บทที่ 713 ใจร้อน(ตอนฟรี)
บทที่ 713 ใจร้อน
และในเวลานี้ หากผลิตภัณฑ์แรกของโรงงานผลิตยาเถิงเฟยได้ออกสู่ตลาด และพบว่ามีปัญหา มันจะต้องเป็นความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ ภาพลักษณ์ของโรงงานก็จะติดลบไปโดยปริยาย และถ้าเลวร้ายไปกว่านั้น โรงงานก็อาจจะถูกปิด เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนข้างบนทำการปกปิดโดยจงใจ
ดังนั้นจี้เฟิงจึงต้องมั่นใจว่า คังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์จะต้องไม่มีปัญหาแม้แต่เล็กน้อยก่อนที่จะออกสู่ตลาด
และถ้าคุณต้องการให้มีการรับประกันดังกล่าว คุณจะต้องใช้เวลาในการทดลองกับมันในทุกๆรูปแบบ ก่อนที่จะนำไปใช้กับคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองทางคลินิกหรือการเปรียบเทียบข้อมูล คุณต้องทำมันซ้ำแล้วซ้ำอีก และในทุกๆครั้งจะต้องทำอย่างละเอียดห้ามละเลยหรือมองข้ามอะไรไปอย่างเด็ดขาด
เพราะความจริงแล้วจี้เฟิงไม่ได้รีบร้อนที่จะปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวนี้ในตอนนี้
หลังจากที่คังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ออกสู่ตลาด ก็แทบจะคาดเดาได้เลยว่าตลาดยาลดน้ำหนักจะต้องดุเดือดอย่างแน่นอน จะต้องมีโรงพยาบาลหลายแห่งพร้อมที่จะเป็นผู้โปรโมตให้อย่างเต็มใจ และเชื่อได้เลยว่ายอดขายจะต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
ดังนั้นจี้เฟิงจึงคิดว่าการอดทนรอในครั้งนี้คุ้มค่ามาก ดังคำกล่าวที่บอกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน!
ระหว่างรอผลการทดลองทางด้านความปลอดภัยของคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ จี้เฟิงกลับมาให้ความสำคัญกับแมงมุมขาวที่แฝงตัวอยู่ในสหพันธ์มหาวิทยาลัยในฐานะอาจารย์ และตามข่าวความคืบหน้ากับเซียงหยงซาน
แม้เซียงหยงซานจะบอกว่าแมงมุมขาวในเวลานี้ไม่สามารถสร้างปัญหาใหญ่ใดๆได้อีก แต่สำหรับความคิดของจี้เฟิง แค่การมีอยู่ของผู้หญิงคนนี้ก็เป็นปัญหาแล้ว และจี้เฟิงก็ต้องการที่จะกำจัดเธอออกไปจริงๆ!
และจี้เฟิงก็รู้ดีว่า ตราบใดที่แมงมุมขาวยังลอยหน้าลอยตาอยู่แบบนี้ต่อให้ทุกอย่างดูสงบเงียบและปกติมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งผิดปกติมากขึ้นเท่านั้น
แมงมุมขาวผู้ที่มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นผู้นำของต้าเซี่ย จะต้องรอโอกาสที่เหมาะสมหรือกำลังวางแผนบางอย่าง ซึ่งนั่นไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย
แต่สิ่งที่ทำให้จี้เฟิงรู้สึกตกใจมากก็คือข่าวที่เซียวหยูซวนบอกเขา
“จี้เฟิง วันนี้อาจารย์ไป๋มาหาฉันอีกแล้ว...” เซียวหยูซวนพูดขึ้น
“เอี๊ยดดดด——!!”
จี้เฟิงที่ขับรถอยู่ จู่ๆก็เบรกอย่างกะทันหัน เขาหันหน้าไปมองเซียวหยูซวนที่นั่งอยู่เบาะหลังและพูดด้วยความตกใจว่า “หยูซวน เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“วันนี้อาจารย์ไป๋มาที่สำนักงานเพื่อมาตามหาฉัน” เซียวหยูซวนกล่าวพร้อมรอยยิ้มจางๆ “นายเป็นกังวลเหรอ?”
“ถามมาได้!”
จี้เฟิงพูดอย่างโกรธเคือง “ยัยปีศาจแมงมุมมาหาเธอถึงที่ จะไม่ให้ฉันเป็นกังวลได้เหรอ? รีบเล่ามาได้แล้วว่าหล่อนทำอะไรเธอรึเปล่า? สัมผัสได้ถึงอันตรายอีกมั้ย?”
แต่เซียวหยูซวนกลับหัวเราะคิกคัก “แปลกแฮะ พอเห็นนายวิตกกังวลแบบนี้เพราะฉัน มันกลับทำให้ฉันรู้สึกดีใจ คิกคิก~!”
หน้าผากของจี้เฟิงเต็มไปด้วยเส้นเลือดที่ปูดขึ้น เขาจ้องไปที่เซียวหยูซวนและถามอย่างหงุดหงิด “มันใช่เวลามาล้อเล่นมั้ย เธอต้องจริงจังกับเรื่องนี้มากกว่านี้นะ!”
“นายนี่ไม่รู้อะไรเล้ย สิ่งที่ผู้ชายกับผู้หญิงให้ความสำคัญ มันแตกต่างกัน...” เซียวหยูซวนกะพริบตา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เล่ยเล่ย ฉันพูดถูกมั้ย?”
“ใช่!” ถงเล่ยตอบสั้นๆและพยักหน้าอย่างจริงจัง
ทั้งสองสาวหันมองหน้ากันและยิ้มอย่างรู้ทัน
ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะถงเล่ยหรือเซียวหยูซวน พวกเธอเป็นผู้หญิงที่มีทัศนคติในเรื่องคู่ครองแบบสมัยโบราณ สำหรับพวกเธอ สามีคือช้างเท้าหน้าและเป็นเสาหลักของครอบครัว ผู้ชายเป็นใหญ่เปรียบเสมือนท้องฟ้า และพวกเธอก็อาศัยอยู่ภายใต้ท้องฟ้าและพึ่งพาผู้ชายเพื่อความอยู่รอด
ถ้าพวกเธอได้มอบหัวใจให้ใครแล้ว พวกเธอจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ
อย่างไรก็ตาม พวกเธอหวังว่าจะได้รับความสนใจจากคนรักของเธอมากขึ้น
เซียวหยูซวนกำลังถามจี้เฟิงด้วยแนวคิดนี้ และด้วยเหตุนี้เอง รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของเธอรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุข
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะนวดขมับของเขาและพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “เฮ้อ! นี่เธอยังไม่รู้ความรู้สึกของฉันที่มีต่อเธออีกเหรอ?”
“แน่นอนว่าฉันรู้ แต่ฉันอยากได้ยินจากปากนายชัดๆ” เซียวหยูซวนหัวเราะอย่างมีเสน่ห์ เธอเม้มริมฝีปากของเธอก่อนจะกล่าวว่า “อยากรู้หรือเปล่าว่าทำไมวันนี้อาจารย์ไป๋ถึงได้มาหาฉัน?”
เมื่อมองไปที่รอยยิ้มซุกซนของเซียวหยูซวน จี้เฟิงก็ใจเย็นลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ไม่ว่าหล่อนจะมาหาเธอด้วยเหตุผลอะไร ฉันก็จะไม่ปล่อยให้เธอถูกทำร้ายอย่างแน่นอน!”
“อี๊! คำพูดของนายมันน้ำเน่ามาก! นายไม่กลัวเสี่ยวอิงหัวเราะเยาะรึไง?!” ใบหน้าที่สวยงามของเซียวหยูซวนแดงเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะพูดออกมาแบบนั้นเพราะเขินอายที่เสี่ยวอิงก็อยู่ในรถด้วย แต่หัวใจของเธอก็รู้สึกถึงความหวาน
จี้เฟิงหันไปมองเสี่ยวอิงที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านข้างคนขับ และถามด้วยรอยยิ้มมุมปากว่า “เสี่ยอิง เธอจะหัวเราะเยาะพวกเราหรือเปล่า?”
เสี่ยวอิงเม้มริมฝีปากเล็กน้อยและส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ค่ะ หัวหน้าน้อย!”
“เห็นมั้ย!” จี้เฟิงยิ้มอย่างพอใจ
เซียวหยูซวนอดไม่ได้ที่จะกลอกตาและพูดขึ้นว่า “เอาล่ะๆ ฉันบอกก็ได้ อาจารย์ไป๋มาหาฉันเพราะจะชวนฉันไปช้อปปิ้งในวันหยุดสุดสัปดาห์!”
“ช้อปปิ้ง?”
จี้เฟิงขมวดคิ้วทันที “แล้วเธอตอบว่าจะไปงั้นเหรอ?”
“ถ้าไม่ตอบตกลงจะให้ตอบว่ายังไงหละ?” เซียวหยูซวนพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ผู้หญิงคนนี้วางตัวดีและพูดเก่งมาก เธอบอกว่าครั้งที่แล้วฉันไม่ยอมไปทานอาหารเย็น ซึ่งฉันเป็นอาจารย์คนเดียวในแผนกภาษาต่างประเทศที่ไม่ได้ไป เธอถามว่าฉันไม่ต้อนรับเธอหรือเปล่า... ตอนนั้นฉันไม่รู้จะตอบยังไงเลย เพราะมีอาจารย์คนอื่นๆอยู่ในสำนักงานด้วย สุดท้ายฉันเลยต้องตอบตกลงไป”
จี้เฟิงยิ้มเหยียด “ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆจริงๆ! ในกรณีนี้ เธอสามารถบอกหล่อนไปโดยตรงได้เลยนะว่ามีธุระอย่างอื่นต้องไปทำในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ถ้าหล่อนยังต้องการที่จะทำอะไรร่วมกับเธอจริงๆ ก็ให้เชิญมาที่บ้านเลยแล้วกัน ฉันก็อยากจะรู้นักว่าหล่อนจะกล้ามาหรือเปล่า!”
“ชวนมาที่บ้านเหรอ?” เซียวหยูซวนรู้สึกประหลาดใจ “ไหนนายบอกว่าเธอเป็นคนไม่ดีไง แล้วเอาคนแบบนี้มาถึงที่บ้าน ไม่เท่ากับว่าเราหาเรื่องใส่ตัวเหรอ?”
จี้เฟิงหัวเราะ “เธออาจไม่กล้ามาก็ได้นี่?”
“แต่ฉันคิดว่า... ถ้าฉันเอ่ยปากชวนไปจริงๆ มีโอกาสสูงมากที่เธอจะมา” เซียวหยูซวนพูดด้วยท่าทีลังเล “ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จงใจหรือสมองช้าจริงๆ ทีแรกฉันบอกเธอไปชัดเจนแล้วนะว่าสุดสัปดาห์นี้ฉันมีงานต้องทำ แต่เธอก็ยังคงมาพัวพันและเอาแต่คุยกับฉันราวกับเธอไม่เข้าใจว่าฉันไม่อยากจะยุ่งด้วย”
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “ถ้าเธอถูกจัดอยู่ในประเภทสมองช้า ก็เกรงว่าคนฉลาดคงเหลือไม่มากนักในโลกนี้ ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่เข้าใจนะ แต่หล่อนแสร้งทำเป็นโง่! และยิ่งหล่อนรู้ว่าเธอต้องรักษามารยาทในที่ทำงานแบบนี้ด้วย หล่อนก็ยิ่งเข้าหาเธอได้ง่ายขึ้น... หยูซวน เธอพูดถูก ถ้าเธอชวนแมงมุมขาวมาจริงๆ ฉันว่าเธอก็กล้าที่จะมา!”
“ใช่! บางทีเธออาจจะสนใจอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในบ้านเราด้วย” ถงเล่ยพูดขึ้น
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อย “และเธอก็อาจจะรอให้หยูซวนชวนให้มาที่บ้านเราอยู่เหมือนกัน... เอาหละ หยูซวน เชิญเธอมาที่บ้าน ในเมื่อมีแขกอยากจะมาบ้านเราขนาดนี้ เราก็ต้องยินดีต้อนรับกันหน่อย!”
