เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 209
ตอนที่ 209
ไม่นานหลังจากนั้น ก็ปรากฏแสงส่องออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิทของหลินซวน อักขระมากมายปรากฏขึ้นตามมาด้วยเนตรสวรรค์กลางหน้าผากของเขาที่เผยตัว ลำแสงนั้นส่องสว่างบริสุทธิ์ราวกับแสนจันทรา และอักขระทั้งหลายก็เริ่มห่อหุ้มร่างของเขา
ยิ่งกว่านั้น ในยามที่การชำระล้างกายเริ่มต้น หลินซวนสัมผัสได้ถึงความล้ำลึกบางอย่างที่ปรากฏขึ้น ทำให้เขาบ่มเพาะมันไปพร้อมกันในขณะที่การชำระล้างดำเนินไป
ในหม้อนั้น นอกเหนือไปจากสมุนไพรล้ำค่าแล้ว ยังมีสินแร่และแมลงประหลาดลอยปนอยู่ ยกตัวอย่างเช่น ศิลาสีเขียวปนทอง ตะขาบบินนภาม่วง และจักจั่นสีชาด....
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มีค่าที่สุดในเหล่าทรัพยากรทั้งหลายยังคงเป็นราชาแมลง ในระหว่างเส้นทางที่ผ่านมา หลินซวนสามารถจับราชาแมลงได้ทั้งหมดเก้าตัวด้วยกัน พวกมันทั้งหมดมีสรรพคุณทางยาที่ทรงอำนาจและเป็นสมบัติที่สุดยอดยิ่ง
ด้านในหม้อนั้น กลิ่นหอมอบอวลเข้มข้นไปทั่ว กระทั่งปราณวิญญาณฟ้าดินยังควบแน่นกลั่นตัวเป็นหมอก ประกายแสงนับไม่ถ้วนเจิดจ้า ส่งผลให้ถ้ำเล็กๆ แห่งนี้ได้รับผลกระทบจนดูราวกับเป็นสรวงสวรรค์
หากมีใครสักคนสามารถสัมผัสได้ถึงสถานที่แห่งนี้ พวกเขาย่อมต้องคิดว่ามันคือสมบัติชนิดหนึ่ง และเร่งรีบเข้ามาค้นหาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี หลินซวนได้เตรียมความพร้อมและกางค่ายกลป้องกันไปภายนอกเป็นจำนวนมาก รวมถึงค่ายกลปิดผนึกปกปิดตัวตนอีกด้วย จึงไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็นที่แห่งนี้ได้นั่นเอง
บัดนี้ หลินซวนตัวน้อยที่นั่งอยู่ท่ามกลางของเหลว ร่างของเขาเริ่มโปร่งใส กายเซียนแห่งเต๋าดูดซับปราณวิญญาณบริสุทธิ์ราวกับเป็นท้องทะเลที่รองรับมวลน้ำจากมหานที
ร่างของเขาปลดปล่อยลำแสงสีแดงออกมา ราวกับว่าเขากำลังถูกปรุงเป็นอาหาร แต่อันที่จริงแล้วกลับมิได้เป็นเช่นนั้น เพียงแค่ปราณโลหิตในร่างของเขากำลังไหลวนอย่างรุนแรงเพื่อชำระล้างทุกส่วนของร่างกาย
นอกจากนั้นแล้วเขายังใช้พลังดูดกลืนเพื่อดูดซับพลังงานต่างๆ ในการฟื้นฟูร่างกายไปพร้อมกัน
กายเซียนแห่งเต๋าทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มกำลัง ในร่างเล็กๆ นั้น สามารถมองเห็นกระดูกที่งดงามราวกับถูกสลักเสลาขึ้นมาจากหยกชั้นเลิศที่กำลังเปล่งประกายสีม่วงส่องสว่างระยิบระยับ กระทั่งเสียงคล้ายท้องฟ้าคำรามยังดังออกมาจากโครงกระดูกของเขาอยู่ตลอดเวลา!
หลินซวนยังคงใช้โอสถชั้นยอดเหล่านี้ในการชำระล้างและปรับปรุงร่างกายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกระดูก กล้ามเนื้อ และเส้นลมปราณ เพื่อผลักดันให้พวกมันก้าวข้ามขีดจำกัด!
ในเวลาต่อมา เขาก็ระเบิดพลังทั้งหมด
ด้านข้างของหลินซวน แสงสีเงินยวงคล้ายปรอทเหลวปรากฏขึ้น รูปแบบอักขระมากมายแฝงอยู่ในแสงนั้น เหมือนเช่นระฆังแห่งเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์ กลิ่นอายของพลังวิญญาณกำลังเดือดพล่าน และปราณพิศวงปรากฏตัวอย่างไร้ที่มา!
จากนั้น ส่วนที่ไม่สมบูรณ์ทั้งหมดในร่างกายของทารกน้อยก็ถูกฟื้นฟู ร่างกายของเขาถูกชำระล้างอย่างหมดจด!
แกร๊ก!
ในเวลาเดียวกัน ร่างของเขาก็เริ่มสั่นสะท้าน เป็นหลังจากที่ได้พัฒนาและชำระล้างที่เกิดนั้น ร่างของเขาก็สะสมพลังงานเอาไว้เป็นจำนวนมหาศาลและกำลังจะปลดปล่อยออกมา!
ในชั่วพริบตา หลินซวนสามารถบรรลุระดับชั้นลมปราณขึ้นไปรวดเดียวถึงสี่ขั้น!
ประกายแสงมากล้นล้อมรอบกาย ปราณวิญญาณมากล้นราวกับสายน้ำในมหาสมุทร และอักขระนับไม่ถ้วนกำลังเต้นระริกรอบตัวเขา สภาพแวดล้อมต่างกำลังปลดปล่อยแสงเจิดจ้า
และหลินซวนก็บรรลุชั้นลมปราณโดยพลันอย่างง่ายดาย
ทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงความสมบูรณ์แบบที่ปรากฏขึ้นรอบตัว ระดับการบ่มเพาะของหลินซวนมาถึงจุดสูงสุดของแดนปราณสร้างรากฐาน และหากข่าวเช่นนี้แพร่ออกไป โลกทั้งใบย่อมต้องตกตะลึง!
ทว่า นั่นยังมิใช่จุดสิ้นสุด เขายังกระทำบางที่ที่น่าตกใจยิ่งกว่า!
เขาต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการเลื่อนระดับของแดนปราณ!
“เปิดทางให้แก่ข้า!”
อักขระรอบด้านเริ่มลุกไหม้ราวกับน้ำมันที่อยู่ใกล้กองเพลิง มันเผาผลาญอย่างรุนแรง เป็นสัญญาณบอกว่าหลินซวนกำลังชำระล้างร่างกายอีกครั้ง!
หลังจากอักขระทั้งหมดเผาไหม้ กลิ่นอายโบราณหลั่งไหลเข้ามาในร่างของหลินซวน และผสานเข้ากับกระดูก กล้ามเนื้อ รวมถึงโลหิตของเขา!
เขาถึงขั้นหยุดการป้องกันทั้งหมดที่มีและยินยอมให้พลังของเหล่าโอสถทั้งหลายที่มากล้นทะลักเข้าไปยังทุกส่วนของร่างกาย!
หากมีผู้ใดมาพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ พวกเขาย่อมต้องมีสีหน้าโง่งมและคิดว่าหลินซวนเสียสติไปแล้ว เขาต้องกำลังฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน!
ในตอนนั้น เด็กน้อยก็เริ่มท่องคำของอักขระลับออกมาพร้อมหมุนวนปราณม่วงในร่าง
อันที่จริงแล้ว เขากำลังขบคิดว่าหลังจากการบรรลุขั้นลมปราณในวันนี้ เขาจะกระทำสิ่งใดต่อไปดี
ผู้พิทักษ์ต้นหลิวเตือนเขาว่าในแดนลึกลับนั้นมีอันตรายใหญ่หลวงซุกซ่อนอยู่ ด้วยระดับการบ่มเพาะเพียงแดนสร้างรากฐานย่อมไม่มากพอให้เขาสามารถจะผ่านมันไปได้ หากว่าเขามิตัดผ่านชั้นลมปราณ แล้วเขาจะจัดการกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างไรกัน?
ไม่เพียงแค่ตัวเขาเองเท่านั้นที่กระทำเช่นนี้ เขาเชื่อว่าเสี่ยวหวงก็ย่อมจะกระทำเช่นเดียวกัน
ของเหลวในหม้อสำริดเดือดพล่าน และเปลวไฟสีม่วงด้านล่างโหมกระพืออย่างรุนแรง ด้านในนั้น หลินซวนทำลายการป้องกันทั้งหมดและเผาอักขระแห่งเต๋ารอบกายเพื่อพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!
กลุ่มก้อนของเปลวเพลิงปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันด้านในหม้อใบ้นั้น เขาใช้ร่างของตนเองต่างเชื้อเพลิงในการชำระล้าง ต่อให้เป็นกายเซียนแห่งเต๋า ก็ย่อมไม่สามารถจะทานทนการกระทำเช่นนี้ได้ เพราะเหตุนี้ ทรัพยากรทั้งหมดในหม้อจึงถูกเผาไหม้ไปพร้อมกัน!
ไม่นานหลังจากนั้น ร่างกายทั้งหมดของหลินซวนก็เริ่มหลอมละลาย บัดนี้เขาดูเหมือนเป็นหยกที่กำลังแตกหัก!
กระดูกหลอมเหลว เส้นลมปราณถูกทำลาย และร่างกายปรากฏบาดแผลฉกรรจ์ โลหิตและปราณในร่างเหือดแห้ง กระทั่งพลังชีวิตจังเริ่มสูญสลายหายไป!
ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว พลังชีวิตของหลินซวนมิได้จางหายไปทั้งหมด หากสังเกตให้ดี จะสามารถมองเห็นวงแหวนแห่งแสงขนาดเล็กที่กำลังปรากฏขึ้นล้อมรอบจุดตันเถียนของเขาไว้!
“ฮ่า!!”
หลินซวนตะโกนออกมาและเตรียมพร้อมจะเสี่ยงชีวิต!
กล่าวตามตรง พรสวรรค์ของหลินซวนนั้นทรงพลังยิ่งนัก และเขายังเรียนรู้ทักษะศักดิ์สิทธิ์มามากมาย นอกจากการถูกโจมตีในการต่อสู้แล้ว มันย่อมเป็นไปมิได้ที่จะทำให้เขาพบเจอกับสถานการณ์อันตรายถึงตาย!
แม้ว่าสิ่งนี้จะนับเป็นเรื่องดียิ่ง แต่มันก็เป็นการขัดขวางเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่เช่นกัน มันทำให้หลินซวนมิได้มีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองในระหว่างช่วงเวลาที่ความตายเฉียดใกล้เข้ามา!
ในเมื่อไม่มีผู้ใดสามารถผลักดันเขาจนถึงสถานการณ์เช่นนั้นได้ เขาจะต้องทำเช่นใด? ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจจะบีบบังคับตนเองเช่นนี้!
หลินซวนต้องการใช้ความต้องการเอาชีวิตจนถึงขีดสุดเพื่อการตัดผ่านแดนปราณ!
ปรากฏเสียงดังลั่นของสายฟ้าเกิดขึ้น และมันมิได้เกิดขึ้นเพราะพลังอัสนีของหลินซวน แต่เป็นเพราะกระดูกส่วนที่แข็งที่สุดของสันหลังเขาถูกทำลาย!
จากนั้น กระดูกหน้าอกของเขาก็ระเบิดขึ้นกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย!
เขากระอักเลือดคำโตจนอาบย้อมสมุนไพรทั้งหลายให้กลายเป็นสีแดงก่ำ!
โลหิตที่ถูกกระอักออกมานี้เป็นสัญญาณว่าเส้นลมปราณในร่างกายขอบเขากำลังเริ่มหลอมละลาย