ตอนที่แล้ว731 - ซากดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิต 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป733 - เส้นทางโบราณที่เชื่อมต่อกับโลกอื่น 

732 - จักรพรรดิอมตะ 


732 - จักรพรรดิอมตะ

เก้าญาณวิเศษลึกลับที่พวกเขาได้รับมาจากหน้าผาศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นบันทึกของศิลปะที่มีความเกี่ยวข้องกับดวงดาวอย่างลึกซึ้ง

ดูเหมือนว่าเก้าญาณวิเศษลึกลับทั้งหมดก็ควรจะถูกสร้างมาจากวิธีการนี้

นั่นรวมไปถึงศิลปะของจักรพรรดิโบราณ พวกเขาได้ศึกษาและเกิดแรงบันดาลใจจนสามารถสร้างทักษะอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้

แผนภูมิไท่หยินที่เย่ฟ่านฝึกฝนก็มาจากต้นกำเนิดเดียวกัน หยางคือดวงอาทิตย์ ส่วนหยินเป็นกฏที่แข็งแกร่งที่สุดของดวงจันทร์ ซึ่งทั้งสองสิ่งเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากที่สุดในจักรวาลอย่างไม่ต้องสงสัย

“เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นลึกลับมาก ในตอนนั้นพวกเขามีจำนวนเพียงน้อยนิด ไม่คิดว่าผ่านไปหลายปีพวกเขากลับกลายเป็นผู้ปกครองโลกในปัจจุบันไปแล้ว” วานรศักดิ์สิทธิ์ถอนหายใจ

เป็นเรื่องเกี่ยวกับอดีตโบราณ เขาไม่ค่อยรู้อะไรมากนักและแม้แต่เชื้อสายของตัวเองเขาก็ยังไม่ได้เรียนรู้อย่างถ่องแท้

เขาจำได้เพียงว่าพ่อของเขาตาย อาของเขาถูกส่งไปที่ทะเลทรายตะวันตก และคนอื่นๆ ก็ไม่ชัดเจนนัก ทุกสิ่งทุกอย่างเต็มไปด้วยความคลุมเครือ

เย่ฟ่านและคนอื่นๆ อีกหลายคนคาดการณ์ว่าหายนะครั้งใหญ่ในสมัยโบราณควรเป็นโลกที่เปลี่ยนไป มันไม่เหมาะสมที่ผู้ปกครองระดับสูงจะดำรงชีวิตอยู่ได้

แต่เมื่อวานรศักดิ์สิทธิ์ได้ยินก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า

"มันไม่ใช่เช่นนั้น นี่เป็นคำทำนายโบราณที่มีมานานแล้ว..."

ตอนนั้นวานรศักดิ์สิทธิ์ยังเป็นเด็กอยู่ แม้ว่าทันทีที่เขาเกิดมาเขาจะมีพลังระดับผู้สูงสุด แต่เขาก็มีความรู้ไม่แตกต่างจากเด็กน้อยคนหนึ่ง

ในอดีตเผ่าพันธุ์ของเขาเกิดขึ้นมาจากก้อนหินที่ชื่อว่า "หลุมศพอมตะ" จากนั้นพวกเขาก็ฝึกฝนอย่างหนักจนกลายเป็นจักรพรรดิโบราณ เผ่าพันธุ์ราชาคนอื่นๆในสวรรค์พิภพนี้ก็มีต้นกำเนิดที่คล้ายคลึงกัน

นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ฟ่านและคนอื่นๆ เคยได้ยินเรื่องนี้

วานรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะเขาไม่เข้าใจมันเช่นกันดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกเล่าความลึกลับของเหตุการณ์ในยุคโบราณ

เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ต่างก็มีความเสียใจอยู่เล็กน้อย นี่คือความลึกลับนิรันดร์ แม้แต่ซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิตตนนี้ก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ แล้วใครจะรู้เรื่องนี้?

“เผ่าพันธุ์บรรพกาลบางส่วนถูกผนึก และบางเผ่าพันธุ์ได้ถูกขับไล่ออกจากโลกใบนี้ไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่…”

วานรศักดิ์สิทธิ์ส่ายหัว ไม่ต้องการพูดอะไรอีก

“เรื่องของสิ่งมีชีวิตอมตะในตำนานนั้นเป็นความจริงหรือไม่ ว่ากันว่าสิ่งมีชีวิตอมตะที่แท้จริงสามารถมีชีวิตอยู่ไปชั่วนิรันดร์ ซึ่งดูเหมือนจะแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอมตะหลังจากยุคโบราณไปแล้ว?”

