ตอนที่แล้ว730 - ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป732 - จักรพรรดิอมตะ 

731 - ซากดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิต 


731 - ซากดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิต

เมื่อพวกเขาเดินผ่านเนินเขาห่างทะเลสาบที่งดงาม หลี่เหอซุยก็กล่าวด้วยความเสียดายว่า

“เจ้าไม่อยากไปที่นั่นจริงๆหรือ ควรรู้ว่าแม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์มากมายก็ยังใฝ่ฝันว่าจะมีโอกาสได้เป็นศิษย์ของสำนักฉีซื่อ”

“คนรุ่นใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดในห้าภูมิภาคมารวมตัวกัน แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว ข้าอยากให้เจ้าทบทวนมันอีกครั้ง” อู๋จงเทียนกล่าว

เย่ฟ่านยิ้มและส่ายหัวและไม่พูดอะไร

“เจ้าไม่คิดหรือว่าเด็กน้อยผังป๋อจะรอเจ้าอยู่ที่นั่น” หลี่เหอซุยกล่าว

“ต้องขอบคุณจักรพรรดิคนนี้ที่มอบโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้เขา” สุนัขสีดำตัวใหญ่ไม่รู้สึกละอายใจอะไร

 

แต่ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา หลี่เหอซุย เจียงฮ่วยเหรินและเย่ฟ่านก็ทุบตีมันด้วยความโกรธ

“พี่วานรแล้วท่านล่ะ เจ้าจะไปที่สำนักฉีซื่อหรือไม่” เจียงฮ่วยเหรินต้องการหาพรรคพวกมาช่วยโน้มน้าว

“ข้าไม่มีเวลา ข้าจะไปที่เสิ่นซู(ซากเทวะ)เพื่อค้นหาต้นท้ออมตะ บางทีข้าจะตายอยู่ที่นั่นก็ได้”

วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยชาราวกับเห็นความตายเป็นการกลับคืนสู่มาตุภูมิ

“พี่วานรนี่มันอันตรายเกินไปแล้ว” เย่ฟ่านแนะนำและกล่าวว่า

“ถ้าเจ้าต้องการช่วยชีวิตผู้คน ข้าสามารถให้ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แก่เจ้าได้”

เมื่อเขาไม่เห็นใครในบริเวณนี้แล้ว เย่ฟ่านก็หยิบผลไม้สีทองออกมา

“ยาเซียนของเผ่าพันธุ์หนอนไหมสวรรค์”

วานรศักดิ์สิทธิ์ตกตะลึง และดวงตาสีทองของมันก็ส่องสว่างสดใส

“เจ้ารู้จักมัน” เย่ฟ่านตกตะลึงเล็กน้อย

“แน่นอน”

ดวงตาของวานรศักดิ์สิทธิ์เป็นประกายด้วยแสงสีทอง

ยาเซียนของตระกูลไหมสวรรค์เป็นยาระดับผู้อมตะที่แท้จริง มันต้องใช้เวลาหลายแสนปีในการเติบโต ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมยาเซียนแต่ละชนิดถึงไม่เหมือนกันเลยแม้แต่ต้นเดียว

“เป็นไปได้ไหมที่ตระกูลราชาโบราณล้วนมียาเซียนประจำตระกูลของตัวเอง?” เย่ฟ่านถาม

วานรศักดิ์สิทธิ์พยักหน้าและกล่าวว่า

“ก่อนที่ยุคโบราณจะเริ่มต้นขึ้น ยาเซียนเหล่านั้นมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่สุดท้ายเมื่อมนุษย์ให้กำเนิดจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นมายาเซียนเหล่านี้ก็เปลี่ยนมือ เมื่อเกิดภัยพิบัติพวกมันจึงหลบหนีไปยังเขตต้องห้ามแห่งชีวิต”

"ยาเซียนของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นคืออะไร ดูเหมือนว่ามันจะยังอยู่ในภูเขาสีม่วงและยังไม่ได้จะไปไหน" เย่ฟ่านถามจักรพรรดิดำด้วยความสงสัย

“โอสถเทพหงส์เพลิงอมตะ” จักรพรรดิดำคายคำเหล่านี้โดยไม่รู้ตัวจากนั้นก็ใช้เท้าหน้าอุดปากของตัวเองทันที

