ตอนที่13 ราชามาเฟียขอคำแนะนำ
ดวงตาของหลีหัวแดงก่ำเมื่อไปถึงวิทยาลัย น้ำตายังไหลอยู่ เธอยังไม่หยุดร้องไห้
เจียงเหว่ยผู้หล่อเหลาขั้นเทพ คุณควรจะเป็นคนที่มีจิตใจที่ดีและอ่อนโยนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมคุณถึงกล้าพูดถึงเรื่องแบบนี้
“หลีหัว” เหมิงหยาทักทายแต่หลีหัวไม่โบกมือทักกลับ
“เฮ้ ! เธอเป็นอะไรไป หน้าตาเธอดูซีดมาก”
หลู่เจียหัวเราะเยาะข้างๆเธอ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ ผู้ชายคนเมื่อวานทิ้งเธอไปแล้วสินะ ดูเธอรักเขามาก ยอมรับแล้วล่ะสิว่าอกหัก”
เหมิงหยาหรี่ตาลง “ใครถามเธอ”
หลู่เจียเดินมาพร้อมกับเพื่อนสนิทของเธอ เธอโกรธหลีหัวมาก เมื่อคืนนี้ที่บ้านของเธอถูกรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจายเต็มไปหมด และเมื่อเธอไปถามคนข้างๆบ้านก็มีแต่เพียงบ้านของเธอเท่านั้นที่ถูกขโมย เธอโทษหลีหัวเท่านั้นที่ทำให้เธอโชคร้าย เธอคนนี้เป็นคนเลวฉันขอสาปแช่ง!
สายตาของหลีหัวหรี่ลง “อกหักเหรอ....” แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้เจ็บปวดอะไร แต่ถ้าถูกปฏิเสธเธอก็รู้สึกหัวใจสลาย ถ้าได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากของเหว่ย
เหมิงหยาพูดว่า “อย่าไปสนใจเลย เราไปข้างในกันเถอะ”
หลู่เจียยิ้มเยาะขณะที่พวกเขาเดินจากไป
เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเป็นอันตรายอีกต่อไป
ภายในห้องน้ำ เหมิงหยาถามหลีหัวว่า “หลีหัวช่วยบอกฉันทีว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่า สิ่งที่หลู่เจียพูดนั้นเป็นความจริงใช่มั้ย”
หลีหัวส่ายหน้าของเธอ เช็ดน้ำตาแล้วก็อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น
เหมิงหยาตกใจมากเมื่อรู้ว่าเหว่ยได้ย้ายไปอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ของหลีหัว “อะไรนะ! ซีอีโอคนนั้นเป็นเพื่อนของเธอแล้วเหรอ?”
หลีหัวยิ้ม “แต่ฉันไม่สนใจแล้ว เขาพูดเรื่องแย่ๆเกี่ยวกับพี่เจีย ทำไมเขาถึงใจร้ายได้ขนาดนี้ แล้วเขาก็บอกว่าพี่เจียจะไม่กลับมาอีกแล้ว”
เหมิงหยาถอนหายใจ “พูดแบบนี้มันก็น่าเจ็บใจนะ...” เธอตบไหล่หลีหัว “เธออย่ากังวลไปเลย เขาอาจจะยอมรับความผิดพลาดของเขาและกลับมาขอโทษ เธอยกโทษให้เขาสักครั้งเถอะ”
หลีหัวส่ายหน้า “ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย เธอไม่เห็นวิธีการพูดของเขาที่มาพูดกับฉัน มันชัดเจนและไร้ความรู้สึกราวกับว่าชีวิตของพี่เจียนี้ไม่มีความหมายสำหรับเขา ฉันจะไม่ยอมยกโทษให้เขาสำหรับเรื่องนี้”
ที่ออฟฟิตของเหว่ย เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ซีอีโออย่างเงียบๆมีการเรียกประชุมพนักงาน ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เหว่ยจะเป็นคนเงียบๆเสมอในฐานะเจ้านายและคำพูดของเขามีพลังอำนาจเหนือสิ่งใด แต่วันนี้เขาดูแตกต่างไปจากเดิมมากจริงๆ
ทันใดนั้นในระหว่างการประชุม อยู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นว่า “เลิกประชุม”
เหว่ยไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย ทุกคนตกใจมากและพวกเขาก็พากันมองหน้ากันแบบงง ๆ
เหว่ยเหลือบมองพวกเขา “ออกไป”
พวกเขาสะดุ้งและรีบเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว “ครับเจ้านาย”