หลี่เหอซุยถามขึ้นทันใด หลายคนก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้ เพราะสิ่งมีชีวิตอมตะที่ถูกเรียกว่าปราชญ์โบราณในปัจจุบันดูเหมือนจะมีอายุเพียงไม่กี่หมื่นปีเท่านั้น

ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แตกต่างอย่างมากจากยุคโบราณที่พวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างไม่จำกัด หากไม่พบศัตรูที่กล้าแข็งว่ากันว่าพวกเขาสามารถดำรงอยู่ได้ตลอดกาล!

“เป็นความจริง พ่อของข้าก็เป็นผู้อมตะคนหนึ่งและมีชีวิตอยู่มานานหลายล้านปีแล้ว แต่น่าเสียดายที่ตอนข้าเกิดขึ้นแก่นแท้แห่งชีวิตของเขาได้ถูกศัตรูผู้แข็งแกร่งทำลายไป และตอนที่ข้ามีอายุได้ไม่กี่ปีเขาก็เสียชีวิต”

เมื่อวานรศักดิ์สิทธิ์อายุสามขวบ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เผ่าพันธุ์วานรซึ่งเป็นพ่อของเขาได้ถูกอาการบาดเจ็บเมื่อครั้งอดีตคุกคามจนเสียชีวิต

เมื่อเขาตายไปก็แทบจะไม่มีผู้ใดสามารถบอกเล่าเรื่องราวของเผ่าพันธุ์วานรศักดิ์สิทธิ์ให้วานรน้อยทราบ เพราะมารดาของมันก็ไม่ใช่เผ่าพันธุ์วานรเช่นกัน

ในตอนนั้นแม้ว่ามันจะยังอายุน้อย แต่มันก็ยังจำคำพูดของบิดาของมันที่เล่าขานว่า จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์ราชาล้วนแล้วแต่เป็นผู้อมตะทั้งสิ้น และทุกคนล้วนดำรงอยู่มาตั้งแต่กำเนิดสวรรค์พิภพ

หลายคนตกตะลึง พ่อของวานรตัวนี้เป็นถึงจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเทียบได้กับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มิหนำซ้ำเขายังเกิดขึ้นมาตั้งแต่สวรรค์พิภพถือกำเนิด

ยุคนั้นถูกเรียกว่า "เก่าแก่ที่สุด" หากเป็นเช่นนั้นจริงจักรพรรดิวานรจะต้องมีอายุมากกว่าพันล้านปี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก?

“ดินแดนต้องห้ามโบราณ ภูเขาอมตะ ซากเทวะ(เสิ่นซู) เหมืองโบราณต้นกำเนิด สุสานเซียนศักดิ์สิทธิ์ ในตอนที่เจ้าเกิดมาเจ้าเคยได้ยินเรื่องนี้หรือไม่”

เย่ฟ่านและคนอื่นๆ เอ่ยชื่อพื้นที่ต้องห้ามทั้งเจ็ดแห่งชีวิตขึ้นมา

“ในสมัยโบราณ มีพื้นที่จำกัดชีวิตไม่มากนัก และพวกมันยังไม่มีมากมายถึงขนาดนี้...” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าว

ดินแดนต้องห้ามโบราณแห่งชีวิตและภูเขาอมตะมันไม่เคยได้ยินมาก่อน วานรศักดิ์สิทธิ์คาดการณ์ว่ามันควรจะเป็นพื้นที่ต้องห้ามที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งก่อตัวขึ้นในยุคที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์มนุษย์ปกครองโลก

ในส่วนของเหมืองโบราณต้นกำเนิดเป็นดินแดนศักสิทธิ์สูงสุดของเผ่าพันธุ์ราชาโบราณ ในสมัยนั้นมีเพียงสิ่งมีชีวิตระดับจักรพรรดิที่สามารถเข้าไปข้างในได้

วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า แม้ว่าจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์ราชาโบราณจะมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่พูดกันตามตรงหากเปรียบเทียบกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์มนุษย์พวกเขายังเป็นรองอยู่เล็กน้อย

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าภายในเหมืองโบราณต้นกำเนิดซุกซ่อนอะไรอยู่?” เจียงฮ่วยเหรินถามด้วยความหวัง

“นี่เป็นความลับของเผ่าพันธุ์ราชาโบราณ แม้แต่บิดาของข้าก็ยังเข้าไปข้างในเพียงไม่กี่ครั้ง” วานรศักดิ์สิทธิ์เสียใจ

“เจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของเผ่าวานรศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้เจ้าเป็นประมุขของเผ่าวานรศักดิ์สิทธิ์แล้ว ในอนาคตเจ้าคิดจะเข้าไปข้างในหรือไม่” หลี่เหอซุยกล่าว

“เป็นประมุขเผ่าพันธุ์แล้วอย่างไร? ในอนาคตหากข้าไม่สามารถเป็นจักรพรรดิได้สุดท้ายการเดินทางเข้าไปข้างในก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่” วานรศักดิ์สิทธิ์ส่ายหัว

“แล้วสุสานเซียนศักดิ์สิทธิ์ในทะเลทรายตะวันตกล่ะ!” จักรพรรดิดำกัดฟันพูดพึมพำ

“ว่ากันว่าเป็นหลุมฝังศพของราชาอมตะบางตน ข้าหมายถึงราชาอมตะจริงๆ พลังของพวกเขากล้าแข็งยิ่งกว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เป็นเพียงครึ่งก้าวราชาอมตะเท่านั้น

ที่นั่นเป็นสถานที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ไม่มีหญ้างอกเงย และเลือดของเขาที่ไหลนองออกไปหลายพันลี้ได้ทำลายชีวิตทั้งหมดที่อยู่โดยรอบและเปลี่ยนให้มันกลายเป็นดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิต”

จักรพรรดิโบราณทุกคนต่างบอกว่านั่นคือดินแดนต้องห้ามที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปอย่างเด็ดขาด พลังความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นจากความตายของจักรพรรดิอมตะจะทำลายพลังชีวิตทั้งหมด

บัดนี้ หลายล้านปีผ่านไปและในที่สุดความชั่วร้ายของมันก็เบาบางไปบ้าง และเป็นเหตุผลให้ยาเซียนที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้เดินทางเข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่น

และแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าตามไปเก็บยาเซียนเหล่านั้น เพราะแม้แต่ผู้อมตะที่แท้จริงก็ยังยากที่จะมีชีวิตรอดกลับมา ไม่ต้องกล่าวถึงผู้อมตะปลอมๆ ในปัจจุบันเลย

“ในส่วนของเสิ่นซูว่ากันว่ามันเป็นดินแดนที่ตกลงมาจากอีกโลกหนึ่ง…”

คำพูดของวานรศักดิ์สิทธิ์น่าตกตะลึง “ประวัติความเป็นมาของเสิ่นซูนั้นยาวนานมากและไม่สามารถสืบหาได้เลย แม้แต่จักรพรรดิของเผ่าพันธุ์ที่ดำรงมาอย่างยาวนานที่สุดก็ไม่สามารถค้นหาความจริงเรื่องนี้ได้”

“เสิ่นซูมีมานานขนาดนั้นเลยเหรอ?” แม้แต่สุนัขสีดำตัวใหญ่ก็อ้าปากค้าง

ในซากซากปรักหักพังของเหล่าทวยเทพ(ซากเทวะ)มีอาวุธเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งไม่สามารถนำอาวุธเต๋าสุดขั้วของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นำไปเปรียบเทียบได้

“ว่ากันว่ามันมีเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังอาณาจักรเซียนด้วย นี่เป็นความจริงหรือ?” เย่ฟ่านขมวดคิ้ว

ในความเห็นของเขาผู้อมตะในยุคปัจจุบันไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับผู้อมตะในยุคโบราณได้เลย

ที่สำคัญคือเหล่าเซียนโบราณมีอาณาจักรยิ่งใหญ่เป็นของตัวเองซึ่งถูกเรียกว่าอาณาจักรเซียน มันจะเป็นไปได้ด้วยหรือที่จะมีดินแดนขนาดใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วยยอดฝีมือระดับผู้อมตะที่แท้จริงมากมายถึงขนาดนั้น?

เย่ฟ่านเคยสงสัยและไม่คิดว่าผู้อมตะในตำนานเหล่านั้นจะมีอยู่จริง เพราะแม้แต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่ถูกเล่าขานในปัจจุบันก็ดูเหมือนจะไม่มีพลังแข็งแกร่งทัดเทียมกับพวกเขา

แม้ว่าเขาจะได้เห็นมังกรเก้าตัวลากโลงศพด้วยตาของตัวเองแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงซากศพของมังกรและไม่เขาไม่เคยเห็นพลังที่แท้จริงในตอนที่พวกมันยังมีชีวิตอยู่

“ข้าไม่เคยเห็นอาณาจักรเซียนด้วยตัวเอง แต่พ่อของข้าบอกว่าที่นั่นมีจริง…” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวเบาๆ

พ่อของวานรศักดิ์สิทธิ์ผู้ผ่านช่วงเวลาอันยาวนานและน่าสะพรึงกลัว เขาเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ ในตอนที่เขากำลังจะตายเขาตระหนักได้ว่ายังมีโลกอีกใบซึ่งมีสิ่งมีชีวิตอมตะนับล้าน

“ท่านอาของข้าบอกว่า พ่อของข้าเกิดในเวลาที่ไม่เหมาะสม มิฉะนั้นภาพหากเขาสามารถเดินทางเข้าสู่อาณาจักรเซียนได้ พลังของเขาคงไม่จบลงเพียงเท่านี้”

วานรศักดิ์สิทธิ์ถอนหายใจรู้สึกอ้างว้างอย่างยิ่ง เพราะในอดีตแม้แต่พ่อของเขาก็ยังไม่สามารถไปถึงอาณาจักรเซียนได้ ตัวเขาที่เกิดในสภาพแวดล้อมย่ำแย่มากยิ่งกว่าคงไม่มีทางไปถึงที่นั่นแล้ว

“มีอาณาจักรเซียนซึ่งเต็มไปด้วยผู้อมตะนับล้าน  ไม่น่าเป็นไปได้…” หลี่เหอซุยขมวดคิ้ว

"เรื่องนี้เป็นความจริงแน่นอน เพราะปู่ของข้าบอกว่าเสิ่นซูที่ยิ่งใหญ่มันต้องตกลงมาจากอาณาจักรเซียนเท่านั้น สิ่งที่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ก็คือสมบัติที่อยู่ในซากปรักหักพังนั้นไม่มีทางที่โลกของเราจะสร้างขึ้นมาได้... " อู๋จงเทียนบอกเล่าอย่างจริงจัง

“พี่ชาย อาณาจักรเซียนคืออะไร?”

เสี่ยวหนานหนานดึงที่มุมเสื้อของเย่ฟ่านด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวัง คำว่าอาณาจักรเซียนนี้ทำให้นางเกิดความรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้ง

เย่ฟ่านแตะศีรษะของนางและกล่าวว่า "มันเป็นภาพลวงตา แม้ว่าผู้คนมากมายจะเคยฝันถึงมัน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความฝันที่ไม่มีอยู่จริง"

"โอ้"

เด็กน้อยพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“ภูเขาอมตะ… ข้าฟังดูคุ้นๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่สถานที่เดียวกันกับที่พบเจ้าพูดถึง เพราะภูมิศาสตร์ของมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง” วานรศักดิ์สิทธิ์ขมวดคิ้วขณะพูดถึงสถานที่ต้องห้ามอีกแห่ง

“เจ้าลองคิดดูอีกครั้ง ภูเขาอมตะในสมัยโบราณอยู่ที่ไหน”

จักรพรรดิดำดูเหมือนจะให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ในอดีตจักรพรรดิอู๋เป่ยและจักรพรรดิผู้โหดร้ายเคยศึกษาต้นชาแห่งการรู้แจ้งก่อนจะหายตัวไป ซึ่งจักรพรรดิดำต้องการค้นหาร่องรอยนี้

“ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับภูเขาอมตะที่พวกเจ้าพูดถึงมาก่อน แต่ในอดีตจักรพรรดิอมตะในตำนานโบราณคนหนึ่งมีความเกี่ยวข้องกับภูเขาอมตะนี้”

วานรศักดิ์สิทธิ์ครุ่นคิดอยู่นานก่อนที่จะนึกถึงตัวละครที่เกือบจะเป็นภาพลวงตา และเขาไม่รู้ว่าคนคนนี้มีชีวิตอยู่จริงหรือไม่

“จักรพรรดิอมตะ...มีคนกล้าใช้นามนี้จริงๆ!?” แม้แต่สุนัขสีดำตัวใหญ่ก็ยังตกใจ

"เจ้าของคนแรกของยาเทพหงส์เพลิงได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจักรพรรดิอมตะที่แท้จริง ตามตำนานเล่าขานว่าเขาเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ หลายคนไม่เชื่อว่าเขามีตัวตนจริงๆ" วานรศักดิ์สิทธิ์ส่ายหัว

(สือฮ่าวมาแล้ว)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด