข
เจียงเหยาส่ายหน้าอย่างภาคภูมิใจ แต่เธอไม่ได้พูดอะไร รอยยิ้มในดวงตาของเธอทรยศต่ออารมณ์ของเธอ
เมื่อพวกเขามาถึงบ้านของผู้พันหลิน เขาไม่อยู่บ้าน มีเพียงภรรยาของเขาเท่านั้นที่อยู่ที่บ้าน
“อ้าว มากันแล้วเหรอ อีกแปบหนึ่งสามีฉันก็คงกลับมา” นางหลินต้อนรับพวกเขาเข้าไปในบ้านและนำรองเท้าแตะสำหรับสวมในบ้านมาให้พวกเขา
“เสี่ยวเว่ยอยู่ไหนคะ น่าจะเป็นช่วงปิดเทอมไม่ใช่เหรอคะ” เจียงเหยาถามเมื่อเธอไม่เห็นเสี่ยวเว่ย
__
ตอนที่ 990 ถุงผัก
“เขาไปที่บ้านคุณย่า ไม่รู้ว่าพวกคุณจะมากันวันนี้ เขาเลยไปเที่ยวเล่นที่บ้านคุณย่า เสร็จธุระแล้วจะแวะไปรับเสี่ยวเว่ยกลับมาด้วย” นางหลินอธิบาย “ฉันเพิ่งโทรหาแม่เพื่อบอกกับเสี่ยวเว่ยว่าคุณอยู่ที่นี่ เสี่ยวเว่ยรบเร้าจะให้ยายมาส่งกลับบ้านทันที เขาแทบจะอดใจรอเจอคุณไม่ไหว กว่ายายจะเกลี้ยกล่อมให้เขาอยู่ต่ออีกสักหน่อยได้”
“ใช่ค่ะ เด็กคนนี้รั้นนัก” เจียงเหยายิ้มอย่างมีความสุข ขณะที่เธอเปลี่ยนรองเท้าแตะ ตอนที่นางหลินกำลังจะปิดประตู เธอรีบพูดอย่างเร่งรีบว่า “คุณหลิน ฉันเห็นถุงใบใหญ่วางอยู่ที่หน้าบ้านตอนที่เราเข้ามา มีของอยู่ในนั้นเต็มเลย ให้เราเอาเข้ามาด้วยเลยไหมคะ”
“ถุงอะไร ฉันก็อยู่ในบ้าน ทำไมถึงวางไว้ที่หน้าประตู” นางหลินตกตะลึง แล้วเธอก็โผล่หน้าออกมาดู “เอ่อ”
ขณะที่เธอพูด นางหลินก็ก้มลงเปิดถุงดู “ผักนี่น่า”
“มีกระดานเขียนไว้ด้านในด้วยครับ” ดวงตาที่เฉียบคมของลู่ชิงสีเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ตรงกลางถุง
นางหลินหยิบกระดาษออกจากถุง เมื่อเห็นเช่นนั้น เธอก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ครอบครัวของผู้บังคับกองพันส่งมาให้ เขาบอกว่ามีผักเยอะจนกินไม่ทัน เลยส่งมาให้ผู้พันหลินกับฉัน มันเยอะเกินฉันไม่อยากให้มันเน่าเสียไปเปล่า ๆ น่ะสิ”
นางหลินยืนขึ้นและกล่าวว่า “บางอย่างก็เป็นผักเฉพาะถิ่นนะ หาไม่ได้จากตลอดท้องถิ่นของเรา ตอนนี้ผักบางอย่างไม่สามารถปลูกทางเหนือได้ เข้าไปรอฉันข้างในบ้านก่อน ฉันจะเอาผักพวกนี้ไปคืน มันไม่ง่ายเลยที่จะรับของจากครอบครัวนั้น”
คุณนายหลินไม่ต้องการรับผักเหล่านั้น เธอจึงส่งมันกลับไปในขณะที่มันยังสดอยู่
เจียงเหยาตามลู่ชิงสีเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นของครอบครัวหลินและนั่งบนโซฟา ลู่ชิงสีรินชาร้อนให้กับเจียงเหยา และกล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่าเป็นแม่ของผู้บัญชาการกองพันที่ทำเช่นนั้น”
“ประจบประแจงเจ้านาย” เจียงเหยาสรุป “เธอรู้ว่ามีคนอยู่ในบ้าน แต่เธอไม่เคาะประตู เธอทิ้งมันไว้ที่ประตูแทน เธอรู้ว่าคุณนายหลินจะต้องไม่รับแน่นอน เธอจึงทิ้งข้อความไว้ในกระดาษ ก็เพราะกลัวว่าคุณนายหลินจะรับโดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมา”
นางหลินกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอกลับมา เธออารมณ์ไม่ดีนัก เธอถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อเดินผ่านประตูเข้ามา
“ถ้ากลับไปแล้ว แม่ของผู้บังคับกองพันทำให้ลำบากใจ ก็อย่าไปอดทนโดยไม่จำเป็นล่ะ ต่อว่าเธอกลับไปเลยก็ได้” นางหลินกล่าว “ผู้บังคับกองพันและภรรยาของเขาเป็นคนดี แต่แม่ของเขานั้นยากที่จะอธิบายจริง ๆ”
นางหลินไม่ได้พูดอะไรอีก หากใครในกองทัพสามารถอาศัยอยู่กับกองทัพแห่งนี้ไม่ว่าใครก็อยากคิดหาวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวของเขา
ผู้บังคับกองพันเป็นคนตรงไปตรงมา เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะเล่นเกม เขาทุ่มเทให้กับกองทัพอย่างสุดหัวใจ เขาไม่ใช่คนประเภทที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ลู่ชิงสีไม่คาดหวังว่าแม่ของผู้บังคับบัญชาการกองพันจะมีพฤติกรรมเหมือนคนอื่น เมื่อเธอย้ายมาอยู่กับลูกชายของเธอ
แม่ของผู้บังคับกองพันมาที่กองทัพและอาศัยอยู่ห้องตรงข้ามกับลู่ชิงสี เมื่อเธอได้ยินว่าลู่ชิงสีเป็นเพียงผู้บัญชาการกองร้อย เธอปฏิบัติต่อเขาเหมือนลูกน้องของลูกชายเธอ
นางหลินก็ได้ยินบางอย่างเช่นกัน ครั้งหนึ่งห้องน้ำในบ้านมีปัญหา ชายคนนั้นอยู่ที่บ้าน แต่แม่ของเขากลับเรียกให้ลู่ชิงสีช่วย ลู่ชิงสีคิดว่าลูกชายของเธอไม่อยู่บ้าน เขาจึงเข้าไปช่วย ชายทั้งสองคนเจอหน้ากันในบ้านของผู้บังคับกองพัน และผู้บังคับกองพันรู้สึกเขินอายเมื่อรู้ว่าลู่ชิงสีอยู่ที่นั่นเพราะปัญหาเรื่องห้องน้ำของเขา