ตอนที่ 981+982 อ้างว้างราวหิมะ
ตอนที่ 981 เปล่าเปลี่ยวราวหิมะ
ถึงตอนนี้โจวเหวยฉีก็ถอนหายใจ “ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอกับพี่ใหญ่ถึงหย่ากัน แต่ฉันรู้สึกเศร้ากับเรื่องนี้มาก ๆ เลย ทั้งสองคน โดยเฉพาะเหลาหรุน เธอที่เป็นผู้หญิง ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นเข้มแข็งหรอก ถ้ามีปัญหาอะไร ก็มองหาพวกเราสิ การไปอยู่ต่างประเทศมันไม่ง่ายเลยนะ อยู่ที่นี่ดีกว่า อย่างน้อยเราก็อยู่กันที่นี่ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน”
“ในที่สุดนายก็ทำตัวเหมือนมนุษย์มนากับเขาแล้ว” หลัวเหลาหรุนตบไหล่โจวเหวยฉีด้วยท่าทางพอใจ “ไม่ต้องห่วง ตอนนี้นายยังไม่รู้จักฉันอีกเหรอ ฉันได้รับความทุกข์ทรมานจากคนอื่นมามากพอแล้วตั้งแต่เด็ก”
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้หลัวเหลาหรุนต้องทนทุกข์ทรมาน แต่เธอได้พยายามปล่อยมันไป
นั่นคือเหตุผลที่เธอเลือกเดินทางไปต่างประเทศ เธอต้องการออกจากเมืองจินโดเพียงลำพังและออกไปสู่โลกภายนอก ถ้าเรายุ่งจะได้ไม่ต้องคิดอะไรอีก
บรรยากาศระหว่างมื้ออาหารอึมครึมและกดดัน หลังจากการประกาศเรื่องการหย่าร้าง ทุกคนนั่งคุยกันสักพัก พวกเขาไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องหย่าร้างอีก
ท้ายที่สุดมันไม่ใช่หัวข้อที่น่าสนใจ พวกเขามีเหตุผลพอที่จะไม่ถามเหลียงเยวือจื่อและหลัวเหลาหรุนเกี่ยวกับเหตุผลของการหย่าร้าง
พวกเขาแต่งงานกันกะทันหัน แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าการหย่าร้างของพวกเขาจะกะทันหันกว่าตอนประกาศแต่งงาน
หลังอาหารเย็นเจียงเหยาและลู่ชิงสีเดินทางกลับเมืองจิน โดยรถของโจวเหวยฉี ชายหนุ่มขับรถไปถอนหายใจไปตลอดทาง เขารู้สึกเมื่อผู้โดยสารทั้งสองคนไม่ตอบเขา
“พี่สาม พี่สะใภ้ ช่วยพูดอะไรกันหน่อยได้ไหม” โจวเหวยฉีพูดขึ้น “ฉันจะไปบ้านพวกพี่ตอนปีใหม่นะ ฉันไม่มีที่ไปแล้ว ฉันจะตัวว่านอนสอนง่าย”
“ย่าเหลียงและป้าเหลียงบอกให้นายไปที่ครอบครัวเหลียงตอนปีใหม่ไม่ใช่เหรอ” ลู่ชิงสีตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้น “ป้าเหลียงโทรหาฉันโดยตรง ท่านบอกกับฉันว่าไม่อนุญาตให้แย่งลูกชายของเธอไปจากเธอ”
จากนั้นลู่ชิงสีไม่สนใจโจวเหวยฉี เขาก้มศีรษะลงและมองไปที่เจียงเหยาที่นั่งพิงร่างกายของเขา เธอดูง่วงนอน เขารู้ว่าเธอไม่ได้พักหลังจากบินกลับมาที่เมืองจินโดตั้งแต่เมื่อคืน เขาพูดด้วยเสียงต่ำว่า “คุณนอนสักพัก ถึงแล้วผมจะปลุก”
โจวเหวยฉีมองไปที่เจียงเหยาที่เบาะหลังด้วยท่าทางขมขื่น บังเอิญเขาเห็นเธอเงยหน้าขึ้นและจูบที่แก้มของพี่ชายเขา จากนั้นเธอก็ตอบรับเขา คนขับรถอย่างโจวเหวยฉีรู้สึกว่าชีวิตของเขาอ้างว้างราวกับหิมะ
“ลืมมันไปเถอะ ฉันจะไปที่เมืองจินโดก็ได้ จ้านชิวเหอก็อยู่ที่นั่น วันที่สองของปีใหม่ ฉันจะไปที่บ้านตระกูลจ้าน” โจวเหวยฉีรู้สึกว่าถูกยั่วยุโดยสองคนที่อยู่เบาะหลัง “ฉันล่ะอยากจะสัมผัสกับชีวิตของลูกเขยล่วงหน้า”
หลังจากนั้นโจวเหวยฉียังพูดจู้จี้เกี่ยวกับอะไรบางอย่าง ขณะที่เจียงเหยานอนพิงร่างกายของลู่ชิงสีและผล็อยหลับไป
ในที่สุดสามีของเธอก็ปลุกเธอ พวกเขามาถึงค่ายทหารแล้ว
โจวเหวยฉีรีบไปทำงาน เขาไม่ได้เข้ามาในบ้านด้วย เจียงเหยาและลู่ชิงสีลงจากรถและมองดูชายคนนั้นขับรถจากไป จากนั้นพวกเขาก็ขนของเข้าไปข้างใน บังเอิญพวกเขาได้พบกับพันเอกหลิน และภรรยาของเขา
พวกเขาไม่ได้เจอกันราวสองเดือน พันเอกหลินสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว คู่สามีภรรยาไม่ได้เห็นเจียงเหยาและลู่ชิงสี ทั้งคู่กำลังพูดคุยอะไรกันบางอย่าง นางหลินพูดขึ้นก่อนที่จะคบผู้พันหลิน ขณะที่ชายคนนั้นหัวเราะคิกคักและวิ่งหนีไป ไม่มีใครเชื่อว่าชายผู้นี้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจะวิ่งได้คล่องขนาดนี้
