ตอนที่19 ความพยายามเป็นครั้งที่สามในการขอคืนดี
ที่วิทยาลัยทันที่ทีหลีหัวเดินเข้ามาประตูทางเข้า นักเรียนที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นต่างพากันหัวเราะเยาะเธอ บางคนก็ทำหน้าเย้ยหยันไม่สนใจที่จะเก็บอารมณ์
หลีหัวชะลอฝีเท้าลงและมองไปรอบๆ “ทำไมทุกคนมองเธอแบบนี้นะ?”
“เฮ้! หลีหัวคนอกหักมาแล้ว”
“ใช่จริงๆเหรอ?” ฉันคิดว่าเธอควรจะร้องไห้อยู่ที่ห้องแล้วเอาหน้าซุกหมอนมากกว่านะ”
เด็กสาวคนหนึ่งก้าวเข้ามาข้างหน้า “คุณหลีหัวเป็นอย่างไรบ้างค่ะ ฉันได้ยินว่าคุณถูกปฏิเสธ”
“ตึง ตึง” นี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเมื่อคุณกำลังที่จะจับผู้ชายรวยๆ”
หลีหัวไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร “ปฏิเสธเหรอ” เธอขมวดคิ้ว
หลู่เจียเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนสนิทและยิ้มให้เธอ “หลีหัวมานี่อย่าปฏิเสธเลย เมื่อวานเธอร้องไห้น่าสงสารมาก พวกคุณน่าจะได้เห็นเธอแล้ว หลีหัวร้องไห้จนตาแดงบวมช้ำ เธอถูกเจ้านายปฏิเสธอย่างไม่แยแสเลย”
หลีหัวกระพริบตาของเธอ “ถูกปฏิเสธเหรอ สาเหตุที่เธอร้องไห้นั้น เพราะสิ่งที่บอส
พูดถึงพี่เจียต่างหาก ถูกปฏิเสธยังไง?”
มีผู้ชายคนหนึ่งเป่านกหวีดขึ้น “เฮ้! หลีหัวช่วยอธิบายหน่อยสิคุณสารภาพกับเขาว่ายังไง แล้วคุณพูดอะไรกับเขาบ้าง ทำไมถึงถูกปฏิเสธ เราสนใจอยากจะรู้”
“เยสส...ช่วยบอกเราที!”
หลู่เจียยิ้มเยาะให้กับหลีหัวและพอใจกับสิ่งที่ทุกคนดูถูกเธอ
หลีหัวพูดว่า“มีอะไรเข้าใจผิดหรือเปล่า ฉันไม่ได้ไปสารภาพอะไรกับบอสของฉัน” หลีหัวส่ายหน้า
“ฉันเห็นกับตายังจะมาปฏิเสธอีก”
หลีหัวขมวดคิ้ว “เธอเห็นฉันร้องไห้นะจริง แต่เธอไม่รู้ว่าฉันร้องไห้นั้นมันเกิดจากอะไร เพราะเธอไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย แล้วคำพูดการสารภาพและการปฏิเสธนั้นมันมาจากไหน?”
ปากของหลีหัวกระตุก
เหมิงหยารีบวิ่งเข้ามาและจ้องไปที่หลู่เจีย “หลู่เจีย!เธอมาแพร่ข่าวเล่าความเท็จอะไรฮะ?”
“เรื่องโกหกเหรอ?”หลู่เจียหัวเราะคิกคัก
“เมื่อสองวันก่อนตอนที่นายเจียงมาที่วิทยาลัยของเรา ฉันเห็นเธอมองเขายังไงล่ะ ดูเธอสนใจเขามาก เธอกล้าสารภาพกับเขาอย่างไร้ยางอาย อยากขุดทอง อยากมีแฟนรวยๆก็เลยถูกเขาปฏิเสธ”
ทุกคนต่างพากันหัวเราะเยาะ หลีหัวแทบจะทนไม่ไหวเพราะรู้สึกเจ็บปวดมาก
“ใช่ ฉันได้ยินมาว่า เธอพักอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เล็กๆ ฉันเข้าใจแล้วว่า
ทำไมเธอถึงโลภมาก ที่อยากจะไปอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่”
เหมิงหยากัดฟัน “หลู่เจีย! ระวังคำพูดของเธอด้วย! หลีหัวเล่าให้ฉันฟังหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นและมันก็ไม่ใช่อย่างที่พวกเธอคิดด้วย เธอไปโกหกคนอื่นเพียงเพราะเธอไม่ได้รับเลือกให้เข้าไปทำงาน”
หลู่เจียรู้สึกโกรธจัดเหมือนกับมีคนมาเหยียบหัวของเธอ “เออเหรอ จริงสิ ไม่เห็นมาเล่าให้ฉันฟังบ้าง”
หลีหัวพูดขึ้นว่า “มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวที่ฉันไม่อยากจะเล่าให้ใครฟัง”
“เธอกล้าพูดได้ยังไงว่า เจียง เหว่ยไปพักที่อพาร์ทเม้นท์ของเธอ แล้วเมื่อวานนี้เธอก็นั่งรถไปกับเขาด้วย พวกเขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงบ้าที่โกหกหลอกลวง”
หลู่เจียยิ้มเยาะ “ความพยายามที่จะจับผู้ชายของเธอมันล้มเหลว”
เหมิงหยาอยากจะตบหน้าหลู่เจีย
หลีหัวพูดว่า “ญาญ่าลืมมันไปเถอะ เรากำลังจะไปเรียนสายแล้วนะ ทันใดนั้นเครื่องบินกระดาษก็บินพุ่งเข้ามาชนหัวของเธอและหลีหัวก็หยิบมันขึ้นมา และคลี่กระดาษออกมาดู พบว่าด้านในมีภาพวาดรูปของเธอนั่งร้องไห้เหมือนเด็กๆ หลังจากที่ถูกเหว่ยบอกเลิกและเหว่ยก็เดินจากไป ขณะที่หลีหัวก็ก้มหน้ายอมรับความพ่ายแพ้
เหมิงหยาโกรธจัด “เฮ้!ใครเป็นคนขว้างไอ้นี่มา?”
