เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 214
ตอนที่ 214
แม้ว่าหยิงเจาจะล้อเลียนหลินซวนในทุกคำพูด แต่มันก็มิได้ประมาทศัตรูแม้แต่น้อย มันเอ่ยประโยคเช่นนี้เพื่อให้ผู้อื่นจู่โจมเข้ามาเสียก่อน มันจะได้สามารถประเมินความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามได้แม่นยำขึ้น
ยิ่งกว่านั้น มันยังแอบวางค่ายกลไว้รอบด้านอย่างลับๆ ด้วยต้องการจะสยบทุกคนลงในครั้งเดียว
“พี่หยิง ท่านไม่จำเป็นต้องลงมือเองกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า ข้าจะยกมันให้เป็นของกำนัลแก่ท่านเอง!” ลู่สีหลียังคงประจบประแจงอีกฝ่าย และความเย้ยหยันในน้ำเสียงของมันทำให้หลินซวนไม่ชอบใจยิ่งนัก
ในหัวใจของลู่สีหลีเกลียดชังหลินซวนยิ่ง มันมิเคยลืมความอับอายในตอนที่เกือบตกตายภายใต้เงื้อมมือของเขา และมันต้องการโอกาสที่จะได้สั่งสอนผู้มอบความอับอายให้แก่มันเต็มที
“หยุดเสียเวลาได้แล้ว เจ้าพอหรือยัง? หากจบประโยคโอ้อวดแล้วก็รีบเข้ามา! เข้ามาพร้อมกันทั้งหมด! ข้ากำลังรีบ!” หลินซวนมองไปยังพวกมันทั้งหมดและเอ่ยขึ้น
หลังจากได้ยินประโยคนั้น หยิงเจาและหญิงสาวในชุดขาวก็หรี่ตามองไปยังเด็กน้อย พวกมันไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่าใครที่ทำให้ทารกผู้นี้มีความมั่นใจเสียจนเอ่ยถ้อยคำหยิ่งผยองเช่นนี้ออกมาได้
“เจ้าคิดว่าตนเองเป็นผู้ไร้เทียมทานหรือ? รึฝันว่าตนเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด?” ได้ยินคำพูดของหลินซวน ลู่สีหลีเกรี้ยวกราดนัก
“ข้าจำเป็นต้องเป็นเซียนจุติเพื่อจัดการกับพวกเจ้าด้วยหรือ?” หลินซวนถากถาง
จากนั้นเขาก็ก้าวไปด้านหน้า และในชั่วพริบตา อากาศรอบด้านก็บังเกิดรอยแตก กระทั่งทะเลสาบที่อยู่ห่างออกไปยังสั่นสะเทือน
ในทุกก้าวที่หลินซวนเหยียบ รอยแยกกลางอากาศก็ขยายตัวกว้างขึ้นเรื่อยๆ ในท้ายที่สุด รอยแตกนั้นก็ส่งคลื่นกระแทกออกมาใส่ผู้คนที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม
สองร่างที่ขวางทางหลินซวนอยู่ถูกกระแทกกระเด็นออกไป พวกมันอ้าปากก่อนกระอักเลือดคำโต
ต้องรู้ก่อนว่าความแข็งแกร่งของพวกมันสองคนนั้นมิใช่ชั่ว อันที่จริงแล้ว พวกมันถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับต้นๆ ในแดนลึกลับแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ กระทั่งคลื่นกระแทกที่ส่งมาจากรอยแยกกลางอากาศซึ่งเกิดจากการก้าวเท้าของหลินซวนก็รุนแรงจนเกินที่พวกมันจะรับมือไหว
พวกมันมองหลินซวนด้วยใบหน้าขาวซีด และความเกลียดชังท่วมท้นในหัวใจ พวกมันไม่คาดคิดเลยว่าจะเจอผู้ที่ทรงพลังเช่นนี้ นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจทำใจให้เชื่อถือได้ลง
“ไม่เลว เด็กน้อย รูปลักษณ์ของเจ้าทำให้ชมชอบเจ้ามากยิ่งขึ้นไปอีก!” หญิงสาวในชุดขาวมองหลินซวนอย่างหลงใหล และพยายามล่อลวงเขา