เหว่ยคิดถึงตอนที่เขาอยู่ในรถ เขาจำภาพที่หลีหัวร้องไห้น้ำตาไหลยังฝังอยู่ในจิตของเขา ซึ่งแปลกมากเขาเองไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม มันถึงส่งผลมาถึงจิตใจของเขาด้วย และเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงโกรธเขามาก มีคำถามอยู่ในใจเขาและเขาก็คิดถึงคนคนหนึ่งที่สามารถให้คำตอบเขาได้
เหว่ยกดหมายเลขโทรศัพท์ เสียงก็ดังขึ้นแต่คนนั้นไม่รับสาย เขาพยายามโทรอีกครั้ง แต่ไม่มีคำตอบ เขาโทรไปอีกเป็นครั้งที่สาม
“หายไว ๆ นะครับ” และคน ๆ นั้นก็วางสายไป
เหว่ยได้ยินเสียงปิ๊บยาวๆ เขาพยายามกดหมายเลขโทรศัพท์อีกครั้งอย่างอดทน แล้วก็มีเสียงเย็นยะเยือกมาจากปลายสายอีกด้าน “ฉันคิดว่าคุณต้องการที่จะตายไม่ต้องกังวลนะ ห้องทดลองพิเศษของฉันพร้อมแล้วสำหรับคุณ”
“ผมต้องการคำตอบบางอย่าง”
“คุณคิดว่าฉันเป็นศิราณีส่วนตัวของคุณหรือไง”
“ไม่”
“แล้วทำไมคุณถึงชอบโทรมาหาฉันเวลาที่ฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันส่งคนไปนรกสี่คนแล้ว คุณต้องการเป็นคนที่ห้ามั้ย”
เหว่ยพูดว่า “ฉันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ฉันต้องแคร์มั้ย คุณจำไว้ฉันไม่ใช่เพื่อนที่ดีสำหรับคุณ คุณสะกดเป็นมั้ยว่าเราคือใคร?”
“ฉันไม่รู้จักใครเลย”
“นั่นคือปัญหาของคุณ”
“แต่ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“มันเป็นปัญหาด้านสุขภาพของคุณที่ฉันต้องทดสอบความอดทนของคุณ”
“ฉันอยู่เฉย ๆ ไม่ได้จนกว่าจะได้คำตอบ”
“คุณต้องการจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับการเสียเวลาของฉัน”
เหว่ยตอบว่า “นั่นคือสิ่งคุณต้องการ”
คนลึกลับพูดว่า “โอนเงินหนึ่งแสนล้านเหรียญดอลล่าร์มาตอนนี้ และตอนเย็นพรุ่งนี้ ฉันต้องการใครสักคนสำหรับห้องพิเศษของฉัน จัดการให้ด้วยไม่ต้องถามคำถาม”
“จบ” ฉันให้เวลาคุณสามสิบวินาทีสำหรับการพูดเรื่องไร้สาระของคุณ
เหว่ยเล่าเรื่องที่สำคัญ ๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เมื่อเช้าอย่างกระชับเงียบเสียงที่ปลายสายอีกด้าน เหว่ยเช็คว่าเขายังอยู่ในสายหรือไม่
“ทำไมคุณต้องลงทุนให้กับน้องสาวของผู้หญิงคนนั้นทั้งๆที่คุณฆ่าเขาด้วยมือของคุณเอง”
“ฉันไม่รู้” นั่นก็เป็นอีกหนึ่งคำถามเหมือนกันแต่ไม่ใช่ตอนนี้
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงโกรธและร้องไห้”
ผู้ชายอีกสายพูดขึ้นว่าอย่างขี้เกียจ “เพราะเธอน่าสงสารนะสิ คนโง่อย่างซงเจียที่ทำงานแนวหน้าเมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องเสียสละชีวิต การเรียกร้องหาความยุติธรรมแบบโง่ ๆ ซึ่งผู้หญิงคนนั้นไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ยินและเป็นไปไม่ได้ โลกนี้ไม่ต้องการคนอ่อนแอ ที่ไม่ต้องการจะทำและไม่เคยทำ ก็บอกให้เธอยิงตัวตาย
“อย่างนั้นหรือ”
เขาหัวเราะ
“คุณรู้มั้ยปัญหาภายในใจของคุณจริง ๆ แล้วนั้นคืออะไร คุณคิดทบทวนดูแล้วว่าวันหนึ่ง ซงเจียอาจจะไม่กลับมา แต่คุณไม่ยอมรับความจริง คุณจะจัดการกับเธอก็ได้ ที่เธอทำให้คุณโกรธละคุณก็เจ็บที่สุด”
เหว่ยคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่เขาแสดงความคิดเห็นนั้น ฟังแล้วดูมีเหตุผล “เข้าใจแล้ว”
ถ้าอย่างงั้นก็เข้าใจเธอซะ เธอโกรธคุณก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าคุณฆ่าเธอให้เอาร่างของเธอมาให้ฉัน
เหว่ยขมวดคิ้วและรู้สึกแปลก ๆ อีกครั้ง เมื่อเขาพูดถึงการฆ่าเธอ “ฉันไม่อยากฆ่าเธอ”
ต่อมาผู้ชายคนนั้นก็วางสายลงอย่างไม่เกรงใจ