“จะเชิญเธอมาจริงๆเหรอ?” เซียวหยูซวนรู้สึกไม่โอเค “มันจะเป็นยังไงถ้าเกิดจู่ๆเธอบ้าคลั่งขึ้นมา ก่อนหน้านี้นายเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าคนพวกนั้นมีระเบิดชีวภาพฝังอยู่ในร่างกาย แล้วถ้าเกิดเธอมาระเบิดในบ้านของเรา อย่าว่าแต่จะหลบหนีเลย รู้ตัวอีกทีคงไปยืนอยู่บนสวรรค์แล้วล่ะ!”
“ก็จริงของเธอ!”
จี้เฟิงกลอกตาและสตาร์ทรถอีกครั้ง และพูดอย่างครุ่นคิดว่า “แต่ถ้าเราไม่เข้าใกล้เธอ เราก็จะไม่รู้ซักทีว่าเป้าหมายและแผนการของเธอคืออะไร แต่การจะเข้าหาเธอก็เป็นเรื่องยากและอันตรายอีก...”
ตลอดทางที่ขับรถกลับมายังวิลล่า จี้เฟิงก็ยังไม่สามารถคิดวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมในเรื่องนี้ได้ ตอนนี้แมงมุมขาวได้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว แต่จี้เฟิงไม่ได้คาดหวังว่าการเคลื่อนไหวครั้งแรกของแมงมุมขาวคือการเข้าหาเซียวหยูซวนโดยตรงแบบนี้ มันทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เมื่อกลับมาถึงวิลล่า จี้เฟิงจอดรถในโรงรถ จากนั้นก็ต่อสายหาเซียงหยงซานโดยตรง แต่เมื่อได้ยินเสียงตอบรับอัตโนมัติว่า < “ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...” > จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “ไอ้เวรเอ๊ย ผ่านมาเดือนนึงแล้วยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย แถมตอนนี้ก็ดันมาปิดเครื่องอีก!”
จี้เฟิงไม่พอใจกับประสิทธิภาพการทำงานของเซียงหยงซานมาก แค่การตรวจสอบคนสองสามคนทำไมถึงได้ใช้เวลานานมากขนาดนี้ แล้วมาบอกว่าหน่วยข่าวกรองของกองพลปฏิบัติการพิเศษไม่ใช่พวกนั่งกินนอนกินภาษีไปฟรีๆ แต่มีฝีมือที่ยอดเยี่ยม! ขี้โม้ชัดๆ!
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้จี้เฟิงก็โทรไปหาจี้ช่าวเหลย พี่ชายคนที่สองของเขาทันที
“น้องสาม นายรีบเหรอ?” ทันทีที่รับโทรศัพท์ จี้ช่าวเหลยก็รู้ว่าจี้เฟิงจะต้องร้อนใจอยู่
จี้เฟิงขมวดคิ้วและเขาก็อดไม่ได้ที่จะบ่นว่า “พี่รอง พี่ก็รู้ว่าผมรออยู่ แต่นี่มันผ่านมาเดือนกว่าแล้ว แค่ตรวจสอบข้อมูลของคนสองสามคน ทำไมป่านนี้ถึงยังไม่ได้ข้อมูลอะไรมาเลย? .... ทางผม แมงมุมขาวเริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว ผมไม่มีอารมณ์จะมาเล่นเกมกับหล่อนหรอกนะ และถ้ายังไม่มีข่าวอะไรมา ผมจะจัดการปัญหานี้ตามวิธีของผม!”
“อย่า!” จี้ช่าวเหลยรีบพูดห้ามด้วยความเป็นกังวลทันที “น้องสาม นายอย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด มันมีคนที่เกี่ยวข้องมากเกินไป ฉันเองก็ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากมายนัก แต่เท่าที่ฉันรู้เกี่ยวกับคนที่เกี่ยวข้อง พวกเขาคือคนที่มักจะเป็นข่าว...”
จี้เฟิงสูดลมหายใจและพูดอย่างไม่พอใจ “แล้วคนพวกนั้นมาเกี่ยวอะไรกับผมหละ?!”
“ใครบอกให้นายไประเบิดคลังอาวุธของคนอื่นหละ? ถ้าพวกเขาไม่แก้แค้นนายก็คงจะแปลกแล้ว!” จี้ช่าวเหลยยิ้มอย่างบิดเบี้ยว “ตอนนี้นายอย่าเพิ่งทำอะไรนอกเหนือจากที่เราคุยกันไว้ ถ้ามีความคืบหน้า อารองของนายจะบอกนายเอง อันที่จริงอารองของนายจะไม่ให้ฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้อารองกับคุณชายใหญ่ตระกูลเซียงกำลังยุ่งอยู่ ฉันเชื่อว่าหลังจากนี้พวกเขาจะต้องบอกนายอย่างแน่นอน!”
“แล้วถ้าแมงมุมขาวทำอะไรที่มันล้ำเส้นขึ้นมาหละ?” จี้เฟิงถามด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“ถ้านายทำตามแผนที่คุยกันไว้ไม่ได้จริงๆ ก่อนอื่นนายต้องยึดถือเอาความปลอดภัยของตัวนายมาเป็นอันดับแรก แล้วถ้าแมงมุมขาวทำอะไรหรือนายรู้ว่าเธอจะทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อตัวนาย นายก็จัดการได้ตามสมควรเลย เพราะเมื่อถึงเวลานั้นจะได้ไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้” จี้ช่าวเหลยพูดอย่างจริงจัง “แต่ถ้ามีใครพูดหรือถามอะไร ก็บอกให้ชัดๆไปเลยว่าความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เข้าใจมั้ย?”
“งั้นก็ทำตามวิธีของผมไปเลยก็ได้ไม่ใช่เหรอ แล้วก็ใช้เหตุผลนี้ไป?” จี้เฟิงถาม
“น้องสาม นายช่วยรออีกหน่อยเถอะนะ ฉันเชื่อว่านายจะต้องได้ข่าวคราวในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน รออีกหน่อย!” จี้ช่าวเหลยพยายามพูดให้จี้เฟิงใจเย็น
จี้เฟิงยิ้มอย่างขมขื่นแต่แล้วเขาก็พยักหน้าและกล่าวตกลง หลังจากที่วางสายโทรศัพท์เขาก็เดินไปที่สนามหน้าบ้านและคิดไตร่ตรอง ‘แมงมุมขาว... ตามหลักเหตุผลแล้ว ถ้าเธอเป็นผู้นำของต้าเซี่ย สาขาของหวางฉาวจริงๆ และการปรากฏตัวของเธอในครั้งนี้คือการล้างแค้น เธอก็ไม่ควรที่จะทำตัวใกล้ชิดกับเซียวหยูซวนตลอดเวลา”
ในมุมมองของจี้เฟิง เนื่องจากแมงมุมขาวเคยสะกดรอยตามเขามาก่อนหน้านี้ ดังนั้นเธอก็น่าจะรู้ว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหน และถ้าเธอต้องการแก้แค้น ทำไมถึงต้องมาแสดงละครใช้วิธีซับซ้อนมากมายขนาดนี้?
‘เอ๊ะ—!’
จู่ๆจี้เฟิงก็หยุดเดินอย่างกะทันหัน และมีความคิดบางอย่างผ่านแวบเข้ามาในหัว ‘เป็นไปได้มั้ยที่แมงมุมขาวพยายามเข้าหาหยูซวน ก็เพราะต้องการจะเข้าหาฉัน แต่ไม่ได้อยากจะมาแก้แค้น?’
‘นายกำลังคิดอะไรของนาย?!’
จี้เฟิงรู้สึกว่ายิ่งเขาคิดไปเองมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งไร้สาระมากขึ้นเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะหยุดคิดเรื่องนี้ไปก่อน จนกว่าจะได้เบาะแสเพิ่มเติมจากอารองหรือเซียงหยงซาน
…จบบทที่ 713~❤️