“เจ้าหมาตัวนี้รู้มากจริงๆ...” หลี่เหอซุยพึมพำ

“ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรที่มันไม่รู้เลย” เจียงฮ่วยเหรินกล่าว

“ที่แท้ก็เป็นยาชนิดนั้นนั่นเอง ว่ากันว่ามันคือหนึ่งในสามยาเซียนที่ดีที่สุดในโลก” แม้แต่วานรศักดิ์สิทธิ์ก็ยังตกใจ ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความกระตือรือร้น

“ข้ารู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเจ้าลิงตัวนี้ก็ไม่ใช่คนดีเช่นกัน…” จักรพรรดิดำพึมพำอย่างไม่พอใจ

“ยาเทพหงส์เพลิงพิเศษอย่างไร?” เย่ฟ่านถาม

"แน่นอน มันสามารถทำให้มนุษย์เกิดใหม่และงอกแขนขาออกขึ้นมาใหม่ได้ คุณสมบัติของมันยิ่งใหญ่ไม่สามารถนำยายืดอายุชนิดอื่นมาเปรียบเทียบ"

วานรศักดิ์สิทธิ์ละเลยการโต้ตอบกับจักรพรรดิดำและอธิบายด้วยความตื่นเต้น

“ในเผ่าพันธุ์ของเจ้ายังมีพี่น้องคนอื่นหรือไม่” จักรพรรดิดำกัดฟันถามในสิ่งที่อยู่ในใจของมันมาตลอด

“ไม่ เมื่อภัยพิบัติมาถึง ดูเหมือนจะมีข้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิต” วานรศักดิ์สิทธิ์ถอนหายใจ

ในสมัยโบราณวานรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มีอยู่เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น แต่สายเลือดของพวกมันแข็งแกร่งมาก และพวกมันสืบทอดเผ่าพันธุ์ราชาของตัวเองโดยการแต่งงานกับสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่น

“ราชาโบราณกำลังจะฟื้นคืนชีพ ข้าต้องนำต้นท้อโบราณกลับมาให้เขา ไม่เช่นนั้นมันอาจจะตกไปเป็นของเผ่าพันธุ์ราชาคนอื่น”

วานรศักดิ์สิทธิ์พึมพำกับตัวเอง

"เจ้ามั่นใจหรือว่ามันจะติดตามเจ้าไป" เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ต่างตกตะลึง

“มันต้องติดตามข้ามาอย่างแน่นอน เพราะว่าในอดีตมันเคยเป็นของบิดาข้า” วานรศักดิ์สิทธิ์พยักหน้า

แต่เขายังอธิบายด้วยว่าเผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพ์ไม่ได้โหดร้ายไปเสียหมด การฆ่าผู้บริสุทธิ์นั้นกระทำโดยชนกลุ่มน้อย และในอดีตพวกเขาก็อยู่ร่วมกับมนุษย์มานานแล้ว

เพียงแต่ในยุคนั้นมนุษย์ไม่ได้เป็นภัยคุกคามเหมือนเช่นยุคที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ถือกำเนิดขึ้น

“ในสมัยโบราณยังมีเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ด้วย แต่พวกเขาล้วนเป็นคนอ่อนแอทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งมีชีวิตอมตะแม้แต่คนเดียว” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวข้อความดังกล่าว

“อะไรนะ เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเราจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอมตะเลย…”

หลายคนตกตะลึง

“พี่วานรเกิดอะไรขึ้นในยุคบรรพกาล เหตุใดผู้คนจึงเล่าลือว่าโลกเคยถูกทำลายไปครั้งหนึ่งแล้ว?”

“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับสถานที่ต้องห้ามของชีวิต เช่นเหมืองโบราณต้นกำเนิด เสิ่นซู ภูเขาอมตะ ?”

  

...