__
ตอนที่ 982 ด้านนัก
“พันเอกหลิน คุณนายหลิน” เจียงเหยายิ้มเมื่อเห็นทั้งสองคน เธอทักทาย สามีและภรรยาที่กำลังล้อเล่นกัน
ทันใดนั้นพันเอกหลินตระหนักว่ามีคนสองคนอยู่ตรงนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขาหันกลับมาหาภรรยาและพูดอย่างอวดดีว่า “นี่กองทัพนะ จะมาทำอะไรโง่ ๆ ที่นี่ได้ยังไง”
“ดี กลับถึงบ้าน ฉันจะทุบให้” นางหลินกล่าวกับพันเอกหลิน จากนั้นเธอก็เดินไปหาเจียงเหยาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “โอ้ ร้อยเอกลู่ กลับมาเร็วจัง เจียงเหยาก็มาด้วยเหรอ ดีเลย ไม่ได้เจอเธอตั้งหลายเดือน เจ้าลูกชายของฉันก็ถามถึงเธอเหมือนกัน”
“ดูเหมือนว่าทุกคนที่นี่จะรักฉันนะคะ” เจียงเหยายกย่องตัวเองอย่างไร้ยางอาย
“ใช่ ทุกคนรักเธอ เอาล่ะ เพิ่งกลับมาถึงใช่ไหมล่ะ งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว ที่บ้านไม่มีอาหารใช่ไหม มาทานข้าวเย็นที่บ้านของเราคืนนี้สิ” นางหลินหัวเราะและโบกมือให้กับเจียงเหยา จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ตะกร้าในมือของเธอ “ฉันเพิ่งไปซื้อของสดมา คืนนี้มีอาหารอร่อย ๆ ทานล่ะ”
หลังจากที่พวกเขายอมรับคำเชิญของนางหลิน เจียงเหยาก็เดินตามลู่ชิงสีขึ้นไปชั้นบน ขณะที่เขาเปิดประตู เจียงเหยาเอนหลังของเขาเหมือนกองกระดูกอ่อน ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงจากประตูฝั่งตรงข้าม เธอกระโดดกลับมาเหมือนนกที่ตกใจ เธอถอยหลังไปสองก้าวและรีบออกจากหลังของลู่ชิงสี เธอแตะปลายจมูกของเธอขณะที่เธอมองไปยังประตูฝั่งตรงข้าม
เธอคิดว่าจะมีคนออกมาจากประตูฝั่งตรงข้าม แต่ไม่มีใครออกมา
“เข้าไปได้แล้ว” ลู่ชิงสีเหลือบมองไปที่ประตูที่ปิดสนิทก่อนที่เขาจะเอื้อมมือออกไปดึงเจียงเหยา ไปข้างหน้าและผลักเธอผ่านประตู หลังจากที่เขาเข้าไปในห้อง เขาอธิบายว่า “ห้องตรงข้ามมีคนมาอยู่ใหม่น่ะ เขาเป็นพันตรีจากกองพันที่สาม ภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์ แม่ของเขามาอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเธอด้วย”
“ฉันมาที่นี่แล้ว คุณอยากให้ฉันไปทักทายเธอภายหลังไหมคะ” เจียงเหยาถาม
“ทักทาย?” ลู่ชิงสีวางสัมภาระของเจียงเหยาลงบนพื้นขณะที่เขากล่าวว่า “เขาเป็นคนดี ภรรยาของเขาไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ น่าจะเข้ากับพวกเขาได้ง่าย แต่ปัญหาอยู่ที่แม่ของเขา ผมไม่รู้จะอธิบายเธอให้คุณฟังยังไงดี”
เมื่อหัวหน้าและภรรยาของเขาย้ายมาอยู่ห้องตรงข้าม ลู่ชิงสีไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เมื่อแม่ของชายคนนั้นมาถึง เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกของเขาอย่างไรดี
“มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอคะ” เจียงเหยาถาม
“ตอนนี้ผมเป็นเพียงร้อยเอก แต่พันตรีเป็นผู้บังคับกองพัน เขาจึงมีทหารภายใต้การบัญชาการของเขามากกว่าผม แม่ของเขาคิดว่าเขาเป็นหัวหน้าของผมไปด้วย เธอรู้สึกว่าใครก็ตามที่ตำแหน่งต่ำกว่าลูกชายของเธอควรให้ความเคารพเธอด้วย หญิงชราคนนี้เห็นแก่ตัวและหน้าด้าน ถ้าอยากได้อะไรจากคนอื่น ก็จะหาวิธีขอมาจนได้ เธอเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่ถึงเดือน แต่เธอสร้างปัญหามากมาย พันตรีบอกว่าจะส่งเธอกลับไปอยู่ต่างจังหวัดหลังปีใหม่ แล้วให้แม่ยายของเขามาดูแลภรรยาของเขาแทน”
ในที่สุดเจียงเหยาก็เข้าใจว่าทำไม ลู่ชิงสีถึงมีสีหน้าแบบนั้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เป็นไปได้มากที่สุดเพราะพวกเขาอาศัยอยู่ใกล้กันมาก แม่ของพันตรีต้องคิดว่าลู่ชิงสีเป็นเพียงแค่ทนายนายหนึ่งเมื่อเธอเห็นเขา และเธอก็คงจะดูถูกเขา