เปลวเพลิงรอบกายนางสะบัดไหว ทำให้ผู้คนรู้สึกว่านางจะโจมตีได้ในทุกชั่วขณะ
“โอ้? จริงหรือ? พี่สาว ข้าเองก็ชอบท่านมากเช่นกัน!” หลินซวนยังคงทำหน้าตาไร้อารมณ์ออกมาพลางเดินไปด้านหน้าอย่างเฉื่อยชา
ทุกก้าวแฝงไว้ด้วยพลังที่ฉีกกระชากห้วงมิติ ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่ากำลังมีเทพเซียนลงมาจุติบนผืนโลก ทำให้ใต้หล้าสั่นสะท้าน
“ฮี่ๆ ข้ารับใช้มิควรจะเย่อหยิ่งต่อหน้าเจ้านายเช่นนี่! แม้ว่าข้าต้องการคนใช้ที่กล้าหาญ แต่เจ้าต้องถูกทุบตีหากกล้าแสดงกิริยาเช่นนี้ต่อหน้านายเหนือของเจ้า!” หยิงเจาเอ่ยอย่างเย็นชา
จากนั้น มันก็โจมตีเข้ามา ในชั่วพริบตา ลำแสงรอบด้านก็ไหลย้อนกลับ และปรากฏค่ายกลขนาดใหญ่ขึ้นบนฟากฟ้าหวังจะควบคุมหลินซวนให้อยู่หมัด มุมทั้งสี่ทิศของค่ายกลนั้น มีสายโซ่พุ่งออกมาโดยเล็งเป้าหมายไปยังทารกน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังทลายพื้นดินโดยรอบที่พุ่งผ่าน
ตูม!
ทันใดนั้นเอง หม้อสามขาใบเล็กก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันในมือของหลินซวนและป้องกันการโจมตีของโซ่ทั้งหลาย
หม้อใบนี้มิได้เป็นของหลินซวนมาตั้งแต่ต้น มันเป็นสมบัติซึ่งเขาช่วงชิง... ขอยืมมาจากหอเทพอัคคี
เมื่อโซ่เหล่านั้นปะทะเข้ากับหม้อใบเล็ก มันก็เริ่มแตกสลายลงทีละส่วน และค่ายกลที่ปรากฏขึ้นก็หายไป
“นั่นมัน... นั่นมันเป็นสมบัติของหอเทพอัคคี!” หยิงเจามองไปยังหลินซวนด้วยสีหน้าเย็นเยียบ ดวงตาของมันปรากฏร่องรอยตื่นตะลึง
จ๋อม!
ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากทะเลสาบทางด้านหลัง ปรากฏว่าเป็นบงกชสวรรค์ที่ได้ยินเสียงการต่อสู้มันจึงดำลงไปยังใต้น้ำด้วยความหวาดกลัว
“ลงไปดำหาบงกชสวรรค์ให้แก่ข้าเดี๋ยวนี้ หากว่าอารมณ์ของข้ามิได้ย่ำแย่นัก ข้าอาจจะยอมไว้ชีวิตและรับเจ้าเข้ามาเป็นข้ารับใช้ ไม่เช่นนั้น ข้าจะสังหารเจ้าและเอาโลหิตของเจ้าล่อให้บงกชสวรรค์ยอมปรากฏตัวขึ้นมา!” เมื่อหยิงเจาเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น มันก็สั่งหลินซวนด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“โอ้? จริงหรือ? เช่นนั้นก็อ้อนวอนแก่ข้าสิ!” หลินซวนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ถอยไปเถิด! ให้ข้าได้เป็นผู้สังหารมัน!” ทันใดก็เป็นลู่สีหลีคำรามออกมา
ก่อนหน้านั้น มันถูกทุบตีจนเกือบตายด้วยผู้อื่น มันต้องการจะล้างแค้นเสมอมา บัดนี้ เมื่อโอกาสในการแก้แค้นอยู่ตรงหน้า มันย่อมไม่ต้องการจะพลาดสิ่งนั้น
“เจ้าเป็นเพียงข้ารับใช้ แต่เมื่อถูกผู้อื่นยกย่องจนเคยตัว เจ้าจึงได้กล้าต่อต้านนายท่านผู้นี้หรือ?” หลินซวนดูแคลน
ได้ยินเช่นนั้น ลู่สีหลีแทบจะกระอักเลือดด้วยความโกรธแค้น มันไม่อาจจะสะกดข่มโทสะในหัวใจได้อีกต่อไป
ข้ารับใช้?