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวานรศักดิ์สิทธิ์เป็นซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิต และเมื่อหลายคนคิดถึงปัญหาเหล่านี้ พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะค้นหาคำตอบ

“เผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคโบราณอันยิ่งใหญ่นั้นลึกลับมาก ในตอนนั้นพวกเขายังมีจำนวนน้อยและไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับเผ่าพันธุ์อื่น แต่ถึงยังไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอมตะแต่โดยเฉลี่ยแล้วพวกเขาก็แข็งแกร่งมาก”

วานรศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนจะติดอยู่ในความทรงจำอันยาวนาน และเขาพูดช้าๆ เล่าความหลังในสมัยโบราณให้ทุกคนฟังด้วยความกระตือรือร้น

ในสมัยโบราณ เผ่าพันธุ์มนุษย์มียอดฝีมือระดับครึ่งเซียนจำนวนมากมาย แม้ว่าพวกเขาจะไปไม่ถึงระดับสิ่งมีชีวิตอมตะ แต่ครึ่งเซียนของพวกเขาก็สามารถต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอมตะเผ่าพันธุ์อื่นโดยไม่เป็นรอง

การปรากฏตัวของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นทำให้ทุกเผ่าพันธุ์ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก

ตอนแรก เผ่าพันธุ์อื่นตกใจเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์มากมายโผล่ขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่ทราบ

แต่ภายหลังพวกเขาได้เรียนรู้ว่าเผ่าพันธุ์นี้อ่อนแออย่างยิ่งและค่อยๆโล่งใจในที่สุด เผ่าพันธุ์โบราณบางเผ่าโกรธก็มีความโกรธเคืองกับมนุษย์อยู่มากและพวกเขาต้องการทำลายมนุษย์ทั้งหมด

แต่สิ่งมีชีวิตราชาไม่ใช่คนเลวทุกคนและพวกเขาก็รู้ถูกและผิด ซึ่งได้มีสิ่งมีชีวิตระดับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่มากมายได้ปรากฏตัวออกมาปกป้องมนุษย์

จากนั้นหลายปีผ่านไปโลกย่อมหลีกเลี่ยงการต่อสู้ของเผ่าพันธุ์ต่างๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีส่วนเกี่ยวข้อง และเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ไม่มีข้อยกเว้น

แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนน้อยและอ่อนแอ แต่ก็มีศักยภาพในการเติบโตอย่างไม่รู้จบ ในขณะเดียวกันการจะเป็นผู้สูงสุดของพวกเขาก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่ร้อยปีเท่านั้น

เมื่อมาถึงตอนนี้การดำรงอยู่ของมนุษย์ก็ทำให้สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ราชามากมายเริ่มเกิดความกังวลใจ บางเผ่าพันธุ์ถึงขนาดที่เริ่มลงมติให้กวาดล้างมนุษย์ออกไปจากโลก

"เจ้าช่วยเจาะจงมากกว่านี้ได้หรือไม่ ในเมื่อมนุษย์อ่อนแอแบบนั้นแล้วพวกเขาเริ่มการฝึกฝนได้อย่างไร?" อู๋จงเทียนถาม

"ในตอนที่เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ของโลก ข้ายังเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่ง เจ้าคิดว่าเด็กน้อยเช่นข้าจะสนใจความเป็นความตายของเผ่าพันธุ์อื่นหรือ" วานรศักดิ์สิทธิ์ถอนหายใจ

เมื่อภัยพิบัติมาถึงเขาก็ถูกปิดผนึกอย่างลึกลับ และต้องใช้เวลาหลายล้านปีในการหลับไหล

"ต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นลึกลับ บรรพบุรุษของข้าคาดคำนวณว่าพวกเขาอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากต่างโลก..."

วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวในสิ่งที่เขารู้ออกมาทั้งหมด

"การฝึกฝนของพวกเขานั้นเป็นเส้นทางที่ล้าสมัยมากที่สุดในยุคนั้น ในตอนแรกเผ่าพันธุ์ต่างๆล้วนถือเป็นเรื่องขบขันเพราะเส้นทางเหล่านี้ไม่มีใครฝึกฝนมานานแล้วเนื่องจากมันขาดประสิทธิภาพมากเกินไป...

การฝึกฝนศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นจากวิถีโคจรของดวงดาวนั้นไม่ว่าผู้ใดก็ทำได้ แต่ที่น่ากลัวกลับเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกฎแห่งสวรรค์และพิภพรวมทั้งการนำสิ่งเหล่านี้มาสร้างเป็นเขตแดนของตัวเอง”

“เข้าใจแล้ว...” หลี่เหอซุยถอนหายใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด