617 - ความลับของคุก
1927 - ความลับของคุก
น่าเสียดายที่สิ่งที่รอนายพลสงครามอยู่มีเพียงเมฆดำ เท้าของสือฮ่าวบดขยี้ลงบนร่างกายของเขาเริ่มค้นหาทั้งร่างกายของเขาและยึดทุกสิ่งที่มีค่า
ในท้ายที่สุดนายพลสงครามอยากจะร้องไห้
เกราะทั้งหมดบนตัวเขาถูกถอดออกลิงปีศาจที่ดุร้ายบอกว่าเขาต้องการศึกษาดูว่าสัญลักษณ์ของอาณาจักรเซียนและโลกนี้ว่าแตกต่างกันหรือไม่
สือฮ่าวก้มศีรษะลงพร้อมกับใช้นิ้วของเขาทะลวงเข้าใส่หน้าผากของนายพลสงคราม
“ไม่ทราบว่ามันเป็นสายพันธุ์อะไรกันแน่…” สือฮ่าวพึมพำ
เส้นขนทุกเส้นของทุกนายพลสงครามตั้งตรงด้วยความหวาดกลัว คราวนี้เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปเขากลายเป็นคนอ่อนแอในทันที
เขารีบตะโกนออกมาว่าเขาคือมนุษย์
“มารดาของข้าเป็นมนุษย์!”
เมื่อได้ยินคำพูดที่เร่งรีบเหล่านี้นอกเหนือจากใบหน้าของสือฮ่าวที่มืดลงแล้ว มังกรแดงและผู้อาวุโสทั้งสองต่างก็หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
“ท่านอาจารย์ชื่อเสียงของท่านกระจายไปทั่วแล้ว! แน่นอนว่าคนผู้นี้คงทราบจากทูตของอาณาจักรเซียนว่าท่านจะกินสิ่งมีชีวิตทุกอย่างนอกจากมนุษย์!”
“ฮ่าฮ่า…” ท่านปู่นกคำรามพร้อมกับเสียงหัวเราะ
“เจ้าเป็นมนุษย์จริงๆเหรอ?” สือฮ่าวไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้โดยจ้องมองไปที่นายพลสงคราม
“ข้ามีสายเลือดของเผ่าพันธุ์มนุษย์หนึ่งในสี่จริงๆ!” นายพลสงครามเริ่มตื่นตระหนก
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะฆ่าเจ้าแล้วฝังไว้ตรงนี้!” สือฮ่าวกล่าว
“ไม่! ข้าจะบอกความลับบางอย่างเจ้าฆ่าข้าไม่ได้!” นายพลสงครามกล่าว
เขาไม่เสียเวลาใดๆโดยรีบบอกกับสือฮ่าวว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เขาลงมาอาณาจักรว่างเปล่าคืออะไร
“เข้ามาค้นหาคุกที่อยู่ลึกที่สุดของอาณาจักรแห่งความว่างเปล่า!” เขาเป็นคนตรงไปตรงมามากโดยระบุความจริงอย่างรวดเร็ว
เบื้องหลังนายพลสงครามคือราชาหนุ่มคนนั้นซึ่งเป็นทายาทของสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมากที่สุดของอาณาจักรเซียน
ราชาหนุ่มคนนั้นได้รู้ความลับมากมายจากตระกูลโดยรู้ว่าอาณาจักรแห่งความว่างเปล่ามีบางอย่างที่น่ากลัว เขาจึงพยายามส่งคนมาที่นี่
“เขารู้อะไรบ้าง” ใบหน้าของสือฮ่าวโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด
“คุกที่ขังสิ่งมีชีวิตเลวทราม!” นายพลสงครามตอบ
“เขาต้องการอะไร”
“เขาจะใช้พวกมันเพื่อเติมเต็มเส้นทางที่ไม่มีใครเทียบได้” นายพลสงครามคนนี้รู้มากกว่าอี้ไห่และคนอื่นๆเล็กน้อย แต่ก็มีเพียงเท่านี้
ข้อมูลนี้น่าตกใจอย่างยิ่ง
ตามสิ่งที่เขาพูดอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าได้กักขังสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายที่ไม่อาจจินตนาการได้ซึ่งยากที่จะบอกได้ว่าพวกเขามาจากยุคไหน
สิ่งมีชีวิตพวกนี้มีวิธีการบ่มเพาะตัวเองที่แข็งแกร่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์!
เด็กหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นแม้จะไม่ได้ถือว่าแข็งแกร่งมากที่สุดในบุคคลรุ่นเดียวกัน แต่ก็เป็นเพราะพวกเขายังไม่เคยต่อสู้กันอย่างแท้จริงเท่านั้น
สิ่งที่เขาใฝ่หาคือหนทางแห่งการก้าวข้ามความปรารถนาที่จะเหนือกว่าบรรพบุรุษของเขา
หลังจากกลายเป็นทายาทผู้ปกครองที่แท้จริงของตระกูล เขาได้หลอมรวมญาณวิเศษของตระกูลต่างๆเข้าด้วยกัน
ในชีวิตของเขามีเพียงเรื่องนี้อย่างเดียวเท่านั้นที่สำคัญ
เมื่อเขาได้ยินว่ามีวิธีการบ่มเพาะบางอย่างซึ่งถูกปิดบังไว้ในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะมีความปรารถนาต่อมัน
เขาต้องการที่จะรวมพวกมันเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นเส้นทางบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเหนือกว่าบรรพบุรุษที่เป็นราชามาตะ
เขาไม่ได้ตั้งเป้าที่จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นแต่เขาต้องการแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าราชาผู้ปกครองอาณาจักรเซียนในเวลานี้
เมื่อสือฮ่าวได้ยินสิ่งนี้คิ้วของเขาก็ขมวด คู่ต่อสู้คนนี้แม้ว่าเขาจะยังไม่เคยเห็นแต่คาดว่าอีกฝ่ายคงแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ถ้าพวกเขาต่อสู้กันจริงๆอาจเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากอย่างแน่นอน!
“ การมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายที่เหนือกว่าคนรุ่นของตัวเองสิ่งนี้ข้าเห็นด้วยบางทีมันอาจจะทำได้ อย่างไรก็ตามเพื่อต้องการที่จะเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดกลายเป็นอันดับหนึ่งของอาณาจักรเซียนข้าได้แต่หัวเราะแล้ว
หลังจากผ่านไปหลายหมื่นยุคสมัยสิ่งมีชีวิตตัวนั้นยังคงดำรงอยู่ไม่เคยมีใครสามารถก้าวข้ามเขาไปได้ แล้วเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่งจะทำได้อย่างนั้นหรือ?” ท่านปู่นกลาว
“ ข้ารู้ดีว่าแม้จะผ่านไปหลายหมื่นยุคสมัยจะมีการพัฒนาวิธีบ่มเพาะขึ้นมากมาย
แต่การที่สิ่งมีชีวิตตนนั้นยังคงเป็นผู้ปกครองของอาณาจักรเซียนย่อมแสดงให้เห็นว่าวิธีการบ่มเพาะของเขานั้นถือว่ายอดเยี่ยมมากที่สุดแล้ว ความจริงเรื่องนี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้” ผู้อาวุโสเหรียญเงินเสริม
นายพลสงครามพยักหน้า แม้ว่าเขาจะตกเป็นเชลยในตอนนี้แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่สองคนนี้พูดนั้นมีเหตุผล
ผู้ปกครองสูงสุดของอาณาจักรเซียนนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ไม่ทราบ แต่การที่เขายังคงปกครองอาณาจักรเซียนที่ยิ่งใหญ่มาหลายหมื่นยุคสมัยนั่นย่อมสามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขามากพอแล้ว
“บรรพบุรุษของเด็กคนนั้นรู้เรื่องความทะเยอทะยานของเขาหรือไม่?” สือฮ่าวถาม
"พวกเขาไม่รู้!" นายพลสงครามตอบอย่างชัดเจน
เป็นเพราะผู้รับมรดกของตระกูลนั้นเตือนเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่าให้ข้อมูลนี้รั่วไหลออกไปเขาจึงไม่สามารถบอกผู้อาวุโสของตระกูลได้
“การปล่อยให้เขาก่อปัญหาซ้ำซ้อนย่อมไม่ใช่เรื่องดี หลังจากที่เจ้ากลับไปเจ้าก็แจ้งให้กับผู้อาวุโสตระกูลของเขาทราบซะ หากให้พวกเขาตรวจพบในภายหลังเจ้าจะตายอย่างไร้ที่กลบฝังเรื่องนี้เจ้าน่าจะรู้ดี!” สือฮ่าวกล่าว
สิ่งที่เขาพูดไม่ใช่คำพูดลอยๆเรื่องนี้มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่มากที่สุดของอาณาจักรเซียนเท่านั้นที่รู้ หากผู้ใดทราบเรื่องนี้จะต้องถูกสังหารอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ใบหน้าของนายพลสงครามเปลี่ยนเป็นซีดขาว ในความเป็นจริงเขาก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองกำลังละเมิดข้อห้ามร้ายแรง
จากนั้นท่านปู่นกก็ได้ร่างจดหมายเป็นการส่วนตัวโดยให้เขานำกลับไปให้ผู้อาวุโสของมหาอำนาจเหล่านั้น
“ถ้าเจ้าหนูนั่นต้องการก่อปัญหาอีกก็ให้เขามาด้วยตัวเอง ข้ารับรองได้ว่าจะโยนเขาเข้าคุกไม่ให้ได้กลับออกไปอีก” สือฮ่าวกล่าว
นายพลสงครามจากไปด้วยความไม่พอใจ เขาไม่เคยเผชิญกับความพ่ายแพ้แบบนี้มาตลอดชีวิต
ประสบการณ์นี้ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าทั้งชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำมืดมนอย่างหาที่เปรียบมิได้
“ท่านอาจารย์ท่านจะทดสอบบางอย่างมิใช่หรือ” มังกรแดงเตือน
“เจ้ากลับไปก่อน” สือฮ่าวกล่าว จากนั้นเขาก็หันกลับมาบอกผู้อาวุโสทั้งสองว่าตอนนี้เขากำลังจะมุ่งหน้าเข้าสู่คุก
ผู้เฒ่าทั้งสองไม่เห็นด้วยในตอนแรก สถานที่แห่งนั้นเป็นพื้นที่ต้องห้ามที่ไม่สามารถเข้าไปได้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่สือฮ่าวพูดยังคงสมเหตุสมผล มีบางคนในกลุ่มผู้อาวุโสของอาณาจักรเซียนที่มีความรู้สึกไม่มั่นคงพวกเขาจะลงมาไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นพวกเขาต้องสำรวจมันให้ละเอียดถี่ถ้วน
หลังจากที่พวกเขาเข้าใจสถานที่แห่งนั้นทุกซอกทุกมุมแล้วมันจะทำให้พวกเขาสามารถเตรียมการรับมือได้รัดกุมมากขึ้น
หลายชั่วยามต่อมาสือฮ่าวปรากฏตัวในพื้นที่ปิดผนึกนี้ ห้องโถงสีดำเงียบมาก รูปปั้นหินทั้งหมดยังคงมีโซ่ผูกมัดพวกมันอย่างแน่นหนา
ในขณะเดียวกันด้านในมีแท่นบูชาโบราณที่มีตราประทับวางอยู่บนแท่นบูชาซึ่งไม่ทราบว่ามีมาตั้งแต่ยุคใด
คราวนี้สือฮ่าวเผชิญหน้ากับหนึ่งในรูปปั้นหินและลงมืออย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นรูปปั้นหินก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือหินคว้าเข้าหาตัวเขา
"ฆ่า!"
สือฮ่าวคำรามออกมา วิชากระบี่หญ้าคาปะทุออกมาโดยไม่มีการยับยั้งชั่งใจใดๆ
ทันใดนั้นสวรรค์และปฐพีก็พลิกกลับปราณกระบี่สะเทือนสถานที่แห่งนี้จนแทบจะพังทลาย ใบหน้าของผู้อาวุโสเหรียญเงินและท่านปู่นกเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
พวกเขารู้สึกว่าสือฮ่าวไม่ได้ต้องการเข้ามาที่นี่ด้วยเรื่องไร้สาระ แต่เขาต้องการขัดเกลาวิชาดาบนี้ให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด
การต่อสู้ครั้งนี้สั่นสะเทือนโลก