ตอนที่ 975+976 ลูกนอกสมรส
ตอนที่ 975 ลูกนอกสมรส
เมืองจินโดส่งผู้ตรวจสอบและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือจำนวนมาก ไม่ว่ายังผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังคุณผู้หญิงไช่ก็ต้องรู้เรื่องนี้ แล้วเขาจะยังสามารถช่วยเหลือเธอได้อีกหรือ
นอกจากนี้ ปัญหาของคุณผู้หญิงไช่และบริษัทไช่ก็มีหลายคดีเสียเหลือเกิน คนคนนั้นจะยังกล้าปกป้องพวกเขาอีกหรือ บางทีเขาอาจจะกลัวเรื่องที่คนอื่นจะรู้ว่าตัวเองมีความเกี่ยวข้องกับไช่ม่านเหวินก็ได้
ไช่เซียนหลงได้ทำสิ่งเลวร้ายมากมายในเมืองหยวน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ลู่ชิงสีได้นำข้อมูลที่ได้จากตู้เฉินมาใช้ เพียงข้อมูลเท่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้คุณผู้หญิงไช่อยู่ในคุกตลอดชีวิตที่เหลือของเธอแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขามาช้าเกินไป ไช่เซียนหลงตกตึกและเสียชีวิตเสียก่อน ไม่มีใครเก็บศพของเขา อีกทั้งลู่ชิงสียังสั่งปิดโรงพยาบาลหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น นั่นคือเหตุผลที่เขาย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่น และควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมด จึงเหลือคนที่อยู่ในโรงพยาบาลไม่มากนัก
“ลูกนอกสมรส?” เจียงเหยาตกใจอย่างมาก เธอไม่สามารถจินตนาการถึงความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคุณผู้หญิงไช่ได้เลย
“ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปพบเธอ” ลู่ชิงสีบอกกับอาลู่และต้าเค่อให้รอพวกเขาอยู่ข้างนอก จากนั้นเขาก็จับมือเจียงเหยาและเดินไปยังห้องสอบสวน
เมื่อเจียงเหยาเดินผ่านห้องหนึ่ง เธอเห็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ถูกทหารขึ้นรถมา เธอดึงแขนเสื้อของลู่ชิงสี และถามว่า “หมอพวกนั้นถูกตัดสินลงโทษด้วยไหมคะ”
“พวกเขามอบตัวกันทุกคนแล้ว ตอนนี้ทางตำรวจกำลังสอบปากคำพวกเขาอีกห้องหนึ่ง” ลู่ชิงสีชี้ไปที่ห้องที่เปิดไฟสว่างไสวตรงหน้าเขาและพูดว่า “ไช่เซียนหลงตะโกนว่าเขาเห็นผี เขาบอกว่าโจวเสี่ยวเฉิงกลับมาแก้แค้นเขา จากนั้นเขาก็เป็นบ้าและตกลงมาจากตึก ไม่นานหลังจากที่เราจากมา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็เกิดบ้าขึ้นมาอีกครั้งและโวยวายเรื่องเดียวกัน หมอเหล่านั้นกลัวว่าโจวเสี่ยวเฉิงจะกลับมาเอาชีวิตพวกเขาทีละคน พวกเขาอยู่เงียบ ๆ กันได้มานาน สุดท้ายก็เขามามอบตัวเพราะกลัววิญญาณของโจวเสี่ยวเฉิงจะตามไปหลอกหลอน – พวกนี้กังวล แทบจะทนไม่ไหวที่จะเข้ามามอบตัว”
เจียงเหยาหัวเราะคิกคักและคิดว่า ‘ดูเหมือนว่าการทำงานหนักของฉันในวันนี้จะไม่ได้ไร้ประโยชน์ กลอุบายตื้น ๆ นี้อาจทำให้หมอเหล่านี้หวาดกลัวในเมืองที่เชื่อเรื่องโชคลางเช่นนี้’
หากพวกเขายอมจำนนก็หมายความว่าพวกเขาต้องการรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของโจวเสี่ยวเฉิง เจียงเหยาคิดว่าพวกเขาจะทนได้อีกสักวันสองวันเสียอีก เธอไม่คาดหวังว่าพวกเขาจะทนได้เพียงแค่บ่ายวันนี้เท่านั้น
เจียงเหยาไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเดินตามลู่ชิงสีไปอย่างเงียบ ๆ ต่ออีกห้า-หกนาทีก่อนที่จะมาถูกจุดกักกันชั่วคราว
“คุณชายลู่ คุณผู้หญิงไช่บอกว่าไช่เซียนหลงติดสินบนหมอ ส่วนเธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วยทั้งนั้น เธอยอมรับความผิดแค่ 2 กระทงคือการครอบครองปืนอย่างผิดกฎหมายและข่มขู่สมาชิกในครอบครัวของทหาร” โจวจุนหมินถ่มน้ำลาย “ผู้หญิงคนนี้ลื่นยังกับปลาไหล เธอโยนความผิดไปให้กับลูกชายของเธอเพียงเพราะเขาตายไปแล้ว”
“ไม่ใช่ว่าเธอจะสามารถพูดอะไรก็ได้ตามที่เธอต้องการเสียหน่อย หมอพวกนั้นได้มอบตัวแล้ว เราค่อยอ่านคำสารภาพของพวกเขาในภายหลังก็ได้” เจียงเหยากล่าวว่า “คุณผู้หญิงไช่เป็นคนมีนิสัยแข็งแกร่งเสียอย่างนี้ ไช่เซียนหลงคงไม่ทำอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเธอ เธอต้องเป็นคนสั่งให้หมอทำตามคำสั่งของเธอเพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมด”
ไช่เซียนหลงอายุเกือบ 30 ปีแล้ว และเขายังไม่ได้แต่งงาน เห็นได้ชัดว่าไช่ม่านเหวินไม่ได้มอบอำนาจให้ลูกชายของเธอตัดสินใจอะไรมากนัก เพราะเขาเป็นเพียงรองผู้จัดการในบริษัท ถ้าเฮไม่สั่งให้หมอฆ่าโจวเสี่ยวเฉิง พวกเขาคงไม่กล้าทำอย่างนั้น
__
ตอนที่ 976 คุณพูดอะไร
หากกระทั่งเจียงเหยายังคิดได้เช่นนี้ คนที่รับผิดชอบสอบสวนก็คงจะคิดในสิ่งเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รีบร้อนที่จะชี้ประเด็นนั้น พวกเขาจะได้รับคำตอบเมื่อสอบปากคำทุกคนในโรงพยาบาลแล้ว
ลู่ชิงสีไม่ได้ของให้เจียงเหยามาหาเขาเพื่อพบคุณผู้หญิงไช่ แต่หญิงสาวเป็นหนึ่งในเจ้าทุกข์ของเธอ คุณผู้หญิงไช่ชี้ปากกระบอกปืนไปที่เธอ ดังนั้นเธอจึงต้องมาที่นี่เพื่อให้ปากคำและตั้งข้อหาคุณผู้หญิงไช่ว่าเธอได้ก่ออาชญากรรม
เจ้าหน้าที่เฉินรับคำร้องทุกข์ของเจียงเหยา เขาอ่อนโยนกับเธอเพราะเขารู้ว่าเธอเป็นภรรยาของลู่ชิงสี เขาถามคำถามสำคัญสองสามข้อแล้ว ก็จบการสอบปากคำอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่เจียงเหยาและเจ้าหน้าที่เฉินกำลังยุ่งอยู่กับการให้การ ลู่ชิงสีก็พิงโต๊ะและจ้องมองไปที่อีกคนที่อยู่หลังกรงเหล็กเหล่านั้น เขาก้มศีรษะลงและพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ "ไช่เซียนหลงเสียชีวิตแล้ว ยังไม่มีใครเก็บศพให้เขาเลย แม้แต่แม่ของตัวเองยังยกความผิดทั้งหมดให้เขาอีก ฉันละสงสัยจริง ๆ ว่าหากเขาได้รู้เรื่องนี้ เขาจะตายตาหลับไหม”
ลู่ชิงสีหยุดพูดชั่วขณะก่อนที่เขาจะยิ้มเยาะเย้ย และกล่าวต่อ “ฉันคิดว่าเขาคงไม่เต็มใจที่จะตาย เพราะเขายังไม่เคยเจอหน้าน้องชายของตัวเองเลยนี่ อ้อ เขาไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าตัวเองยังน้องชายเหมือนกันคนอื่นด้วย”
คุณผู้หญิงไช่เบิกตากว้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอยืนขึ้นและรีบวิ่งไปที่ลู่ชิงสี ร่างกายของเธอสั่นสะท้านขณะที่เธอตะโกนว่า “คุณพูดว่าไงนะ”
“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ งั้นก็ลืมมันไปเสียเถอะ ฉันไม่อดทนที่จะพูดอะไรซ้ำ ๆ โดยไม่จำเป็นต่ออาชญากร” ลู่ชิงสีตระหนักว่าเจียงเหยาให้ปากคำเสร็จแล้ว ดังนั้นเขาจึงหันไปหาเธอ “คุณทานข้าวเย็นหรือยัง”
เจียงเหยาส่ายหน้า เขาจับมือเธอแล้วพวกเขาก็ออกไปทานอาหารเย็นด้วยกัน
ลู่ชิงสีไม่ได้รับผิดชอบในการสอบสวน ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้เวลาส่วนตัวหลังจากที่เขาเสร็จภารกิจแล้ว
ทว่าเขายังกังวลว่าเรื่องอื่นอาจต้องการความเห็นของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พาเจียงเหยา อาลู่ และต้าเค่อออกไปไกลนัก พวกเขาพบร้านอาหารดี ๆ และสะอาดใกล้สถานีตำรวจ และตัดสินใจทานข้าวกันที่นั่น
หลังจากที่พวกเขาสั่งอาหารบางอย่าง ลู่ชิงสีของน้ำร้อนและช่วยเจียงเหยาฆ่าเชื้อโรคที่ชามและตะเกียบให้กับเธอ จากนั้นเขาก็พูดขึ้น “หลังจากทำทุกอย่างที่นี่เสร็จแล้ว คุณกลับไปกับพวกเขา เราจะไปเมืองจินโดกันก่อน พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้มีเรื่องจะคุยกับเรา”
หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้น ลู่ชิงสีก็มองไปที่อาลู่และต้าเค่อ “ตอนที่เธออยู่กับฉัน พวกนายจะอยู่ที่เมืองจินหรือเมืองจินโดก็ได้ตามสบายเลย แค่ติดต่อกับพวกเราก็พอ”
เขาไม่สามารถพาอาลู่และต้าเค่อไปที่ค่ายทหารกับเขาได้ ระหว่างที่เจียงเหยาอยู่กับเขาจนกว่าจะกลับไปที่มหาวิทยาลัย อาลู่และต้าเค่อสามารถใช้เวลาส่วนตัวได้ตามที่พวกเขาต้องการ
“ผมว่าจะกลับไปบ้านเกิดเสียหน่อย ไม่ได้กลับไปหลายปีแล้ว” อาลู่กล่าว
ต้าเค่อคิดสักครู่แล้วพยักหน้า “อืม ผมก็จะกลับบ้านเหมือนกัน”
ไม่สำคัญสำหรับพวกเขาว่าพวกเขาจะมีวันหยุดหรือไม่ พวกเขาไม่มีใครให้คิดถึง อีกทั้งยังมีเวลามากมาย พวกเขาจึงต้องการกลับไปดูบ้านเกิดของพวกเขาอย่างสบาย ๆ
เจียงเหยารอให้ลู่ชิงสีและอาลู่พูดคุยกันให้จบก่อน เธอถึงถามแทรกออกมา “ใกล้จะปีใหม่แล้ว คุณได้รับคำสั่งให้โอนย้ายหรือเปล่า”
“ยังเลย” ลู่ชิงสีดูไม่ค่อยมีความสุขเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับคำสั่งโอนที่ล่าช้าเท่านั้น เขายังไม่รู้ว่ากองกำลังพิเศษที่ตั้งขึ้นใหม่นี้อยู่ที่ไหน และนายพลเหลียงบอกเขาว่าหลังจากการเจรจาระหว่างเขตทหารต่าง ๆ พวกเขาได้ตัดสินใจจัดตั้งกองกำลังพิเศษเฉพาะผู้หญิง พวกเขาจะเลือกสมาชิกจากรายชื่อผู้สมัครที่ถูกลู่ชิงสีกำจัดออกในการคัดตัวครั้งสุดท้าย