SWO ตอนที่ 24 หรือเขาจะเป็นปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุด?
“ความเป็นไปได้อะไร?” เหอเปียวอดถามไม่ได้
“ง่ายมาก ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนใหม่ได้ฆ่าจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กแล้วนำร่างของมันไปด้วย” ผู้บัญชาการจ้าวกล่าวอย่างช้า ๆ
ทันทีที่เขากล่าวจบ ดวงตาของเหล่าปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธก็เบิกกว้าง
"เป็นไปไม่ได้!"
“เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!”
“ที่ท่านกล่าวมันไร้สาระเกินไป จระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กเป็นสัตว์อสูรระดับราชัน พลังป้องกันของมันนั้นไม่ใช่สิ่งที่มองข้ามได้ ผู้บัญชาการจ้าว แม้แต่คนที่แข็งแกร่งเช่นท่านก็ยังไม่สามารถทำร้ายมันได้แม้จะโจมตีเต็มกำลังก็ตาม”
“ใช่.. เมื่อได้ยินเสียงคำรามเราก็รีบเร่งมาที่นี่ทันที กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่เกินสามสิบวินาทีเท่านั้น ในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ ผู้บัญชาการจ้าว แม้จะเป็นท่านก็คงไม่สามารถฆ่าจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กได้!”
ทั้งหมดถกเถียงกันอย่างดุเดือด
พวกเขาที่เป็นปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธล้วนรู้ถึงความยากลำบากในการจัดการกับสัตว์อสูรระดับราชันดี
หากสามารถฆ่าได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น มนุษย์คงยึดดินแดนทั้งหมดที่สูญเสียไปกลับคืนมาได้นานแล้ว
ผู้บัญชาการจ้าวกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉย “ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงไม่สามารถทำได้เช่นนั้นได้ก็จริง แต่ถ้าเขาเป็นปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดเล่า?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธหลายสิบคนก็ตกตะลึง
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุด
พวกเขาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้มาก่อน
เหตุเพราะมันยากมากที่จะไปถึงจุดสูงสุดของระดับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธ หากแต่เป็นเพียงระดับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูง ด้วยทรัพยากร และความสามารถที่มากพอ การจะทะลวงไปถึงระดับนั้นก็ไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝัน แต่ที่ว่ามาใช้ไม่ได้กับขั้นสูงสุด
เพราะการจะไปถึงระดับนั้นได้จะต้องมีความพากเพียร และความอดทนอย่างยิ่งยวดเข้าช่วยด้วย
แม้ว่าปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงดูจะอยู่ห่างจากปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดเพียงระดับเดียว แต่ช่องว่างระหว่างทั้งสองนั้นยิ่งใหญ่มาก
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดได้บรรลุถึงความสมบูรณ์แบบในทุกด้านของร่างกายจนก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์
เมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบแล้ว ผู้บัญชาการจ้าวจึงกล่าวต่อ “หมาป่าโลหิตเขาน้ำเงิน แรดทรราชเขาเดียว และซากศพอสูรอื่น ๆ ที่เราพบระหว่างทางล้วนถูกฆ่าโดยพลังอันน่าสะพรึงกลัวของชายผู้นี้ หากไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง เขาคงไม่ใช้หมัดเป็นอาวุธ”
ณ จุดนี้ เขาหยุดครู่หนึ่งแล้วยิ้ม “ศพของจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กยาวกว่า 300 เมตร เฉพาะปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดเท่านั้นที่จะมีอุปกรณ์มิติขนาดใหญ่ถึงเพียงนั้น!”
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ เริ่มเข้าใจ
จริงด้วย
แม้แต่ชุดเกราะที่ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธสวมใส่ก็มีพื้นที่เล็กมากซึ่งแทบจะไม่สามารถใส่ร่างของแม่ทัพอสูรขั้นสูงลงไปได้
ถ้าเขาคนนั้นสามารถเก็บร่างของจระเข้มังกรเขี้ยวเหล็กไปได้จริง ๆ งั้นก็แสดงว่าเขาต้องมีอุปกรณ์มิติที่มีความจุมากเป็นพิเศษ
“การวิเคราะห์ของผู้บัญชาการจ้าวดูจะตรงประเด็น”
"ใช่ ข้าไม่นึกเลยว่าคนที่เรากำลังตามหาจะกลายเป็นปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุด!”
“ต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่สักคนที่บังเอิญผ่านมาเยือนเมืองหัวตงพอดีเป็นแน่!”
"ข้าเห็นด้วย ผู้ที่สามารถไปถึงระดับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดได้นั้นมีน้อยมาก เกือบทุกคนที่มีศักยภาพจะถูกดึงตัว และผูกขาดโดยกลุ่มใหญ่ตั้งแต่พวกเขาฉายแววออกมา ขณะถูกบันทึกไว้ในรายชื่อ”
เหล่าปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธหารือกันพร้อมถอนหายใจ
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดส่วนใหญ่มักมีฝ่ายของตัวเองอยู่แล้ว หายากมากที่จะพบคนที่ทำงานคนเดียว ดังนั้นแล้วโอกาสที่จะชักชวนให้เข้าร่วมกับตนเองได้สำเร็จนั้นแทบเป็นศูนย์
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ครั้งนี้พวกเขาเดินทางมาเสียเที่ยว
"กลับกันเถอะ!"
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธหลายสิบคนส่ายหัว ก่อนจะหันหลังเดินทางกลับไปที่เมือง
มีเพียงเหอเปียวเท่านั้นที่ยังอยู่ต่อ
หลังจากปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธทั้งหมดจากไป เขาก็เดินไปที่ด้านข้างของผู้บัญชาการจ้าว และถาม “ผู้บัญชาการจ้าว เป็นไปได้ไหมที่ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดคนใหม่จะทะลวงไปถึงระดับสูงสุดโดยตรง?”
ผู้บัญชาการจ้าวตกตะลึงไปชั่วครู่ก่อนที่จะจ้องเขม็งไปทางเหอเปียว “ประธานเหอ เจ้าต้องการจะสื่ออะไรกัน?”
เหอเปียวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ผู้บัญชาการจ้าว ข้าขอกล่าวตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม ตัวข้าเคยพบกับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดเป็นการส่วนตัวมาก่อน ในเวลานั้นแม้ว่าเขาจะสวมชุดเกราะมาตรฐาน และสวมหมวกปกปิดหน้าตา แต่ข้าสัมผัสได้เพียงกลิ่นอายราวกับคนธรรมดา ไม่มีแรงกดดันแม้แต่น้อย”
ผู้บัญชาการจ้าวขมวดคิ้ว “นั่นปกติมาก ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดเป็นตันตนที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน เมื่อไปถึงระดับนั้นเพียงกลิ่นอายเขาสามารถยับยั้งได้”
“เรื่องนั้นข้ารู้ แต่ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดท่านนี้ใช้กระบี่ของข้าเพื่อตัดเขาจากหน้าผากของหมาป่าโลหิตเขาน้ำเงิน… รวมทั้งเขาของแรดทรราชเขาเดียวด้วย มันถูกเขาดึงออกอย่างแรง” เหอเปียวกระซิบ
หลังจากได้ยินเรื่องนี้รูม่านตาของผู้บัญชาการจ้าวก็หดตัวทันที
เสียงของเหอเปียวยังคงดำเนินต่อไป “ปกติแล้ว มีเพียงเฉพาะมือใหม่เท่านั้นที่จะจัดการกับวัตถุดิบแบบนี้ หากปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดท่านนี้มาจากฝ่ายไหนสักฝ่าย มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่มีอาวุธติดตัวสักชิ้น ในทำนองเดียวกัน เขาจะไม่จัดการกับวัตถุดิบในลักษณะนี้”
ผู้บัญชาการจ้าวหายใจถี่ขึ้น และถึงกับกล่าวออกมาอย่างเร่งรีบ “ประธานเหอ มันเป็นไปไม่ได้ที่ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงคนใหม่จะไปถึงขั้นสูงสุด อย่างไรก็ตาม ในบรรดารุ่นก่อน ๆ มีบางคนที่ไปถึงขั้นสูงสุดทันทีหลังจากทะลวงสู่ระดับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธอยู่ด้วย!”
ทันทีที่เขากล่าวจบ สายตาของทั้งคู่ที่ประสานกันเผยความตื่นเต้น
พวกเขาทั้งคู่รู้ว่าแม้ว่าปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดคนนี้จะจงใจซ่อนความแข็งแกร่งของเขา และพยายามเก็บตัวต่ำ แต่ความเคยชินซึ่งเป็นนิสัยปกติมันปกปิดกันยาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการจัดการวัตถุดิบจากสัตว์อสูร
โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปิดบังได้!