พวกเขาพากันผิวปากและทำท่าไม่สนใจ เครื่องบินกระดาษบินว่อนไปตกข้างๆหลีหัวที่ละชิ้นๆ ภาพด้านในทั้งหมดเป็นรูปภาพวาดบอกถึงการบอกเลิกและการล้อเลียนเธอ แต่มีเครื่องบินกระดาษอีกอันหนึ่งที่บินร่วงไปตกที่เท้าของใครบางคน
เหว่ยก้มลงหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา แต่เมื่อทุกคนเห็นหน้าเหว่ยต่างก็พากันตกใจมากและเงียบเสียงลงทันที พวกเขารู้ว่าถ้าเหว่ยพูดอะไรขึ้นมาลอยๆก็จะไม่กล้าขัดคำสั่ง
หลีหัวตกใจมาก เขามาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร?
เหว่ยคลี่กระดาษออกมาและเห็นภาพวาดนั้น เขาก้มศีรษะและเหลือบมองหลีหัว เขาเห็นกระดาษจำนวนมากหล่นอยู่ที่ปลายเท้าของเธอ
“บอส...”
“ภาพวาดนี้หมายความว่าอย่างไร?”
หลู่เจียจ้องเขาด้วยอาการตกใจ เธอเคยถูกข่มขู่เหมือนกับคนอื่นๆและจิตใจของเธอก็มีความรู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน
“ท่านครับนั่นหลีหัว และ...และ...”
หลู่เจียกลืนน้ำลาย เขาจะโกรธเรื่องรูปภาพพวกนั้นหรือเปล่านะ เหว่ยไม่สนใจเธอเลย เขากำลังรอคำตอบจากหลีหัว
หลีหัวรีบพูดขึ้นว่า “ภาพพวกนี้ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นว่า“หลีหัวเกิดอะไรขึ้นทำไมเธอไม่ยอมรับล่ะว่าเธอกับคุณเจียง... หรือเธอไม่กล้า และเธอก็อายที่ถูกเขาปฏิเสธ”
เหว่ยขมวดคิ้ว เขามองไปที่ภาพวาด “ภาพนี้ไม่ถูกต้อง” เหว่ยเดินเข้าไปหาหลีหัว หัวใจของเธอเริ่มเต้นผิดจังหวะ เธอคิดถึงรสสัมผัสจูบของพวกเธอแวบเข้ามาในใจอีกครั้ง ทำให้แก้มของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
“บอส...”
เหว่ยจ้องมาที่เธอ “ไม่น่าจะเป็นคุณเลย แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันควรจะขอโทษคุณอย่างไร”
หลีหัวรู้สึกงงกับคำพูดของเขา “อา...?”เขากำลังหมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าหรืออย่างไร? เหว่ยคุกเข่าลงกับพื้น ทำให้หลีหัวตกใจอ้าปากค้าง ทุกคนเปิดตากว้างเกือบจะออกจากเบ้าตา ซีอีโอ ของเจียงอินดัสทรีกำลังคุกเข่าต่อหน้าหลีหัว
“บ...บอส คุณจะทำอะไรค่ะ? เธอพูดตะกุกตะกัก
เหว่ยมีความมั่นใจกับคำแนะนำของฟูเหรินชู เขาคิดว่าชุดเครื่องเพชรอาจดูธรรมดาไป สรุปความจริงใจของเขาที่มีให้เธอนั้นยังน้อยไป นอกจากนี้ในโลกของมาเฟีย การพิสูจน์ความจริงใจต่อกันต้องมีการหลั่งเลือดนั้นเป็นเรื่องปกติ
ทันใดนั้นเหว่ยก็ได้โขกศีรษะของตัวเองลงกับพื้น ทำให้ทุกคนตกใจสะดุ้งจนตัวสั่น มองเห็นเลือดไหลจางๆออกมาจากหน้าผากของเขาตอนที่เขายกศีรษะขึ้น
“อ๊ะๆๆ”พวกผู้หญิงกรีดร้องด้วยความตกใจ
“ซีอีโอ เจียง เหว่ย กำลังฆ่าตัวตาย!”
“เลือด! เลือด!รถพยาบาล!”
“บอส คุณกำลังทำอะไรค่ะ?” หลีหัวกรีดร้องด้วยความตกใจสุดขีด
เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “การขอโทษด้วยการคุกเข่าเอาหน้าผากแตะกับพื้น”
หลีหัวรู้สึกหวาดกลัว จากการให้ชุดเครื่องเพชรต่อจากนั้นก็เป็นการคุกเข่าขอโทษ มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมานี่?
หลู่เจียอ้าปากค้าง ซีอีโอเจียง เหว่ย มหาเศรษฐีหนุ่มกำลังคุกเข่าต่อหน้าหลีหัวและทุกๆคน
เหว่ยพูดอย่างจริงจังว่า “เขาจะแสดงความจริงใจด้วยเลือดของเขา”
นักเรียนทุกคนต่างก็ตกใจ เขาไม่ได้บอกเลิกกับซงหลีหัวเหรอ แล้วความจริงมันคืออะไรล่ะ?
เหว่ยกำลังจะกระแทกศีรษะของเขาอีกครั้ง แต่หลีหัวรีบคว้าหัวของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว “บอส ได้โปรดหยุดเถอะ”