อันที่จริงแล้วก็ย่อมเป็นเช่นนั้น อย่างไรเสีย มันก็เป็นข้ารับใช้ของอาณาจักรศิลา แม้ว่าความแข็งแกร่งของมันจะมิได้สามัญ และสถานะของมันก็ไม่ธรรมดา ในยามที่ออกไปยังภายนอก กระทั่งเหล่าบุตรชายหญิงทายาทตระกูลใหญ่ทั้งหลายยังต้องแสดงความนอบน้อมแก่มันมิใช่หรือ?
ยิ่งกว่านั้น มันยังทรงพลังมากกว่าอัจฉริยะจากตระกูลมากมาย เมื่อใดกันที่มันต้องเผชิญหน้ากับการล้อเลียนเช่นนี้?
“เจ้ารนหาที่ตาย! คิดหรือว่าข้าจะหวาดกลัวเจ้า? หากข้าไม่กำราบเจ้าลงในวันนี้ ข้าคงไม่มีหน้าไปเจอผู้ใดในอนาคต!”
ลู่สีหลีคำรามอย่างกราดเกรี้ยว จากนั้นก็ปรากฏค่ายกลขึ้นในมือของมัน เป็นค่ายกลซึ่งมีกระบี่โบราณนับพันบินวนไปทั่วด้านใน ในชั่วลมหายใจ ค่ายกลนั้นก็ล้อมพื้นที่โดยรอบทั้งหมดเอาไว้ และจิตสังหารก็กระหน่ำจากทั่วทิศทาง
ประกอบกับการโจมตีของมัน ราวกับว่าใต้หล้าเริ่มสั่นไหว และสภาพอากาศโดยรอบเริ่มแปรเปลี่ยนไป
จากนั้น กระบี่โบราณก็พุ่งออกมา เสียงอากาศถูกฉีกกระชาก จากนั้นมันก็กลายเป็นลำแสงและพุ่งเข้าใส่หลินซวน
แน่นอนว่านี่คือไพ่ตายของลู่สีหลี ด้วยความโกรธแค้นจนถึงขีดสุดเช่นนี้ มันจึงมิได้ยั้งมือ และใช้สิ่งที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่มีด้วยต้องการจะสังหารหลินซวนให้ตายตกลงเสีย
เห็นเหตุการณ์นั้น กระทั่งหยิงเจาและหญิงสาวในชุดขาวผู้นั้นยังใบหน้าเปลี่ยนสี ค่ายกลนี้ทรงอำนาจยิ่ง ดูเหมือนว่าข่าวลือเรื่องความแข็งแกร่งของลู่สีหลีที่ร่ำลือกันในโลกภายนอกจะเป็นความจริง
ต่อให้เป็นพวกมันทั้งสองก็ไม่มีความมั่นใจมากพอว่าจะเอาชนะ ทำได้เพียงสามารถหลบหนีออกไปอย่างปลอดภัยภายใต้การโจมตีจากกระบี่จำนวนมากมายเหล่านี้เท่านั้น
ทว่า ทันใดนั้นเอง ในยามที่เผชิญหน้ากับการจู่โจมที่ทรงพลัง หลินซวนกลับมิได้ขยับแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาไม่ได้มีความตั้งใจจะป้องกันตัว
รอบร่างของเขา สายฟ้าสีทองเริ่มก่อตัว... พวกมันมิได้กระจายไปที่ใด เพียงห่อหุ้มร่างของเด็กน้อยเอาไว้เพื่อปกป้องเขาเท่านั้น